ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปหานซั่วเดินทางผ่านมิติเวทมนตร์ กลับมาปรากฏตัวขึ้นในมุมอับสายตาของสุสานอันโดดเดี่ยวที่ตั้งอยู่บนภูเขาด้านหลังวิทยาลัยอีกครั้ง
เขาเก็บแท่งเงินวิเศษกลับไป และเลื่อนก้อนหินที่ขวางทางเข้าไว้เพื่อเดินออกจากสุสาน ตอนนั้นฟ้าเพิ่งเริ่มจะสว่าง และหานซั่วก็ไม่ได้เดินกลับไปยังวิทยาลัยทันที แต่เขากลับมุ่งหน้าสู่เป้าหมายที่ตั้งใจไว้แล้ว คือบริเวณถนนทางตอนเหนือ ซึ่งระบุอยู่บนกระดาษที่เฟเบียนจดให้
บริเวณถนนทางตอนเหนือของเมืองออสเซ็นนั้น เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนที่ทั้งสูงตระหง่านและหรูหราอันเป็นแหล่งที่พักอาศัยของเหล่าขุนนางและชนชั้นสูงของจักรวรรดิ โดยเฉพาะทหารรักษาการณ์ของเมืองที่มีจำนวนมากเป็นพิเศษ จึงไม่แปลกที่มีทหารในชุดเกราะเต็มยศพร้อมอาวุธนานาชนิดออกเดินลาดตระเวนไปมาในเมืองตั้งแต่เช้าตรู่ หานซั่วทำความสะอาดเสื้อผ้าและปัดฝุ่นที่เพิ่งเปื้อนมาให้หลุดออกไป และเดินมุ่งหน้าไปยังถนนทางตอนเหนือ ตามที่เฟเบียนบอกไว้
ไม่นานนัก หานซั่วก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าบ้านหลังหนึ่ง ไม่มีทหารยาม เฝ้าอยู่หน้าประตู ไม่มีแม้แต่ใครสักคนที่อยู่ในบริเวณนั้น หานซั่วเดินไปที่ประตูทางเข้า รวบรวมสมาธิ และมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจเคาะประตูเมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครกำลังมองเขาอยู่
ครั้งสุดท้ายที่สมาคมพ่อค้าตระกูลบูซท์ ฟีบี้ได้สังหารนักฆ่า “ปีศาจเงา” ไปหลายคน และส่งต่อข้อครหานั้นให้หานซั่ว ตอนที่โกรเวอร์ออกจากห้องไป ความคับแค้นใจปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนในท่าที… เท่าที่ฟีบี้อธิบายให้ฟัง ไม่ว่าจะเป็น “โกรเวอร์” หรือ “ปีศาจเงา” ล้วนเป็นผู้เกี่ยวข้องที่ต้องการฆ่าเธอให้ได้ทุกเมื่อ เช่นนั้นแล้ว การกลับมายังจักรวรรดิในครั้งนี้ หานซั่วจึงต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งยวด เพราะเกรงว่าจะทำให้ “ปีศาจเงา” หรือโกรเวอร์รู้ตัวเข้า
ไม่นานนัก พ่อบ้านท่าทางอบอุ่นคนหนึ่งก็มาเปิดประตู ก่อนจะมองหานซั่วพร้อมกับยิ้มและโค้งคำนับ
“อรุณสวัสดิ์ ไม่ทราบว่าท่านมาพบใครรึขอรับ?”
“ข้าชื่อไบรอัน ข้ามาเจรจาธุรกิจกับท่านเฟเบียนครับ”
หานซั่วตอบกลับอย่างสุภาพเช่นกัน
“ท่านไบรอันนี่เอง! ข้าเคยได้ยินท่านเฟเบียนพูดถึงท่าน กรุณาตามข้าเข้ามาได้เลยขอรับ”
พ่อบ้านรีบเบี่ยงตัวหลบไปด้านข้างหลังจากได้ยินชื่อของหานซั่ว และเชิญให้เขาเข้ามา
เมื่อหานซั่วเดินเข้ามาแล้ว พ่อบ้านคนนั้นก็ยื่นศีรษะออกไปดูลาดเลาหน้าประตูทางเข้าด้านนอกเล็กน้อย ก่อนจะปิดประตูอย่างแน่นหนาตามหลังด้วยความรอบคอบและระแวดระวัง ขณะนำหานซั่วเข้าไปด้านใน
การตกแต่งภายในบ้านหลังนั้นค่อนข้างธรรมดา และดูออกจะมืดมนอยู่ซักหน่อยเมือเทียบกับสมาคมพ่อค้าตระกูลบูซท์ที่หรูหรา และความกว้างขวางโอ่โถงของพื้นที่ก็ห่างไกลกันอย่างเทียบชั้นไม่ติด
หลังจากเดินเข้ามาประมาณได้ซักครู่ พ่อบ้านก็นำหานซั่วมาถึงห้องรับแขก และสาวใช้หน้าตาธรรมดาคนหนึ่งก็นำน้ำชาและขนมมาเสิร์ฟ
“กรุณารอสักครู่นะคะ ท่านไบรอัน ข้าจะไปตามท่านเฟเบียนให้ค่ะ”
เมื่อพ่อบ้านออกจากห้องรับแขกไปแล้ว และสาวใช้ที่รินน้ำชาจนเต็มถ้วยให้หานซั่วก็ตามออกไปเช่นกัน หลังจากนั้นไม่นานนัก เฟเบียนก็เดินอ้วนเข้ามา พร้อมเสียงหัวเราะร่วนที่ทั้งชัดเจนและสดใส แต่ทว่า ใบหน้าและสภาพของเขากลับดูไม่ค่อยมีความสุขดีนัก ราวกับว่าผ่านเรื่องราวยากลำบากมามากมายทีเดียว
“ไบรอัน! ดีใจจริง ๆ ที่เจ้าปลอดภัย”
เฟเบียนดึงเก้าอี้ให้ตัวเองนั่งทันที หลังจากเดินเข้ามาในห้องรับแขกด้วยเสียงหัวเราะดังลั่น
“ข้าเองก็ดีใจที่เห็นว่าท่านไม่ได้รับอันตรายใด ๆ ครับ หลังจากออกจากสมาคมพ่อค้าตระกูลบูซท์ไปเมื่อคราวนั้น ข้าก็ไปหลบซ่อนตัวอยู่พักหนึ่ง เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็น “ปีศาจเงา” หรือคนของโกรเวอร์ก็ไม่มีใครหาข้าพบเลย ไม่ต้องห่วงข้าหรอกครับ แต่ท่านเองต่างหาก ท่านดูไม่ค่อยดีเลยนะครับ”
หานซั่วพิจารณาดูเฟเบียนก่อนจะตอบเขาไปด้วยเสียงแผ่วเบา
“อย่าพูดถึงมันเลย ช่วงนี้ดูเหมือนโกรเวอร์จะพยายามคุกคามพวกเรามากขึ้นเรื่อย ๆ ชีวิตความเป็นอยู่ก็เลยออกจะลำบากอยู่สักหน่อย จริงสิ คราวนี้ท่านมีธุระอะไรจะคุยกับข้าล่ะ?”
เฟเบียนถอนหายใจ พลางพูดด้วยน้ำเสียงยอมจำนน
หานซั่วไม่ได้สนใจเรื่องราวระหว่างโกรเวอร์และพวกเขาอยู่แล้ว ซึ่งเฟเบียนเองก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ เขาจึงคิดใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามออกไป
“ข้าไม่ได้มาหาท่านเพื่อขายอะไรหรอก แต่คราวนี้ข้ามาหาซื้อวัตถุดิบหายากบางอย่างจากท่านน่ะครับ”
“โอ้ วัตถุดิบอะไรรึ?”
“ลองดูในนี้เลยครับ ข้าต้องการวัตถุดิบทั้งหมดนี่เลย ไม่ทราบว่าราคากี่เหรียญทองเหรอครับ?”
หานซั่วยื่นกระดาษรายการวัตถุดิบที่หัวหน้าเผ่าคาลวินแห่งหมู่บ้านคนแคระจดไว้ให้เฟเบียน
เฟเบียนรับกระดาษไปจากมือของหานซั่วและเพ่งอ่านอย่างพิจารณา หลังใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ถามหานซั่ว
“ไบรอัน แม้จะมีบางรายการในนี้ที่ข้าไม่รู้จัก แต่ข้าเกรงว่าข้าคงตัดสินใจเองไม่ได้ ถ้าท่านไม่รังเกียจ ข้าจะไปขอให้ท่านฟีบี้มาเจรจาเรื่องนี้กับท่านจะได้มั้ย?”
หานซั่วสะดุ้งทันที พลางคิดว่าคาลวินร้องขอวัตถุดิบที่มีค่ามากขนาดนั้นเชียวหรือ? เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าตอบรับ
“ตกลงครับ ถ้าคุยกับท่านฟีบี้ก็คงเหมือนเดิม ข้าจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบนี้ด่วนพอสมควร ข้าจะพบท่านได้เมื่อไหร่เหรอครับ?”
“นายหญิงน้อยเองก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน ข้าจะไปขอคำแนะนำจากท่านก่อน รอตรงนี้สักครู่นะ”
เฟเบียนลุกขึ้นยืน และพูดทิ้งท้ายก่อนจะปล่อยให้หานซั่วรออยู่ในห้องรับแขก
เมื่อฟีบี้เข้ามาในห้อง เธอมองหานซั่วด้วยสายตาเฉยเมยไร้เยื่อใย ทำให้เขารู้สึกงุนงงกับท่าทีของเธอเล็กน้อย แล้วฟีบี้ก็นั่งลงและหยิบรายการของหานซั่วขึ้นมาดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน คิ้วของเธอขมวดเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหานซั่ว
“วัตถุดิบพวกนี้เอาไว้ใช้สำหรับสร้างอาวุธสินะ บางอย่างก็หายากมากจริง ๆ แต่เจ้าก็มาถูกที่แล้วล่ะ”
หัวใจของหานซั่วเอ่อล้นไปด้วยความปิติทันที แต่ยังคงสีหน้าสงบนิ่งเอาไว้ พลางใช้นิ้วเคาะโต๊ะเป็นจังหวะ ก่อนจะถามขึ้นอย่างแผ่วเบา
“ท่านให้ราคาเท่าไหร่เหรอครับ?”
ฟีบี้พยักหน้า สายตาปราดเปรื่องของเธอเป็นประกายขึ้นทันทีขณะที่ริมฝีปากที่ปิดสนิทแน่นเริ่มแย้มยิ้มออกมาเป็นเส้นโค้งดูน่ารัก
“นอกจากเหล็กไหลแล้ว เราขายวัตถุดิบให้ท่านได้ครบหมดทุกอย่างค่ะ และเพราะท่านช่วยพวกเราไว้เมื่อคราวก่อน ข้าจะคิดส่วนลดให้ เท่ากับว่าขายท่านในราคา 3,500 เหรียญทอง ราคานี้ยุติธรรมที่สุดแล้วค่ะ”
3,500 เหรียญทอง! หัวใจหานซั่วถึงกับหล่นวูบด้วยความช็อค เขาไม่คิดมาก่อนว่าวัตถุดิบที่ขาดเพียงสิบกว่าอย่างตามที่คาลวินจดรายการมาให้จะมีราคาสูงถึงเพียงนี้ แม้คำพูดของฟีบี้จะบอกเป็นนัยอยู่แล้วว่าราคานี้ถือว่าต่ำมากแล้ว และเหล็กไหลก็ดูจะยากลำบากในการหาพอสมควร
หานซั่วนิ่วหน้าเล็กน้อยอย่างใช้ความคิด
“3,500 เหรียญทอง ไม่มีปัญหาครับ แต่สมาคมของท่านหาเหล็กไหลไม่ได้เลยเหรอ?”
“เหล็กไหลก็เหมือนเหล็กสีนิลนั่นแหละค่ะ ทั้งสองอย่างเป็นวัตถุดิบคุณภาพระดับสูงสุดสำหรับการสร้างอาวุธ และมีราคาค่างวดที่สูงเหนือจินตนาการของท่านมากมายเลยทีเดียว เหล็กไหลที่มีขนาดเพียงเล็บนิ้วมืออาจมีราคาตามท้องตลาดถึง 5,000 เหรียญทอง แต่ตามปกติแล้ว ก็ไม่มีใครขายเหล็กสีนิลและเหล็กไหลกันหรอกค่ะ
“ขนาดข้าเองยังเป็นเจ้าของเหล็กไหลที่มีขนาดเท่านิ้วหัวแม่โป้งเท่านั้นเอง ซึ่งกว่าจะได้มาก็ต้องใช้ความพยายามแทบเลือดตากระเด็นเช่นกัน ข้าตั้งใจว่าจะนำไปตีดาบที่ยอดเยี่ยมที่สุดให้อาจารย์ของข้าทันทีที่รวบรวมวัตถุได้มากพอ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ข้าจะเก็บมันเอาไว้เองค่ะ และถึงแม้ว่าท่านจะพึงใจในเหล็กไหลชิ้นนี้ ข้าก็คงขายให้ท่านไม่ได้ ไม่ว่าท่านจะเสนอราคาสูงแค่ไหนก็ตาม”
ฟีบี้มีสีหน้าจริงจังและพูดกับหานซั่วด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
ฟีบี้เป็นนักดาบ และหานซั่วเองก็พอจะนึกภาพออก หากศิษย์ที่ว่าแข็งแกร่งมากแล้ว อาจารย์ของเธอจะเป็นระดับที่สูงกว่าถึงเพียงไหน และดาบที่จะใช้โดยคนที่แข็งแกร่งขนาดนั้นย่อมต้องไม่ใช่ดาบที่คมในระดับธรรมดา ๆ ในเมื่อฟีบี้เป็นถึงจอมดาบทั้ง ๆ ที่อายุยังน้อย เธอจะต้องไม่ได้รับการฝึกสอนจากสถาบันเวทมนตร์หรือศาสตร์แห่งพลังธรรมดา ๆ แน่นอน จะว่าไปแล้ว ตัวตนของฟีบี้ก็ลึกลับน่าดูชมเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม หานซั่วเองก็จำเป็นต้องใช้แร่เหล็กไหลจริง ๆ เช่นกัน เพราะต้องการสร้างคมมีดพิชิตมารที่สมบูรณ์แบบไปเลยในคราเดียว วัตถุดิบที่หายากยิ่งเช่นนี้จึงขาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะอาจทำให้คมมีดพิชิตมารด้อยคุณภาพลงอย่างมหาศาล ซึ่งเป็นสิ่งที่หานซั่วไม่ต้องการให้เกิดขึ้นมากที่สุด
หานซั่วนิ่วหน้าอย่างเคร่งเครียด หลังจากใคร่ครวญอย่างหนัก ในที่สุดเขาก็ถามฟีบี้
“นอกจากท่านแล้ว ยังมีใครที่ครอบครองเหล็กไหลอยู่อีกมั้ยครับ?”
“อย่าพยายามทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยค่ะ ข้าคิดว่า ต่อให้มีใครบางคนถือครองไว้ พวกนั้นก็ต้องถนอมรักษามันราวสมบัติล้ำค่า และคงไม่ยอมขายให้ท่านอยู่ดี”
ฟีบี้มองหานซั่วด้วยท่าทีสนใจและเป็นกังวล รอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฏเป็นนัยอยู่ตรงมุมปากของเธอ ขณะพูดออกมาด้วยความภาคภูมิใจ
หานซั่วรู้สึกหดหู่ขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด แต่ทันใดนั้นเอง เขาก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างในรอยยิ้มที่ไม่ได้ตั้งใจของเธอขณะที่เขาส่ายหัวและถอนหายใจ ความคิดของเขาโลดแล่นอย่างบ้าคลั่งอยู่เงียบ ๆ ในที่สุด สายตาของเขาก็มองตรงไปยังฟีบี้และถามด้วยเสียงแผ่วเบา
“ท่านฟีบี้ครับ ถ้าท่านยินดีที่จะมอบเหล็กไหลของท่านชิ้นนั้นให้ข้าได้ล่ะก็ บอกเงื่อนไขที่ท่านปรารถนามาได้ทุกอย่างครับ”
ฟีบี้สะดุ้งและมองหานซั่วด้วยความประหลาดใจทันที เธอนิ่วหน้าและแสร้งทำเป็นคิดเรื่องอื่นอยู่ในใจ แต่ในที่สุด เธอก็ตอบเขาด้วยท่าทีที่ไม่เต็มใจนัก
“เพราะท่านช่วยพวกเราไว้คราวที่แล้ว ข้าสามารถทนรับความเจ็บปวดจากการล้มเลิกความตั้งใจในบางสิ่งบางอย่างที่ข้ามอบคุณค่าให้มันเป็นอย่างมากได้ค่ะ แต่ท่านต้องช่วยข้าในเรื่องหนึ่ง…”
“ช่วยเรื่องอะไรเหรอครับ?”
หานซั่วแอบคิดว่า ก่อนหน้านี้ ที่ฟีบี้พูดมาทั้งหมด เป็นแผนลวงให้เขาตายใจจริง ๆ แม้จะรู้สึกโกรธ แต่เขาก็ไม่แสดงออกทางสีหน้าแต่อย่างใด นอกจากความเคร่งขรึม
“ร่วมต่อสู้เคียงข้างข้า และช่วยข้าสังหารลูกน้องคนสนิทของโกรเวอร์ให้ได้ — ดาร์เนลและยูนา เจ้าวายร้ายสองคนนั่นสมควรถูกหั่นเป็นพัน ๆ ชิ้นจนกว่าจะตายเลยได้ยิ่งดี!”
ใบหน้างดงามของฟีบี้เย็นชาขึ้นมาทันที เธอขบฟันด้วยโทสะขณะพูดทุกอย่างออกมา
“พวกนั้นแข็งแกร่งยังไงเหรอครับ?”
หานซั่วถามด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
“ดาร์เนลเป็นนักดาบระดับสูง และความแข็งแกร่งของเขาก็ใกล้จะบรรลุถึงระดับจอมดาบเต็มที ส่วนยูนาก็เป็นนักเวทย์ธาตุไฟระดับสูง พลังของหล่อนน่ากลัวมาก ทั้งสองคนทั้งชั่วช้าสามานย์ ไร้ยางอายอย่างที่สุด และแทบจะไม่ห่างจากกันเลย ตอนนี้พวกเขาอาศัยอยู่ในสมาคมพ่อค้าตระกูลบูซท์ ถ้าท่านเต็มใจช่วย ข้าก็จะมีโอกาสในการลอบสังหารพวกนั้นได้มากทีเดียวค่ะ”
ฟีบี้นั่งตัวตรงขึ้นมาทันที จนยกเอาหน้าอกกลมกลึงเต็มไม้เต็มมือของเธอให้ตั้งขึ้นจนเห็นเด่นชัดยิ่งกว่าเดิม ขณะที่เธอเล่าด้วยความตื่นเต้น
“ข้าสัญญาว่าจะช่วยท่านครับ”
หานซั่วตอบอย่างไม่ลังเลด้วยเสียงแผ่วเบา
ติดตามอัพเดทและอ่านตอนต่อไปทันที ที่นี่ >>> Facebook : Louktan Translate นิยายแปลไทย
#อัพเดท12สค2560 #หน้าเพจถึงตอนที่ 72 #กลุ่มลับ1ถึงตอนที่110
(0 votes) 0/10