I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

GSDZ (盖世帝尊) ตอนที่ 9 : กระบวนท่าเดียว

| GSDZ (盖世帝尊) | 974 | 2367 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลไทย : Xiaoeyugao

ศิษย์ภายในห้องต่างขยี้ตากันใหญ่ สายตาจ้องมองไปที่หินขนาดใหญ่ตรงหน้า ลมหายใจเข้าออกรัวถี่ พวกมันล้วนตกตะลึงยิ่ง ในใจไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น ไอ้ขยะนี่ มันมีกำลังหมัดถึงหนึ่งหมื่นจิน !   หรือว่าจะฝันไป ?

‘เต้าหลิง’มองไปที่หินครู่หนึ่งก่อนจะเบนสายตาออกไป นี่เป็นพลังที่มันจงใจให้ปรากฏ หากมันใช้กำลังเต็มที่ ก็คงจะทำให้หินนี่แหลกเป็นผุยผงแน่ !  ใบหน้าเหี่ยวย่นของรองเจ้าสำนักพลันฉายแววตกตะลึง มองไปที่เต้าหลิงราวกับเห็นผีก็มิปาน จะเป็นไปได้อย่างไร ไอ้เทพนิทรามันจะแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างไร !

‘เยว่อวิ้น’ใช้มือเรียวทาบไปที่ริมฝีปากแดงสดของนางอย่างตกตะลึง  นางไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะมีกำลังถึงหนึ่งหมื่นจิน นี่จะเป็นไปได้อย่างไร ?

“ ปาฏิหาริย์ ”

‘เยว่อวิ้น’คลายคิ้วที่ขมวดกันอยู่ออก ริมฝีปากแดงสดสวยค่อยๆฉีกยิ้มขึ้นอย่างมีความสุข ช่างเป็นรอยยิ้มที่ชวนหลงใหลเสียจริง

“ ไม่จริง ไม่จริง ! ”

‘เฉียนหลิน’พลันกระโดดขึ้นมาเป็นคนแรก พร้อมกับชี้ไปที่หินขนาดใหญ่ ก่อนจะกล่าวด้วยใบหน้าแดงก่ำอย่างโกรธแค้นว่า

“ มันต้องไม่จริงแน่ๆ ไอ้ขยะนี่จะต้องใช้วิชาอสูรมาหรอกพวกเราแน่ มันต้องไม่จริง ! ”

‘เฉียนหลิน’ไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่านี่คือเรื่องจริง มันรู้ถึงพละกำลังหนึ่งหมื่นจินดีที่สุด ไอ้ขยะนี่มันจะฝึกฝนจนแข็งแกร่งถึงหนึ่งหมื่นจินได้อย่างไร ? ผู้คนโดยรอต่างพยักหน้าเห็นด้วย จะต้องไม่จริงแน่ๆ ไอ้ขยะมันผ่านการทดสอบได้ ทว่าพวกมันกลับทำไม่ได้ แล้วอย่างนี้จะให้พวกมันทำอย่างไรเล่า ?

“ มันต้องไม่จริงแน่ๆ ทดสอบใหม่ไปเลย ข้าต้องการให้มันทดสอบใหม่ ! ”

“ ใช่แล้วท่านรองเจ้าสำนัก มันก็แค่ไอ้เทพนิทรา มันไม่มีทางผ่านการทดสอบได้หรอก นี่จะต้องเป็นวิชาอสูรแน่ พวกข้าก็ต้องการให้มันทดสอบใหม่เหมือนกัน ”

‘เต้าหลิง’ยังคงนิ่งเงียบ นี่ไม่ใช่ว่าทดสอบผ่านแล้วหรอกหรือ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกมันจะไม่ยอมรับเช่นนี้ ทว่าในใจของ’เต้าหลิง’ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เพราะว่าจู่ๆมันก็โผล่มาตูมเดียวเช่นนี้ หากเป็นตัวมันเองก็คงจะยากที่จะยอมรับเช่นกัน

ศิษย์โดยรอบต่างตะโกนดังออกมา ในขณะนั้นเอง’เยว่อวิ้น’ก็มองไปที่ใบหน้าของ’เต้าหลิง’ที่ดูไม่สู้ดีนัก คิ้วนางขมวดขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะตะโกนดังออกมาว่า

“ ทุกคนเงียบ นี่พวกเจ้ากำลังทำอะไรกันอยู่ เต้าหลิงทดสอบผ่านก็ถือว่าเป็นความสามารถของมันเอง พวกเจ้าไม่ต้องไปอิจฉาคนอื่น  ! ”

โดยรอบพลันเงียบลงทันที ใบหน้าพวกมันเหล่านั้นล้วนแดงก่ำ ในใจไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่านี่จะเป็นเรื่องจริง มันต้องเป็นเรื่องลวงแน่ ! รองเจ้าสำนักก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน นี่มันจะเป็นเรื่องลวงไปได้อย่างไร ? มันคิดว่าจะปกปิดพลังไม่ให้ข้ารู้ได้อย่างนั้นเหรอ ? เมื่อซักครู่ดูยังไงก็รู้ว่ามันออมพลังเอาไว้ !

‘ อัจฉริยะ อัจฉริยะ ! ’

รองเจ้าสำนักคิดขึ้นในใจก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก นี่ต้องเป็นอัจฉริยะไม่ผิดแน่ จากนั้นมันก็คิดในใจอย่างปีติขึ้นอีกว่า

‘ อัจฉริยะส่วนใหญ่ก็คงมีความคิดต่างจากคนอื่นเช่นนี้แหละ มันคงไม่อยากจะอยู่ที่สำนักนี้แน่ ก็เลยเอาแต่นอน รอคอยให้วันนี้มาถึง ’

‘ ข้าว่าแล้วเชียว เยว่อวิ้นยังอ่อนเกินไป แม้แต่อัจฉริยะคนเดียวก็ยังหาไม่เจอ ’

รองเจ้าสำนักมองไปที่เยว่อวิ้นก่อนจะคิดขึ้นในใจ ทันใดนั้นปรากฏเสียงหนึ่งดังขึ้น

“ อาจารย์ ข้าอยากท้าประลองกับเต้าหลิง ”

‘เฉียนหลิน’ยืนขึ้นด้วยสีหน้าที่ไม่ยอมรับ มันคิดจะแจ้งเกิดที่นี่งั้นเหรอ ? เป็นไปไม่ได้ เพราะว่าในห้องฝึกนี้มีแค่ตัวมันเท่านั้นที่แข็งแกร่งที่สุด ‘เยว่อวิ้น’มองสลับ’เต้าหลิง’กับ’เฉียนหลิน’ด้วยสีหน้าประหลาดใจ รองเจ้าสำนักได้ยินดังนั้นก็ยิ้มขึ้นเบาๆ ก่อนจะคิดขึ้นว่า นี่เจ้าจะท้าประลองกับมันจริงเหรอ ? ดูท่าแค่ฝ่ามือเดียวของมันก็ล้มเจ้าได้แล้วนะ

“ ข้าอนุญาตให้ประลองได้ ”

‘เยว่อวิ้น’พยักหน้าเบาๆ ในใจคิดว่า’เฉียนหลิน’นั้นใจคับแคบเกินไป นางจึงใส่ชื่อมันลงในบัญชีดำของนางเป็นที่เรียบร้อย ศิษย์คนนี้ดูท่าคงจะไม่ประสบผลสำเร็จในชีวิตแน่   ได้ยินดังนั้นเฉียนหลินก็ดีใจยิ่ง ในใจแผดเสียงคำรามออกมาว่า

‘ อาจารย์ก็คงจะรำคานมันเหมือนกันแน่ หากชนะเต้าหลิงได้ที่นี่หละก็ ไม่แน่อาจจะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับอาจารย์มากขึ้นก็ได้ ข้านี่มันฉลาดจริงๆ ฮ่าๆ ’

“ เต้าหลิง เจ้ายอมรับคำท้าข้าหรือไม่ ? ”

‘เฉียนหลิน’มองไปที่’เต้าหลิง’ด้วยสายตาเย็นชา ทว่ามันก็กลัวว่าเต้าหลิงจะไม่ยอมรับ มันจึงกล่าวต่อไปอีกว่า

“ อย่าบอกนะว่าจะไม่กล้า หากเจ้าเป็นชายก็ยอมรับคำท้าข้าซะ ! ”

“ ข้าก็อยู่ตรงหน้าเจ้าแล้วนี่ไง เข้ามาได้เลย ”

‘เต้าหลิง’กล่าวขึ้นพร้อมกับมองไปที่’เฉียนหลิน’

“ เฉียนหลินอัดมันซะ ทำลายวิชาอสูรของมัน ไอ้เทพนิทรามันไม่มีทางประสบความสำเร็จได้หรอก ! ”

ผู้คนโดยรอบเริ่มที่จะตะโกนโห่ร้องออกมา ไอ้เทพนิทรามันแข็งแกร่งขึ้นเหรอ เรื่องนี้พวกมันไม่มีทางยอมรับเด็ดขาด !  ด้วยเสียงโห่ร้องจากโดยรอบ ทำให้สีหน้าของ’เฉียนหลิน’ดูฮึกเหิมขึ้นทันที ทั่วร่างมันปลดปล่อยคลื่นพลังที่น่าหวั่นเกรงออกมาเป็นวงรอบ สายตาที่เย็นยะเยือกจ้องมองไปที่’เต้าหลิง’ ก่อนจะกำหมัดแน่น หากโดนหมัดนี้เข้าไปมันคงไม่รอดแน่ !

“ เต้าหลิง เจ้าเองก็มีกำลังหนึ่งหมื่นจินซึ่งใกล้เคียงกับข้า ดังนั้นข้าจะใช้พลังทั้งหมดที่มีปิดฉากเจ้าซะ ! ”

จากนั้น’เฉียนหลิน’ก็กล่าวต่อด้วยสีหน้าเย็นชาว่า

“ ระวังจะถูกข้าอัดจนตายซะล่ะ ”

“ มาเถอะ ให้ข้าดูหน่อยว่าพลังทั้งหมดของเจ้าจะซักเท่าไหร่กันเชียว ? ”

‘เต้าหลิง’ยักคิ้วขึ้นพร้อมกับกล่าวออกไป ‘เฉียนหลิน’ยืดฝ่ามือออกไป ทันใดนั้นทั่วทั้งฝ่ามือมันปรากฏคลื่นพลังที่แข็งแกร่งเปล่งประกายแสงออกมา ราวกับกระบี่วิเศษ ทำให้มวลอากาศรอบข้างบิดเบี้ยวและไปหมุนวนที่ฝ่ามือมันจนปรากฏออกมาเป็นพลังที่น่าหวาดกลัวยิ่ง

“ นี่มันวิชาฝ่ามือผ่าภูผานี่นา มันเป็นวิชาที่แข็งแกร่งสุดๆ !”

“ ข้าก็เคยได้ยินชื่อวิชานี้เหมือนกัน ได้ยินมาว่าหากฝึกฝนจนทะลวงไปถึงระดับสูงได้ก็จะสามารถผ่าภูเขาขนาดใหญ่ให้ขาดได้เลย หากมันฟันไปที่ตัวของไอ้เทพนิทรา ข้าว่ามันต้องได้นอนอยู่บ้านเฉยๆเป็นเดือนแน่ ”

‘ ฟันมันให้ตายไปเลย ! ’

‘เฉียนอี้’คิดขึ้นในใจ ไอ้ขยะนี่บังอาจมาสร้างความอัปยศให้แก่ข้า

“ ไอ้เทพนิทรา เสร็จข้าแน่ ! ”

นัยน์ตา’เฉียนหลิน’ฉายประกายเย็นยะเยือกออกมา เพียงเห็นท่าทางของ’เต้าหลิง’ที่เอาแต่ยืนนิ่ง ในใจมันก็รู้สึกคึกคักขึ้นมา ไอ้ขยะนี่มันไม่มีวิชาการต่อสู้ หากมันโดนฝ่ามือนี้เข้าไป มันได้เจ็บหนักหรือบางทีอาจจะถึงตายเลยก็ได้  ปรากฏเสียงวิ้งขึ้น จากนั้น’เฉียนหลิน’ก็พุ่งทะยานเข้ามาด้วยความเร็ว แขนทั้งท่อนหมุนควงจนปรากฏเกรียวพลังห้อมล้อมฝ่ามือเอาไว้

ก่อนจะเล็งฟาดไปที่กลางหัวของเต้าหลิง   เพียงเห็นฝ่ามือที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ นัยน์ตา’เต้าหลิง’ก็ยังคงเรียบเฉย มันรู้สึกได้ถึงกลิ่นไอสังหารที่พุ่งเข้ามาอย่างหนาแน่น นี่มันคิดจะฆ่าข้าจริงๆงั้นเหรอ

ทั้งรองเจ้าสำนักและ’เยว่อวิ้น’ต่างขมวดคิ้วขึ้น สีหน้าดูไม่สู้ดีนัก การประลองก็คือการประลอง เหตุใดถึงปล่อยจิตสังหารออกมาเล่า แม้ว่า’เฉียนหลิน’จะซุกซ่อนจิตสังหารเอาไว้เป็นอย่างดี ทว่าก็ไม่อาจพ้นสายตาของยอดฝีมือทั้งสองไปได้

‘ ตายซะ ไอ้ขยะ ! ’

‘เฉียนหลิน’หัวเราะขึ้นในใจ ในขณะที่ฝ่ามือก็ใกล้จะถึงหัวของ’เต้าหลิง’แล้ว

“ ไปให้พ้น ! ”

‘เต้าหลิง’พลันใช้ฝ่ามือยืดออกไป พลังที่หลับใหลอยู่ในร่างพรั่งพรูออกมามากมาย จนทั่วทั้งแขนของมันปรากฏคลื่นพลังโอบล้อมเอาไว้ ทำเอามวลอากาศรอบข้างระเบิดออกทันที

ภายใต้สายตาอันตกตะลึงของผู้คนโดยรอบ ‘เต้าหลิง’สามารถรับฝ่ามือของ’เฉียนหลิน’ได้อยู่หมัด จากนั้นมันก็บิดแขนลงจนร่างของ’เฉียนหลิน’หมุนเป็นเกลียวก่อนจะกลิ้งลงไปกระแทกกับพื้นอย่างแรงจนปรากฏเสียงดังโครมออกมา

กระบวนท่าเดียว !

ใจของศิษย์โดยรอบล้วนเต้นระรัว ดวงตาทั้งสองข้างเบิกโพรงจ้องไปที่ร่างเฉียนหลินที่กำลังนอนสั่นเทาอยู่บนพื้น พวกมันต่างตกตะลึงกับภาพที่เห็นยิ่ง กระบวนท่าเดียว! แค่กระบวนท่าเดียวก็สามารถล้มเจ้าของฉายาจอมราชันย์เฉียนหลินแห่งห้องฝึกนี้ได้ !

บางคนก็ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอดังเฮือก บางคนก็ตกใจจนแทบขาดสติ  พวกมันล้วนมองไปที่เต้าหลิงด้วยแววตาตกตะลึง ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะล้มเฉียนหลินได้ในกระบวนท่าเดียว ทั้งมันยังเป็นไอ้เทพนิทราที่วันๆเอาแต่นอน นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไร ?

“ ฮ่าๆๆ ดีๆๆ ! ”

ใบหน้ารองเจ้าสำนักเต็มไปด้วยรอยยิ้มยินดียิ่ง สายตาจ้องไปที่’เต้าหลิง’ด้วยแววตาลุกโชน มันอายุเท่าไหร่กันนะ? น่าจะประมาณสิบสี่สิบห้า ทว่าพลังกลับน่ากลัวถึงเพียงนี้ ภายภาคหน้าต้องแข็งแกร่งจนไร้ขีดจำกัดแน่

‘เยว่อวิ้น’เองก็ทั้งตกใจและดีใจ ตามที่นางได้คาดเดาไว้ ‘เต้าหลิง’น่าจะมีพละกำลังประมาณสองหมื่นจิน ในตอนที่’หวังหลิ่ง’อยู่ขั้นพลังกายเช่นเดียวกับ’เต้าหลิง’ในตอนนี้นั้น ก็ไม่ได้มีพละกำลังเกินไปกว่านี้แล้ว แม้ว่าจะไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากมายเมื่อเทียบกับโลกใบนี้ ทว่าหากเทียบกับสำนักชิงซานแล้ว ตัวมันนั้นถือว่าหาได้ยากยิ่งนัก

“ ไม่เลว อีกไม่นานจะต้องทะลวงไปถึงขั้นซึมซับวิญญาณได้แน่ อายุมันตอนนี้ก็ยังน้อย น่าจะเข้าสำนักซิงเฉินได้อยู่  ”

‘เยว่อวิ้น’ยิ้มขึ้นในใจ สายตามองไปที่ใบหน้าขาวสะอาดและหล่อเหลาของ’เต้าหลิง’

ในขณะที่โดยรอบเงียบสงัดนั้น ‘เต้าหลิง’ก็มองไปที่แววตาที่ดูปีติของ’เยว่อวิ้น’ มันสูดลมหายใจเข้าลึกอย่างโล่งใจ มันไม่สนใจอยู่แล้วว่าผู้คนโดยรอบจะมองมันด้วยแววตาเช่นไร มันสนใจแค่แววตาที่ผิดหวังในตัวมันมาโดยตลอดของ’เยว่อวิ้น’เท่านั้น ซึ่งบัดนี้มันก็ได้เปลี่ยนไปแล้ว

ขณะนี้รองเจ้าสำนักกำลังจรดลายอักษรตัวใหญ่ลงไปว่า

‘ ผ่านการประเมิน พละกำลังหนึ่งหมื่นจิน ’

ซึ่งมันคิดว่าการที่’เต้าหลิง’ไม่ได้แสดงพลังที่แท้จริงออกมานั้นก็ถือว่าเป็นสิทธิของมัน    ภายใต้ความเงียบสงัด ปรากฏจิตสังหารหนึ่งแผ่กระจายออกมาพร้อมกับร่างของเฉียนหลินที่กำลังยันกายขึ้นมาจากพื้น พลังทั่วร่างมันพลุ่งพล่าน นัยน์ตาสีแดงฉานจ้องไปที่’เต้าหลิง’อย่างเคียดแค้นก่อนจะแผดเสียงคำรามออกมาว่า

“ ตายซะ ! ”

บัดนี้’เฉียนหลิน’ขาดสติไปเสียแล้ว มันดื่มยากระตุ้นพลังเข้าไปหนึ่งขวด เพื่อที่จะต้องฆ่า’เต้าหลิง’ให้ได้ ! ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันเมื่อซักครู่ ทำให้ผู้คนโดยรอบต่างตกตะลึงยิ่งกว่าเดิม ‘เฉียนหลิน’มันบ้าไปแล้ว ถึงขั้นดื่มยากระตุ้นพลังเข้าไป ทั้งยังคิดจะฆ่า’เต้าหลิง’อีก อาจารย์จะต้องไม่ยกโทษให้มันแน่

“ อะไรกัน ? ”

ทั้งสีหน้าของ’เยว่อวิ้น’และรองเจ้าสำนักพลันเปลี่ยนเป็นวิตก เวลานี้ฝ่ามือของ’เฉียนหลิน’ก็จะพุ่งโดนหน้าอกของ’เต้าหลิง’แล้ว ไม่ว่ายังไงพวกมันก็คงห้ามไม่ทันแล้ว ขณะนี้ระยะห่างระหว่างพวกมันทั้งสองใกล้กันมากขึ้นเรื่อย นัยน์ตาพวกมันทั้งคู่เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ

หากโดนฝ่ามือนี้เข้าไป’เต้าหลิง’ได้เสร็จมันแน่ หากไม่ตายก็ต้องสาหัส ภายภาคหน้าคงยากที่จะประสบความสำเร็จ   ยาที่’เฉียนหลิน’ดื่มเข้าไปนั้นมีสรรพคุณที่ดีเยี่ยมนัก พลังทั่วร่างของมันพุ่งทะลักออกมามากมายประดุจกับวัวคลั่งที่ควบคุมไม่อยู่ เป้าหมายอย่างเดียวคือฆ่าศัตรูที่อยู่ตรงหน้า !

“ หึ นี่เจ้ารนหาที่เองนะ ”

‘เต้าหลิง’ส่งเสียงหึในลำคออย่างเยือกเย็น พลังที่อยู่ในร่างของมันก็พุ่งทะลักออกมาทั่วร่างเช่นกัน ก่อนจะไหลเชี่ยวไปรวมกันอยู่ที่หน้าอกและระเบิดคลื่นพลังออกมา

ตูม !

ปรากฏเสียงระเบิดดังขึ้นเมื่อฝ่ามือของ’เฉียนหลิน’ประทับเข้าที่หน้าอกของ’เต้าหลิง’ ทว่ามันกลับรู้สึกเหมือนถูกคลื่นพลังที่แกร่งกล้ากระแทกกลับมา จนทั่วร่างมันสั่นสะท้าน โลหิตโพยพุ่งออกมาจากปากเป็นกองใหญ่ ก่อนที่ร่างของมันจะกระเด็นลอยออกไปและไปตกอยู่ที่พื้นห้องฝึกอย่างรุนแรง ส่งเสียงครวญครางร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

ที่มา:

(0 votes) 0/5
ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments