I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Great Demon King ตอนที่ 26 เข้าสู่ห้วงจิตปีศาจ

| Great Demon King | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

GDK ตอนที่ 26 : เข้าสู่ห้วงจิตปีศาจ

 

เมื่อคล็อดเข้ามาใกล้ หานซั่วทำหน้าบิดเบี้ยวพร้อมกับโอดโอยเบา ๆ เขาก้มหน้าก้มตัวลงไป และแกล้งทำเป็นว่ากำลังตรวจดูอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า

 

คาลซึ่งอยู่ใกล้ ๆ นิ่วหน้าทันทีเมื่อเห็นท่าทางของหานซั่ว เขาใช้เพียงมือข้างเดียวประคองหานซั่วให้ลุกยืน พร้อมกับถามว่า

 

“เป็นอะไรรึเปล่า? ข้อเท้าของเจ้าบาดเจ็บรึ? ให้ข้าดูหน่อยซิ”

 

“ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก แค่เมื่อกี้มันเหมือนจะพลิกไปนิดนึงน่ะ”

 

หานซั่วซึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาอยู่ตอบเสียงค่อย

 

ในที่สุด คล็อดและนักเรียนอัศวินคนอื่น ๆ ก็มาถึงในระยะใกล้ ไม่มีใครจำหานซั่วได้ และตามปกติก็มีหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บหรือพิกลพิการให้เห็นจนชินตา ท่าทางของหานซั่วจึงไม่ได้ดึงดูดความสนใจเท่าใดนัก

 

คล็อดเหลือบมาเห็นหานซั่วเพียงครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร เขาเดินผ่านไปขณะพูดคุยหัวเราะร่วนกับกลุ่มเพื่อน

 

ข้อเท้าของหานซั่วพลิกจริง ๆ และตอนนี้ก็บวมจนปูดแล้ว คาลสะดุ้งเฮือกเบา ๆ ทันทีที่เห็น

 

“บวมน่าดูเลย ให้ข้าพาเจ้าไปส่งเถอะ!”

 

เมื่อเสียงฝีเท้าของคล็อดเริ่มห่างออกไป หานซั่วยืนตัวตรงขึ้นอีกครั้งพร้อมกับบิดข้อเท้าและกระดิกนิ้วเท้าไปมา เขายิ้มให้คาล

 

“อยู่ ๆ ข้าก็รู้สึกดีขึ้นมาเยอะเลย ขอบคุณนะคาล ไม่ต้องห่วงเรื่องไปส่งข้าแล้วล่ะ!”

 

หานซั่วรีบออกเดินจ้ำอ้าวทันทีที่พูดจบ และหายตัวไปจากมุมห้องอย่างรวดเร็วโดยไร้ซึ่งเสียงและวี่แววใด ๆ

 

คาลส่ายหัว พร้อมกับสีหน้างุนงงอย่างที่สุดเมื่อเห็นหานซั่วที่อยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นแข็งแรงกระชุ่มกระชวยขึ้นมาเสียดื้อ ๆ

 

“พิลึกคน!”

 

กว่าหานซั่วจะลากร่างกายสะบักสะบอมกลับมาถึงยังสาขาศาสตร์แห่งความตายของสำนักเวทมนตร์ ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว และในเมื่อหน้าที่รับใช้ต่าง ๆ มีแครี่และบอร์กเป็นคนคอยจัดการ หานซั่วจึงไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีก เขาจึงไปต่อแถวรับอาหารเย็นและรีบตรงกลับไปยังโรงเก็บของ เขาเริ่มใช้แก่นมนตราเสริมสร้างและซ่อมแซมร่างกายทันทีหลังจากลงกลอนประตูเรียบร้อย

 

ไม่มีแม้ตารางนิ้วเดียวบนร่างกายของเขาที่ไร้ซึ่งความเจ็บปวด ทั้งผิวหนัง เส้นเอ็น กระดูก ทุกอย่างล้วนได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก แก่นมนตราโคจรวนเวียนไปทั่วร่างกายตามหลักการฝึกฝนเวทมนตร์ ทุกครั้งหลังจากที่แก่นมนตราโคจรไปทั่วร่างครบหนึ่งรอบ หานซั่วจะรู้สึกถึงความร้อนที่แทบเผาไหม้ แต่แล้วพละกำลังก็ค่อย ๆ กลับคืนมา

 

แก่นมนตราหมุนวนอย่างต่อเนื่องตลอดกระบวนการ ซึ่งหานซั่วรู้สึกประหลาดใจ เพราะดูเหมือนว่ามันจะเพิ่มปริมาณมากขึ้นเล็กน้อย ราวกับว่าทั้งเวลาและความพยายามที่ใช้ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ร่างกายนั้นก็ส่งผลให้แก่นมนตราค่อย ๆ พัฒนาและเพิ่มปริมาณมากขึ้นด้วยเช่นกัน และเขาต้องทนรับอาการบาดเจ็บเช่นนี้ให้ได้อีกในอนาคต หากต้องการให้ร่างกายแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่านี้

 

หลังเที่ยงคืน เมื่อความเจ็บปวดทางร่างกายทุเลาลงบ้างแล้ว หานซั่วจึงสลับมาฝึก “เวทย์อัคคีเหมันต์” เขาโคจรแก่นมนตราไปยังฝ่ามือ ตลอดจนปลายนิ้วแต่ละนิ้วตามหลักของการฝึกฝนเวทย์นี้

 

เวลาผ่านไปขณะที่หานซั่วจมดิ่งสู่ห้วงความคิดแปลกประหลาด จิตของเขาไร้ซึ่งความไขว้เขวลังเลใด ๆ มีเพียงความอุตสาหะพยายามและความทนทรหดที่จะฝึกฝนให้ได้เท่านั้น เขาแทบลืมความเจ็บปวดและบาดแผลต่าง ๆ ของร่างกายไปแล้ว และยังคงโคจรแก่นมนตราตามหลักของการฝึกฝน “เวทย์อัคคีเหมันต์” ต่อไปเรื่อย ๆ

 

ก่อนหน้านี้ หานซั่วจะจำกัดตนเองเวลาฝึกฝนเวทมนตร์เสมอ ปกติเขาจะตื่นนอนเป็นเวลา แต่เพราะไม่เคยหมกมุ่นมากเท่าวันนี้มาก่อน หานซั่วจึงจมอยู่ในภวังค์ ไม่รับรู้กาลเวลา สัมผัส หรือแม้แต่ความเป็นไปทางโลกใด ๆ

 

ปัง!

 

ประตูเล็ก ๆ ของห้องเก็บของเปิดผางออกในทันที หานซั่วสะดุ้งตื่นจากภวังค์ เขานิ่วหน้าและหันไปจ้องมองร่างของแจ็คด้วยสายตาเย็นชา

 

แจ็คตัวสั่นด้วยความกลัวเมื่อเห็นสายตาของหานซั่ว แต่ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อแววความดุดันในสายตาของหานซั่วจางหายไป

 

“ไบรอัน เจ้าอยู่ในโรงเก็บของจริง ๆ ด้วย ข้านึกว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้าซะอีก!”

 

หานซั่วรีบเช็คสภาพร่างกายของตนเองทันทีหลังจากสะดุ้งตื่น และก็พบว่าร่างกายที่บาดเจ็บหนักก่อนหน้านี้หายดีเกือบหมดแล้ว แก่นมนตราที่กำลังโคจรอยู่ภายในร่างกายก็แข็งแกร่งขึ้น และพลังจิตในตอนนี้ก็ชัดเจนขึ้นกว่าแต่ก่อน

 

“จะเกิดอะไรขึ้นกับข้าได้ล่ะ ข้าเผลอหลับลืมเวลาไปวันนึงก็แค่นั้นเอง บอร์กกับแครี่จัดการงานทำความสะอาดแทนข้าอยู่แล้ว ไม่มีอะไรให้ข้าทำอยู่ดีนี่”

 

หานซั่วบิดคอไปมาจนมีเสียงดังกร๊อบ เมื่อเขาลุกขึ้นจากเตียงไม้ขนาดเล็กและยืดเหยียดร่างกาย กระดูกแทบทุกชิ้นลั่น กร๊อบ กร๊อบ ในทุกท่วงท่าที่ขยับ ในขณะที่แจ็คยืนงุนงงอยู่ที่เดิม

 

ผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุด แจ็คก็มีท่าทีประหลาดใจเมื่อเสียงประหลาดจากร่างกายของหานซั่วเงียบลง เขาร้องออกมาอย่างไม่ตั้งใจ

 

“เอ่อ ไบรอัน เจ้าไม่ได้หลับไปแค่วันเดียวนะ แต่เจ้าน่ะ เงียบหายไปเลยตั้ง  6 วัน! ข้ามาเคาะประตูเจ้าอยู่ตั้งนานแต่ก็ไม่เคยมีเสียงเจ้าตอบกลับมาเลย ข้าถึงได้นึกว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านี่ไงล่ะ!”

 

หานซั่วตกตะลึงกับคำพูดของแจ็ค นี่เขาฝึกมาตลอด 6 วันเลยรึ? เขาย่นหน้าผากแล้วก็พลันระลึกได้ถึงสิ่งที่เรียกว่า “การเข้าสู่ห้วงจิตปีศาจ” จากความทรงจำเกี่ยวกับเวทมนตร์ปีศาจของชูชางหลาน

 

ผู้ใช้เวทย์ปีศาจบางคนจะสามารถเข้าสู่ “ห้วงจิตปีศาจ” ได้ในเหตุการณ์บังเอิญ ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปตามสถานการณ์ ทว่าห้วงจิตปีศาจนั้น ถูกแบ่งเป็น ภาวะรุนแรง และ ภาวะสงบนิ่ง สภาพจิตและอารมณ์ของผู้ใช้เวทย์ปีศาจบางคนจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อเข้าสู่ห้วงจิตปีศาจ พวกเขาจะกลายเป็นนักฆ่ากระหายเลือด ร่างกายจะไม่รับรู้ซึ่งความเจ็บปวด และทั้งร่างกายและพลังเวทมนตร์จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมหาศาล พวกเขาจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง และคร่าชีวิตทุกคนที่ขวางหน้าไปเรื่อย ๆ หยุดตัวเองไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว ซึ่งเป็นผลจาก “ภาวะรุนแรง” ของห้วงจิตปีศาจ

 

ส่วนอีกภาวะหนึ่ง คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับหานซั่วเมื่อเขาเข้าสู่ห้วงจิตปีศาจในระหว่างที่กำลังฝึกฝนอย่างกะทันหัน มันเป็นกระบวนการที่พร่ามัวและไม่ชัดเจน ซึ่งผู้ใช้เวทย์เองก็ไม่สามารถตรวจจับได้ ทว่ากระบวนการภายในทุกอย่างรวมทั้งการโคจรของแก่นมนตราจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมหาศาลเมื่อเทียบกับการฝึกฝนเวทมนตร์แบบปกติ เขาจึงไม่สามารรับรู้สภาพการฝึกของตนเอง จนกระทั่งได้มารับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเขาเมื่อตื่นขึ้น

 

ภาวะแรกของห้วงจิตปีศาจมักเกิดขึ้นจากสภาพจิตใจที่ไม่ปกติ สูญเสียซึ่งจิตเชิงเหตุผล เพราะเรื่องราวหรือเหตุการณ์ใด ๆ ที่สะเทือนจิตใจอย่างรุนแรง หากผู้ใช้เวทย์ไม่ถูกฆ่าตายระหว่างที่เกิดการไล่ฆ่าฟันอย่างไร้ที่สิ้นสุดเพราะห้วงจิตปีศาจ ร่างกายของเขาก็จะได้รับอันตรายจากผลข้างเคียงอื่น ๆ อยู่ดี ห้วงจิตปีศาจที่สงบนิ่งของหานซั่วจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่ามาก คนส่วนใหญ่ที่สามารถเข้าสู่ภาวะจิตที่แปลกประหลาดนี้ได้ระหว่างการฝึกฝน จึงมักสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มมากขึ้นหลังจากได้สติกลับคืน

 

“อ๋อ คงเป็นเพราะช่วงหลัง ๆ นี่ข้าขี้เซา ก็เลยหลับลึกไปหน่อย จริงสิ เจ้ามาหาข้าทำไมเหรอ?”

 

ขณะพูด หานซั่วรู้สึกว่าท้องช่างว่างเปล่า ร่างกายกำลังต้องการอาหารและการบำรุงหลังจากไม่ได้กินอะไรเลยมาตลอด 6 วัน

 

แจ็คโยนขนมปังชิ้นใหญ่ให้ เมื่อเห็นหานซั่วเอามือลูบท้อง

 

“ข้าก็เป็นห่วงเจ้าน่ะสิ อาจารย์แฟนนี่ให้ข้ามาตามเจ้าไปที่ห้องทดลอง อ้อ จริงด้วย ลิซ่าก็ถามหาเจ้าเหมือนกันนะ ไม่รู้ว่าจะมาหาเรื่องอะไรเจ้าอีกรึเปล่า”

 

“เข้าใจล่ะ อืมมม… งั้นข้าไปหาอาจารย์แฟนนี่ก่อนแล้วกัน ไปกันเถอะ!”

 

หานซั่วเคี้ยวขนมปังของแจ็คไปด้วยขณะเดินออกจากโรงเก็บของ

 

โชคดีที่หานซั่วเก็บเจ้าโครงกระดูกตัวเล็กซ่อนไว้ใต้เตียงมาตลอด  แจ็คถึงไม่พลาดไปเห็นอะไรเข้าตอนที่พรวดเข้ามา เมื่อล็อคประตูเรียบร้อยแล้ว หานซั่วก็ตรงไปที่ห้องทดลองของแฟนนี่

 

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

 

หานซั่วยืนอยู่ที่ทางเข้าห้องทดลองของแฟนนี่ และยื่นมือไปเคาะประตู

 

“เข้ามาเลยจ้า!”

 

เสียงหวานอ่อนนุ่มของแฟนนี่ดังขึ้นจากข้างในห้องทดลอง หานซั่วเปิดประตูและก้าวเข้าไปเมื่อได้ยินเธออนุญาต

 

ม้วนคาถามากมายวางเกลื่อนกลาดอยู่บนทางเดินกลางห้องทดลอง มีตัวอักษรและแผนภาพเกี่ยวกับเวทมนตร์ที่ลึกลับและสวยงามถูกจารึกไว้ แม้แต่คนที่เพิ่งเคยก้าวเข้ามาในห้องโถงแห่งมนตรา โดยเฉพาะมือใหม่อย่างหานซั่ว ก็สามารถสัมผัสได้ถึงเวทมนตร์ที่ทรงพลังจากม้วนคาถาเหล่านั้นได้อย่างชัดเจนแม้ในระยะไกล

 

ตอนนั้นเอง แฟนนี่ร่ายคาถาขณะที่กำลังโน้มตัวลง เธอจุ่มนิ้วเรียวยาวลงในน้ำยาเวทมนตร์สีน้ำตาลที่อยู่ข้าง ๆ และบรรจงวาดลายเส้นสวยงามลงบนแผ่นม้วนคาถา ลายเส้นละเอียดอ่อนเหล่านั้นแม้จะดูไร้ซึ่งรูปร่าง แต่กลับประสานกลมกลืนและให้ความรู้สึกที่น่ามหัศจรรย์

 

เมื่อแฟนนี่วาดลายเส้น และบรรจุเวทมนตร์ลงในม้วนคาถาหลังจากร่ายเวทย์เสร็จ ออร่าสีดำทะมึนก็แผ่กระจายออกมาทันทีพร้อมกับแสงสีน้ำตาลที่สว่างวาบขึ้นทั่วทั้งแผ่น จกนั้นมันก็ม้วนตัวขึ้นเองโดยอัตโนมัติ

 

เมื่อเธอเก็บม้วนคาถาที่ปลุกเสกเวทมนตร์เรียบร้อยแล้ว แฟนนี่ก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับยิ้ม

 

“โอ้ ไบรอันนี่เอง หลังเป็นยังไงบ้างจ๊ะ?”

 

“ขอบคุณที่เป็นห่วงครับอาจารย์แฟนนี่ แผลที่หลังของข้าหายดีแล้วล่ะ”

 

หานซั่วตอบและพยักหน้ารับ

 

หานซั่วรู้ดีว่าเขาจะแกล้งบ้าต่อไปไม่ได้แล้ว แม้การทำแบบนั้นจะเป็นผลดี แต่ไม่ช้าก็เร็ว มันก็สามารถสร้างปัญหาให้เขาได้เช่นกัน และหากเป็นเช่นนั้น จึงเป็นการดีกว่าถ้าจะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างช้า ๆ ให้ทุกคนได้รับรู้และยอมรับในตัวตนใหม่ของเขาโดยไม่รู้สึกประหลาดใจในความเปลี่ยนแปลง และคิดไปในทางเดียวกันว่าเขาหายจากอาการเสียสติและกลับมามีสภาพจิตปกติอีกครั้ง

 

ไบรอัน ซึ่งเป็นเจ้าของร่างคนเก่า ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสในสาขาศาสตร์แห่งความตายแห่งนี้ และหานซั่วก็ได้สัญญาว่าจะแก้แค้นให้ไบรอันตอนที่เขาปีนขึ้นมาจากหลุมศพ ทั้งแครี่ บอร์ก บาค และลิซ่าได้รับบทเรียนไปแล้วไม่มากก็น้อย แม้จะดูเป็นการแก้แค้นที่น้อยไปอยู่สักหน่อย แต่หานซั่วก็จะยังคงอยู่ในสาขาศาสตร์แห่งความตายเพื่อวางแผนสำหรับอนาคตต่อไป

 

เมื่อเริ่มเข้าใจอะไร ๆ เกี่ยวกับโลกใบนี้มากขึ้น หานซั่วรู้ดีว่าเขาต้องแข็งแกร่งขึ้นอีกเรื่อย ๆ หากต้องการจะเติบโตต่อไปในโลกนี้ และวิทยาลัยเวทมนตร์และศาสตร์แห่งพลังก็เป็นสถานที่ ๆ เขาสามารถฝึกฝนตนเองได้อย่างต่อเนื่อง เขาจึงจะอยู่ที่นี่เพื่อใช้ประโยชน์จากทรัพยากรต่าง ๆ ของโรงเรียนเพื่อเปิดมุมมองของตัวเองให้กว้างขึ้น รวมทั้งเสริมสร้างความแข็งแกร่ง และองค์ความรู้ต่าง ๆ จนกว่าจะเข้าใจโลกใบนี้อย่างถ่องแท้

 

เพราะฉะนั้น หานซั่วขึ้นคิดว่าไม่ควรแกล้งบ้าต่อไป แต่ต้องค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงตัวเองทีละน้อย ๆ

 

“โอ้ เยี่ยมไปเลย เดี๋ยวข้าจะพานักเรียนออกไปทัศนศึกษาโลกภายนอกแน่ะ พวกเขาจะได้ทดสอบพัฒนาการด้านเวทมนตร์ของตัวเองด้วย มาด้วยกันสิ! เจ้าแค่มาช่วยพวกนักเรียนเรื่องทำความสะอาดหรืออะไร ๆ ระหว่างเดินทางก็พอ และข้าก็จะได้คอยสังเกตสภาพร่างกายเจ้าไปด้วย เจ้าคิดว่าไงล่ะ ไบรอัน?”

 

แฟนนี่วางของที่ถืออยู่ในมือลง และหันมายิ้มให้หานซั่ว

 

หานซั่วยืนนิ่งไม่ไหวติง ครุ่นคิดชั่วครู่หนึ่งและรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสดี เขาพยักหน้ารับทันที

 

“ตกลงครับ!”

 

……………………

อ่านตอนต่อไปทันที ที่นี่

(0 votes) 0/10
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments