I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Great Demon King ตอนที่ 96 สามผู้ยิ่งใหญ่แห่งองครักษ์ชุดดำ

| Great Demon King | 812 | 2355 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

 

 

หลังจากเดินไปตามทางในคฤหาสน์ได้ระยะหนึ่ง  หานซั่วก็รู้จักเด็กหนุ่มผอมเก้งก้างคนนี้ในชื่อ  เชสเตอร์  ซึ่งมีอาชีพเป็นโจร  และได้เรียนรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันขององครักษ์ชุดดำจากเขา

องค์กร  “องครักษ์ชุดดำ”  ถูกแบ่งเป็น  3  กลุ่ม  ได้แก่  ดาราทมิฬ  จันทราทมิฬ  และสุริยันทมิฬ  ตามปริมาณผลงานที่ทำเพื่อองค์กร  ดวงดาราที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วผืนแผ่นท้องฟ้ายามราตรี  เปรียบเสมือนกับสมาชิกของกลุ่มดาราทมิฬที่มีอยู่ทั่วไปทุกซอกมุมของจักรวรรดิ  ส่วนกลุ่มจันทราทมิฬจะเหนือขึ้นมาอีกขั้น  แต่คนกลุ่มนี้จะไม่สามารถพบเห็นได้ภายใต้แสงสว่างในเวลากลางวัน  ต้องใช้ชีวิตอยู่ในเงามืดเพียงเท่านั้น  ในขณะที่สมาชิกของกลุ่มสุริยันทมิฬ  สามารถส่องแสงสว่างสดใสราวกับดวงตะวันในการปรากฏตัวต่อสาธารณชนได้อย่างสง่าผ่าเผย

และใน  3  กลุ่มทั้งดารา  จันทรา  และสุริยันนั้น  ยังแบ่งออกไป  5  ลำดับชั้นย่อยตามผลงานที่ทำเพื่อจักรวรรดิ  สำหรับหานซั่วในปัจจุบัน  เป็นสมาชิกระดับดาราทมิฬ  และดาวดวงเล็ก  ๆ  บนด้านหลังเหรียญตราของเขาแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นสมาชิกระดับหนึ่งดาว  ซึ่งเป็นระดับล่างสุดของกลุ่มดาราทมิฬ

เมื่อมีผลงานที่ทำเพื่อจักรวรรดิเพิ่มมากขึ้น  เหรียญตรานั้นจะค่อย  ๆ  เพิ่มจำนวนดวงดาวบนเหรียญ  เป็น  2  ดวง  3  ดวง  4  ดวง  และสุดท้ายคือ  5  ดวง  และเมื่อใดที่สมาชิกทำผลงานได้จนครบ  5  ดวง  ก็จะได้รับการเลื่อนขั้นเข้าสู่กลุ่มจันทราทมิฬ  จากนั้นจึงจะทำการเลื่อนระดับในรูปแบบเดียวกันด้วยการสะสมผลงานจนกลายเป็นสมาชิกจันทราทมิฬระดับ  5  ดาว  ก่อนจะได้รับการเลื่อนขั้นเข้าสู่การเป็นสมาชิกในระดับสุริยันทมิฬซึ่งเป็นระดับสูงที่สุด

ยิ่งสมาชิกก้าวขึ้นสู่ระดับที่สูงขึ้น  ไม่เพียงแต่ผลตอบแทนรายเดือนจะสูงขึ้นอย่างมาก  แต่ยังสามารถดื่มด่ำกับสิทธิพิเศษมากมายของ  “องครักษ์ชุดดำ”  ได้อีกด้วย  และเมื่อขึ้นไปสู่จุดที่สูงที่สุดเช่นเดียวกับคานไดด์  ก็จะสามารถรับคำสั่งจากองค์จักรพรรดิได้โดยตรง  เท่ากับว่าอยู่ใต้อำนาจองค์จักรพรรดิเพียงพระองค์เดียว  ในขณะที่มีอาจารเหนือประชาชนนับหมื่น  ทำให้ทั้งทรัพย์สมบัติ  และความร่ำรวยมั่งคั่งทุกอย่างจะอยู่ใกล้แค่เอื้อม

“ถึงแล้วล่ะ!”

หลังจากเดินมาค่อนข้างไกล  ในที่สุด  เชสเตอร์ก็พาหานซั่วมาถึงยังเบื้องหน้าของห้องรับรองแห่งหนึ่งที่อยู่ในใจกลางคฤหาสน์

หานซั่วปลดปล่อยปีศาจปฐมภูมิทั้ง  3  ตนออกไปตามโถงทางเดิน  และพบว่าไม่มีใครอยู่ในบริเวณนั้นนอกจากเชสเตอร์และตัวเขาเอง  รวมทั้งยังไม่มีกลไกป้องกันใด  ๆ  ติดตั้งไว้รอบ  ๆ  คฤหาสน์กว้างใหญ่แห่งนี้แม้เพียงสักอย่างเดียว  ทำให้หานซั่วยังรู้สึกแปลกใจไม่หาย

ห้องนั้นไม่ได้มีขนาดใหญ่โตนัก  และเมื่อมองไปรอบ  ๆ  ก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร  เขาจึงถามเชสเตอร์ด้วยท่าทีประหลาดใจ

“ที่นี่มีอะไรต่างไปจากปกติงั้นรึ?”

“หึหึหึ  แน่นอนว่าที่นี่ย่อมมีความแตกต่างบางอย่าง  คฤหาสน์ทั้งหลังก็เป็นอย่างที่ท่านสังเกตเห็นนั่นแหละ  ไม่มีกลไกป้องกันหรืออะไรเลย  แต่คฤหาสน์นี่เป็นแค่เปลือกนอกเท่านั้นเอง  ฐานลับของ  “องครักษ์ชุดดำ”  ที่แท้จริงน่ะไม่ใช่ที่นี่หรอก”

เชสเตอร์อธิบายพร้อมรอยยิ้มจาง  ๆ  ก่อนที่จะทันไปง่วนทำอะไรบางอย่าง  และตอนนั้นเอง  เสียง  แกร๊ก    ก็ดังลั่นขึ้น  เผยให้เห็นทางเข้าปรากฏบนพื้นเรียบลื่นของห้องนั้น

“ว่าแล้วว่าต้องมีกลไกอะไรซ่อนไว้สักอย่าง  ฮะ  ๆ  ๆ  ทางเข้านี่จะพาไปที่ไหนเหรอ?”

หานซั่วถามอย่างอดไม่ได้เมื่อเห็นทางลับปรากฏขึ้นมา

“ตามมาเลย  ข้าจะพาท่านไปยังศูนย์บัญชาการลับของ  “องครักษ์ชุดดำ”  ที่แท้จริงเอง!”

เชสเตอร์ยิ้มกว้าง  ก่อนจะกระโดดลงไปยังทางลับสว่างจ้าตรงหน้า  และเรียกหานซั่วให้ตามเขาลงไป

เมื่อลงไปแล้ว  หานซั่วก็รู้สึกว่าพื้นที่เขากระโดดลงไปค่อนข้างนิ่ม  มีกำแพงหนารายล้อมรอบด้าน  และคลื่นมนตราทรงพลังแผ่ซ่านออกมาจากภายในสถานที่แห่งนั้นอย่างชัดเจนทันที

แล้วกำแพงหนาก็ปริแยกออกกลายเป็นประตูขนาดใหญ่พร้อมด้วยเสียงทุ้มนุ่ม  แล้วก็เผยให้เห็นเส้นทางเดินสว่างจ้าที่คดเคี้ยววกวนราวเขาวงกตต่อหน้าคนทั้งคู่  …ทางเดินหลายเส้นเชื่อมต่อกันไปมาในหลายทางแยกเบื้องหน้า  คลื่นพลังมนตราแผ่ซ่านออกมาจากผนังในแต่ละด้าน  และยังมีหน้าไม้ทรงพลังไม่ทราบชนิดตรึงไว้กับผนังพร้อมขึ้นสายเตรียมยิงจู่โจมได้ทุกขณะ  ปลายลูกดอกคมกริบของมันส่องประกายวับวาวชี้ลงมาจากทุกทิศทุกทาง

“ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าที่นี่มันเหมือนถ้ำซะมากกว่าแฮะ?”

หานซั่วโพล่งออกมาอย่างไม่ตั้งใจหลังจากมองไปรอบ  ๆ

เชสเตอร์เดินออกมาจากข้างในและเรียกให้หานซั่วตามเข้าไป  พลางอธิบาย

“ความรู้สึกของท่านก็ถูกต้องแล้วล่ะ  ที่นี่คือภูเขาออร์ดัส  ที่อยู่ด้านหลังปราสาทของจักรวรรดิ  ภูเขาสูงตระหง่านนี้เป็นเขตหวงห้ามและไม่ได้อนุญาตให้ใครผ่านเข้ามาง่าย  ๆ  ศูนย์บัญชาการลับของ  “องครักษ์ชุดดำ”  ของพวกเราตั้งอยู่ในใจกลางภูเขาลูกนี้  และภายในเขตนี้แหละที่มาตรการรักษาความปลอดภัยต่าง  ๆ  ก็ติดตั้งไว้ตามจุดต่าง  ๆ  และยังมีหน่วยทหารของจักรวรรดิประจำการอยู่รอบ  ๆ  ภูเขาด้วยนะ  เพราะในฐานะองค์กรลับขององค์จักรพรรดิ  ที่นี่จึงเป็นศูนย์รวมของคนมีพรสวรรค์มากมาย  รวมทั้งเอกสารลับต่าง  ๆ  ถูกเก็บเอาไว้เช่นกัน  ที่นี่ไม่เคยมีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้นมานานมากแล้วล่ะ  เพราะความปลอดภัยของที่นี่ก็เทียบเท่ากับการรักษาความปลอดภัยในปราสาทขององค์จักรพรรดิเลยทีเดียวเชียว”

หานซั่วรู้สึกได้จริง  ๆ  ว่าความปลอดภัยของที่นี่มีความหนาแน่นสูงมาก  อีกทั้งยังเต็มไปด้วยคลื่นพลังมนตราที่พลังแข็งแกร่ง  ทำให้เขาไม่กล้าที่จะปลดปล่อยขุนพลปีศาจอย่างปีศาจปฐมภูมิออกมาในสถานที่แบบนี้  หานซั่วจึงทำได้เพียงใช้ประสาทรับรู้ที่ดีเป็นพิเศษของตัวเองในการสัมผัสถึงอันตรายมากมายที่อาจซ่อนเร้นอยู่ในบริเวณโดยรอบ

หานซั่วเดินตามหลังเชสเตอร์เข้าไปตามทาง  พบปะกับสมาชิกคนอื่น  ๆ  ขององครักษ์ชุดดำบ้างประปราย  และห้องที่สร้างจากหินจำนวนหนึ่งก็เรียงรายกันไปตลอดทาง  หานซั่วสัมผัสได้ถึงเสียงลมหายใจและเสียงหัวใจเต้น  จึงรู้ทันทีว่ามีคนอยู่ในห้องหินเหล่านั้น

“ท่านคานไดด์เป็นหนึ่งในสามผู้ยิ่งใหญ่ของ  “องครักษ์ชุดดำ”  ของพวกเรา  แต่ข้าไม่มีคุณสมบัติพอที่จะนำท่านให้ไปพบท่านคานไดด์ได้ด้วยตัวเอง  แต่ถึงอย่างนั้น  ข้าก็พอจะรายงานเรื่องของท่านได้อยู่นะ  ถ้าท่านอยู่ภายใต้การดูแลของท่านคานไดด์จริง  ๆ  ล่ะก็  ท่านคานไดด์จะต้องยินดีที่จะได้พบท่านแน่!”

เชสเตอร์มองหานซั่วด้วยสายตาอิจฉาตาร้อนเล็กน้อย  ที่เขาโชคดีได้อยู่ในการดูแลของคานไดด์

“ข้าได้ยินเจ้าพูดถึงสามผู้ยิ่งใหญ่ขององครักษ์ชุดดำมาหลายครั้งแล้ว  นอกจากคานไดด์แล้ว  อีก  2  คนที่เหลือคือใครเหรอ?”

หานซั่วถามขณะเดินไปตามทาง

“ลอร์ดอามีส  กับ  เลดี้เซซิเลีย  น่ะ  เลดี้เซซิเลียจะเป็นคนคอยดูแลธุระต่าง  ๆ  ภายนอกจักรวรรดิขององครักษ์ชุดดำ  ว่ากันว่าเป็นผู้หญิงที่สวยงามและมีเสน่ห์มากคนหนึ่งทีเดียวเลยล่ะ  ฮะ  ๆ  ๆ  น่าเสียดายที่คนต่ำต้อยอย่างข้าไม่เคยได้พบเธอเลยสักครั้งในชีวิต  ส่วนลอร์ดอามีสกับลอร์ดคานไดด์จะคอยดูแลธุระที่เหลือภายในจักรวรรดิ  แต่ลอร์ดอามีสจะควบคุมเรื่องการสอดส่องและสืบสวนเหล่าขุนนางและพวกเจ้าหน้าที่ของทางการระดับสูง  ๆ  ในจักรวรรดิมากเป็นพิเศษ  และเป็นชายคนเดียวที่มีตัวตนอยู่ในสายตาของสาธารณะชนในนามขององค์กรเราอย่างแท้จริงเลยล่ะ”

“และเมื่อใดก็ตามที่ผลการสืบสวนของท่านสรุปออกมาได้ว่า  เจ้าหน้าที่ของทางการผู้นั้นทำอะไรบางอย่างที่ตรงกันข้ามกับผลประโยชน์ของจักรวรรดิ  ท่านอามีสสามารถจับกุมคนผู้นั้นได้ทันทีแล้วค่อยกลับมารายงานองค์จักรพรรดิทีหลัง  หรือแม้แต่สังหารพวกขุนนางระดับล่างบางคนได้ทันทีโดยไม่ต้องขอพระราชานุญาตจากพระองค์ก่อน  สำหรับเหล่าขุนนางในจักรวรรดิแล้ว  ลอร์ดอามีสถือว่าเป็นฝันร้ายสำหรับพวกเขาเลยล่ะ  ส่วนท่านลอร์ดคานไดด์ก็ดูแลควบคุมกิจกรรมภายในต่าง  ๆ  รวมถึงการตามล่าหาพวกสายลับที่แอบแฝงอยู่ภายในจักรวรรดิและฆ่าทิ้งซะ  แต่ก่อนหน้านั้นก็รีดเอาองค์ความรู้ต่าง  ๆ  ที่จะเป็นประโยชน์ต่อจักรวรรดิ  กับสอบสวนเอาแผนการต่าง  ๆ  ที่ซ่อนอยู่อันจะเป็นภัยคุกคามต่าง  ๆ  ต่อจักรวรรดิด้วย”

เชสเตอร์อธิบายรายละเอียดต่าง  ๆ  เกี่ยวกับสามผู้ยิ่งใหญ่ขององครักษ์ชุดดำขณะเดินไปด้วยกัน

ขณะอธิบายไปเรื่อย  ๆ  ทั้งคู่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูโลหะบานหนึ่ง  เชสเตอร์บอกให้หานซั่วหยุดรอ  ก่อนจะพูดผ่านรูเล็ก  ๆ  ที่ประตู

“มีสมาชิกระดับดาราทมิฬทื่ชื่อไบรอันมาขอพบท่านลอร์ดคานไดด์ครับ  เขาบอกว่าอยู่ในการดูแลของท่านคานไดด์โดยตรงครับ!”

“รอเดี๋ยวนะ  ข้าไปถามลอร์ดคานไดด์ก่อน”

น้ำเสียงเย็นชาไร้อารมณ์เสียงหนึ่งดังขึ้นจากอีกด้านของประตูผ่านรูเล็ก  ๆ  นั้น  แล้วประตูโลหะนั้นก็แทบจะเปิดออกในทันทีหลังผ่านไปประมาณ  2  นาที  เผยให้เห็นแท่นทรงกลมหลายชิ้น  หนึ่งในนั้นมีคลื่นพลังมนตราแผ่ซ่านออกมา  แล้วเสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“ไบรอันเข้ามาได้  เจ้ายืนบนแท่นทรงกลมได้เลย  ส่วนเชสเตอร์  เจ้ารออยู่ข้าวนอก  เมื่อไบรอันกลับมาเมื่อไหร่  เจ้าค่อยพาเขากลับไปตามทางเดิม”

“ครับผม”

เชสเตอร์ตอบและอธิบายเพิ่มเติมด้วยเสียงแผ่วเบา

“ตอนแรก  พวกเราเข้ามาที่นี่ผ่าน  มิติเวทมนตร์เคลื่อนย้ายระยะสั้น    ซึ่งเหมือนกันกับวงมิติเวทมนตร์อันใหญ่ที่อยู่ใจกลางภูเขานั่นแหละ  เขาจะจัดการเองว่าต้องส่งเจ้าไปที่ไหน”

หานซั่วพยักหน้ารับเป็นเชิงเข้าใจ  ก่อนจะเดินขึ้นไปยังหน้าปัดทรงกลมที่เป็นรูปสัญลักษณ์มนตราสวยงามน่าอัศจรรย์    เพราะมิติเวทมนตร์เคลื่อนย้ายระยะสั้นนั้นจัดตั้งได้ไม่ยากนัก  เพียงนักเวทย์ห้วงมิติคนใดก็ตามที่เป็นนักเวทย์ระดับสูงขึ้นไปสามารถสร้างขึ้นเองได้  ตราบใดที่มีวัตถุดิบเพียงพอ

แต่ในส่วนของมิติเวทมนตร์เคลื่อนย้ายทางไกล  เหมือนมิติที่อยู่ในสุสานแห่งความตายกลางป่าทมิฬ  ซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายพันไมล์  ไม่ใช่สิ่งที่นักเวทย์ทั่วไปจะสามารถสร้างขึ้นเองได้  และไม่เพียงแต่ต้องการนักเวทย์ระดับจอมขมังเวทย์ขึ้นไปเท่านั้น  ยังต้องการวัตถุดิบเวทมนตร์อีกจำนวนมากอีกด้วย  และหากปราศจากพลังเวทมนตร์ที่ทรงพลังแล้ว  ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างมิติเวทมนตร์ระดับนี้ขึ้นมาได้

หลังจากที่หานซั่วถอนหายใจด้วยความปลื้มในความมหัศจรรย์ของสุสานแห่งความตาย  เขาก็มายืนอยู่บนแท่นมนตรา  ก่อนจะมาปรากฏกายในห้องที่ทำจากหินขนาดกว้างขวางแห่งหนึ่ง  ห้องนั้นประดับตกแต่งด้วยสีสันสว่าง  เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย  และหรูหราว่าห้องในสมาคมพ่อค้าตระกูลบูซท์เสียอีก  สัญลักษณ์เวทมนตร์มากมายถูกสลักอยู่บนผนังรอบห้องที่มีภาพเขียนรูปวิวทิวทัศน์แขวนอยู่ประปราย  โคมระยะเหนือศีรษะส่องแสงกระจ่างตา  สาดส่องความสว่างไปทั่วผนังหินทุกมุมของห้อง

คานไดด์กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทางด้านหน้าของห้องนั้น  พลางพลิกอ่านตำราเวทมนตร์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด  ในขณะที่หานซั่วหันไปสังเกตรอบ  ๆ  ห้อง  ก่อนจะมาหยุดมองที่คานไดด์  ซึ่งคานไดด์วางตำราในมือลงทันที  ก่อนจะหันหน้างองุ้มของเขามาทางหานซั่ว  และเอ่ยถามด้วยเสียงเย็นชา

“เกิดอะไรขึ้น?  เจ้าค้นพบอะไรงั้นรึ?”

หานซั่วพยักหน้า  ก่อนจะเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อไม่กี่วันก่อนให้คานไดด์ฟัง  รวมทั้งเรื่องที่ดุ๊คแอบพบเพื่อพูดคุยกันกับคามิลล่า    การสนทนาถึงเรื่องของ  “เนตรอสูร”  และคลาร์ก  บุตรชายของหัวหน้าหน่วยกริฟฟ่อนแห่งจักรวรรดิที่มาพบดุ๊ค  โดยหานซั่วเล่าถึงรายละเอียดถี่ยิบในทุกประเด็น

ขณะที่หานซั่วกำลังอธิบายต่อไปเรื่อย  ๆ  สีหน้าปกติของคานไดด์ก็ค่อย  ๆ  ดูบิดเบี้ยวและชั่วร้ายมากยิ่งขึ้น  ซึ่งคานไดด์นิ่งเงียบไม่พูดอะไรจนกระทั่งหานซั่วพูดจบ  คิ้วของเขาขมวดเป็นปมแน่นราวกับกำลังพิจารณาอะไรบางอย่าง

หลังจากนั้นไม่นาน  เมื่อหานซั่วเริ่มอดทนรอต่อไปไม่ไหว  คานไดด์ก็ยิ้มออกมาและพูดกับหานซั่ว

“ไบรอัน  เจ้าทำได้ดีมาก  ดีซะจนข้าเองยังตกใจ  ดูเหมือนว่าเจ้าจะเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ทีเดียว  ด้วยความสามารถระดับเจ้า  ข้าประหลาดใจจริง  ๆ  ที่เจ้าสามารถหาข้อมูลที่มีค่ามากได้ในเวลาอันสั้นถึงเพียงนี้  ดุ๊คเป็นถึงจอมขมังเวทย์ธาตุลม  แม้แต่คามิลล่าก็เป็นนักเวทย์ธาตุมืดระดับสูง  และคลาร์กก็ยังเป็นอัศวินปฐพีผู้เกรียงไกร  แต่เจ้ากลับทำได้โดยที่คนพวกนั้นไม่สงสัยเลยแม้แต่นิดเดียว  ถ้าจะหาคำใดมาบรรยายศักยภาพของเจ้าที่ใกล้เคียงที่สุดก็คงเป็นคำว่าปาฏิหาริย์แล้วล่ะ”

“ท่านก็ชมข้าเกินไป”

หานซั่วตอบอย่างนอบน้อม

“เจ้าไม่จำเป็นต้องถ่อมตัวไปหรอก  เพราะเจ้าจัดการเรื่องนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบจริง  ๆ  ถึงแม้จะสงสัยว่าเจ้าทำได้ยังไง  แต่เจ้าเป็นคนของข้า  และข้าก็จะไม่ก้าวก่ายหรือถามเรื่องส่วนตัวของเจ้าหรอก  หึหึหึ  และเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลเรื่องหลังจากนี้แล้วล่ะ  เพราะข้าจะส่งใครบางคนไปจัดการกับเรื่องนี้เอง”

คานไดด์มองหานซั่วด้วยสายตาราวกับคนที่กำลังจ้องมองปีศาจก็ไม่ปาน  ก่อนจะกล่าวชื่นชมเขา

หานซั่วถอนหายใจอย่างโล่งอก  เนื่องจากสิ่งที่เขากังวลมากที่สุดคือเกรงว่าคานไดด์จะนึกสงสัยความสัตย์จริงในคำพูดของเขา  เพราะการปิดบังตัวตนจากคนหลายคนที่มีพลังและความแข็งแกร่งมากมายทั้ง  ๆ  ที่ระดับของตัวเขาเองไม่มีทางเทียบได้นนับเป็นภารกิจที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ  หานซั่วจึงนึกขอบคุณคานไดด์ที่ไม่สงสัยในความจริงใจของเขา  เพราะการที่เขาไม่ถามเลยว่าหานซั่วได้ข้อมูลทั้งหมดมายังไง  เป็นสิ่งที่ทำให้หานซั่วแปลกใจเป็นอย่างมาก

“เจ้าไม่ต้องคิดว่ามันแปลกเกินไปหรอก  องครักษ์ชุดดำอย่างพวกเราน่ะ  ต้องการเพียงผลลัพธ์สุดท้ายของภารกิจนั้นเท่านั้น  เราไม่สนใจเรื่องวิธีหรือกระบวนการ  เพราะสมาชิกแต่ละคนก็มีหนทางของตัวเอง  ขอแค่ทำภารกิจให้สำเร็จตามที่ได้รับมอบหมายก็พอ  เพราะแบบนี้แหละ  เจ้าจึงไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลอะไร  อย่างที่ข้าเคยบอก  ถ้าไม่ใช่เรื่องธุรกิจแล้ว  พวกเราก็จะไม่ส่งผลกระทบใด  ๆ  ในชีวิตเจ้า  ทำตามกิจวัตรประจำวันได้ตามเดิม  และมีความสุขกับการได้เป็นตัวของตัวเองต่อไปได้ตามปกติเลย”

ราวกับว่าคานไดด์อ่านใจหานซั่วได้อย่างทะลุปรุโปร่ง  จึงอธิบายให้เขาฟังอย่างอดทน

“เข้าใจล่ะ  งั้นแปลว่าระหว่างนี้  ก็ยังไม่มีอะไรให้ข้าทำใช่มั้ยครับ?”

หานซั่วค่อนข้างยอมรับธรรมเนียมปฏิบัติขององครักษ์ชุดดำอย่างเต็มใจ  ก่อนจะตอบกลับไปอย่างร่าเริง

“ส่งเหรียญตราประจำตัวของเจ้ามาให้ข้าสิ  ข้าจะบันทึกผลงานความสามารถอันสำคัญนี้ไว้ในเหรียญตราและแฟ้มประวัติขององค์กร  ข้าจะมอบดาวให้กับเจ้า  2  ดวง  สมาชิกบางคนไม่ได้แม้แต่ดาวดวงเดียวแม้จะพยายามแลกกับข้อมูลนับสิบชิ้นก็ตาม  แต่จากข้อมูลอันมีค่าที่เจ้าได้มา  ก็มีค่าเพียงพอที่จะทำให้เจ้าได้รับดาวทั้ง  2  ดวงนี้”

คานไดด์มองหานซั่วพร้อมกับยิ้ม

คานไดด์หยิบเหรียญตราของหานซั่วไป  ก่อนจะทำอะไรบางอย่างกับมันและส่งคืนให้หานซั่ว  ดาวดวงน้อย  ๆ  จำนวน  2  ดวงปรากฏเพิ่มขึ้นมาบนด้านหลังของเหรียญตรา  แปลว่าหานซั่วได้กระโดดข้ามไปถึง  2  ระดับ  และกลายเป็นสมาชิกดาราทมิฬระดับ  3  ดาวทันที

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว  ข้าขอตัวนะครับ”

หานซั่วดีอกดีใจไม่น้อยเมื่อเห็นว่าเพียงภารกิจเดียวก็ทำให้เขาได้เลื่อนขึ้นเป็นสมาชิกระดับ  3  ดาวเหมือนกับเชสเตอร์  พลางยิ้มขณะพูด

คานไดด์พยักหน้ารับ

“เจ้าไปได้แล้วล่ะ  แต่เจ้าต้องกลับมารายงานตัวที่องค์กรเป็นประจำทุกเดือนนะ  แต่ถ้าระหว่างนี้เจ้าพบเรื่องใด  ๆ  ที่อาจจะเป็นประโยชน์  หรือเป็นผลเสียต่อจักรวรรดิ  เจ้าก็กลับมารายงานโดยตรงได้ทันที  แล้วผลตอบแทนของเจ้าก็จะได้รับการประเมินอย่างแม่นยำตามผลงานที่ถูกบันทึกไว้ในแฟ้มประวัติขององค์กร…”

“…หึหึหึ  สมาชิกดาราทมิฬหลายคนก็พยายามทำผลงานให้ก้าวหน้าก็เพราะเหตุผลนี้ล่ะ  เจ้าต้องรายงานตัวทุกเดือน  ถึงแม้ว่าจะไม่มีข้อมูลใด  ๆ  เลยก็ตาม  เพราะจะทำให้องค์กรรับรู้ถึงสถานภาพปัจจุบันของเจ้า  และคอยดูว่ามีภารกิจใดที่เหมาะสมกับเจ้ารึเปล่าให้ด้วย  แน่นอน  เจ้ามีสิทธิ์ที่จะเลือกภารกิจได้บ้างบางอย่าง  และปฏิเสธได้บางภารกิจเช่นกัน”

คานไดด์กล่าวเสริม

หานซั่วพยักหน้ารับเพื่อบ่งบอกว่าเขาเข้าใจเป็นอย่างดี  เขาไม่พูดอะไรต่อ  และเตรียมตัวจะออกห้องไป  แต่เมื่อเดินไปถึงประตู  คานไดด์ก็เหมือนจะมีหัวข้อสนทนาแปลกประหลาดบางอย่าง    จึงร้องเรียกออกไป

“รอเดี๋ยวไบรอัน”

หานซั่วชะงักฝีเท้า  ก่อนที่หานซั่วจะหันกลับมามองคานไดด์ด้วยสายตางุนงง

“เจ้าต้องจัดการความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับลอว์เรนซ์ให้เป็นไปได้ด้วยดีนะ  เพราะอาจจะทำให้เกิดผลกระทบยิ่งใหญ่บางอย่างกับเจ้าในอนาคต  ตัวตนของลอว์เรนซ์ค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อนเกินจินตนาการ  ข้าบอกเจ้าได้เพียงเท่านี้ล่ะ  ลองกลับไปคิดเรื่องที่ข้าบอกดูนะ”

ด้วยฐานะของคานไดด์ดูเหมือนทำให้เขาพูดลำบาก  และหยุดชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับไป

“ข้าเคยได้ยินว่าเขาเป็นลูกชายของรัฐมนตรีกระทรวงการคลังเท่านั้นเอง  ท่านมีอะไรที่อยากบอกข้ารึเปล่าครับ?”

หานซั่วจำได้ว่าเคยได้ยินลิซ่าพูดถึงลอว์เรนซ์มก่อน  จึงเอ่ยปากถามคานไดด์อีกครั้ง

คานไดด์พยักหน้าในทีแรก  แต่แล้วก็ส่ายศีรษะ  ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นสีหน้างุนงงของหานซั่ว

“หลายคนรู้เพียงว่าลอว์เรนซ์เป็นลูกชายของรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง    แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว  ก็ลอว์เรนซ์ก็ไม่มีตัวตนอื่นแอบแฝงอยู่อีกเลย  เพราะตัวตนของเขาทั้งลึกลับและยิ่งใหญ่เกินไป  ระดับสมาชิกของเจ้าในตอนนี้ยังไม่มีสิทธิ์ถามได้ลึกถึงขนาดนั้น  และข้าเองก็ไม่มีอำนาจที่จะเปิดเผยข้อมูลมากไปกว่านั้นได้  จึงอยากเตือนเจ้าให้คอยระวังให้ดี  ๆ  เพื่อที่เจ้าจะได้ไม่ตกอยู่ในสภาวะไม่พึงประสงค์บางอย่างที่เจ้าไม่ควรอยู่”

แล้วคานไดด์ก็ผายมือเป็นการบอกอนุญาตให้เขาไปได้  แม้จะไม่มั่นใจนัก  แต่เขาก็รับรู้เกี่ยวกับกฎต่าง  ๆ  ขององครักษ์ชุดดำเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อย  และไม่ได้ถามอะไรต่อ  เขาพยักหน้าตอบรับความเข้าใจ  ก่อนจะออกจากห้องของคานไดด์

“ไง  ได้อะไรบ้างรึเปล่า?”

เชสเตอร์ถามหานซั่วด้วยความตื่นเต้น  เมื่อพบกันอีกครั้ง

“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก  แค่ท่านคานไดด์ให้ดาวข้าเพิ่มมา  2  ดวง  ตอนนี้ข้าก็เป็นสมาชิกดาราทมิฬระดับ  3  ดาวเท่าเจ้าแล้วนะ  ฮะ  ๆ  ๆ!”

หานซั่วคิดว่าไม่จำเป็นต้องปกปิดอะไรกับเชสเตอร์  จึงบอกความจริงเรื่องที่เกิดขึ้น

เชสเตอร์ตกตะลึงและอิจฉาหานซั่วเกินบรรยายเมื่อได้ยินที่เขาพูด  เขาถอนหานใจพลางส่ายหัว

“อยู่กับลอร์ดคานไดด์แล้ว  ความก้าวหน้าของเจ้าเร็วจนแทบจะเชื่อไม่ลงเลยจริง  ๆ  ขนาดข้าเข้าร่วมกับองครักษ์ชุดดำตั้งแต่เมื่อ  3  ปีก่อน  รายงานข้อมูลไปประมาณ  20  ครั้ง  กว่าจะได้มาเป็นสมาชิกระดับ  3  ดาวได้เนี่ย  แต่เจ้าเพิ่งเข้าร่วมมาได้ไม่ถึงอาทิตย์  ก็ได้ขึ้นมาเป็นสมาชิกระดับเดียวกับข้าซะแล้ว  เฮ้อ…  น่าหดหู่ชะมัด  การปฏิบัติช่างแตกต่างกันจริง  ๆ  พอมาเทียบกันว่าใครเป็นผู้ดูแล”

หานซั่วยักไหล่  และไม่ได้พูดอะไรหรือทำอะไรต่อตามที่เชสเตอร์แนะนำ  แม้ว่าผลตอบแทนที่ได้รับมาจะบ่งบอกถึงระดับความแข็งแกร่งของตัวเขาเอง  แต่เรื่องนี้ก็ถือว่ายังอธิบายได้ยากเกินไป  จึงตัดสินใจไม่เล่าอะไรให้ใครฟังมากนัก

“ถ้า…  อนาคตข้างหน้ามีภารกิจไหนที่ต้องใช้คน  2  คนล่ะก็  ท่านพาข้าไปด้วยได้มั้ย?  เหมือนไปเป็นตัวช่วยท่านอีกแรงน่ะ?”

เชสเตอร์ถอนหายใจอย่างเต็มไปด้วยอารมณ์  พลางเกาหัว  และพูดหัวข้อนี้ขึ้นมาด้วยความเขินอาย

“ได้สิ”

หานซั่วตอบตกลงอย่างไม่ลังเล

“ขอบคุณมากเลย!  ข้าจะจำท่านไว้และพยายามอย่างเต็มที่ตามคำชี้แนะของท่านครับ”

เชสเตอร์ดีใจอย่างสุขล้นและมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที  เขายังคงอธิบายเรื่องราวต่าง  ๆ  เกี่ยวกับองครักษ์ชุดดำให้หานซั่วฟัง  ก่อนจะพาเขามาส่งยังคฤหาสน์เงียบเหงาในเขตทางตอนเหนือของเมืองอีกครั้ง

 


ติดตามอัพเดทและอ่านตอนต่อไปทันที ที่นี่ >>> Facebook :
(อัพเดท 8 ต.ค. 60 #กลุ่มGDK_2  #ตอนที่174)

(0 votes) 0/10
ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments