I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Great Demon King ตอนที่ 84 จ้าวแห่งการหลบซ่อน

| Great Demon King | 826 | 2356 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป
จ….เจ้าทำบ้าอะไรน่ะ ?”
แคนดิซร้องเสียงหลงเพราะความตกใจและรีบยืนขึ้นทันที  ในขณะที่ฟีบี้กำลังถอดเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวนอน  เมื่อเห็นว่าอยู่ดี  ๆ  หานซั่วก็พุ่งเข้ามา  เธอก็สะดุ้งตกใจและรีบดึงเสื้อผ้าขึ้นมาอีกครั้งทันที  ก่อนจะมองหานซั่วด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
โกรเวอร์กับพวกนักฆ่า  ปีศาจเงา ”  กำลังมา  อย่ามัวแต่พูดพล่ามไร้สาระอยู่เลย  มาช่วยกันคิดว่าพวกเราจะทำยังไงกันต่อดีกว่า !”
ใบหน้าน่ากลัวของหานซั่วคำรามเสียงต่ำใส่หญิงสาวทั้งสองคนที่กำลังตกใจ
แคนดิซยังคลางแคลงใจในสิ่งที่หานซั่วพูด  และกำลังจะออกความเห็นและพร้อมจะเถียงกลับเต็มที่  แต่ฟีบี้กลับมีสีหน้าจริงจังและรีบร้องเตือนทันที
ฟังที่เขาพูดเถอะ  แคนดิซ  สัมผัสของไบรอันไม่ผิดแน่ !”
แม้ว่าแคนดิซจะไม่เชื่อหานซั่ว  แต่เธอก็เชื่อฟีบี้  เมื่อได้ยินที่ฟีบี้พูดแล้ว  เธอก็รีบดึงดาบใหญ่ที่หลังของเธอออกมาทันทีและพยักหน้าให้ฟีบี้  ก่อนจะรีบพุ่งตัวออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วราวกับเงาที่ร้อนดั่งไฟ  และรีบร้องเตือนทหารในหน่วยให้เตรียมพร้อม
ส่วนฟีบี้เองก็ไม่เสียเวลาอีกต่อไป  เธอรีบคว้าเสื้อคลุมจากปลายเตียงขึ้นมาสวม  แหวนมิติในมือส่องแสงวาบขึ้น  และได้ดาบยาวที่ส่องประกายสีเงินคมกริบมาอยู่ในมือ
หานซั่วพยักหน้าให้ฟีบี้  และรีบพุ่งตัวออกไปนอกบ้านทันที  พวกของแคนดิซยืนรออยู่ก่อนแล้ว  เธอกำลังออกคำสั่งด้วยเสียงแผ่วเบา
ด้วยพลังจากปีศาจปฐมภูมิทั้ง  ตน  หานซั่วหลับตาลงครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นมา
มี  คนกำลังใกล้เข้ามาจากทางซ้าย  ห่างออกไป  130  เมตร  เป็นนักดาบ 

คน  กับนักเวทย์อีก  คน  นักเวทย์ที่ว่าคือนักเวทย์ธาตุลมระดับสูงที่ชื่อเอลลิซ  ส่วนข้างหน้า 
มีจอมขมังเวทย์คนหนึ่ง  มากับนักดาบอีก 
คน  นักธนู 

คน  ห่างออกไป 
130 
เมตรเหมือนกัน  ส่วนบนหลังคาก็น่าจะมีพวกนักฆ่า  ปีศาจเงา ”  อยู่อีก  และอีกกลุ่มหนึ่งกำลังซุ่มตัวอยู่ในตรอกด้านขวา  ห่างออกประมาณ 
50 
เมตร  ดูเหมือนกำลังวางกับดักอะไรบางอย่าง …”

ราวกับว่ากำลังจ้องมองสถานการณ์ทุกอย่างจากเบื้องบน  หานซั่วจึงสามารถระบุรายละเอียดทุกอย่างของกลุ่มคนที่กำลังใกล้เข้ามาได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ  ทีแรก  แคนดิซก็ไม่อยากเชื่อ  ว่าเขาจะสามารถตรวจจับศัตรูที่ใกล้เข้ามาได้อย่างละเอียดทั้ง  ๆ  ที่อยู่ห่างออกไปถึงขนาดนี้  แต่ฟีบี้รีบขอร้องให้แคนดิซสั่งการทหารตามคำอธิบายของหานซั่วทันทีที่เธอเดินออกมาจากห้อง
ท่านฟีบี้  ข้าหวังว่าท่านจะเตรียมทางหนีเอาไว้เรียบร้อยแล้วนะ  เพราะจากการประเมินของข้า  แม้จะมีจอมดาบที่แข็งแกร่งอย่างท่านอยู่  แต่ก็ยังไม่เทียบเท่ากำลังคนของฝั่งศัตรูอยู่ดี  ถ้าการต่อสู้ของเราถูกบีบให้ล่าถอยไปทางใต้เรื่อย  ๆ  พวกเราคงมัวเสียเวลาอยู่ที่นี่ไม่ได้อีก  แต่ไม่ว่าจะอันตรายขนาดไหนก็ตาม  ห้ามหนีไปทางขวาเด็ดขาด  เพราะเราจะไปเจอทางตันเพราะกับดัก !”
ในที่สุด  หานซั่วก็ลืมตา  และหันไปบอกฟีบี้ด้วยสายตาและน้ำเสียงจริงจัง
ขอบคุณนะ  ไบรอัน  ข้ารู้ว่าต้องทำยังไง  เจ้าเองก็ระวังตัวดี  ๆ  นะ !”
ฟีบี้เชื่อหานซั่วหมดหัวใจเมื่อได้ยินเขาเตือนเธอด้วยสีหน้าแบบนั้น  และรู้ทันทีว่านี่คือการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยอันตราย  เธอพยักหน้าให้เขาอย่างหนักแน่นเพื่อตอบรับว่าเธอเข้าใจเป็นอย่างดี
หานซั่วหายใจเข้าลึก  ๆ  สัมผัสคมมีดพิชิตมารในมือด้วยหัวใจก่อนจะแอบซ่อนมีดสั้นนั้นไว้กับตัวพร้อมด้วยเข็มโลหะที่ซ่อนไว้ในขาทั้งสองข้าง  เขาหยิบหน้าไม้ออกมาถือไว้ในมือซ้าย  และรีบกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ข้าง  ๆ  ทันที  เงาของตัวบ้านทำให้ร่างของเขากลมกลืนไปกับความมืด  ก่อนจะเพ่งสายตาไปทางด้านซ้ายด้วยอาการสงบ  และไม่ขยับตัวเลยแม้แต่นิดเดียว
ในที่สุดก็มากันจนได้สินะ  ทุกคน  กระจายกำลังกันออกไป  ระวังตัวกันให้ดี  ๆ  ด้วยล่ะ !”
ด้วยความสามาถระดับจอมดาบ
 ในที่สุด 
ฟีบี้ก็ได้ยินเสียงฝีเท้า  และรู้สึกตื้นตันยินดีที่เชื่อใจในตัวหานซั่ว  ก่อนจะหันไปมองแคนดิซที่อยู่ข้าง  ๆ
ตอนนั้นเองที่แคนดิซมองหานซั่วที่กำลังซ่อนตัวอยู่ในเงามืดด้วยความตกตะลึง  เพราะไม่คิดว่าหานซั่วจะมีความสามารถที่น่ามหัศจรรย์อย่างแท้จริงได้ถึงเพียงนี้  ไม่เพียงแต่การตรวจจับความเคลื่อนไหวของศัตรูได้ทั้ง  ๆ  ที่อยู่ห่างออกไปเป็นร้อยเมตรราวกับมีดวงตาอีกคู่อยู่บนฟ้า
แคนดิซเองก็เป็นทหารรับจ้างที่มีประสบการณ์ผ่านศึกสงครามมานับร้อยเช่นกัน  หลังจากนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง  เธอก็มองไปที่ฟีบี้  ก่อนที่ทั้งคู่จะกระโดดขึ้นต้นไม้และซ่อนเร้นกายในเงามืดขนาบทั้งสองข้างของหานซั่ว
ไบรอัน  เจ้าช่วยค่อย  ๆ  อธิบายความเคลื่อนไหวของศัตรูให้ข้าฟังอีกทีได้มั้ย  ข้าจะได้ลงไปบอกพวกของข้าที่อยู่ข้างล่าง ?”
แคนดิซอยู่ห่างจากหานซั่วเพียงเมตรเดียว  เธอถามเขาด้วยเสียงแผ่วเบา
แล้วหานซั่วก็ค่อย  ๆ  สรุปทุกอย่างให้เธอฟัง  โดยยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมและสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย  ในขณะที่แคนดิซถืออุปกรณ์เวทมนตร์บางอย่างไว้ในมือ  และใช้มันส่งผ่านคำสั่งไปยังเหล่าทหารรับจ้างที่แอบซ่อนตัวอยู่ในสนามตามจุดต่าง  ๆ
กลุ่มคน  คนจากฝ่ายของโกรเวอร์มาถึงเป็นพวกแรก  โดยมีเอลลิซเป็นผู้นำ  พวกนั้นหยุดอยู่บนหลังคาของบ้านหลังข้าง  ๆ  ในขณะที่หานซั่วและคนอื่น  ๆ  ยังไม่ขยับตัว  จนกระทั่งจอมขมังเวทย์ที่ลอยตัวอยู่มาถึงยังประตูทางเข้าด้านหน้าพร้อมกับเหล่านักฆ่า  ปีศาจเงา ”  ตอนนั้นเองที่พวกเขากลั้นหายใจ  เพ่งสมาธิ 
และเตรียมพร้อมที่จะเคลื่อนไหว
ไม่มีใครเห็นว่าจอมขมังเวทย์ผู้นั้นทำอะไร  ร่างกายของเขาเพียงสวมชุดคลุมสีดำทั้งตัว  ขณะที่พึมพำคาถาบางอย่างด้วยเสียงที่แผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน  แล้วคลื่นพลังมนตราอันทรงพลังบางอย่างก็พุ่งเข้าใส่บ้านของฟีบี้ทันที  จนห้องทุกห้องในบ้านสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงราวกับกำลังเกิดแผ่นดินไหว
ขณะเดียวกัน  นักรบทั้ง 

คนที่อยู่ด้านหลังก็กระจายตัวกันออกไป  นักธนูคนหนึ่งกระโดดขึ้นไปบนหลังคาด้านข้าง  เฝ้าระวังสถานการณ์ด้วยการจับตาดูความเคลื่อนไหวทุกอย่างจากด้านบน  เอลลิซพยักหน้าเชิงให้สัญญาณกับนักรบอีก  คนที่เหลือเมื่อเห็นว่าพื้นดินกำลังสั่นไหวราวกับอสูรขนาดมหึมาใต้พิภพกำลังฟื้นตื่นขึ้นมา  ทั้งสองคนรีบพุ่งตัวออกไปยังสนามทันที
ฟึ่บ    ฟึ่บ   
ฟึ่บ    ฟึ่บ    ฟึ่บ   
!!
แล้วเสียงลูกธนูจำนวน  ดอก  พุ่งตัวแทรกผ่านอากาศดังลั่นขึ้นท่ามกลางความมืดราวกับอสรพิษร้ายที่ซ่อนตัวในหนองน้ำพุ่งตัวขึ้นมาฉกรัดเหยื่อ  ลูกธนูทั้ง 

ดอกพุ่งเข้าใส่นักรบทั้ง  คนที่เข้ามาในสนามทันที  พวกเขาตั้งใจจะลอบเคลื่อนไหวโดยไม่ให้ใครรู้  แต่ก็ไม่ทันคาดคิดว่าจะถูกซุ่มโจมตีอย่างกะทันหันหลังจากแยกตัวออกมาในเวลาที่รวดเร็วถึงเพียงนี้  จึงตระหนกตกใจและรีบเหวี่ยงดาบเพื่อปัดป้องลูกธนูเหล่านั้นทันที
ลูกธนู  ดอกถูกทำลายและแตกออกเป็นเสี่ยง  ๆ  ทันที  ในขณะที่อีก 

ดอกพลาดเป้าเพราะศัตรูหลบทัน  แต่ทว่า 
มีเพียงดอกเดียวที่ฟีบี้เป็นคนยิง  ปักเข้าไปที่น่องของนักรบคนหนึ่งอย่างแม่นยำ  และทันทีที่นักรบ 
คนเข้าไปยังเขตของสนามที่มีการเตรียมพร้อมไว้ก่อนหน้า  ลูกธนูสายฟ้าจำนวน  ดอกก็พุ่งขึ้นในอากาศ  และด้วยแสงจาง 
ๆ  ของสายฟ้าก็ทำให้หานซั่วมองเห็นเส้นโลหะที่บางราวเส้นผมหลายเส้นที่อยู่บนพื้น  และเกี่ยวพันรอบข้อเท้าของพวกนั้นเอาไว้ทันที
เมื่อสายฟ้าจากลูกธนูเคลื่อนตัวเข้าใกล้เส้นโลหะ  ก็ก่อให้เกิดเป็นโครงข่ายโลหะเงินที่มีกระแสไฟฟ้าแรงสูงแล่นโคจรอยู่  แล้ว  ร่างที่ตกลงในกับดักนั้นก็กรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดขึ้นมาในขณะที่นักรบคนหนึ่งที่ไม่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีจากลูกธนูก็รีบขยับตัวทันทีหลังถูกไฟฟ้าช็อต  เขาใช้ดาบตัดเส้นโลหะเหล่านั้นจนขาดสะบั้นและรีบหนีออกไป  ส่วนอีกคนที่มีธนูปักอยู่ในน่องขาก็น้ำลายฟูมปากและเส้นผมไหม้เกรียมกระจุยกระจาย  ก่อนจะร่วงลงไปบนตาข่ายโลหะบนพื้นเบื้องล่าง
แย่ล่ะสิ  พวกเราถูกซุ่มโจมตี !”
เอลลิซกำลังจะเข้าไปในตัวบ้านเหมือนกับคนอื่น  ๆ  แต่อยู่ดี  ๆ  ก็ร้องออกมาทันทีที่เห็นเหตุการณ์ของนักรบ  คนนั้น  เพื่อเตือนนักฆ่า  ปีศาจเงา ”  ที่กำลังจะเข้าโจมตีจากทางด้านหน้า
ทันทีที่ประตูแตกกระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย  นักดาบจำนวน 

คนในชุดสีดำทั้งชุดก็พุ่งเข้าไปในเขตตัวบ้าน  และเริ่มค้นพื้นที่สนามทั้ง  ฝั่งทันที  ในขณะที่จอมขมังเวทย์ก็กำลังลอยตัวอยู่เหนือสนาม  คทาเวทมนตร์ในมือซ้ายถูกคลุมอยู่ใต้แขนเสื้อยาวสีดำของเขา  แต่ละห้องภายในบ้านเริ่มพังทลายลงมาหลังจากแผ่นดินไหวรุนแรงเพราะเวทมนตร์ของเขา
นอกเหนือจากทหารรับจ้างหน่วยเพลิงสงครามที่ซุ่มตัวอยู่ด้านนอก  มี  คนที่ดักรออยู่ในตัวบ้านก็ตายคาที่ทันทีเพราะบ้านที่พังทลายลงมา  ในขณะที่อีก 

คนต้องหนีตายกันออกมาเพราะไม่มีทางเลือก  ทุกคนต่างมีอาวุธครบมือและวิ่งออกมาอยู่ในสนามด้านนอก  หานซั่วรีบสังเกตการณ์และพบว่ากลุ่มนั้นมี  คนที่เป็นนักดาบระดับสูง  นักเวทย์ธาตุสายฟ้าระดับกลาง  คน  และนักธนูอีก 

คนที่เหลือรอดอยู่
(ท่านผู้อ่านที่เคารพ  หากท่านไม่ได้อ่านนิยายแปลไทยเรื่องนี้บนเว็บไซท์    โปรดทราบไว้ด้วยว่าผลงานนั้นถูกขโมยไปจากผู้แปลไทยต้นฉบับ  ซึ่งจะเผยแพร่ลิ้งค์ผ่านแฟนเพจเฟสบุ๊ก  Louktan  Translate 
นิยายแปลไทย  เท่านั้น
จอมขมังเวทย์โบกคทาเวทมนตร์ในมืออีกครั้ง  ก่อนที่คลื่นพลังมนตราจะแผ่ซ่านกระจายออกไปเป็นบริเวณกว้าง  ทันใดนั้นเอง 
มังกรดิน 
ตัวก็พุ่งขึ้นมาจากใต้ดินด้วยความรวดเร็วราวกับกระสุน  และพุ่งโจมตีใส่ทหารรับจ้างหน่วยเพลิงสงครามทั้ง  คนที่เพิ่งหนีเอาชีวิตรอดออกมาทันที  เคราะห์ดีที่ทั้งนักดาบระดับสูงและนักเวทย์ระดับกลางกระโดดหลบไปด้านข้างได้ทันเวลา  ในขณะที่นักธนูชูธนูของตนขึ้นสูง  เพ่งสมาธิเล็งไปที่จอมขมังเวทย์  แต่ยังไม่ทันมีโอกาสได้ปล่อยลูกธนูออกไป  มังกรดินตัวหนึ่งก็โผล่ขึ้นมาจากพื้นใต้เท้าของเขา  และอ้าปากงับเข้าที่กลางอก  ด้วยกรามอันทรงพลังของมังกรดินตัวนั้นก็ทำให้เขาตายในทันที
หานซั่วกำลังควบคุมลมหายใจด้วยอาการสงบ  เขาสัมผัสได้ทันทีว่าทั้งฟีบี้และแคนดิซที่อยู่ข้าง  ๆ  เขากำลังหายใจแรงขึ้นเรื่อย  ๆ  ราวกับว่าเพราะการตายของพวกทหารเหล่านี้  ทำให้ท่าทีสงบที่พวกเธอสองคนเคยควบคุมตนเองมาได้โดยตลอดกลับจางหายไปอย่างสมบูรณ์
หลังจากนั้นเอง  ทั้งฟีบี้และแคนดิซก็ยิงหน้าไม้ออกไปพร้อม  ๆ  กัน  และส่งลูกดอกตรงเข้าใส่จอมขมังเวทย์ธาตุดินที่เรียกมังกรดินออกมาผู้นั้นทันที  แต่แม้ว่าลูกดอกทั้งสองจะทั้งทรงพลังและรุนแรง  ก็สูญเปล่าเมื่ออยู่ดี  ๆ  ก็มีกำแพงดินยกตัวสูงขึ้นมาขวางเอาไว้ด้วยการโบกมือซ้ายเพียงครั้งเดียวของจอมขมังเวทย์  แล้วลูกดอกก็กระแทกเข้าใส่กำแพงดินและร่วงลงไปโดยไม่สามารถทำอันตรายใด  ๆ  แก่ฆาตกรผู้นั้นเลย
ในเงามืดของต้นไม้ใหญ่นั่น !”
เอลลิซซึ่งไม่ปิดบังเสียงของตัวเองอีกต่อไปแล้วร้องขึ้นทันที  ตามมาด้วยเสียงคมมีดวายุที่พุ่งเข้าใส่เป้าหมาย
เมื่อฟีบี้และแคนดิซรับรู้ถึงเสียงแทรกผ่านอากาศของคมมีดวายุ  พวกเธอก็กระโดดออกจากข้างตัวหานซั่วทันที  ฟีบี้พร้อมด้วยดาบยาวที่ส่องประกายแสงสีเงินเด่นสะดุดตาพุ่งเข้าใส่จอมขมังเวทย์ด้วยความเร็วสูงสุดที่ทำได้  ส่วนแคนดิซและดาบใหญ่ของเธอที่อาบไปด้วยไฟกัลป์ที่ลุกโชติช่วงขณะกระโจนขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับภูติอัคคีที่ตื่นขึ้นท่ามกลางความมืด  และพุ่งเข้าใส่เอลลิซทันที
หานซั่วและหน้าไม้ในมือยังคงไม่ขยับเขยื้อน  เขายังคงเร้นกายอยู่ในเงามืดของต้นไม้ใหญ่ต้นนั้นตามเดิม  เขาไม่แม้แต่จะปัดป้องเวทย์คมมีดวายุที่พุ่งเข้ามา  เวทย์คมมีดวายุจำนวนหนึ่งพุ่งมาฟันกิ่งไม้จนขาดไปถึง  กิ่ง  ในขณะที่คมมีดวายุอีก  ใบเฉือนเข้าที่เอวของเขา  อย่างไรก็ตาม 
หานซั่วก็พยายามกัดฟันทน  และไม่เขยื้อนกายเลยแม้เพียงนิดเดียว  แม้แต่จังหวะการหายใจและการเต้นของหัวใจก็ยังคงสม่ำเสมอและมั่นคงจนน่าตกใจ
ฟีบี้และแคนดิซที่พุ่งตัวออกมาจากต้นไม้และเปิดฉากโจมตี  และเพราะจอมขมังเวทย์ผู้นั้นพังทลายบ้านของเธอทั้งหลังทันทีที่เขาปรากฏตัว  ทำให้กับดักมากมายที่หน่วยทหารรับจ้างเพลิงสงครามเคยช่วยกันจัดเตรียมไว้เกิดความเสียหายและใช้การไม่ได้  ฟีบี้ซึ่งรู้ซึ้งถึงความน่าสะพรึงกลัวของจอมขมังเวทย์เป็นอย่างดี  แต่มั่นใจว่าสามารถรับมือได้  เธอจึงพุ่งเป้าหมายไปที่เขาด้วยกำลังทั้งหมดที่มีทันที
เมื่อฟีบี้เริ่มเคลื่อนไหว  นักดาบระดับสูงจำนวน  คนจากองค์กร  ปีศาจเงา ”  ก็พุ่งตัวมารวมกันในตำแหน่งของจอมขมังเวทย์ทันที  เป็นนักสู้ระยะประชิด  คน  และนักเวทย์อีก  คนเพื่อต้านกำลังของฟีบี้  ไกลออกไป 
นักธนูของ 
ปีศาจเงา ”  ที่รวมกลุ่มกับนักดาบอีก  คนพร้อมด้วยเอลลิซ  ก็เริ่มเปิดฉากปะทะเข้ากับกองกำลังของหน่วยทหารรับจ้างเพลิงสงคราม
ดาบใหญ่ของแคนดิซกวัดแกว่งไปมา  ราวกับลิ้นขนาดใหญ่ที่ลุกเป็นไฟ  มันฟาดฟันไปทั่วทุกทิศทางที่เธอเคลื่อนไหว  และในที่สุด 
ดาบใหญ่ที่ส่องประกายแสงสว่างจ้าท่ามกลางความมืดของรัตติกาลก็โจมตีเข้าใส่เอลลิซนักเวทย์ธาตุลมจนต้องถอยหลังไปอย่างต่อเนื่อง
ท่วงท่าของเอลลิซนั่นรวดเร็วว่องไวเพราะพลังเวทย์สายลมสนับสนุน  เขาจึงถอยหลังไปด้วยความคล่องแคล่ว  ในขณะที่ร่ายเวทย์คมมีดวาตภัยถาโถมโจมตีเข้าใส่แคนดิซไม่ยั้ง  ตอนนั้นเองที่นักดาบ  คนพุ่งเข้ามาขนาบข้างเอลลิซเพื่อเสริมกำลังให้เขาสู้กับแคนดิซ  จนเธอที่เคยเป็นฝ่ายได้เปรียบก็เริ่มรู้สึกกดดันขึ้นมาทันที
ขณะเดียวกัน  ไม่ว่าจะเป็นฝั่งของฟีบี้  หรือแม้แต่ฝั่งของเอลลิซและเหล่านักฆ่า  ปีศาจเงา ”  ก็ได้เผยตัวออกมาจนครบทุกคนแล้วในสนามที่เต็มไปด้วยการต่อสู้สับสนวุ่นวาย  หานซั่วเพียงคนเดียวที่ยังซ่อนตัวอยู่ในความมืดแม้จะถูกเวทย์คมมีดวายุโจมตีเข้าไปถึง  ครั้ง  เพื่อเฝ้ารอโอกาสที่เหมาะเจาะที่สุดก่อนจะเปิดฉากโจมตี
ทั้งฟีบี้และแคนดิซกำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ  ความคาดหวังเล็กน้อยก็เริ่มผุดขึ้นในใจที่เริ่มจะสิ้นหวังของพวกเธอเมื่อหานซั่วยังไม่ยอมปรากฏตัวออกมาเสียที  แต่เพราะหญิงสาวทั้ง  คนฉลาดพอ  จึงคาดเดาไว้เรียบร้อยแล้วว่าหานซั่วจะต้องวางแผนการอะไรบางอย่างเอาไว้ขณะที่กำลังบาดเจ็บอยู่แน่  เธอทั้งคู่ต่อสู้ราวกับรู้ใจกันโดยไม่ต้องพูดอะไร  และล่อลวงศัตรูให้เข้ามาที่ต้นไม้ใหญ่นั่นทันที
ไม่นานนัก  ทั้งฟีบี้และแคนดิซที่ถูกต้อนเข้ามาจนมุมใต้ต้นไม้ใหญ่ที่หานซั่วซ่อนตัวอยู่  และถูกล้อมไปด้วยจอมขมังเวทย์  เอลลิซ 
และเหล่านักฆ่าคนอื่น  ๆ
คุณหนูฟีบี้ที่น่ารัก  หลังจากประมือมาด้วยกันหลายครั้ง  ข้าชื่นชมในความแข็งแกร่งของท่านมาก  แต่คราวนี้ท่านคงไม่มีโอกาสรอดแล้วล่ะ  ข้าขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งเลยจริง  ๆ !”
เอลลิซทำทีเป็นหัวเราะอย่างสุภาพ  ทันทีที่เขาพูดจบ  ก็ตามมาด้วยเสียงฟ้าร้องครืนครั่น  และก่อร่างเป็นพายุที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรงเบื้องหน้าเขา  ทั้งกิ่งไม้ที่ถูกฟันหักลงมาในทีแรกและก้อนหินที่อยู่รอบ  ๆ  บริเวณนั้นล้วนถูกกลืนเข้าไปใจกลางพายุที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ฟีบี้และแคนดิซมากขึ้นเรื่อย  ๆ
แต่จอมขมังเวทย์กลับไม่พูดอะไรขณะวาดมือซ้ายออกไป  และกำแพงดินก็ยกตัวสูงขึ้นมาล้อมรอบฟีบี้และแคนดิซเอาไว้ทั้ง  ทิศราวกับกรงขัง
ทันใดนั้น  ดาบยาวในมือของฟีบี้ก็สว่างวาบไปด้วยแสงสีขาวบริสุทธิ์ของออร่าต่อสู้ของเธอ  ก่อนจะก่อร่างเป็นแสงรูปไม้กางเขนและระเบิดกำแพงด้านหนึ่งจนพังทลาย  ฟีบี้และแคนดิซรีบกระโดดออกไปจากกำแพงดินที่ล้อมไว้ทันที  ในขณะที่เอลลิซซึ่งมีรอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏบนใบหน้า  ก็รีบรวบรวมสมาธิสั่งการให้เวทย์วายุของเขาค่อย  ๆ  เคลื่อนตัวไปดูดกลืนเธอทั้งคู่ทันที
ในตอนนั้นเอง  ลูกดอกหน้าไม้ดอกหนึ่งก็พุ่งตัวแทรกผ่านอากาศและตรงเข้าใส่จอมขมังเวทย์ธาตุดินในชุดคลุมสีดำผู้นั้นทันที  จอมขมังเวทย์เบี่ยงตัวหลบไปทางด้านข้าง  และนักดาบคนหนึ่งที่อยู่ใกล้  ๆ  ก็ฟันลูกดอกนั้นจนแตกกระตาย  ตามมาด้วยเวทย์คมหอกกระดูกที่อยู่ดี  ๆ  ก็ก่อร่างขึ้นกลางอากาศ  และพุ่งเข้าใส่จอมขมังเวทย์ด้วยเสียงแทรกผ่านอากาศดังลั่น 
จอมขมังเวทย์รู้สึกรำคาญเพียงเล็กน้อย  ก่อนจะค่อย 
ๆ  วาดมือซ้ายเพื่อปลดปล่อยเวทมนตร์ธาตุดินอีกครั้ง  ตอนนั้นเอง 
ที่ดินจากพื้นเบื้องล่างลอยตัวขึ้นมา 
ก่อนจะพุ่งเข้าใส่จนคมหอกกระดูกหักออกเป็นสองท่อน
จอมขมังเวทย์ถอนหายใจด้วยความโล่งใจ  ก่อนจะเริ่มมองหาศัตรูที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด  ในขณะที่จู่ 
ๆ  ก็มีเสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนดังลั่นขึ้นมา  แล้วเอลลิซที่อยู่ห่างออกไปไม่มากนัก  ก็เอามือกุมหน้าอกเอาไว้และมองไปที่ต้นไม้ใหญ่ด้วยสีหน้าที่กำลังตกใจกลัวสุดขีด  แล้วอาวุธชิ้นหนึ่งก็ทะลุออกมาจากหน้าอกของเขาพร้อมด้วยเสียงของชิ้นเนื้อที่ถูกกรีดด้วยของมีคม
ส่วบ  !!
เลือดสาดกระเซ็นออกมาทั่วทุกทิศทางจากหน้าอกของเอลลิซขณะที่เขาเงยหน้าแหงนมองท้องฟ้า  ก่อนที่เข่าของเขาจะทรุดร่างลงนั่งอย่างไร้ชีวิต  และหงายหลังล้มตึงนอนแน่นิ่งไปบนพื้น
………………………………………
(0 votes) 0/10
ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments