ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป” รูปแบบ อำนาจพลังวิญญาณ!!! “
เมื่อได้ยินที่ ‘เล้ง วู่ซุย’ พูดออกมา ไม่เพียงแต่ ‘ผู้เฒ่า เล้ง’ เท่านั้น แม้แต่ ‘ชูเฟิง’ ก็ยังตกใจ
รูปแบบ อำนาจพลังวิญญาณ เป็นความสามารถของ ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ ผนังแปลกๆด้านหน้าของเขา นั้นหมายความมี ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณมาช่วยพวกเขาไว้
” ทันใดนั้น เล้ง วู่ซุย ก็คุกเข่าลงพร้อมกับเอาหัวโขกกับพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เขานั้นร้องไห้ออกมาอ้วนวอน
” ท่านอาจารย์ ข้าสำนึกแล้ว ได้โปรดให้โอกาสข้าอักครั้งข้าจะไม่ให้มันเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง “
เห็นการกระทำของ ‘เล้ง วู่ซุย’ คนอื่นๆก็ทำไรไม่ถูก ทันใดนั้นจู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง
” เจ้าก็รู้ว่าว่าไม่สมควรทำ แต่เจ้าก็ยังทำ เหมือนว่าเจ้าไม่เห็นข้าอยู่ในสายตา “
เจ้าของเสียงนั้น จู่ๆปรากฏออกมาเหมือนผี เขาไม่ได้ส่งเสียงใดๆออกมา เขายืนอยู่ตรงนั้นตลอดเวลาแต่ไม่มีใครเห็นเขาเลยสักคน
หลังจากที่เห็นคนๆนั้น ‘ชูเฟิง’ และ คนอื่นๆ ต่างตกใจกันเป็นอย่างมาก เพราะคนๆนั้น ‘ชูเฟิง’ ‘ซูรู่’ หรือแม้แต่ ‘เล้ง วู่ซุย’ ก็รู้จักเชาเป็นอย่างดี
ชุดคลุมสีขาวยาวลากพื้นลวดลายของมันเต็มไปด้วยสัญลักษณ์อักขระครอบคลุมทั่วทั้งร่าง คนที่ปรากฏออกมาในดวงตาของพวกเขา คือ
” แขกอาวุโสของสำนักมังกรฟ้า จูเก่อ หลิวหยุน “
” ท่าน จูเก่อ หลิวหยุน!!! “
‘ซูรู่’ ตกใจจนอุทานออกมา
” อะไรน่ะ ? เขาคือท่านอาวุโส จูเก่อ หลิวหยุน ? “
‘ชูเฟิง’ ตะลึงเป็นอย่างมาก เพราะคนๆนั้นคือ ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ ที่เขาพบอยู่ใน สุสาน จักรพรรดิปราชญ์ นภา
เรื่องนั้นไม่เท่าไหร่ แต่เขาไม่เคยนึกว่าก่อน ว่า เขาจะเป็น ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ ของสำนัก มังกรฟ้า ‘อาวุโส จูเก่อ หลิวหยุน’ ที่แม้แต่ผู้นำยังไม่กล้าล่วงเกิน
” ท่านอาจารย์ ข้าผิดไปแล้ว ได้โปรดให้โอกาสข้าด้วย “
‘เล้ง วู่ซุย’ ยังคงอ้อนวอน บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกลัว และ บนหน้าผากของเขาก็มีเลือดออกเต็มไปหมดเพราะเอาหัวไปโขกกับพื้น ส่วน’ผู้เฒ่า เล้ง’ ก็ไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไง
” ข้าให้โอกาสเจ้าแล้ว แต่เจ้าไม่รักษามันไว้ ถ้าเจ้าทำตามในสิ่งที่ข้าบอก วันนี้ ข้าคงไม่เอาเรื่องกับเจ้า และยังรับเจ้ามาเป็นศิษย์เพื่อสอนเจ้าใช้ อำนาจพลังวิญญาณเพื่อพัฒนาความสามารถของเจ้า “
” แต่น่าเสียดายที่สุดท้าย เจ้าก็ไม่ผ่านการทดสอบของข้าเพราะเจ้าเลือกเส้นทางที่ผิด
” จริงๆแล้ว ข้าพยายามเตือนเจ้าแล้วว่าอย่าได้ทำร้าย ชูเฟิง โดยการฆ่าคนที่เจ้าส่งมา แต่เจ้าก็ยังดื้อรั้น หากข้าไม่ปรากฏ เจ้าก็ยังไม่รู้เลยว่าใคร ที่คอยแอบปกป้อง ชูเฟิง “
ขณะที่ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ พูดเขาก็ยกมือของเขาขึ้น พลังวิญญาณก่อตัวขัง ‘เล้ง วู่ซุย’ ไว้อย่างรวดเร็ว
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ ‘ผู้เฒ่าเล้ง’ ใส่ทุกอย่างที่เขามีลงไปในการโจมตีของเขา แต่มันก็ไม่มีร่องรอยของความเสียหายใดๆ
เห็นว่า ‘จูเก่อ’ คิดจะเอาชีวิตของเขาให้ได้ ‘เล้ง วู่ซุย’ จึงไม่คิดอ้อนวอนอีกต่อไป เขายืนขึ้นชี้หน้าของ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ พร้อมกับกล่าวสาปแช่งเสียงดัง
” จูเก่อ หลิวหยุน ข้า เล้ง วู่ซุย ยอมรับใช้เจ้ามา 3 ปี และคอยจัดการเรื่องต่างๆที่เจ้าให้ให้ทำโดยไม่เรียกร้องอะไร ทำไมเจ้าถึงต้องการฆ่าข้า เพราะเจ้าเด็กคนนั้น “
” เจ้ายังมีความเป็นคนอยู่บ้างมั้ย ? เจ้ามันเลวยิ่งกว่าสุนัข เจ้ามันปีศาจเลือดเย็น ! ! ! ! “
ไม่ว่า’ เล้ง วู่ซุย’ จะยืนด่านานแค่ไหน ‘จู่เก่อ หลิวหยุน’ ก็ไม่ได้มีท่าทีใดๆ
จากนั้นเขาใช้ รูปแบบ อำนาจพลังวิญญาณ บีบพวกเขาทั้งสองอย่างแรง จากนั้นเลือดของพวกเขาทั้งสองก็สาดกระเด็นออกมาพร้อมกับพลังวิญญาณ พุ่งใส่หน้าของเขา
แต่ในตอนนั้น มีบางอย่างที่ดูแปลกๆ อำนาจพลังวิญญาณของ ‘เล้ง วู่ซุย’ และ ‘ผู้เฒ่า เล้ง’ ที่พุ่งออกมาถูกดูดเข้าไปในร่างกายของ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’
” นี่มันอะไรกัน . . . . . “
เห็นฉากนั้น ‘ชูเฟิง’ ตกใจอย่างมาก เลือดและร่างของสองคนนั้น ถูก’จูเก่อ หลิวหยุน’ ดูดเข้าไป จนไม่เหลือร่องรอย!!!
นี่มันเป็นฝีมือมนุษย์เช่นนั้นหรอ สมแล้วที่ ‘เล้ง วู่ซุย’ ว่าเขาเป็นปีศาจเลือดเย็น!!!
ไม่ใช่แค่ ‘ชูเฟิง’ เท่านั้น แม้แต่ ‘ซูรู่’ เองก็ยังขมวดคิ้วลงด้วยความตกใจ
‘จูเก่อ หลิวหยุน’ สามารถฆ่า ‘เล้ง วู่ซุย’ ที่คอยรับใช้มาตลอด 3 ปี โดยไม่มีแม้แต่ความเมตตา เขาคิดว่า ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ นั้นเป็นคนที่เด็ดขาด และเป็นบุคคลที่โหดเหี้ยม
” อาวุโสซูรู่ ได้โปรดถอยไปก่อน ข้ามีเรื่องบางอย่างอยากจะพูดกับ ชูเฟิง เพียงคนเดียว “
‘จู่เก่อ หลิวหยุน’ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่แสนอ่อนโยน อารมณ์ของเขานั้นเปลี่ยนแปลงไว้อย่างมาก ขนาดเขาพึ่งฆ่า ‘เล้ง วู่ซุย’ ไปเมื่อกี้ เขายังสามารถทำตัวปกติได้
” ได้สิ!!! “
ในตอนนั้น ‘ซูรู่’ ลังเลนิดหน่อย แต่หลังจากที่ทบทวนนางก็ถอยไปแม้ว่า ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ จะค่อนข้างอันตราย แต่ที่เขาทำนั้นก็เพื่อ ‘ชูเฟิง’ เขาคงไม่คิดที่จะทำร้ายเขา นอกจากนี้ เมื่อนางนึกไปถึงเรื่องของ ‘ชูเฟิง’ ที่มีอำนาจพลังวิญญาณ นางก็พอเดาได้ว่า ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ต้องการอะไร
” ท่านอาวุโส จูเก่อ หลิวหยุน ข้าไม่รู้ว่าเป็นท่าน ดังนั้นหากทำอะไรให้ท่านไม่พอใจ ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย “
‘ชูเฟิง’ รีบขออภัยเรื่องในวันนั้น คงจะเป็นเรื่องในตอนที่อยู่สุสาน
” ฮ่าๆ หนุมน้อย อย่าได้คิดมากกับเรื่องที่ผ่านมา จากวันที่ข้าพบเจ้าในวันนั้น ข้าก็คอยตามหาเจ้ามาตลอด นึกว่าเจ้าจะไม่รอดซะแล้ว “
” จริงๆแล้ว ที่ข้าตามหาเจ้าเพราะต้องการรับเจ้ามาเป็น ลูกศิษย์ของข้า “
‘จูเก่อ หลิวหยุน’ หัวเราะและกล่าวแบบตรงๆ
” ท่านพูดจริงหรอ ? “
ตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ ถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เขารู้สึกว่ามันยากที่จะเป็นความจริงผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ ‘ชูเฟิง’ คิดว่าพวกเขาเป็นกลุ่มคนที่ครอบครองพลัง พิเศษตัวอย่างเช่น หากพัฒนา รูปแบบ อำนาจพลังวิญญาณ มันจะสามารถสร้างเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด
หลังจากที่พัฒนามันขึ้นไปเลื่อยๆ มันก็สามารถนำรูปแบบต่างๆมาใช้ได้มากกว่านี้ เหมือนกับที่ จูเก่อ ใช้ผนังป้องกันมาบีบสองคนนั้นจนตาย สิ่งที่สำคัญก็คือ การเป็น ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณนั้น จะได่รับค่าจ้างที่มหาศาล
ตราบใด ที่เขาสามารถเป็น ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ นั้นก็หมายความว่า ชูเฟิงก็ไม่ต้องห่วงเรื่อง ทุนทรัพย์อีกต่อไปในสายตาของเขา การที่มี ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณมาขอรับเขาเป็นศิษย์ นับว่าเป็นโชคดีอย่างมาก เหมือนกับว่า
” มีก้อนเงิน ก้อนทอง หล่นลงมาทับหัว “
” อย่าพึ่งดีใจไปเจ้าหนุ่ม การจะเป็นลูกศิษย์ของ จูเก่อ หลิวหยุน ได้เจ้าจะต้องผ่านบททดสอบของข้าไปซะก่อน “
‘จูเก่อ หลิวหยุน’ หัวเราะและกล่าว
” อาจารย์ ไม่ว่าจะเป็นบททดสอบอะไร ข้าก็ยินดีที่จะทำ “
‘ชูเฟิง’ คุกเข่าลงกับพื้นและกล่าวด้วยความเคารพเห็นความหลักแหลมของ ‘ชูเฟิง’ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ พยักหน้าด้วยความพอใจ เขาหยิบคัมภัร์เล่มหนึ่งออกมาจากในถุงจักรวาล และมอบให้ ชูเฟิง
” นี้คือวิธีการการฝึกเพื่อพัฒนา รูปแบบอำนาจพลังวิญญาณ หากเจ้าสามารถเข้าใจมันในขั้นแรกของการฝึก ข้าจะยอมรับเจ้าเป็นลูกศิษย์ของข้า “
” ขอบคุณท่านอาจารย์ “
‘ชูเฟิง’ ยิ้มอย่างยินดีและหยิบคัมภีร์เล่มนั้นมา
” อย่าดีใจไป ข้าให้เวลาเจ้าภายใน 1 เดือน โดยที่ไม่มีใครแนะนำ หากเจ้าไม่สามารถเข้าใจมัน 1 ใน 10 ส่วน “
” จำไว้ หากเจ้าไม่เข้าใจมัน 1 ใน 10 ภายในหนึ่งเดือน ข้าไม่เพียงแต่ไม่รับเจ้าเป็นลูกศิษย์ของข้าเท่านั้น ข้ายังจะฆ่าเจ้าทิ้งด้วย “
” ฮ่า ฮ่า . . . . . . . “
หลังจากที่ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ พูดจบ เขาก็หัวเราะพร้อมกลับจากไป
ความรู้สึกของ ‘ชูเฟิง’ บอกได้เลยว่า ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ นั้นไม่ได้พูดเล่น
โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . . .
ที่มา: