ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“ค…คนรักงั้นรึ?”โกรเวอร์สะดุ้งตกใจและมองฟีบี้ด้วยสีหน้าประหลาดใจสุดขีด พร้อมกับพูดย้ำอีกครั้งราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่เพิ่งได้ยิน“เขาเป็นคนรักของหลานจริง ๆ รึ?”“ก็จริงน่ะสิคะ”ฟีบี้พยักหน้าอย่างมั่นใจ และยื่นแขนออกไปคว้ามือซ้ายของหานซั่วมากุมไว้ด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ พยายามยืนยันความสัมพันธ์ของทั้งคู่ในตอนนั้นเอง หานซั่วอ้าปากค้างราวกับมีใครบางคนเอาไข่ไก่มายัดไว้ในปาก พร้อมสีหน้าตกตะลึงสุดขีด เขาทำตัวไม่ถูกจนกระทั่งมือเล็ก ๆ ของฟีบี้แอบบีบแขนของเขาเบา ๆ เพื่อส่งสัญญาณ เขาจึงทำได้เพียงหัวเราะแห้ง ๆ และพยักหน้าโดยที่ไม่ได้พูดอธิบายอะไรผู้อาวุโสของสมาคมคนหนึ่งที่กำลังคุยกับโกรเวอร์อย่างออกรสก่อนหน้านี้ แอบกระซิบถามอย่างเคลือบแคลงสงสัยด้วยเสียงแผ่วเบา“เจ้าเด็กนี่เป็นใครมาจากไหนกันน่ะ?”โกรเวอร์ไม่ได้ตอบอะไรมาก เพียงแต่หันไปมองคนผู้นั้นแว่บหนึ่ง และหันตัวไปทางด้านข้าง และยิ้ม“ถ้าเขาเป็นคนรักของหลานจริง งั้นก็ไม่มีปัญหา มาเถอะ
รีบเข้ามาข้างในเลย”สีหน้าของฟีบี้กลับเป็นปกติอีกครั้ง พลางลากหานซั่วเดินเข้างาน เธอทักทายพวกสมาชิกผู้ก่อตั้งจำนวนหนึ่งด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะลากหานซั่วไปอยู่ในที่ ๆ มีคนไม่เยอะนักเหล่าบริกรยกถาดผลไม้และไวน์เดินเสิร์ฟตลอดงาน และวางลงบนโต๊ะสี่เหลี่ยมที่จัดวางไว้ตามมุมต่าง ๆ โคมระย้าเหนือศีรษะส่องประกายแสงระยิบระยับ รวมทั้งบรรดาของตกแต่งหรูหราที่วางประดับประดาไปทั่วทั้งห้อง ความหรูหราตระการตานี้ทำให้เด็กบ้านนอกอย่างหานซั่วได้แต่ตะลึงจนพูดอะไรไม่ออกแต่ที่หานซั่วตกตะลึงที่สุด คือคำพูดของฟีบี้เมื่อครู่ เมื่อเขาเห็นว่าไม่มีใครแล้ว เขาก็รีบยิ้มเจื่อน ๆ ให้เธอทันที“ท่านฟีบี้ ท่านทำแบบนี้หมายความว่ายังไงกันน่ะ?”ฟีบี้คว้าแก้วไวน์มาใบหนึ่ง ก่อนจะรินไวน์แดงให้ตัวเธอเอง เธอยกแก้วขึ้นจิบเพื่อลิ้มรสเล็กน้อยก่อนจะตอบหานซั่ว“อย่าคิดมากไปเลย ข้าก็แค่หาเรื่องกลบเกลื่อนตัวตนให้เจ้าก็เท่านั้นเอง ไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งอะไร เพราะถ้าข้าไม่พูดไปแบบนั้น เจ้าก็คงเข้ามาที่นี่ไม่ได้หรอก”หานซั่วพยักหน้ารับพลางถอนหายใจ“นึกอยู่แล้วเชียว ว่าที่ข้าตามท่านมาที่นี่คงช่วยอะไรท่านไม่ได้เท่าไหร่”“เจ้าต้องทำตัวให้เป็นธรรมชาติมากกว่านี้ก็พอ แล้วข้าจะช่วยพูดแทนเจ้าเอง งานสังสรรค์ประจำปีของสมาคมนี้ เหล่าผู้อาวุโสรุ่นก่อตั้งจะมาร่วมงานด้วยทั้งหมด แม้แต่คนโง่กะโหลกหนาอย่างเจ้าโกรเวอร์นั่นก็คงไม่กล้าทำอะไรในเวลาแบบนี้แน่ เพราะฉะนั้นพวกเราก็ไม่มีอะไรให้กังวลหรอก”ฟีบี้พูดกับหานซั่วอย่างอ่อนโยน ขณะที่สายตาของเธอก็สอดส่องสิ่งรอบข้างไปเรื่อยๆหานซั่วหยิบขวดไวน์มารินให้ตัวเองบ้าง เมื่อลองจิบดูก็สัมผัสได้ถึงรสชาติที่นุ่มละมุนลิ้น เขากวาดตามองไปรอบ ๆ ด้วยความสนใจ และพบว่าเหล่าผู้อาวุโสต่างพาลูกหลานมาร่วมงานด้วย ในห้องโถงจัดเลี้ยงนั้นมีผู้คนอยู่ราว ๆ ยี่สิบถึงสามสิบคน ทั้งกลุ่มของผู้อาวุโส คนหนุ่มสาวหน้าตาดี และเหล่าผู้หญิงที่แต่งงานแล้วแต่ยังคงความอ่อนช้อยงดงามและดูเอียงอายตามแบบฉบับสุภาพสตรีผู้สูงศักดิ์ทุกคนที่มาร่วมงานต่างแต่งกายในชุดหรูราคาแพง และขยับกายด้วยท่วงท่าสุภาพแบบผู้ดีมีตระกูล สังคมชนชั้นสูงคงเป็นอย่างนี้นี่เอง ในขณะที่โกรเวอร์ก็เดินถือแก้วไวน์ทักทายผู้คนไปทั่วด้วยท่าทีเป็นมิตร“สมาคมพ่อค้าตระกูลบูซท์จะอยู่ภายใต้การควบคุมของคนตระกูลบูซท์เสมอ ครอบครัวของข้าก็เป็นหัวหน้าสมาคมมาหลายชั่วอายุคน แต่ระหว่างที่ข้าออกไปท่องโลกภายนอก ตาแก่โกรเวอร์ก็มารับตำแหน่งหัวหน้าสมาคมชั่วคราวแทนพ่อของข้าที่ตายไป แต่อย่าคิดว่าเขามีสัมพันธ์อันดีกับพวกผู้อาวุโสเชียวล่ะ ไม่มีใครรู้จริง ๆ หรอกว่าเบื้องหลังของเขาดำมืดแค่ไหน ไม่งั้นข้าคงไม่มีเหตุผลให้ต้องกลับมาที่นี่หรอก”ขณะที่หานซั่วกำลังสังเกตสิ่งรอบข้างอยู่เงียบ ๆ ฟีบี้ก็อธิบายให้เขาฟังด้วยเสียงแผ่วเบา เมื่อเธอพูดจบ
หานซั่วก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
จึงรีบถามออกมา“พ่อของเจ้าเสียเพราะสาเหตุอะไรเหรอ? แล้วไม่มีสัญญาณอะไรบ่งบอกให้เจ้ารู้ก่อนหน้านั้นบ้างเลยรึไง?”ทันใดนั้นเอง ความปรารถนาที่จะฆ่าก็ฉายวาบขึ้นในตาของฟีบี้ เธอสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้แล้วพูดด้วยสีหน้าเย็นชา“ข้ายังสืบสวนอยู่ว่าพ่อของข้าตายได้ยังไง แต่ยังไม่พบหลักฐานอะไรเลย และข้าไม่ได้อยู่ในสมาคมมาโดยตลอด และมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ข้ายังไม่แน่ใจ พวกผู้อาวุโสรุ่นก่อตั้งเองก็อาจจะยังไม่เชื่อใจในความสามารถของข้าเท่าไหร่ และความคิดของพวกเขาก็กว้างขวางไร้ขอบเขต ภารกิจหลักของข้าในตอนนี้จึงเป็นการเอาชนะใจและเรียกเสียงสนับสนุนจากพวกผู้อาวุโสมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ลำพังพลังของข้าเพียงคนเดียวคงทำให้ตาแก่นั่นหลุดจากตำแหน่งไม่ได้แน่
ๆ”หานซั่วฟังแล้วก็รู้ทันทีว่าฟีบี้เองก็ยังสงสัยในสาเหตุการตายของพ่อของเธอ เขาจึงไม่ถามอะไรอีก ได้แต่ถือแก้วไวน์ และมองสำรวจไปรอบ ๆ พลางคิดอะไรเงียบ ๆ คนเดียวไปเรื่อยหลังจากนั้นไม่นาน ก็มีกลุ่มคนเดินเข้างานเลี้ยงมาอีก และผู้อาวุโสที่มีเคราสีดอกเลาคนหนึ่งก็เดินเข้ามาเป็นคนสุดท้ายโดยมีพ่อบ้านช่วยพยุงทันทีที่ชายชราผู้นี้ปรากฏตัวขึ้น ผู้คนมากมายในห้องโถงต่างกุลีกุจิเข้ามาทักทาย แม้แต่ฟีบี้เองก็รีบลากหานซั่วไปในทิศทางเดียวกันทันทีที่เธอเห็นชายชรา และรีบอธิบายให้หานซั่วฟังด้วยเสียงแผ่วเบา“ท่านผู้นี้คือท่านแอนดรูว์ เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมพ่อค้าตระกูลบูซท์ร่วมกันกับท่านปู่ของข้า และปัจจุบันก็เป็นผู้ก่อตั้งที่ดำรงตำแหน่งในสมาคมยาวนานที่สุด แม้แต่โกรเวอร์เองก็ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามต่อหน้าท่านผู้นี้แน่ และถ้าท่านยอมช่วย พวกเราก็จะได้ไม่ต้องเป็นผู้ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวแบบที่ผ่าน ๆ มาอีก“เมื่อมาถึงตรงหน้าของแอนดรูส์ ฟีบี้ก็ย่อตัวลงเพื่อคำนับ ก่อนจะทักทายด้วยรอยยิ้มมีความสุข“ท่านปู่แอนดรูว์ ดีใจเหลือเกินค่ะที่ได้เจอ!”“อ้าว สาวน้อยฟีบี้คนสวยของเรานี่เอง ปู่ไม่ได้เจอเจ้ามานานแล้วนะนี่ ฮ่าฮ่า
โตขึ้นเยอะเลยนะ“มือซ้ายของแอนดรูว์ค้ำไม้เท้าเอาไว้ ในขณะที่มือขวาก็จับมือพ่อบ้านเพื่อช่วยประคองตัว เขาหัวเราะร่วนเมื่อเจอฟีบี้“หลานรัก อย่ามัวชวนคุยอยู่แบบนี้สิ รีบพาท่านผู้อาวุโสไปนั่งก่อนเถอะ อายุอานามขนาดท่านคงต้องเหนื่อยจากการเดินทางโดยรถม้ามาตั้งไกล อย่าปล่อยให้ท่านยืนอยู่เลย“โกรเวอร์พูดกับฟีบี้ขณะที่เดินตรงมาหาแอนดรูว์ เห็นได้ชัดว่าต้องการเชิญให้แอนดรูว์ไปนั่งข้างเขา“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ต้องห่วงหรอก ข้ากำลังคุยสนุก ๆ กับสาวน้อยฟีบี้อยู่เลย ข้าไม่ได้เจอหลานของข้ามาตั้งนานแล้วน่ะ“แอนดรูว์ป้องปัดโกรเวอร์ที่พยายามจะเข้ามาช่วยพยุง พลางยกไม้เท้าและค่อย ๆ เดินเข้ามาหาหานซั่วและฟีบี้โกรเวอร์นิ่วหน้าอย่างไม่ตั้งใจเมื่อเห็นฟีบี้มีสีหน้าประหลาดใจกำลังพาแอนดรูว์ไปนั่งทางด้านอื่น ตอนนั้นเอง
สายตาของโกรเวอร์ก็กวาดมองไปทั่วร่างของแอนดรูว์ ราวกับกำลังพินิจพิเคราะห์อะไรบางอย่างเมื่อฟีบี้ แอนดรูว์
และหานซั่วต่างนั่งลงที่มุมหนึ่งด้านริมสุดของห้องโถง ทั้งสามคนยังไม่ทันมีโอกาสได้พูดอะไรเมื่อโกรเวอร์ชูแก้วไวน์ขึ้นสูงและพูดขึ้นกลางงาน“ท่านผู้อาวุโส ผู้ก่อตั้งสมาคมพ่อค้าตระกูลบูซท์ที่เคารพทั้งหลาย วันนี้เป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ประจำปีของสมาคมเรา ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบกับพวกท่านทุกคนในปีนี้อีกครั้ง น่าเสียดายที่พี่ชายที่รักของข้ามาด่วนจากไปเสียก่อนเพราะเหตุผลด้านสุขภาพ เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจยิ่งนัก““อย่ากังวลไปเลย โกรเวอร์ ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดีภายใต้การบริหารของเจ้า ข้าคิดว่าหากอดีตหัวหน้าสมาคมได้รับรู้ก็คงปลาบปลื้มยินดีและพอใจมากแน่ ๆ“ผู้อาวุโสรุ่นก่อตั้งคนหนึ่งพูดโพล่งขึ้นมา โดยที่ผู้อาวุโสอีกสองคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ต่างพยักหน้าเชิงเห็นพ้องต้องกันหานซั่วเฝ้ามองการกระทำของคนพวกนั้นด้วยสายตาเย็นชา และเข้าใจเรื่องราวทุกอย่างแทบจะทันที เพราะเขารู้ว่าคนพวกนั้นมีความสัมพันธ์อันดีกับโกรเวอร์ จึงตั้งใจประกาศจุดยืนของตัวเองด้วยคำพูดเหล่านั้นในตอนนั้นเอง หานซั่วซึ่งนั่งอยู่ติดกับฟีบี้ ได้ยินเสียงแอนดรูว์พ่นลมเชิงดูถูกด้วยเสียงที่แผ่วเบาเป็นอย่างมาก แม้แต่ฟีบี้ที่นั่งใกล้กับแอนดรูว์มากกว่าก็ยังได้ยินอย่างชัดเจน เธอเหลือบตามองด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะหันมามองหน้ากันไปมากับหานซั่ว“อดีตหัวหน้าสมาคมเองก็ถึงแก่กรรมไปแล้ว
แต่สมาคมพ่อค้าตระกูลบูซท์ของเราจะอยู่แบบไม่มีผู้นำไปตลอดไม่ได้ ข้าว่าพวกเราควรใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้เพื่อหารือกันถึงหัวหน้าสมาคมคนใหม่ พวกท่านทุกคนคิดว่าไงล่ะ?”ผู้อาวุโสคนเดิมร้องบอกด้วยน้ำเสียงเชิญชวน และผู้อาวุโสอีกสองคนที่เห็นดีเห็นงามไปกับเขาด้วยเมื่อครู่ ก็พร้อมใจกันสนับสนุนอีกครั้ง“ถูกต้อง ตำแหน่งหัวหน้าสมาคมไม่ควรเว้นว่างนานเกินไป แต่ใครกันล่ะ
ที่จะมาเป็นหัวหน้าสมาคมคนต่อไป?
คำถามสำคัญอยู่ตรงนี้ต่างหาก“ผู้อาวุโสร่างกายกำยำล่ำสันคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำ ขณะที่นั่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก“จะหารือกันไปทำไมอีกล่ะ โกรเวอร์ก็ต้องเป็นหัวหน้าสมาคมคนใหม่อยู่แล้วสิ ในเมื่ออดีตหัวหน้าสมาคมถึงแก่กรรมไปแล้ว ส่วนโกรเวอร์ก็บริหารจัดการสมาคมได้เป็นอย่างดี ทุกท่านก็เห็นแล้วว่าสมาคมของเรามั่นคง มีสเถียรภาพ
และเป็นระเบียบเรียบร้อยมากแค่ไหน ข้าคิดว่าคงไม่มีใครที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและเหมาะสมกับตำแหน่งนี้มากไปกว่าโกรเวอร์แล้วล่ะ“ผู้สนับสนุนโกรเวอร์อีกคนลุกขึ้นยืนและรีบพูดเสริมโกรเวอร์ยืนขึ้นพร้อมกับยิ้ม สีหน้าแสนสุภาพนั้นแฝงไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมมารยา พร้อมกับกล่าวว่าตัวเขาเองนั้นไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ จนไม่คู่ควรกับคำกล่าวชมเหล่านั้นแม้แต่น้อย แต่ทั้งสามคนก็ยังยืนกรานว่าตำแหน่งนี้ต้องเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว ตามด้วยเสียงสนับสนุนอย่างเห็นพ้องของคณะพันธมิตร“ท่านลุงแอนดรูว์ ท่านคิดว่ามีใครเหมาะสมที่จะเป็นหัวหน้าสมาคมคนใหม่บ้างไหมครับ?”ในตอนนั้นเอง ผู้อาวุโสรุ่นก่อตั้งคนเดิมที่พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำร้องถามขึ้น พลางหันมามองแอนดรูว์จากระยะไกลแล้วเหล่าผู้อาวุโสรุ่นก่อตั้งต่างก็หันมามองแอนดรูว์พร้อมกันเป็นตาเดียว เพื่อเฝ้ารอดูว่าแอนดรูส์จะตัดสินใจอย่างไรแอนดรูว์หันมามองฟีบี้ซึ่งกำลังแสร้งทำเป็นสงบเสงี่ยมและรักษากิริยาอาการ เขาค่อย
ๆ ลุกขึ้นยืนและหัวเราะร่วนเบา ๆ“ยังไงก็ไม่ใช่ข้าอยู่แล้วล่ะ เพราะข้าคงเหลือชีวิตให้ใช้ต่อได้อีกไม่นานเท่าไหร่ ฮ่าฮ่าฮ่า“ทุกคนต่างยิ้มอย่างเป็นกันเองเมื่อได้ยินสิ่งที่แอนดรูว์พูด ซึ่งโกรเวอร์เองก็ยิ้มและหัวเราะร่วนไปด้วยเช่นกัน เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะใจหนึ่งก็กลัวว่าแอนดรูว์จะก้าวขึ้นมารวบตำแหน่งหัวหน้าสมาคมไปจากเขา“อย่างไรก็ตาม…”แอนดรูว์กวาดตามองไปยังผู้คนที่ยืนรวมตัวกันอยู่ทั่วทั้งห้อง และกล่าวต่อไป“ข้าคิดว่าสาวน้อยฟีบี้เองก็โตขึ้นมากแล้ว
และเธอก็เป็นทั้งลูกสาวของอดีตหัวหน้าสมาคมและเป็นคนของตระกูลบูซท์ ถ้าว่ากันตามหลักแล้ว เธอน่าจะเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมากที่สุดไม่ใช่รึ? ทำไมไม่เห็นมีใครคิดแบบนี้กันบ้างเลยล่ะ?”“ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้แน่นอนครับ คุณหนูฟีบี้ยังเด็กเกินไป แถมยังใช้ชีวิตอยู่ภายนอกสมาคมมาโดยตลอด เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องราวภายในสมาคมมีอะไรบ้าง ถ้าเธอได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าสมาคมล่ะก็ เธออาจทำให้ธุรกิจของสมาคมเราเสียหายก็ได้นะครับ“ผู้อาวุโสคนหนึ่งที่คอยหนุนหลังโกรเวอร์รีบพูดแย้งขึ้นอย่างก้าวร้าว“ไคโร เรื่องนั้นไม่เกี่ยวหรอก คุณหนูฟีบี้ยังเด็กอยู่ก็จริง แต่ข้าก็เห็นว่าเธอมีความรู้รอบด้านและมีความคิดเป็นผู้ใหญ่พอตัวเลยทีเดียว และเวลาจะตัดสินใจทำอะไรก็ยังรู้ข้อจำกัดที่เหมาะสมทั้งในการพูดและการกระทำ บางที การได้เธอมาเป็นผู้นำอาจจะทำให้สมาคมของเราพัฒนาก้าวหน้าไปไกลมากกว่านี้ก็ได้นะ“ในที่สุด ผู้อาวุโสคนหนึ่งก็พูดขึ้น และผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ที่ปิดปากเงียบมาโดยตลอดก็พยักหน้าอย่างเห็นพ้องต้องกันทันทีเมื่อเห็นว่าแอนดรูว์ให้การสนับสนุนฝั่งฟีบี้ ในขณะที่ผู้อาวุโสอีกสามหรือสี่คนที่เหลือยังคงนิ่งเงียบ และแสดงท่าทีอย่างเป็นกลาง“ทำไมกันล่ะ? จะเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน?
เราเอาอนาคตของสมาคมมาลองผิดลองถูกกับคนที่ไร้ประสบการณ์อย่างเธอไม่ได้หรอกนะครับ“ผู้สนับสนุนผู้ภักดีของโกรเวอร์รีบพูดแสดงความไม่พอใจทันที“แล้วทำไมจะไม่ได้ล่ะ? ถ้าข้าจำไม่ผิด ตอนที่หัวหน้าสมาคมคนก่อนรับตำแหน่งครั้งแรก เขาก็เพิ่งอายุ 23
ปีเท่านั้นเอง โดยที่มีท่านแอนดรูว์และคนอื่น ๆ คอยให้คำแนะนำ แล้วสุดท้าย
หัวหน้าสมาคมก็เติบโตขึ้นจนนำความเจริญรุ่งเรืองมายังสมาคมของเราจนถึงทุกวันนี้ ข้าเชื่อว่าฟีบี้เองก็จะทำได้เช่นกัน แม้จะไม่มีผู้อาวุโสอย่างเราคอยให้ความช่วยเหลือ ก็อาจไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นด้วยซ้ำ“ผู้อาวุโสคนนั้นกล่าวต่อสีหน้าของโกรเวอร์เข้มขึ้นด้วยความโกรธทันที เขานั่งเงียบไม่พูดอะไรตั้งแต่ที่แอนดรูว์พูดขึ้นมา แต่สุดท้ายเขาก็ลุกขึ้นยืน และหันไปพูดกับฟีบี้“หลานฟีบี้ คนรักของหลานเคยเป็นเด็กรับใช้ของวิทยาลัยเวทมนตร์และศาสตร์แห่งพลังบาบิโลนมาก่อน แถมยังมีฐานะเป็นทาสอีกด้วย อย่ามองว่าอายุ่มย่ามเรื่องส่วนตัวไม่เข้าเรื่องเลย แต่ถ้าเรื่องของพวกเจ้าทั้งคู่แพร่งพรายออกไป มันจะกระทบกับชื่อเสียงของสมาคมเราได้นะ“ผู้อาวุโสรุ่นก่อตั้งจำนวนหนึ่งหันขวับมามองหานซั่ว โดยไม่สามารถปิดบังความรังเกียจเดียดฉันท์บนสีหน้าเอาไว้ได้หานซั่วมองกลับไปด้วยสายตาข่มขวัญ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าฟีบี้ไม่ได้กังวลโดยไร้เหตุผล ดูเหมือนเขาจะประเมินอิทธิพลของโกรเวอร์และนักฆ่าปีศาจเงาต่ำไปหน่อย เพราะไม่คาดคิดว่าพวกนั้นจะสามารถสืบเสาะหาปูมหลังของเขาได้จากชื่อต้นเพียงชื่อเดียว โชคดีที่ช่วงหลัง ๆ นี้เขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่สุสานแห่งความตาย เพราะหากยังอยู่ที่วิทยาลัยต่อไปตามเดิมล่ะก็ เขาคงถูกลอบฆ่าโดยนักฆ่าฝีมือฉกาจไปนานแล้วแน่ ๆ” ท่านอา** ท่านพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงกันคะ? “ครั้งนี้ ฟีบี้ลุกขึ้นยืนบ้างแล้ว ใบหน้าสะสวยของเธอพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาและจ้องมองโกรเวอร์ด้วยสายตามุ่งร้าย โดยไม่สนจะรักษากริยาใด ๆ อีกต่อไป“อย่าโกรธไปเลย หลานรัก อาก็แค่อยากจะบอกว่าความสามารถในการตัดสินใจของเจ้ายังไม่ดีพอ การบริหารจัดการสมาคมน่ะ ต้องฉลาดหลักแหลม และการตัดสินใจในระยะยาวคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าเจ้าเลือกสามีในอนาคตของเจ้าจากทาสชั้นต่ำอย่างผู้ชายคนนี้ อาคิดว่าอาคงยอมให้เจ้าเป็นหัวหน้าสมาคมไม่ได้หรอก““แต่ข้าว่าคนที่ฆ่าได้แม้กระทั่งพี่ชายแท้
ๆ เพื่อหวังผลประโยชน์ แถมยังส่งนักฆ่าไปลอบสังหารหลานสาวของตัวเองตั้งไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ยังดูไม่คู่ควรกับตำแหน่งหัวหน้าสมาคมมากกว่าอีกนะครับ“หานซั่วลุกขึ้นยืน และจ้องหน้าโกรเวอร์ด้วยรอยยิ้มเย็นชา เขาพูดอย่างไร้ซึ่งความเกรงกลัวใด ๆ และไม่ใส่ใจว่าสิ่งที่เค้าพูดจะฟังดูน่าตื่นตกใจมากแค่ไหน ก่อนจะหันไปมองสบตาคนอื่น ๆ ทั่วทั้งห้องโถงที่กำลังประหลาดใจสุดขีด“โปรดจำไว้ด้วย ตอนนี้ข้าเป็นนักเรียนของวิทยาลัยแล้ว ข้าไม่ได้เป็นทาส และจะไม่มีวันเป็นอีกเด็ดขาด!”……………………………………………………** ตั้งแต่ตอนนี้ไป ขออนุญาตเปลี่ยนโกรเวอร์เป็น “ท่านอา” ของฟีบี้นะคะ ด้วยความที่ทั้งต้นฉบับจีนและ Eng คำว่า Uncle นี่คือครอบคลุม ลุง/อา/น้าชาย
เลยทีเดียว ก็แหม่ง ๆ ตั้งแต่ตอนแรกแล้วล่ะ แต่เห็นฟีบี้เรียกโกรเวอร์ว่าตาแก่
ก็เลยเลือกแปลว่าลุงละกัน แต่พอเจอข้อมูลในตอนนี้ที่พูดถึงการรับตำแหน่ง บวกกับข้อสันนิษฐานของหานซั่ว
คิดว่าผู้สืบทอดยังไงก็น่าจะเป็นลูกชายคนโต (พ่อของฟีบี้) แล้วโกรเวอร์ที่เป็นน้องก็อิจฉาพี่ชาย
ก็เลยฆ่าทิ้งหวังฮุบตำแหน่งตามระเบียบ น่าจะประมาณนี้เนอะ อิอิ **
(0 votes) 0/10