I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Great Demon King ตอนที่ 10 ผู้ใช้เวทย์ปีศาจจะทำตามใจปรารถนา

| Great Demon King | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

เปิดตัวเพจใหม่ >>> อ่านตอนอัพเดทเร็วกว่าใครที่นี่ค่ะ !!

Chapter 10 : ผู้ใช้เวทย์ปีศาจจะทำตามใจปรารถนา

เมื่อนักเรียนต่างแยกย้ายเข้าห้องเรียน หานซั่วกับแจ็คยังไม่ทันได้เริ่มทำงานประจำวันหลังจากทุกคนไปกันหมด ทั้งสองคนจึงแยกไปทำงานตามหน้าที่ของตัวเอง

หานซั่วรู้สึกว่าความหนักอึ้งในอกค่อย ๆ บรรเทาลงตอนที่ทำความสะอาดรูปปั้นเสร็จ เขาพบมุมเงียบ ๆ มุมหนึ่ง จึงถอดเสื้อลินินหยาบ ๆ ออก และก้มลงมองตรงอกและเห็นว่ามวลแสงสีเขียวหมุนวนเป็นวงกำลังค่อย ๆ ถูกขับออกมาจากร่างกายเขา ดูเหมือนว่าออร่าต่อสู้สีเขียวอ่อนของคล็อดจะถูกควบคุมอยู่ภายใต้อำนาจของแก่นมนตรา

หานซั่วถอนหายใจเบา ๆ อย่างโล่งอก จึงคลายความกังวลและรู้สึกประหลาดใจกับความน่าอัศจรรย์ของแก่นมนตราเท่าที่เขารู้เมื่อไม่นานมานี้ อัศวินถูกแบ่งเป็น 7 ระดับ สีของ ออร่าต่อสู้** ก็จะแตกต่างกันไปตามลำดับ ได้แก่ อัศวินฝึกหัด (สีฟ้าอ่อน) อัศวินระดับต้น (สีฟ้าเข้ม) อัศวินระดับกลาง (สีเขียวอ่อน) อัศวินระดับสูง (สีเขียวเข้ม) อัศวินปฐพี (สีขาว) อัศวินนภา (เงิน) และอัศวินศักดิ์สิทธิ์ (สีทอง)

** ตอนที่แล้วแปล Fighting Aura เป็นพลังต่อสู้ธรรมดา ต่อจากนี้ขอเปลี่ยนเป็น ออร่าต่อสู้ นะคะ

ออร่าต่อสู้ของคล็อดเป็นสีเขียวอ่อน แสดงให้เห็นว่าระดับความแข็งแกร่งของเขาคืออัศวินระดับกลาง หากอัศวินระดับกลางรวบรวมออร่าต่อสู้โจมตีใส่คนธรรมดา จะสร้างความเสียหายถึงตายแก่เป้าหมายโดยไร้ข้อยกเว้น การที่หานซั่วรอดชีวิตมาโดยปราศจากการบาดเจ็บใด ๆ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเขาบ่มเพาะแก่นมนตรามาได้เป็นอย่างดี

หานซั่วถอนใจอย่างโล่งอกอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่าแก่นมนตราห่อหุ้มรัศมีโจมตีสีเขียวอ่อนไว้ได้อย่างแน่นหนา แต่เขายังไม่กล้าบ่มเพาะต่อไป เพราะกลัวแทบตายว่าหากแก่นมนตราโคจรไปส่วนอื่นของร่างกายตามต้องการ ออร่าต่อสู้สีเขียวอ่อนนั่นจะเป็นอิสระจากการกักกันและระเบิดออกในทันทีจนทำให้อวัยวะภายในของเขาบาดเจ็บ

เมื่อเวลาผ่านไป โชคยังดีที่แก่นมนตราได้ค่อย ๆ ขับอนุภาคเล็ก ๆ ของรัศมีนั่นออกมา ซึ่งทำให้หานซั่วหายใจได้คล่องขึ้น

เมื่อชั้นเรียนเริ่มแล้ว จึงไม่มีใครมานั่งค้นหากองขยะที่โครงกระดูกนั่นหนีไปซ่อนตัว แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะไม่ใส่ใจได้ง่ายขนาดนั้น และเพราะยังเป็นเวลากลางวันแสก ๆ หานซั่วจึงไม่กล้าออกคำสั่งโครงกระดูกให้กลับไปที่โรงเก็บของ เพราะเกรงว่าจะถูกพบเข้า

บ่ายแก่ ๆ ณ สนามฝึกซ้อมของสาขาเวทมนตร์ธาตุมืด

วิทยาลัยเวทมนตร์และศาสตร์แห่งพลังบาบิโลนมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย แต่ละสาขามีสนามฝึกซ้อมเป็นของตัวเอง ซึ่งสนามฝึกซ้อมเป็นที่ ๆ เหล่านักเรียนใช้ทดลองเวทมนตร์ และมีอุปกรณ์สำหรับวัดความรุนแรงของระเบิดจากพลังเวทมนตร์อยู่ในสนามเช่นกัน

สาขาศาสตร์แห่งความตายมีห้องที่กว้างขวางรองรับสำหรับนักเรียนที่ต้องการทำการทดลองเวทมนตร์ หานซั่วกำลังถือไม้ถูพื้นในมือและกำลังทำความสะอาดพื้นห้องฝึกซ้อมตอนที่เห็นนักเรียนศาสตร์แห่งความตายสองสามคนเดินเข้ามา

หนึ่งในนั้นเป็นคนที่ไม่ได้ตามหาหานซั่วมาพักใหญ่ –บาคนั่นเอง ใบหน้าของเขามีรอยช้ำเป็นจ้ำและสีหน้าอมทุกข์ ดูเหมือนว่าไอรีนและลิซ่าจะไปพบและทำให้เขาชดใช้เรียบร้อยแล้ว เขาพลันฉุนเฉียวขึ้นทันทีที่เหลือบไปเห็นหานซั่วกำลังถูพื้นอยู่ ใบหน้าที่น่าเกลียดอยู่แล้วของเขายิ่งดูบิดเบี้ยวมากขึ้นจนราวกับไม่สามารถกลับไปเป็นรูปหน้าเดิมได้อีก

หานซั่วรู้สึกกระโดดโลดเต้นไปมาอย่างร่าเริงภายในใจ รอยยิ้มโง่เง่าซื้อบื้อฉาบขึ้นบนใบหน้า เขาถึงกับฮัมเพลงเบา ๆ อย่างสบายใจ ขณะกำไม้ถูพื้นในมือถูไปทางนั้นทีทางนี้ที

“เจ้าบ้าไบรอัน เจ้าเห็นโครงกระดูกตัวเล็กสีดำวิ่งออกมาจากห้องข้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

หน้าของบาคบิดเบี้ยวดูดุร้ายขณะคำรามใส่หานซั่วอย่างโกรธแค้น

หานซั่วทำสีหน้าไม่รู้เรื่องรู้ราวและจ้องกลับไปที่บาค ส่งยิ้มโง่ ๆ ให้เขา ไม่ตอบอะไร และเดินจากไปพร้อมไม้ถูพื้นอย่างรวดเร็ว

“กลับมานี่นะ วันนี้เจ้าหนีไม่รอดแน่!”

“บาค ข้าบอกเจ้าไม่ให้รังแกไบรอันกี่ครั้งกี่หนแล้ว เดี๋ยวนี้กล้าขัดคำสั่งข้ารึ?”

แฟนนี่ยกมือเท้าสะเอวและตวาดอย่างเข้มงวดหลังเดินผ่านเข้าประตูมา จ้องเขม็งไปที่บาคเพราะเขาตามหาเรื่องหานซั่ว

“อาจารย์แฟนนี่ ดูหน้าข้าสิครับ!” เป็นเพราะเจ้าไบรอันคนเดียวเลยที่สร้างข่าวลือจนลิซ่ากับไอรีนเล่นงานข้าแทบแย่ ไบรอันต่างหากที่รังแกข้า!”

“โอ้ ข้าก็ได้ยินเรื่องเมื่อเช้ามาเหมือนกัน ไบรอันอาจจะสับสนแล้วก็ตาฝาดไป แต่เขาก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้วนี่! เจ้าจะมาสร้างปัญหาให้เขาอีกทำไมกัน? หืม? ด้วยความสามารถทางเวทมนตร์ของเจ้าน่ะ ไม่สามารถอัญเชิญโครงกระดูกที่ประหลาดและแข็งแกร่งแบบนั้นได้หรอก”

แฟนนี่เริ่มบ่นพึมพำกับตัวเอง

“ใครกันแน่นะที่อัญเชิญมา ข้าเองก็สงสัยเหมือนกัน ข้าได้ยินข่าวลือว่าสาขาศาสตร์แห่งความตายของเราก้าวข้ามขีดจำกัดครั้งใหญ่ และค้นพบวิธีทำให้อสูรมิติมืดของเราทนทานต่อการโจมตีของเวทย์ธาตุแสงได้ด้วย”

หานซั่ววิ่งไปหลบมุมห้อง และแอบมองแฟนนี่ผู้น่าหลงใหลอยู่ห่าง ๆ วันนี้แฟนนี่รวบผมสีม่วงอ่อนของเธอเป็นมวยไว้ด้านหลัง ทิ้งปอยผมสองสามปอยไว้บนหน้าผาก เสริมให้เธอดูมีเสน่ห์มากขึ้นอีก จนหานซั่วต้องถอนหายใจเบา ๆ หลายต่อหลายครั้งด้วยความปลื้มปริ่ม

“ไบรอัน ป่านนี้ “คำสาปฉีกวิญญาณ” น่าจะจางหายไปหมดแล้ว วันนี้มาช่วยข้าฝึกผีดิบ** เลยนะ ที่ห้องฝึกซ้อมหมายเลข 3”

** ผีดิบ = ซอมบี้

ลิซ่าส่งสายตาแข็ง ๆ ไปให้ผู้ที่อยู่ตรงมุมห้องและออกคำสั่งอย่างยโสโอหัง

“ลิซ่า การฝึกซ้อมเป็นเรื่องดี แต่เจ้าทำแบบคราวก่อน ที่ใช้ผีกูลโจมตีเขาโดยตรงไม่ได้อีกแล้วนะ”

แฟนนี่ตำหนิอย่างนุ่มนวล เพราะกังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับไบรอันอีก หลังได้ยินที่ลิซ่าพูด

“รู้แล้วค่ะ อาจารย์แฟนนี่!”

ลิซ่าตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจ และเดินตรงไปที่ห้องฝึกซ้อมหมายเลข 3

การช่วยนักเรียนฝึกซ้อมเวทมนตร์เป็นหน้าที่ของเหล่าคนรับใช้ หานซั่วซึ่งอยากหาโอกาสแก้แค้นบ้าง จึงวางไม้ถูกพื้นลงและเดินตามไปยังห้องฝึกซ้อมอย่างว่าง่าย

ลิซ่าปิดประตูห้องฝึกซ้อมเสียงดังปัง หลังหานซั่วเดินเข้ามา แสดงว่าวันนี้เธอตั้งใจจะจองห้องไว้ใช้สำหรับเธอคนเดียว เธอยืนทำท่ายโสอยู่หน้าประตูและจ้องมองหานซั่วอย่างดูถูก

“วันนี้เจ้าหนีไปไหนไม่ได้แล้ว”

เธอยกแขนขึ้นในทันที และเริ่มร่ายเวทย์เมื่อพูดจบ

“วิญญาณแห่งนักรบผีดิบผู้ล่วงลับเอ๋ย จงสดับฟังคำเรียกแห่งสาส์นทมิฬ และปรากฏกายเบื้องหน้าข้า!”

นักรบผีดิบที่ร่างปกคลุมด้วยมวลกล้ามเนื้อสีเขียว ถือกระบองไม้อันใหญ่ โผล่ขึ้นมาทันทีที่การร่ายเวทย์เสร็จสิ้น

นักรบผีดิบมีระดับสูงกว่านักรบโครงกระดูก ร่างกายของมันไม่ใช่ศพที่เน่าเปื่อยผุพัง ทว่าเป็นมวลกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ ที่แข็งแรง มันเคลื่อนที่ได้เร็วกว่านักรบโครงกระดูก และมีพละกำลังแข็งแกร่งกว่า มีเพียงจอมเวทย์ระดับเริ่มต้นเท่านั้นที่สามารถอัญเชิญได้ ส่วนจอมเวทย์ฝึกหัดอย่างบาคจึงไม่มีทางทำได้แน่นอน

อสูรมิติมืดที่ถูกอัญเชิญมาจะโจมตีใส่ศัตรูหากผู้อัญเชิญสั่งผ่านกระแสจิต อย่างไรก็ตาม อสูรมิติมืดระดับต่ำจะมีระดับสติปัญญาที่ต่ำมาก และทำการโจมตีแบบพื้น ๆ ได้เท่านั้น ผู้อัญเชิญจะต้องฝึกฝนจิตใจอย่างต่อเนื่องหากต้องการควบคุมอสูรมิติมืดให้ใช้ศักยภาพอย่างเต็มพิกัด เพียงเท่านั้น อสูรมิติมืดจึงจะสามารถทำตามที่ผู้อัญเชิญต้องการและต่อสู้ได้ในรูปแบบที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม การฝึกซ้อมซ้ำ ๆ บ่อย ๆ เป็นสิ่งจำเป็นหากต้องการควบคุมอสูรมิติมืดได้อย่างเชี่ยวชาญโดยการใช้พลังจิต ดังนั้น เด็กรับใช้ในสาขาศาสตร์แห่งความตายจึงมักถูกใช้เป็นเป้าฝึกซ้อมอยู่เสมอ ๆ จนกระทั่งตอนนี้ ลิซ่าและเพื่อนของเธอก็เคยใช้พวกเด็กรับใช้เป็นเป้าซ้อมให้นักรบโครงกระดูกของพวกเธออยู่บ่อย ๆ และวันนี้เอง ที่ลิซ่าอัญเชิญนักรบผีดิบออกมาเห็นได้ชัดว่าไม่ใช้ด้วยความประสงค์ดี

หานซั่วตกตะลึงที่เห็นว่าลิซ่าไม่ได้อัญเชิญนักรบโครงกระดูกมาเหมือนเคย แต่เป็นนักรบผีดิบที่ระดับสูงกว่า และแข็งแกร่งกว่า เขาสาปแช่งชื่อลิซ่าอยู่ในใจนับสิบครั้ง และตั้งหลักด้วยความตื่นตัว

“ฮึฮึฮึ ข้ารู้ว่าเจ้าวิ่งเร็วมากนะ ไบรอัน และเจ้าก็แข็งแกร่งมากขึ้นด้วย อาจจะเป็นผลจากที่ข้าคอยฝึกนักรบโครงกระดูกกับเจ้าก็ได้ เพราะฉะนั้น วันนี้ เจ้าได้รับเกียรติในการช่วยเหลือข้า ลิซ่า อนาคตจอมขมังเวทย์ผู้ใช้ความตายคนนี้ ให้ควบคุมนักรบผีดิบได้ดีขึ้นไงล่ะ”

พวงแก้มน่ารักของลิซ่าแดงระเรื่อพร้อมกับความรื่นเริงใจอย่างเป็นลาง มีความมุ่งร้ายอันเป็นนัยฉาบอยู่ในดวงตา ภายใต้คำสั่งของเธอ นักรบผีดิบก็เริ่มออกวิ่งตรงเข้าหาหานซั่วแม้ขณะที่เธอกำลังพูดอยู่

นักรบผีดิบถือกระบองไม้อันใหญ่ในมือและพุ่งเข้าใส่หานซั่วราวกับสายฟ้าตามคำสั่งของลิซ่า มันค่อนข้างเร็วทีเดียว และเข้ามาใกล้ได้อย่างว่องไว กระบองของมันกำลังฟาดลงแสกหน้าหานซั่ว

กระบองอันนั้นใหญ่กว่าท่อนแขนของเขาเสียอีก และนักรบผีดิบก็มีพละกำลังมาก แม้จะไม่ถึงตาย แต่หากโดนฟาดเข้าล่ะก็ต้องบาดเจ็บถึงขั้นสาหัสมากแน่ ๆ

ด้วยเหตุผลใดไม่ทราบได้ หานซั่วไม่รู้สึกเกรงกลัวเลยสักนิดขณะที่กระบองกำลังฟาดลงมา แต่กลับตื่นเต้นด้วยความกระหายเลือดเสียมากกว่า เป็นความรู้สึกที่แปลกพิลึก ราวกับว่าร่างกายและจิตวิญญาณของเขาปรารถนาการต่อสู้มาโดยตลอด

ดวงตาของเขาหรี่ลง ขณะที่สีหน้าซื่อบื้อจางหายไปแทนที่ด้วยความเฉียบคมฉาบขึ้นในตา เขาเกร็งท่อนขาและโดดห่างออกไปทางขวาประมาณ 1 เมตรอย่างรวดเร็ว

ตูม!

เสียงกระบองไม้ของนักรบผีดิบฟาดลงบนพื้นอย่างแรง ในขณะที่หานซั่วเพียงยืนอยู่นิ่ง ๆ

“เอ๋?”

ลิซ่าอุทานด้วยความตระหนกจากด้านข้าง ที่ซึ่งเธอกำลังควบคุมนักรบผีดิบอยู่ ในชั่ววินาทีนั้นเอง ความรู้สึกที่เธอเคยสัมผัสได้จากไบรอันก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จนหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอไม่เคยเห็นท่าทีและสายตาแบบนี้ของเขามาก่อน  จนถึงกับส่งเสียงออกมาด้วยความแปลกใจอย่างที่สุด

เธอลืมที่จะสั่งคำสั่งต่อไปกับนักรบโครงกระดูกไปทันที ขยี้ตาอย่างกระวนกระวายใจ และพยายามจ้องมองหานซั่วให้ชัด ๆ อีกครั้ง

แปลกจริง ไบรอันทำตัวปัญญาอ่อนอีกแล้ว และดูเหมือนจะกลัวนักรบผีดิบขึ้นมาตามสัญชาตญาณ เขาตัวสั่นถอยหลังหนีไปอย่างตื่นกลัว ด้วยท่าทางของคนสติไม่สมประกอบเต็มรูปแบบ

ข้าต้องมองผิดไปแน่ เจ้าบ้าไบรอันนั่น เป็นไปได้รึ… เขาจะมี… ออร่าแบบนั้น กับสายตาแบบนั้นได้ยังไง? ลิซ่าคิดในใจพลางดูถูกเย้ยหยัน เธอเริ่มรวมพลังจิตอีกครั้งและสั่งให้นักรบผีดิบวิ่งไล่หานซั่ว

เมื่อหานซั่วโดนนักรบผีดิบวิ่งไล่ไปรอบ ๆ เค้าไม่เผยให้เห็นออร่าและท่าทางที่ทำให้ลิซ่าประหลาดใจอีกเป็นครั้งที่สอง แต่สามารถหลบกระบองของนักรบผีดิบในวินาทีสุดท้ายก่อนฟาดโดนเขาได้ทุกที นี่ยิ่งทำให้ลิซ่ายิ่งฉงนสงสัยและอยากเอาชนะมากขึ้นไปอีก เธอรวมรวมสมาธิอย่างสุดกำลังในการควบคุมนักรบผีดิบ พลางคิดในใจว่า “ไบรอันทั้งเร็วและแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมจริง ๆ ตั้งแต่ที่เขาเสียสติไป”

ขณะที่เป็นเป้าหมายที่ถูกไล่ตามไปทั่ว ณ จุดหนึ่ง หานซั่วก็เริ่มมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าในการแก้แค้นลิซ่า แม้ในใจจะคิดถึงเหตุผลที่ว่าเขาทำไม่ได้ ไม่ควรแก้แค้น และพยายามหยุดความคิดนั้นอยู่ในที แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดนั้นได้ทั้งหมด

ขณะเดียวกันนั้นเอง ที่นักรบโครงกระดูกก็ยิ่งว่องไวมากขึ้นเรื่อย ๆ และวิ่งไล่ตามเขาด้วยความเร็วสูง  ความกระหายการแก้แค้นของหานซั่วก็ทวีคูณมากขึ้นเช่นกัน

“ผู้ใช้เวทย์ปีศาจจะทำตามใจปรารถนา… ผู้ใช้เวทย์ปีศาจจะทำตามใจปรารถนา…”

ความทรงจำหนึ่งวาบขึ้นมาในหัวของหานซั่ว และเขาก็สามารถเข้าใจได้ในทันทีถึงความหมายที่แท้จริงของเวทมนตร์ปีศาจ เพราะประโยคที่ว่า “ผู้ใช้เวทย์ปีศาจจะทำตามใจปรารถนา” ดูเหมือนจะรวมตัวเป็นเสียงเดียวกันดังก้องขึ้นในจิตใจอย่างไม่มีวันสิ้นสุด

ในที่สุด หานซั่วก็คำรามเสียงต่ำ เขาน้อมหัวและก้มตัวลง เปลี่ยนเส้นทางการหลบหนี มาเป็นการมุ่งตรงไปยังตำแหน่งที่ลิซ่าอยู่

(0 votes) 0/10
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments