I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

GSDZ (盖世帝尊) ตอนที่ 6 ฝ่ามือสุริยันจันทรา

| GSDZ (盖世帝尊) | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

แปลไทย : XiaoeyuGao

ขณะนี้ภายในห้องพลันเงียบสงัด ‘เฉินฝู๋’ใช้สายตามองไปที่’จื่ออวี้’ที่กำลังมองไปที่’เต้าหลิง’อย่างสนใจ ในใจมันรู้สึกตกตะลึงไม่น้อย และไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาง ไม่บ่อยนักที่จะเห็นนางเป็นเช่นนี้ ทั้งนี้นัยน์ตาสีดำของนางยังฉายแววอยากรู้อยากลองอีกด้วย

ก่อนหน้านั้น ‘เต้าหลิง’กำลังมองไปที่รอยกำปั้นที่สลักบนแผ่นไม้หยกอย่างไม่วางตา ภายในนัยน์ตาของมันสัมผัสได้ถึงความอ่อนแอที่ตราตรึงอยู่ในรอยหมัดนั้น มองดูแล้วช่างอ้างว้างหรือเกิน

และในขณะนั้นเองเหมือน’เต้าหลิง’จะเข้าใจอะไรบางอย่าง มันกำหมัดแน่นจนปรากฏเสียงกระดูกระเบิดดังออกมา

วิ้ง !

ปรากฏเสียงวิ้งดังขึ้นพร้อมกับที่พลังที่อยู่ภายในร่างทะลักออกมาอย่างมากมายและโคจรไปรวมอยู่ที่กำปั้น ทั่วทั้งหมัดอัดแน่นไปด้วยพลังที่แข็งแกร่ง มวลอากาศโดยรอบระเบิดกระจายออกเป็นวงกว้าง กลายเป็นคลื่นพลังที่มีอานุภาพร้ายกาจยิ่ง

“ อะไรกัน มันเป็นไปได้อย่างไร ? ”

สีหน้า’เฉินฝู๋’พลันตกตะลึงราวกับเห็นผีก็มิปาน น้ำเสียงดูสั่นตกใจ  มันสำเร็จวิชาแล้วอย่างนั้นหรือ ? ทั้งยังใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วยามเท่านั้น นี่มันจะทำให้ข้าอึ้งไปถึงไหนกัน

ทันใดนั้น’เต้าหลิง’ก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น นัยน์ตาพลันหรี่ลง ก่อนที่พลังที่อัดแน่นในกำปั้นจะสลายตัวไป   จากนั้นมันก็รีบหันมาทางเสียงเรียกดังกล่าว เห็นคนสองคนกำลังยืนดูมันอยู่ที่หน้าประตู มันจึงกล่าวอย่างเขินๆว่า

“ ข้าหรอ เอ่อ.. ข้าอ่านมันไปนิดเดียวเองนะ ”

ในใจ’เต้าหลิง’รู้สึกอึดอัดใจยิ่ง มันไม่น่าไปอ่านเลยจริงๆ ทั้งนี้ยังเป็นวิชาของคนอื่น และที่สำคัญมันยังไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของอีกด้วย

“ ไม่เป็นไร มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร  ”

ตาคู่โตสวยของ’จื่ออวี้’โค้งขึ้นดูสง่างาม ดวงตาใสของนางนั้นทำให้ผู้คนหลงใหลได้ไม่ยากเลย ทั้งรูปร่างยังอรชรอ้อนแอ้น ดูอ่อนหวานและงดงามยิ่ง และในเวลานี้นางก็กำลังมองมาที่’เต้าหลิง’ราวกับเจอสมบัติล้ำค่า อัจฉริยะ ! นี่ใช้เวลาไปไม่เท่าไหร่ก็สามารถสำเร็จวิชาแล้วอย่างนั้นหรือ สุดยอดจริงๆ !

“ อัจฉริยะ ! ”

‘เฉินฝู๋’แผดเสียงร้องขึ้นในใจ มิน่าล่ะมันถึงได้รับมอบหมายให้ดูแลผลึกหินทองแดงโลหิต อาจารย์ของมันจะต้องเป็นยอดคนที่เก่งกาจยิ่งแน่ๆ

“ ถูกต้อง ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก มันก็เป็นแค่วิชาธรรมดาๆวิชาหนึ่งเท่านั้นแหละ ”

‘เฉินฝู๋’รีบพูดเสริมทันที นัยน์ตามันจ้องมอง’เต้าหลิง’ด้วยความเคารพ มันรู้ดีว่าอัจฉริยะแบบนี้หาได้ยากยิ่งนัก ‘เต้าหลิง’ยิ้มอย่างเขินๆ สายตายังคงมองไปที่’จื่ออวี้’ มันอดใจไม่ไหวจริงๆที่จะต้องมองนางหลายๆครั้ง เด็กสาวคนนี้ช่างดูละเอียดอ่อนและงดงามยิ่งนัก ทั้งนี้ผิวของนางยังขาวดั่งหิมะและเปล่งประกายสว่างไสวออกมาอีกด้วย

เพียงเห็น’เต้าหลิง’ที่ก็มองมาที่ตัวเองเหมือนกัน มุมปากของ’จื่ออวี้’ฉีกขึ้นนิดๆ แล้วกล่าวยิ้มๆว่า

“ ข้าชื่อจื่ออวี้ แล้วเจ้าล่ะ ? ”

ใบหน้า’เฉินฝู๋’เปลี่ยนเป็นประหลาดใจทันที นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มันได้ยินคุณหนูเอ่ยชื่อของตนไปก่อน ในใจมันเดาว่าคุณหนูคงจะมีใจให้กับเด็กหนุ่มนั่นแน่ อัจฉริยะเช่นนี้คงอยากจะคว้าเอาไว้ข้างกายล่ะสิ

“ จื่ออวี้ ข้าเต้าหลิง ”

‘เต้าหลิง’กล่าวยิ้มๆ พลางยักไหล่ขึ้น มันเดาว่านางคงจะไม่ใช่คนสามัญทั่วไปแน่ เพราะสามารถดูได้จากการที่’เฉินฝู๋’ให้ความเคารพแก่นางมาก ดูแล้วนางน่าจะเป็นคุณหนูแห่งร้านค้ามหาคลังสมบัติแน่

“ เต้าหลิง แซ่เต้า ? ”

นัยน์ตา’จื่ออวี้’พลันฉายแววตกใจทันที สายตานางยังคงมองไปที่’เต้าหลิง’อย่างพินิจพิจารณา หรือว่าจะเป็นคนจากตระกูลเต้า ? แต่ก็ไม่น่าใช่ ตระกูลเต้าอยู่ห่างจากทวีปชิงไกลมาก อีกทั้งบารมีก็ยังไม่ค่อยกว้างขวางเท่าไรด้วย

“ คงจะแซ่เหมือนกันล่ะมั้ง ”

‘จื่ออวี้’คิดขึ้นในใจ จากนั้นนางก็หยิบขวดหยกหนึ่งออกมา ก่อนจะกล่าวยิ้มๆว่า

“ นี่คือโลหิตแท้จริงสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพอใจมันหรือไม่ ? ”

“ ก๊าซซซ ! ”

ปรากฏเสียงแผดคำรามดังขึ้น ปรากฏเป็นสัตว์อสูรตัวหนึ่งกำลังคลุ้มคลั่งแผดเสียงคำรามอยู่ในขวดหยก รูปร่างของมันคล้ายๆเสือดาว ทั่วร่างมันปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีทองอร่าม ดูน่าหวาดกลัวและอันตรายยิ่งนัก   แม้ว่าสัตว์อสูรตัวนี้จะเล็ก แต่มันกลับห้าวหาญยิ่ง ทั่วร่างมันโหมซัดพลังที่แกร่งกล้าออกมา มันดิ้นไปดิ้นมาอยู่ในขวดอย่างคลุ้มคลั่ง ช่างเป็นสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งจริงๆ

“ สัตว์อสูรเกล็ดเสือดาว ”

ใจ’เต้าหลิง’เต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น นี่เป็นสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งตัวหนึ่งเลย อีกทั้งโลหิตมันยังแข็งแกร่งเสียจนสามารถก่อตัวเป็นรูปร่างมันได้อีกด้วย มันต้องเป็นสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์ชั้นสูงมากๆแน่ !

สายเลือดของสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์นั้นจะมีทั้งอ่อนแอและแข็งแกร่ง ยิ่งสายเลือดของพวกมันแข็งแกร่งมากเท่าไร รุ่นต่อๆมาจะยิ่งน่ากลัวมากยิ่งขึ้น และแน่นอนโลหิตแท้จริงที่ก่อตัวขึ้นจะยิ่งทวีความดุร้ายขึ้นไปอีก

“ ดื้อจริงๆเลยนะ ”

‘จื่ออวี้’มองไปที่สัตว์อสูรเกล็ดเสือดาวที่พึ่งก่อเรื่องไปเมื่อซักครู่ มุมปากนางเลิกขึ้นโค้งดูน่าหลงใหล ก่อนจะชี้นิ้วไปที่ขวดหยกแนวสั่งสอนเจ้าตัวก่อเรื่อง ทันใดนั้นเจ้าตัวก่อเรื่องพลันแตกสลายร่างกลับไปเป็นโลหิตสีทองอร่ามเปล่งแสงสว่างไสวดูแสบตาทันที

“ พอใจ ข้าขอบใจมาก ”

‘เต้าหลิง’กล่าวพลางหัวเราะออกมา ก่อนจะยื่นมือออกไปรับขวดหยกนั้นมาเก็บไว้กับตัว เดาว่าหากดื่มโลหิตแท้จริงสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์นี้ไป คงทำให้พลังกายของมันได้ทะลวงขึ้นไปอีกระดับหนึ่งเลยแน่

“ ข้าขอถือวิสาสะถามเจ้าซักหน่อย ขั้นพลังกายของเจ้ามีพละกำลังเท่าไหร่แล้ว ”

‘จื่ออวี้’กล่าวขึ้นพลางหัวเราะ นางรู้สึกได้ว่า’เต้าหลิง’ต้องยังไม่ได้ก้าวเข้าสู่ขั้นซึมซับวิญญาณแน่

“ ข้าเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ยังไม่เคยทดสอบพลังน่ะ ”

‘เต้าหลิง’ส่ายหน้าเบาๆ มันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าตัวมันมีพลังหมัดเท่าไรแล้ว ได้ยินดังนั้นสีหน้า’จื่ออวี้’เปลี่ยนเป็นตะลึงเล็กน้อย เจ้าคนนี้ไม่สนใจพละกำลังของตัวเองเลยอย่างนั้นหรือ ? จากนั้นนางจึงถามลองเชิงขึ้นว่า

“ เจ้าอยากจะทดสอบพลังกายที่นี่ซักหน่อยหรือไม่ ? ”

“ ก็ได้ ”

‘เต้าหลิง’ว่าพลางยิ้มเล็กน้อย มันสงสัยอยู่นิดหนึ่งว่านางต้องการจะทำอะไรกันแน่ ? ทดสอบพลังกายซักหน่อยคงไม่เป็นไร ในเมื่อนางอุตส่าห์นำโลหิตแท้จริงสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์ออกมาให้ ก็ไม่ควรไปหักหาญน้ำใจนาง

ขณะนี้ปรากฏหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ภายในห้องแห่งหนึ่ง ‘เต้าหลิง’มองไปที่หินครู่หนึ่ง ก่อนจะกำหมัดแน่นและปล่อยหมัดพุ่งทะยานออกไป    ทันทีหมัดกระทบเป้าหมาย หินขนาดใหญ่พลันเปล่งเสียงดังออกมาทันที ทั่วทั้งก้อนสั่นสะท้านอยู่นาน สายตาทั้งสามคู่จ้องมองไปที่ขีดวัดพลังที่อยู่ด้านบนหิน สิบขีด !

“ สองหมื่นจิน ! ”

ใบหน้า’เต้าหลิง’ดูประหลาดใจยิ่ง ไม่อยากจะเชื่อว่าจะถึงสองหมื่นจิน ! อีกทั้งยังใช้เวลาแค่ห้าหกวันเท่านั้น พลังที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเช่นนี้มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว ! และที่ชัดเจนที่สุดคือพลังกายของมันเท่ากับ’หวังหลิ่ง’เลย ทว่าที่แตกต่างกันก็คือ’หวังหลิ่ง’ต้องใช้เวลาประมานหนึ่งถึงสองปีเลยทีเดียวถึงจะทะลวงไปถึงสองหมื่นจิน

ซึ่งต่างกับมันที่ใช้เวลาเพียงแค่ห้าหกวันเท่านั้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปคงจะต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่โตแน่

“ หากข้ากินโลหิตแท้จริงสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์ไป มันจะทะลวงไปถึงห้าหมื่นจินหรือเปล่านะ? ”

ในขณะเดียวกันในใจ’เต้าหลิง’ก็เหมือนถูกจุดคบเพลิงร้อนแรงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น อัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งทวีปชิงทะลวงไปถึงห้าหมื่นจินอย่างนั้นหรือ ข้าจะต้องทะลวงไปถึงขั้นนั้นให้ได้ !

“ หืม  ทำไมได้เท่านี้ล่ะ ”

‘จื่ออวี้’ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อยอย่างสงสัย มันนั้นมีพรสวรรค์ที่ดีเยี่ยมเช่นนั้น พลังกายขั้นต่ำที่สุดก็น่าจะประมานสี่ห้าหมื่นจินนี่นา

“ เต้าหลิง ยิ่งร่างกายของเจ้าแข็งแกร่งมากเท่าไร ในภายภาคหน้าพลังกายของเจ้าจะยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น  ”

ดวงตาคู่โตของ’จื่ออวี้’มองมาที่’เต้าหลิง’ และกล่าวแกมขบขันต่ออีกว่า

“ พรสวรรค์ของเจ้านั้นพิเศษเอามากๆ อย่าทำให้พรสวรรค์ของเจ้าต้องเสียเปล่าล่ะ ”

“ ข้ารู้ แต่พลังกายก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นกันง่ายๆนี่นา ”

‘เต้าหลิง’กล่าวพลางยิ้มออกมาเล็กน้อย ในใจคิดว่า เจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ สำหรับข้าห้าหมื่นจินย่อมมิใช่ความฝัน

“ ก็จริง แต่ข้าสามารถช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายให้แก่เจ้าได้นะ ”

‘จื่ออวี้’ขบคิดครู่หนึ่ง ก่อนที่มุมปากของนางจะยกขึ้นเล็กน้อย

“ ช่วยข้า? เจ้าจะช่วยข้าอย่างไร ? ”

‘เต้าหลิง’ดูตะลึงเล็กน้อย นางจะช่วยได้จริงๆหรอ ? ทันใดนั้นนางก็หยิบขวดหยกขวดหนึ่งออกมา จากนั้นนางก็เม้มฝีปากและกล่าวยิ้มๆว่า

“ นี่คือจู๋เจี้ยนเหลวระดับสี่ เจ้าเคยได้ยินชื่อมันมาก่อนหรือไม่ ? ”

“ จู๋เจี้ยนเหลว ระดับสี่ ! ”

‘เต้าหลิง’รู้สึกราวกับว่าหัวใจมันกำลังหยุดเต้น ดวงตามองหรี่ลง จู๋เจี้ยนเหลวระดับสี่ นี่มันเป็นสมบัติล้ำค่าดีๆนี่เอง ในงานประมูลครั้งก่อนที่เมืองชิงสือ ก็ได้มีการนำจู๋เจี้ยนเหลวระดับสองออกมาประมูลกัน ส่วนราคาของมันก็ราวๆหนึ่งแสนเหรียญทอง !

ทว่าความต่างชั้นระหว่างระดับสองและระดังสี่ช่างห่างไกลยิ่ง สิ่งนี้เป็นสิ่งของที่พบเจอได้ยากมาก นางจะให้ข้าอย่างนั้นหรือ ? ในใจเต้าหลิงรู้สึกงงงวยเป็นอย่างมาก รู้สึกราวกับว่าถูกหินปาอัดใส่ก็มิปาน  ริมฝีปาก’เฉินฝู๋’พลันบิดเบี้ยวทันที จู๋เจี้ยนเหลวระดับสี่อย่างนั้นรึ ของสิ่งนี้มีมูลค่ามากมายมหาศาล มีเงินอย่างเดียวก็ใช่ว่าจะซื้อมันได้

มันสามารถสร้างยอดอัจฉริยะขึ้นมาได้เลยหนึ่งคน  คิดไม่ถึงเลยว่าคุณหนูจะมอบมันให้กับคนที่พึ่งจะรู้จักกัน นี่มันไม่เป็นการกระทำที่มุทะลุเกินไปหน่อยหรือ ?

“ สิ่งนี้มันล้ำค่าเกินไป ข้ารับไว้ไม่ได้หรอก ข้าซาบซึ้งในน้ำใจของเจ้ามาก ”

‘เต้าหลิง’รีบส่ายหน้าทันที ของสิ่งนี้มันล้ำค่าเกินไปจริงๆ

“ รับไว้เถอะ ถือว่าเพื่อมิตรภาพของพวกเรา ไม่ต้องเกรงใจหรอก จริงๆแล้วมันก็ไม่ได้ล้ำค่าอะไรมากมายสำหรับข้า ”

‘จื่ออวี้’มอง’เต้าหลิง’ออกแนวเคืองปนขบขัน ตอนนี้นางช่างดูมีเสน่ห์ทำให้ผู้อื่นหวั่นไหวได้ง่ายจริงๆ   ‘เต้าหลิง’ขมวดคิ้วขึ้น สายตาจ้องมองไปที่จู๋เจี้ยนเหลว ใบหน้าเล็กของมันดูหนักอึ้ง ก่อนจะถามออกไปตรงๆว่า

“ จื่ออวี้ เจ้ามีเรื่องที่อยากให้ข้าทำใช่หรือไม่ ? ”

“ ใช่ แต่ก็เป็นเรื่องดีนะ ”

‘จื่ออวี้’กล่าวพลางหัวเราะฮิฮิออกมา ในมือนางปรากฏแผ่นไม้หยกอันหนึ่งขึ้น ก่อนจะยื่นให้’เต้าหลิง’และกล่าวว่า

“ ภายในสามเดือนเจ้าต้องสำเร็จวิชาฝ่ามือสุริยันจันทราให้ได้ ! ”

ได้ยินดังนั้น’เฉินฝู๋’แทบจะเป็นลมล้มพับลงไปเดี๋ยวนั้น ฝ่ามือสุริยันจันทรา มันเป็นหนึ่งในสิบยอดวิชาปาฏิหาริย์ ! แม้ว่าฝ่ามือสุริยันจันทรานี้จะยังไม่สมบูรณ์ ทว่ามันก็สามารถทำให้เกิดสงครามโลหิตแย่งชิงสั่นสะเทือนทั่วทั้งทวีปชิงได้ คุณหนูท่านคงต้องป่วยแน่ๆ !

“ ง่ายเช่นนั้นเลยหรือ ? ”

ใบหน้า’เต้าหลิง’ดูตกตะลึง ให้จู๋เจี้ยนเหลวข้า แล้วยังมอบวิชาให้ข้าฝึกอีก ? นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน

“ ง่ายเช่นนั้นแหละ หากภายในสามเดือนเจ้าฝึกไม่สำเร็จ ถึงตอนนั้นเจ้าต้องนำมันมาคืนข้านะ ”

‘จื่ออวี้’มองไปที่’เต้าหลิง’และกล่าวขึ้น นัยน์ตาของนางฉายแววรอคอยอย่างมีความหวัง หากสามารถฝึกได้สำเร็จล่ะก็ จะต้องพัฒนาขึ้นอย่างมากแน่

“ เช่นนั้นข้าต้องขอลองซักหน่อย ”

‘เต้าหลิง’รับแผ่นหยกวิชาฝ่ามือสุริยันจันทรามา ก่อนจะพูดอย่างยิ้มๆต่อว่า

“ หากไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ข้าขอตัวก่อน ”

‘จื่ออวี้’พยักหน้า ก่อนจะมอง’เต้าหลิง’ที่กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น’เฉินฝู๋’ที่อยู่ด้านข้างก็รีบพูดขึ้นทันที

“ คุณหนู ทำไมท่านถึงให้วิชาฝ่ามือสุริยันจันทราแก่มันเล่า ? ”

“ กลัวอะไร ? มันเป็นวิชาที่ยังไม่สมบูรณ์นะ หากมันฝึกสำเร็จจริงๆ ก็อาจจะฟื้นคืนวิชาฝ่ามือสุริยันจันทราที่ไม่มีคนฝึกสำเร็จมานานแล้วก็ได้ ถึงตอนนั้นไม่แน่มันอาจจะสำเร็จจนถึงขั้นสมบูรณ์แบบเลยก็ได้ ! ”

‘จื่ออวี้’ใช้ฝ่ามือทั้งสองถูกันพลางหัวเราะ ฮิฮิ ออกมา

“ เป็นไปไม่ได้ ”

‘เฉินฝู๋’รีบส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว และพูดต่อว่า

“ อัจฉริยะของแต่ละตระกูลก็ได้ลองฝึกกันหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถฝึกมันสำเร็จเสียที คุณหนูท่านหาใครก็ไม่รู้มาฝึกฝ่ามือสุริยันจันทรา แล้วมันจะไปสำเร็จได้อย่างไรเล่า ? ”

“ และอีกอย่าง พลังกายมันแค่สองหมื่นจิน เทียบกับเทียนเจียวแล้วยังห่างชั้นกันมาก ”

‘เฉินฝู๋’ไม่ยอมรับเด็ดขาด มันไม่เชื่อว่า’เต้าหลิง’จะสามารถสำเร็จวิชาฝ่ามือสุริยันจันทราได้

“ ก็ไม่แน่หรอก ข้าเพิ่งจะให้จู๋เจี้ยนเหลวระดับสี่แก่มันไป ไม่แน่ว่ามันอาจจะทะลวงสู่พลังกายห้าหมื่นจิน ”

‘จื่ออวี้’กล่าวพลางใช้มือลูบไปที่คางอันขาวเนียนของนาง

“ คุณหนู ยิ่งท่านคาดหวังมาก ท่านก็จะยิ่งผิดหวังมากนะ ”

‘เฉินฝู๋’ส่งเสียงหึหึดังออกมา พลังกายห้าหมื่นจินมันเป็นดั่งธรณีประตูที่ยิ่งใหญ่ ยากที่จะทะลวงผ่านไปได้ หากไม่นับอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งทวีปชิงแล้ว ก็ไม่เคยมีใครทะลวงไปถึงธรณีประตูของพลังกายห้าหมื่นจินเลย อีกทั้ง นี่ก็นับแค่ภายในทวีปชิงเท่านั้น หากเทียบกับโลกที่กว้างใหญ่แล้ว ห้าหมื่นจินถือว่าเป็นอัจฉริยะ แปดหมื่นจินถือว่าพบหาได้ยาก ส่วนหนึ่งแสนจินนั้นล้ำค่าและหาตัวจับได้ยากมาก ในภายภาคหน้าพวก มันเหล่านี้จะต้องแข็งแกร่งจนน่ากลัวยิ่ง

ขณะนี้’เต้าหลิง’ก็เดินออกมาจากร้านค้ามหาคลังสมบัติแล้ว ในใจมันรู้สึกดีใจยิ่ง ครั้งนี้มันได้ของมาเพียบเลย ซึ่งเกินความคาดหมายของมันจริงๆ อยากจะรู้นักว่าจู๋เจี้ยนเหลวระดับสี่จะให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมถึงเพียงไหน

‘เต้าหลิง’ก็เดินมาตามถนนได้ซักพัก ทันใดนั้นคิ้วมันก็ขมวดขึ้นทันที เมื่อภาพรอบตัวมันพลันบิดเบี้ยวเปลี่ยนกลายเป็นป่า ต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่

“ ชิ กลลวง ! ”

‘เต้าหลิง’กำหมัดทั้งสองแน่น ใครเป็นคนสร้างกลลวงนี้ขึ้นมากัน ? เพียงเห็นคนที่เดินออกมาจากด้านในป่า ใบหน้าของมันพลันโกรธเกรี้ยวทันที ใบหน้าของหวังเชียนปูดนูนออกมาสูง มันจ้องมอง’เต้าหลิง’อย่างกินเลือดกินเนื้อ ก่อนจะกล่าวเสียงสูงว่า

“ ไอ้บ้านนอก ข้าบอกเจ้าแล้วว่าชีวิตของเจ้าอยู่รอดไม่ถึงเย็นนี้แน่ ! ”

‘หวังเชียน’ระเบิดโทสะออกมาทันที งานที่ร้านค้ามหาคลังสมบัตินั้นกว่าจะได้มาก็ไม่ใช่ง่ายๆ แต่ตอนนี้กลับถูกมันทำลายจนป่นปี้ หากมันไม่ตาย นางก็ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว

“ ฮ่าๆ ใครกันมันช่างห้าวหาญนัก กล้าล่วงเกินพวกเราคนของตระกูลหวัง ข้าขอดูหน่อยว่ามันเป็นใคร ”

ปรากฏเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังหัวเราะออกมาพร้อมกับถ่มน้ำลายลงบนพื้น เพียงมันเห็น’เต้าหลิง’ที่ยืนอยู่ด้านหน้ามัน สีหน้ามันดูตกใจเล็กน้อยก่อนจะกล่าวต่อว่า

“ ฮ่าๆ ที่แท้ก็คือเจ้า ไอ้เทพนิทรา ! ”

‘หวังลี่’ทำท่าทางราวกับเห็นเทพตัวเป็นๆ มันชี้นิ้วไปที่เต้าหลิงก่อนจะหัวเราะเสียงดังออกมา

“ ไอ้ขยะ ฮ่าๆ ที่แท้ก็เป็นเจ้า ฮ่าๆ…. ”

‘หวังลี่’หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ที่แท้ก็เป็นไอ้ขยะนี่เองที่กล้าล่วงเกินคนของตระกูลหวัง สงสัยมันคงอยากตาย มีสิบชีวิตก็ไม่พอสำหรับมันหรอก

“ เยี่ยม ! ”

‘เต้าหลิง’กำหมัดทั้งสองแน่น มันคือ’หวังลี่’ น้องชาย’หวังหลิ่ง’ !

———————————————————

ประกาศ หยุดอัพสองวัน เนื่องจากผู้แปลติดมังงะเรื่องเซียนนี่และนิยายTDG ต้องทำยอดตามให้ทัน บายครับ

ที่มา:

(0 votes) 0/5
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments