ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
เช้าวันต่อมา หานซั่วก็ได้ยินคนพูดคุยกันเรื่องกางเกงในที่ถูกขโมยดังมาจากนอกหน้าต่างห้องก่อนที่เขาจะทันลุกจากเตียงเสียอีก ด้วยความปรารถนาดี คน ๆ นี้ช่างทำให้ประเด็นข่าวนี้แพร่กระจายไปทั่วทุกมุมของสาขาศาสตร์แห่งความตายในเวลาอันรวดเร็ว
จีนและแฟนนี่เองก็เหนื่อยกับการทำงานหนักในช่วงเช้าและกังวลกับปัญหานี้เช่นกัน พวกนักเรียนมารวมตัวกันที่สนามฝึกซ้อมอย่างรวดเร็ว ความโกรธเกรี้ยวและหวาดกลัวปรากฏบนใบหน้าของนักเรียนหญิงทุกคน ในขณะที่พวกนักเรียนชายต่างประหลาดใจ บางคนกลับดูเหมือนดีอกดีใจในความโชคร้ายของคนอื่น
หานซั่วเองก็ไปรวมตัวในสนามฝึกซ้อมเช่นกัน เขาได้ยินเสียงพูดคุยดังระงมของคนอื่น ๆ ในขณะที่สายตาจับจ้องไปยังฟิทช์ที่มีทีท่าภายนอกปกติ แต่ลูกตากลอกไปมาเพราะคอยเหลือบมามองหานซั่วเป็นระยะ
“เหตุการณ์ครั้งนี้นับว่าเป็นเรื่องที่ชั่วร้ายมาก แม้ว่าเรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในสาขาศาสตร์แห่งความตายของเรามาก่อน แต่ไม่ว่ายังไง ก็ต้องสืบสวนหาข้อเท็จจริงให้ถึงที่สุด”
จีนพูดอย่างบันดาลโทสะ
“ลิซ่า พวกนักเรียนหญิงอย่างพวกเจ้านี่ไม่ระวังตัวกันเลยจริง ๆ ปล่อยให้เจ้าหัวขโมยลอบเข้ามาได้ง่ายขนาดนั้นได้ยังไง?”
แฟนนี่นิ่วหน้าพลางพูดกับลิซ่า
“ก็ที่นี่เป็นถึงวิทยาลัยเวทมนตร์และศาสตร์แห่งพลังบาบิโลนนี่คะ พวกเราไม่คิดว่าจะมีหัวขโมยหน้าโง่ที่ไหนกล้าทำถึงขนาดนี้ด้วยซ้ำ อีกอย่าง เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในสาขาของเรามาตั้งนานมากแล้ว พวกเราก็ไม่คิดว่าเสื้อผ้าที่ใช้แล้วแบบนั้นจะไปมีค่าอะไร และไม่รู้ด้วยว่าจะมีหัวขโมยหื่นกามโผล่มาแบบนี้!”
ลิซ่าตอบด้วยสีหน้าเจ็บปวด
ทั้งเอมี อาธีน่า เบลล่า และเด็กผู้หญิงคนอื่น ๆ ต่างมีสีหน้าเดือดดาลไม่แพ้กัน ขณะที่พูดคุยและบ่นแสดงความไม่พอใจต่อไปอย่างไม่รู้จบ พร้อมประกาศด้วยเสียงอันดังว่าหากจับหัวขโมยนั่นได้เมื่อไหร่ พวกเขาจะจัดการลงโทษให้สาสม
“เรื่องที่เกิดขึ้นในสาขาศาสตร์แห่งความตายของเราครั้งนี้ส่งผลกระทบในด้านลบเป็นอย่างมาก ฝ่ายบริหารวิทยาลัยจะจัดการสืบสวนทุกอย่างเอง สงสัยจริงว่าใครกันนะ ที่ทั้งไร้ยางอายและโง่พอที่จะทำเรื่องน่าโมโหแบบนี้ได้”
แฟนนี่โกรธจัด และยิ่งทวีความกราดเกรี้ยวมากขึ้นทุกครั้งเวลาพูด
การพูดคุยถกเถียงยังคงดำเนินต่อไปภายในสนามฝึกซ้อมนั้นอย่างไม่รู้จบ โดยเฉพาะคนที่ถูกขโมยกางเกงในไปก็ยิ่งเดือดดาลและดูไม่มีทีท่าว่าจะสงบสติอารมณ์ง่าย ๆ ในขณะที่หานซั่วยังคงเฝ้าสังเกตการณ์ทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายด้วยอาการสงบ และเฝ้ารอเรื่องบานปลายที่อาจจะเกิดขึ้นในขั้นถัดไป
“เจ้าคิดว่าใครเป็นคนทำน่ะ?”
ไม่นานนัก ลิซ่าก็พุ่งเข้ามาหาหานซั่วเพื่อถามเขา
หานซั่วยักไหล่พร้อมกับยิ้ม
“ข้าจะไปรู้ได้ยังไง? แต่คนที่ทำเรื่องนี้ต้องคุ้นเคยกับพื้นที่ในสาขาของเรามากพอสมควรล่ะ ถ้าไม่อย่างนั้นคงทำไม่สำเร็จง่ายดายขนาดนี้หรอก จริงมั้ย? ถึงพวกผู้หญิงจะอ่อนแอแค่ไหน แต่ข้าว่าพวกเจ้าคงต้องสังเกตสิ่งผิดปกได้บ้างแหละ ถ้ามีคนธรรมดาบางคนที่ไม่คุ้นเคยกับสถานที่พยายามมาทำอะไรแบบนั้น แต่นี่พวกเจ้ากลับไม่รู้ตัวกันเลยสักคน ข้าก็ชมวิธีการของเจ้าหมอนี่อยู่นะ เก่งไม่ใช่เล่นเลยล่ะ”
“เจ้ามีหน้ามาล้อเล่นใบเวลาแบบนี้ได้ยังไง? บ…บราของข้าก็ถูกขโมยไปเหมือนกันนะ! เจ้าหัวขโมยนี่ไร้ยางอายเกินไปแล้ว คอยดูนะ ถ้าข้ารู้ว่าใครเป็นคนทำล่ะก็ ข้าไม่ปล่อยมันไปง่าย ๆ แน่!”
ลิซ่ากำหมัดแน่นขณะพูดพลางกัดฟันกรอด
“ก็จับให้ได้ก่อนละกัน”
หานซั่วตอบลิซ่าไปอย่างไม่ใยดี ในขณะที่สายตาเหลือบมองไปทางฟิทช์
ในขณะที่สนามฝึกซ้อมเต็มไปด้วยความโกลาหล นักดาบวัยกลางคนผู้หนึ่งก็เดินเข้ามา ชื่อของเขาคือ วีด้า เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบปัญหาจิปาถะทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในวิทยาลัย หานซั่วเคยเห็นเขามาก่อน ว่ากันว่า เขาขึ้นชื่อเรื่องพละกำลังที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เมื่อใดก็ตามที่มีเรื่องต่อยตีต่อสู้กันระหว่างพวกนักเรียน หรือเรื่องราวแปลก ๆ บางอย่างเกิดขึ้น เขาจะเป็นผู้ที่โผล่ไปจัดการกับเรื่องเหล่านั้นเสมอ
“ข้าได้ข้อสรุปของเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว เมื่อครู่ ข้าเพิ่งไปสำรวจหอพักนักเรียนหญิงมา หึ… และพอจะเดาได้แล้วด้วยว่าใครเป็นคนทำ”
สายตาของวีด้ากวาดมองมาทางที่ ๆ หานซั่วและคนอื่น ๆ ยืนรวมตัวกันอยู่ทันทีที่เขามาถึง พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ท่านลุงวีด้า ใครเป็นคนทำเหรอคะ? รีบบอกพวกเราเถอะค่ะ!”
เอมีเข้าไปยืนข้างวีด้าและถามอย่างสงสัยใคร่รู้
ท่าทีของวีด้าแข็งทื่อไร้ความรู้สึกขณะมองไปที่หานซั่ว
“คนที่ทำเรื่องนี้ย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ ข้าหวังว่าเขาจะยอมรับความผิด สมัครใจที่จะก้าวออกมาสารภาพผิดด้วยตัวเอง โดยที่ข้าสัญญาว่าจะไม่ส่งเขาให้กระบวนการพิจารณาคดีของจักรวรรดิ แต่ถ้ายังรั้นและปฏิเสธไม่ยอมรับความผิดในสิ่งที่ตัวเองก่อ ข้าจะไม่ปรานีกับเขาแน่”
“ท่านวีด้า พูดแบบนั้นหมายความว่ายังไงกันคะ? ท่านเองก็ตะคอกใส่นักเรียนของเราจนหวาดกลัวขวัญหนีดีฝ่อกันไปหมด ท่านคิดว่าหนึ่งในพวกเขาเป็นคนทำเรื่องแบบนี้ ไม่แปลกเกินไปหน่อยเหรอคะ?”
แฟนนี่พูดอย่างไม่พอใจ เมื่อเห็นว่าวีด้ากวาดตามองมาทางพวกนักเรียนชายด้วยสีหน้าโหดเหี้ยมเย็นชา
“ไม่แปลกหรอก อาจารย์แฟนนี่ ไม่ว่ายังไง ก็ต้องเป็นหนึ่งในนักเรียนที่รักของท่านแน่นอน ตอนที่ข้าสำรวจหอพักนักเรียนหญิง ข้าพบรอยเท้าจาง ๆ ที่ลอบเข้าไปผ่านหน้าต่างหอพักนักเรียนหญิง ก่อนจะหลบเลี่ยงต้นไม้และพุ่มไม้ต่าง ๆ และกลับเข้าไปในหอพักนักเรียนชาย หึหึหึ ข้าเคยจัดการกรณีแบบนี้มานักต่อนัก อย่าคิดปิดบังความจริงอะไรจากข้าเลย ข้าคิดว่าอาจารย์แฟนนี่เองก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจดีนะว่าข้อสงสัยของปัญหานี้มันพุ่งไปที่ไหน?”
วีด้าคิดว่าตัวเองฉลาดพอแล้ว จึงหัวเราะเบา ๆ และตัดสินเรื่องที่เกิดขึ้น
ดูเหมือนฟิทช์จะใส่ใจรายละเอียดมากทีเดียว ถึงกับตั้งใจทิ้งรอยเท้าไว้ให้วีด้าเป็นเบาะแส อย่างไรก็ตาม วีด้าเองก็ไม่ได้ดูฉลาดมากมายอะไรขนาดนั้น ทำให้หานซั่วค่อนข้างผิดหวังและบั่นทอนความคิดเห็นที่เคยมีต่อความสามารถของบุคคลผู้นี้ลงไปมากพอควร
เมื่อวีด้าพูดจบ เหล่านักเรียนชายต่างส่งเสียงฮือขึ้นมาในทันที ทุกคนต่างร้องปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้เป็นคนทำเรื่องขี้ขลาดแบบนั้น ในขณะที่กลุ่มนักเรียนหญิงที่อยู่กับเบลล่าต่างหันหน้ามองไปทางพวกนักเรียนชายอย่างโกรธเคืองและไม่เป็นมิตร ในฐานะที่ทุกคนคือผู้ต้องสงสัย
“ลิซ่า เจ้าอย่ามองข้าแบบนั้นเลย ข้ารู้สึกไม่ดีนะ”
ลิซ่าเองก็มองหน้าหานซั่วด้วยสายตาแปลก ๆ แม้หานซั่วจะไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ก็อดรู้สึกขนหัวลุกไม่ได้เมื่อเธอจ้องมองเขาราวกับว่าเป็นปีศาจบ้ากามไร้ยางอายแบบนั้น
“ฮะ ๆ ๆ ข้าแค่แกล้งเจ้าเล่นหรอก ข้าเชื่ออยู่แล้วล่ะว่าเจ้าไม่มีทางทำอะไรแบบนั้น”
ลิซ่ายิ้มหวานให้หานซั่วเมื่อเห็นว่าเขาทำสีหน้าไม่สบายใจจริง ๆ
ในตอนนั้น วีด้าเริ่มหมดความอดทน จึงพูดขึ้นพร้อมสีหน้าเย็นชา
“ข้าว่าตอนนี้ก็ถึงเวลาที่หนึ่งในพวกเจ้าจะสมัครใจยอมรับความผิดด้วยตัวเองได้แล้วนะ พวกเราจะได้จัดการปัญหานี้กันเองภายในวิทยาลัย เพราะถ้าเจ้าคิดจะลอยนวลต่อไปเพียงเพราะหวังว่าโชคจะเข้าข้างโดยไม่คิดสำนึกผิดหรือคิดแก้ไขในการกระทำของตัวเองแล้วล่ะก็ จะมาหาว่าข้าใจร้ายไม่ได้นะ”
ในฐานะหัวขโมยตัวจริง ฟิทช์คิดว่าตัวเองปลอดภัยเพราะยัดของกลางไว้ในห้องของหานซั่วเรียบร้อยแล้ว เขาจึงมีทีท่าพออกพอใจและเฝ้ารอการสืบสวนของวีด้าอย่างใจจดใจจ่อ ส่วนนักเรียนคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ก็มีท่าทีปกติและไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใด สีหน้าของพวกเขาทั้งจริงจังและจริงใจกว่าใคร ในที่สุด ฟิทช์ก็พูดขึ้นมาอย่างภาคภูมิ
“เรื่องนี้ต้องสืบสวนให้ถึงที่สุด จะผ่อนผันไม่ได้เด็ดขาด”
บาคและคนอื่น ๆ ต่างส่งเสียงพึมพำในเชิงเห็นด้วย พร้อมแสดงความเห็นว่าเจ้าหัวขโมยจะต้องได้รับการลงโทษอย่างหนัก ราวกับว่ายิ่งพวกเขายืนยันหนักแน่นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองได้มากขึ้นเท่านั้น
“ไบรอัน ทำไมเจ้าถึงไม่พูดอะเลยล่ะ?”
เอมี่อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย เมื่อเห็นว่าหานซั่วได้แต่ยื่นนิ่งพร้อมรอยยิ้มเจื่อน ๆ บนในหน้าและไม่พูดอะไรออกมาเลย ต่างจากนักเรียนชายคนอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง
“เพราะเขากำลังรู้สึกผิดอยู่รึเปล่า? หึหึหึ แปลกดีนะ ตอนที่เขายังไม่ได้เข้ามาเป็นนักเรียนสาขาของเราก็ไม่เคยเห็นมีเรื่องแบบนี้เลยสักครั้ง แต่อยู่ดี ๆ ดันเกิดขึ้นพอดิบพอดีกับตอนที่เขาเข้าพักในหอนอนเป็นครั้งแรกเมื่อคืนนี้นี่เอง บังเอิญจังเลยนะ!”
เบลล่าเคยมีเรื่องแค้นเคืองใจกับหานซั่วมาก่อน ราวกับว่าข้อสงสัยนี้ทำให้เธอรู้สึกถึงอำนาจบางอย่าง จึงรีบพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนทันที
คำพูดของเบลล่าฟังดูเหมือนจะมีเหตุผล ทำให้นักเรียนทุกคนต่างหันมามองหานซั่วเป็นตาเดียว ทุกคนมองด้วยสายตาสงสัย และบางคนถึงกับมีความเหยียดหยันปรากฏชัดเจนบนใบหน้าเพราะคิดว่าหานซั่วเป็นคนที่ทั้งหื่นกามและน่ารังเกียจ
“จะมากล่าวหาข้าเฉย ๆ คงไม่มีประโยชน์อะไรหรอก ข้าคิดว่าท่านวีด้าจะสามารถสืบสวนจนพบหัวขโมยตัวจริงได้สำเร็จเองนั่นแหละ ข้ารอดูผลสรุปของเขาดีกว่า”
หานซั่วยักไหล่และพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครก้าวออกมารับผิด วีด้าก็พ่นลมอย่างดูถูก
“ได้ ในเมื่อเป็นอย่างนี้ อย่ามาโทษข้าถ้าข้างัดมาตรการขั้นเด็ดขาดออกมาใช้ก็แล้วกัน นี่ก็เพิ่งผ่านไปได้ไม่นาน ข้าคิดว่าหัวขโมยจะต้องซ่อนของเอาไว้ในห้องของตัวเองแน่ อาจารย์แฟนนี่ อาจารย์จีน เราค้นตัวพวกเขากันก่อนเถอะ เสร็จเมื่อไหร่ ค่อยไปค้นที่ห้องพักทุกห้อง พวกเขาคงไม่มีเวลาเอาหลักฐานไปฝังเพื่อหนีความผิดแน่”
แล้วนักเรียนชายก็ถอดเสื้อผ้าออกตามที่วีด้าร้องขอ เหลือเพียงกางเกงขาสั้นไว้เท่านั้น ในขณะที่วีด้าและจีนเป็นคนรื้อค้นเสื้อผ้าของพวกเขา
เมื่อหานซั่วถอดเสื้อผ้าออกบ้าง วีด้าทำท่าประหลาดใจและถามออกไปทันทีที่เห็นร่างกายของหานซั่ว
“นี่เจ้าเป็นนักเวทย์จริง ๆ รึ?”
ทุกคนต่างอดไม่ได้ที่จะหันมาทางหานซั่วทันทีที่วีด้าพูดจบ และสิ่งที่ปรากฏแก่สายตาพวกเขาคือร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อล่ำสันของหานซั่ว เป็นร่างกายที่เปี่ยมไปด้วยพละกำลังสมความเป็นชาย อีกทั้งยังดูแข็งแรงและสมบูรณ์แบบยิ่งกว่านักรบทั่วไป ทำให้เกิดการเปรียบเทียบที่ต่างกันอย่างสุดโต่งกับนักเรียนชายคนอื่น ๆ ที่ทั้งเตี้ย ผอมแห้งแรงน้อย หรือไม่ก็อ้วนไปเลย
“เจ้ามีกล้ามขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? จำได้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าทั้งตัวเล็กแล้วก็ผอมกะหร่องมากกว่านี้ตั้งเยอะนี่นา?”
ลิซ่าตาเป็นประกายขณะจ้องมองร่างกายเปลือยท่อนบนของหานซั่ว พลางถอนหายใจด้วยความชื่นชมสุดหัวใจ
แม้แต่เด็กนักเรียนหญิงคนอื่น ๆ ก็ประหลาดใจอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อได้เห็นร่างกายหนุ่มแน่นน่าหลงใหลของหานซั่ว เมื่อเทียบกับร่างกายที่เต็มไปด้วยไขมันและกระดูกของนักเรียนชายคนอื่น ๆ ทำให้รู้สึกว่าร่างกายผิดธรรมดาของหานซั่วช่างสมบูรณ์แบบอย่างที่สุด เอมี่หน้าแดงระเรื่อพลางกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างกับอาธีน่า ทำให้อาธีน่าหน้าแดงตามไปด้วยขณะจ้องมองหานซั่วด้วยสายตาแปลก ๆ
ส่วนแฟนนี่เองก็หน้าแดงเช่นกัน และดูเหมือนจะไม่กล้าจ้องมองร่างของหานซั่วตรง ๆ เธอเป็นคนแรกที่หันหน้าหนี แต่ก็แอบกลับมาเหลือบมองร่างของหานซั่วตอนที่ไม่มีใครสนใจมองอยู่เป็นระยะ
“ก่อนหน้านี้ข้าขาดสารอาหารน่ะ ร่างกายก็เลยไม่ค่อยเจริญเติบโตเท่าไหร่ แต่ตอนนี้พัฒนาขึ้นแล้ว เพราะเลือกทานอาหารดีขึ้น”
หานซั่วมองหน้าอกลิซ่าด้วยสายตามีเลศนัยและพูดแฝงความหมายบางอย่าง
“อีตาบ้า!”
ลิซ่าตกใจและเขินอายทันทีที่เห็นหานซั่วจ้องมองหน้าอกของเธอ
หลังจากที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น และวีด้าตรวจค้นเสื้อผ้าของทุกคนเสร็จแล้ว เขาก็เอ่ยปากพูดทันทีหลังจากไม่พบสิ่งแปลกปลอมใด ๆ
“แสดงว่าของถูกซ่อนไว้ในห้องพักแน่ ๆ ไปค้นกันต่อที่นั่นเถอะ”
“จำได้ว่าไบรอันมีแหวนมิติด้วยนี่นา”
เบลล่าโพล่งขึ้นมาทันทีในขณะที่ทุกคนกำลังจะออกไป
วีด้าชะงักฝีเท้าทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่เบลล่าพูด เขาหันไปมองแหวนมิติของหานซั่วและอุทานออกมาทันที
“นั่นคือแหวนมิติเองสินะ เกือบพลาดไปแล้วเชียว แต่แหวนมิติไม่ใช่ของที่ตรวจสอบได้ง่าย ๆ เอาอย่างนี้เป็นไง เจ้าเอาแหวนมิติมาให้ข้า และข้าจะเอาไปให้อาจารย์ใหญ่ช่วยตรวจสอบให้เอง ในฐานะที่เป็นจ้าวแห่งเวทมนตร์ห้วงมิติ ท่านต้องมีวิธีตรวจสอบแหวนมิติของเจ้าได้แน่ หวังว่าเจ้าจะให้ความร่วมมือต่อหน้าที่ของข้านะ”
หานซั่วหันไปมองเบลล่าด้วยสายตาเย็นชาทันที พลางพูดกับเธอโดยตรง
“ยัยผู้หญิงอัปลักษณ์ เจ้านี่คบไม่ได้เลยจริง ๆ”
เบลล่ามีท่าทีกราดเกรี้ยวขึ้นมาทันที แต่เมื่อเห็นสายตาอำมหิตของหานซั่ว ก็นึกภาพความบ้าคลั่งในป่าทมิฬของเขาขึ้นมาได้อย่างแม่นยำ เธอก้าวถอยหลังไปด้วยความสะพรึงกลัวและทำท่าจะอ้าปากพูด แต่กลับไม่มีคำพูดใด ๆ เล็ดลอดออกมา
ในตอนนั้น หัวใจของหานซั่วหล่นวูบลงทันที เพราะมีของที่ละเอียดอ่อนมากมายอยู่ในแหวนมิติวงนี้ และหากอาจารย์ใหญ่พบเข้าล่ะก็ อาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาก็เป็นได้
“เป็นอะไรไปล่ะ? มีของบางอย่างในแหวนวงนั้นที่ไม่ควรเอาออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะรึไง?”
วีด้าถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นหานซั่วลังเลที่จะให้ความร่วมมือ
“ข้าเชื่อว่าเขาไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอกค่ะ และข้าคิดว่าพวกเราควรค้นห้องพักกันให้เสร็จก่อน ถ้าไม่พบอะไร ก็ค่อยมาว่ากันเรื่องแหวนมิติวงนั้นดีกว่า”
แฟนนี่คิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดแย้งขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นว่าหานซั่วเริ่มมีท่าทีต่อต้าน
วีด้าหันไปมองแฟนนี่ด้วยความประหลาดใจ และพยักหน้ารับทื่อ ๆ
“งั้นระหว่างนี้เจ้าก็คอยเฝ้าดูเด็กนี่ไปก่อนก็แล้วกัน อย่าให้คลาดสายตาหรือปล่อยให้เล่นพิเรนทร์อะไรล่ะ ถ้ามีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น เจ้าต้องเป็นคนรับผิดชอบ”
“ไปกันเถอะครับ ไปค้นห้องพักกัน”
จีนพยายามผ่อนคลายสถานการณ์พร้อมแนะนำให้วีด้ารีบตรงไปยังหอพักนักเรียนชายแทน
เมื่อนักเรียนทุกคนต่างอยู่ในสายตาระแวดระวังของแฟนนี่ จีนและวีด้าก็ตรงไปยังหอพักนักเรียนชายพร้อมด้วยเสียงรื้อค้นข้าวของกระจุยกระจายตามมา ฟิทช์มองหานซั่วและแฟนนี่ยืนเคียงข้างกันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสุขและความชั่วร้าย เขาแทบเฝ้ารอไม่ไหวถึงการลงโทษที่หานซั่วกำลังจะได้รับ ในขณะที่ตัวเองก็รู้สึกสุขใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ขอบคุณครับ อาจารย์แฟนนี่”
หานซั่วขอบคุณเธออย่างจริงใจ ขณะมองแฟนนี่ที่ยืนอยู่เคียงข้างเขา
แฟนนี่กลอกตามองหานซั่ว ขณะกระซิบคุยกับเขาด้วยเสียงหวาน ๆ ของเธอ
“มีของพิลึกพิลั่นอะไรในแหวนมิติของเจ้าใช่มั้ยล่ะ? แต่ต่อให้อาจารย์ใหญ่เห็นมันเข้า ท่านก็ไม่ยึดของจากเจ้าหรอก ทำไมเจ้าถึงต้องกลัวด้วยล่ะ?
“ข้าเก็บพวกอาวุธกับยาที่ได้มาจากเมืองดรอลครั้งที่แล้วเอาไว้ครับ ถ้าอาจารย์ใหญ่ค้นแหวนมิติก็ต้องเจอพวกถุงของที่พวกออร์คขโมยมานี่เข้าแน่ ๆ แล้วของพวกนั้นข้าก็เอาไปขายเพื่อจะได้มาแบ่งเงินเหรียญทองให้กับทุก ๆ คนในสาขาของเรา ถ้าอาจารย์ใหญ่รู้เข้าก็ต้องยึดทุกอย่างไปหมด ท่านคิดว่าสมองของเบลล่ายังปกติดีอยู่รึเปล่า?”
หานซั่วพูด
แฟนนี่รู้สึกเหมือนคนโง่ขึ้นมาทันทีหลังจากที่ได้ยินหานซั่วพูด คิ้วของเธอขมวดเป็นปมขณะคิดใคร่ครวญเรื่องนี้ด้วยสีหน้าวิตกกังวล
ทันใดนั้นเอง จีนและวีด้าก็เดินออกมาจากหอพักและตรงไปหาฟิทช์ที่กำลังแสยะยิ้มอย่างอวดดี ก่อนที่วีด้าจะถามอย่างเย็นชา
“เจ้าคิดว่าถ้าแขวนไว้บนตะของ่อย ๆ ใต้เตียงของเจ้าแล้วข้าจะหาไม่เจอรึ?”
แล้วทุกคนก็หันไปมองสีหน้าภาคภูมิใจของฟิทช์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยันและขยะแขยงทันที ในขณะที่ฟิทช์ได้แต่นิ่งอึ้งไปและทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะจมไปด้วยคำสาปแช่งอันกราดเกรี้ยวของเหล่านักเรียนหญิงทุกคน
ติดตามอัพเดทและอ่านตอนต่อไปทันที ที่นี่ >>> Facebook :
(0 votes) 0/10