I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

GSDZ (盖世帝尊) ตอนที่ 12 เต้าหยวนเหลว

| GSDZ (盖世帝尊) | 2330 | 2363 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลไทย : XiaoeyuGao

ขณะนี้ความมืดก็มาเยือน แสงจากดวงดาวต่างเปล่งแสงสว่างทั่วฟ้า แสงจันทร์สาดส่องลงมาเป็นเส้นสวยงาม ทำให้ค่ำคืนที่เงียบเหงานี้ไม่หนาวเย็นอีกต่อไป ปรากฏร่าง’เต้าหลิง’กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ในห้อง พลังบริสุทธิ์โอบล้อมทั่วร่าง กล้ามเนื้อต่างอัดแน่นไปด้วยคลื่นพลังที่แข็งแกร่ง ทำให้มวลอากาศโดยรอบระเบิดออกจนปรากฏเสียงดังออกมา

สีหน้า’เยว่อวิ้น’ดูแปลกใจเล็กน้อย โอสถเหลวจี๋เซียนถูก’เต้าหลิง’ซึมซับไปทั้งหมดแล้ว ทว่านางกลับรู้สึกราวกับว่ามันยังสามารถซึมซับต่อไปได้อีก …

“ หรือว่าคุณสมบัติร่างกายมันจะพิเศษ ? ”

นางขมวดคิ้วจนหัวคิ้วมาชนกัน เคียวดกดำเลิกขึ้นเล็กน้อย จากนั้นนางก็ส่ายหน้า หากคุณสมบัติร่างกาย’เต้าหลิง’พิเศษจริง นางก็ต้องสัมผัสได้

“ บางทีพรสวรรค์ทางร่างกายมันอาจจะดีเยี่ยม คุณลักษณะพิเศษเฉพาะตัวนี้หากเทียบกับคุณสมบัติร่างกายแบบทั่วไป ก็นับได้ว่าดีเป็นที่หนึ่งเลย ภายภาคหน้าหากโชคดีซักหน่อย ความสำเร็จของมันจะต้องยิ่งใหญ่แน่  ”

‘เยว่อวิ้น’คิดขึ้นในใจ แม้ว่าการฝึกจิตพื้นฐานจะเป็นแบบของคุณสมบัติร่างกายทั่วไป ทว่าคุณลักษณะพิเศษเฉพาะตัวนี้หาได้ยากยิ่ง และพลังแฝงของคนประเภทนี้ก็มักจะสูงกว่าคุณสมบัติร่างกายแบบพิเศษอยู่นิดนึงด้วย   เพราะว่าคุณสมบัติร่างกายแบบพิเศษนั้นมักจะมีพรสวรรค์ทางร่างกายอยู่

แต่คุณสมบัติร่างกายแบบทั่วไปนั้นจะธรรมดา แต่หากคุณสมบัติร่างกายแบบทั่วไปมีความสามารถล้ำหน้าเกินคุณสมบัติร่างกายแบบพิเศษไป นั่นก็แสดงว่าในภายภาคหน้าความสำเร็จของมันจะต้องยิ่งใหญ่แน่ เพียงเห็น’เต้าหลิง’ที่เริ่มจะออกจากสมาธิ ‘เยว่อวิ้น’ก็ยิ้มนิดๆแล้วกล่าว

“ รู้สึกอย่างไรบ้าง ? ”

“ โอสถเหลวนี้มันเป็นโอสถปาฏิหาริย์จริงๆเลยขอรับ ”

‘เต้าหลิง’ลูบไล้ไปที่กายของตน ใบหน้าเล็กฉายแววปีติออกมา มันยิ้มกว้างออกมาแล้วกล่าว

“ มันเป็นโอสถอะไรหรือขอรับ ? ข้ารู้สึกได้ถึงพลังดุร้ายในกายข้าที่ถูกกักขังเอาไว้ และส่วนใหญ่ก็หลอมรวมกับเลือดเนื้อกลายเป็นเตาหนึ่งในกายข้าด้วย ”

‘เต้าหลิง’กำหมัดเบาๆ  มันรู้สึกได้เลยว่าพื้นฐานร่างกายมันได้ผลัดเปลี่ยนไปแล้ว ในใจก็นึกชื่นชมความสามารถของอาจารย์ยิ่ง ที่ใช้แค่โอสถเหลวขวดเดียวก็สามารถแก้ไขร่างกายที่พังยับเยินของมันได้ ความสามารถนี้มันช่างปาฏิหาริย์จริงๆ …

“ นี่คือโอสถเหลวจี๋เซียนชนิดหนึ่ง ช่วยให้ผู้ที่อยู่ขั้นพลังกายสามารถดึงพลังที่แฝงอยู่ในร่างออกมาได้ ”

‘เยว่อวิ้น’อมยิ้มก่อนจะกล่าวต่อ

“ ร่างกายของเจ้าก็ไม่เลวเลย ข้าว่าเจ้าน่าจะฝึกฝนพลังและร่างกายซักหน่อย ก็น่าจะสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นซึมซับวิญญาณได้แล้ว ”

“ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง ”

‘เต้าหลิง’พยักหน้า นัยน์ตาเป็นประกายออกมา ขณะนี้พลังที่ปั่นป่วนในร่างกายมันก็กลับมาสงบอีกครั้ง เช่นนี้ก็สามารถใช้โลหิตแท้จริงสัตว์อสูรเกล็ดเสือดาวมาทะลวงขีดจำกัดไปได้แล้ว หากกลับไปมีอาการแบบเก่าอีก ก็สามารถใช้โอสถเหลวจี๋เซียนแก้ไขได้

หาก’เยว่อวิ้น’รู้ว่ามันคิดแค่จะโอสถเหลวจี๋เซียนมาเสริมความแข็งแกร่งของร่างกายมัน คาดว่านางคงร้องไห้ตายแน่ เพราะว่าโอสถเหลวชนิดนี้ล้ำค่าเป็นอย่างมาก คนธรรมดาย่อมหามันมาไม่ได้แน่

“ เต้าหลิง ภายในสองสามวันนี้เจ้าต้องตั้งใจฝึกซ้อมนะ โอกาสที่ร่างกายของเจ้าจะผ่านการทดสอบมีสูงมาก หากเจ้าได้ลำดับที่ดีๆ ก็จะได้สิทธิพิเศษมากมายเลย  ”

‘เยว่อวิ้น’พูดขึ้น นัยน์ตาฉายประกายมีความหวังออกมาเล็กน้อย

“ มีสิทธิพิเศษอะไรบ้างขอรับ ? ”

‘เต้าหลิง’กล่าวพลางนำเสื้อขึ้นมาสวมใส่ ก่อนจะอดใจถามขึ้นต่อไม่ได้ว่า

“ แค่เข้าร่วมการสอบยังได้สิทธิพิเศษด้วยหรือขอรับ ? ”

“ ถ้าเกิดติดลำดับหนึ่งในสิบ ก็จะสามารถไปเลือกวิชายุทธ์ที่หอคัมภีร์ยุทธ์แห่งสำนักซิงเฉินมาได้หนึ่งวิชา ไม่แน่ถ้าดวงดีอาจจะได้วิชามหัศจรรย์มาก็ได้นะ นอกจากนี้ยังได้รางวัลเป็นโอสถเม็ดอีกด้วย  ”

‘เยว่อวิ้น’ขบริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงสดของนาง จากนั้นก็ส่ายหน้าสองสามครั้ง สิ่งที่นางกล่าวมานั้นสูงเกินเอื้อมไป แค่มันสามารถติดลำดับหนึ่งในร้อยได้ก็ยอดเยี่ยมแล้ว เพราะว่าการสอบครั้งนี้ไม่เหมือนการสอบแบบทั่วๆไป

ในใจ’เต้าหลิง’ก็เริ่มคิดขึ้นมาว่า วิชามหัศจรรย์เป็นวิชาที่น่าหวาดกลัวยิ่ง และความน่ากลังของมัน’เต้าหลิง’ก็เคยได้ยินได้ฟังมาบ้าง ไม่คิดเลยว่าที่สำนักซิงเฉินจะมีของดีๆแบบนั้นอยู่ วิชาแบบทั่วไปนั้นจะแบ่งออกเป็นสามระดับคือ ต้น กลางและสูง

ยกตัวอย่างเช่นสำนักซิงเฉินมีวิชาระดับสูงอยู่หนึ่งวิชา เป็นต้น   และที่อยู่สูงกว่าก็คือวิชามหัศจรรย์ ซึ่งทุกๆวิชาจะมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังมีเจ็ดสิบสองยอดวิชามหัศจรรย์ที่สืบทอดกันมายาวนานอีกด้วย ซึ่งแต่ละยอดวิชามหัศจรรย์จะมีพลานุภาพที่สามารถพลิกคว่ำแม่น้ำหรือเด็ดดวงดาวลงมาได้เลย

ส่วนสิบยอดวิชาปาฏิหาริย์ สำหรับเยว่อวิ้นนั้น มันเป็นสุดยอดวิชาที่ยิ่งใหญ่เหนือใต้หล้า ! เพียงเห็นแววตาที่ลุกโชนของ’เต้าหลิง’ ‘เยว่อวิ้น’ก็หัวเราะในใจขึ้น ติดหนึ่งในสิบคนแรกเป็นสิ่งที่ยากมากๆ ร่างกายของ’เต้าหลิง’แม้ว่าจะผ่านการสอบได้ ทว่าการติดหนึ่งในสิบสำหรับมันแล้วคงจะยากเกินไปหน่อย

ทว่าหากมันสามารถใช้ความสามารถของมันติดลำดับหนึ่งในสิบได้จริง ไม่แน่อนาคตของทวีปชิงอาจจะเปล่งแสงแวววาวออกมาจริงๆก็ได้   ‘เต้าหลิง’แหงนมองดูสีของท้องฟ้า ก่อนจะลุกขึ้นแล้วกล่าวลา ‘เยว่อวิ้น’พยักหน้าให้ ก่อนจะเดินไปส่งมันที่ หน้าประตู และท้ายที่สุดนางกล่าวออกไปว่า

“ ตั้งใจฝึกฝนล่ะ ”

ได้ยินดังนั้น ร่างของ’เต้าหลิง’ก็ชะงัก ก่อนจะหันหน้ามามองที่นัยน์ตาของนาง ดวงตาของทั้งคู่ต่างจ้องประสานกัน นัยน์ตาใสของ’เยว่อวิ้น’พลันหลบต่ำลง ในใจคิดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า

“ ทำไมข้าต้องฝากความหวังไว้กับมันด้วยนะ ยังไงปีสองปีนี้ข้าก็สบายแล้ว ”

“ ขอรับ ”

‘เต้าหลิง’ยิ้มอย่างอบอุ่นออกมา ก่อนจะเดินจากไป พระจันทร์ที่ส่องแสงสุกสกาวออกมาทำให้ปรากฏเงารูปร่างผอมบางหนึ่งกำลังค่อยๆเดินลับหายไปในเงามืด

… ฝีเท้าที่เร่งรีบก้าวเข้ามาภายในบ้าน ‘เต้าหลิง’ใช้มือปิดประตูบ้าน จากนั้นก็นั่งขัดสมาธิลงบนเตียง พลันปรากฏขวดหยกขวดหนึ่งขึ้นในมือมัน ‘เต้าหลิง’รู้ดีว่าการจะกินโลหิตแท้จริงสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์ในตอนนี้มันจะยังรวดเร็วเกินไปหน่อย ทว่าอีกไม่กี่ก็จะถึงวันสอบเข้าสำนักซิงเฉินแล้ว เพื่อไม่ให้มีอะไรผิดพลาด มันจึงต้องเร่งเพิ่มความแข็งแกร่งให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

อย่างมากก็ขอให้เข้าไปในสำนักซิงเฉินให้ได้ก่อน จากนั้นค่อยหาวิธีแก้ไขอาการต่างๆที่ตามมาทีหลัง

“ มันจะช่วยเพิ่มพลังให้ข้าเท่าไหร่กัน ? ”

สายตาจ้องไปที่โลหิตแท้จริงสีแดงสองสามหยดที่อยู่ในขวดหยก มันสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วก็รู้สึกได้ถึงพลังจำนวนมหาศาลที่อยู่ในโลหิตแท้จริงนั่น ทว่ามันก็ไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อยที่จะกระดกมันลงไป โลหิตแท้จริงสัตว์อสูรเกล็ดเสือดาวแล่นไหลลงไปอยู่กลางท้องของมัน ก่อนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าหวาดหวั่นขึ้น

หยดโลหิตเหล่านั้นได้หลอมรวมเข้าด้วยกันและก่อรูปขึ้นเป็นสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์ที่น่ายำเกรง มันแผดเสียงอย่างคึกคัก และยังปลดปล่อยพลังที่น่ากลัวออกมาอีกด้วย

“ ก๊าซซซ ! ”

สัตว์อสูรเกล็ดเสือดาวน่ากลัวยิ่งนัก ทั่วร่างมันเปล่งประกายสีทองแวววับจับตา ราวกับเป็นกำแพงปีศาจที่ตั้งตระหง่านอยู่ภายใน พลังทุกเส้นพลังปลดปล่อยออกมาภายในร่าง กล้ามเนื้อภายในร่าง’เต้าหลิง’พลันบิดเบี้ยวใกล้จะระเบิดออกเต็มที !

สัตว์อสูรเกล็ดเสือดาวนั้นเป็นสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์ อยู่โลกภายนอกนั้นมันเป็นราชา ตามคำเล่าขานมัน อาศัยอยู่ในที่อันตรายยิ่ง และนอกจากนี้มันยังมีสายเลือดของเทพสัตว์อสูรกิเลนอีกด้วย !

ดังนั้นโลหิตแท้จริงของมันถึงได้ล้ำค่ามากๆ ทั้งยังมากกว่าสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์ตัวอื่นๆอยู่หลายขั้น เพราะว่าสัตว์อสูรตัวนี้ได้มีโอกาสสืบเชื้อโลหิตแท้จริงจากเทพสัตว์อสูรกิเลนมา บางทีมันอาจจะมีโอกาสได้วิวัฒนาการเป็นเทพสัตว์อสูรก็ได้ !

‘เต้าหลิง’ยังคงนั่งสมาธิ ทันใดนั้นภายในร่างมันปรากฏเสียงหนึ่งดังขึ้น ราวกับบทเพลงเรียกวิญญาณก็มิปาน ตัวหนังสือโบราณสีทองปรากฏขึ้นในท้องของมัน ทุกๆตัวอักษรล้วนราวกับว่ามีน้ำหนักมากถึงหมื่นจวิน ก่อนที่เหล่าตัวอักษรจะหล่นทับร่างของสัตว์อสูรเกล็ดเสือดาวเอาไว้ !

(1จวิน = 30 ชั่ง)

สัตว์อสูรเกล็ดเสือดาวแผดเสียงคำรามออกมา ร่างที่ถูกกดทับเอาไว้พยามที่จะขัดขืน ประกายแสงสีทองทั่วร่างมันพลันมลายหายไป เพียงเห็นภาพดังกล่าว ‘เต้าหลิง’หอบออกมาแล้วกล่าว

“ น่ากลัวจริงๆ  ดูแล้ววิชากลืนฟ้าน่าจะยังแสดงพลังออกมาเพียงนิดเดียวเท่านั้น  ไม่รู้ว่าภายภาคหน้ามันจะแข็งแกร่งขึ้นถึงขั้นไหน !”

วิชากลืนฟ้าใช้รูปแบบนี้ในการกำราบสัตว์อสูรเกล็ดเสือดาว ทำให้มันรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย อีกทั้งตามที่ได้ยินมาคือในตอนที่พบเจอกับโลหิตแท้จริงเทพสัตว์อสูร มันก็จะแสดงพลังรูปแบบนี้ออกมาโดยอัตโนมัติด้วย  สัตว์อสูรเกล็ดเสือดาวแผดเสียงคำรามออกมาลั่น ร่างกายสีทองของมันระเบิดพลังจำนวนมหาศาลออกมา

ทำให้อักษรโบราณสีทองสั่นสะท้านขึ้น จนเศษพลังแตกออกมาเล็กน้อย และก็ทำให้เต้าหลิงรู้สึกว่าร่างกายของมันกำลังปริแตกออก มันสงบจิตใจรวบรวมสมาธิ ก่อนจะอ่านตัวอักษรเหล่านั้นด้วยความรวดเร็ว ยิ่งมันอ่านเร็วเท่าไหร่ ตัวอักษรสีทองก็ยิ่งหนักอึ้งขึ้นเท่านั้น

ร่างของอสูรเกล็ดเสือดาวเริ่มปริแตกออก ก่อนจะกลับกลายเป็นโลหิตแท้จริงสีทองดังเดิม ไม่นานปรากฏพลังที่แข็งแกร่งขึ้นในร่างกาย โลหิตแท้จริงสีทองหลอมละลายคล้ายของเหลวหนืด ทุกๆหยดโลหิตที่ละลายขยายออกกลายเป็นธารโลหิตสายใหญ่ระเบิดออกมา !

ตูม !

ภายในร่างของ’เต้าหลิง’ปรากฏเสียงกระทบกันดังขึ้นประดุจลูกคลื่นใหญ่ซัดสาด ใบหน้าเล็กของมันบิดเบี้ยว หมัดทั้งสองกำแน่น ขณะนี้คลื่นกำลังพุ่งทะลวงเข้าไปที่ประตูขีดจำกัดของร่างกาย จึงทำให้ร่างกายมันนั้นเจ็บปวดอย่างสุดแสน ภายใต้การทำงานของวิชากลืนฟ้า

ภายในโลหิตแท้จริงสัตว์อสูรเกล็ดเสือดาวปรากฏพลังที่ฮึกเหิมคึกคักออกมา และในทุกเส้นพลังล้วนมีพลังที่ดุร้ายแฝงมาด้วย ภายในร่างของเต้าหลิงกลายเป็นสีทอง อวัยวะภายในร่างกำลังปลุกปั่น กระดูกทั่วร่างปรากฏเสียงดังออกมา กล้ามเนื้อทั่วร่างราวกับว่ามันกำลังฟื้นฟูอยู่ก็มิปาน

“ โลหิตแท้จริงช่างน่ากลัวจริงๆ ข้ารู้สึกได้ถึงพลังที่เปี่ยมล้นเลย ! ”

ทั่วใบหน้าเต้าหลิงเต็มไปด้วยความตกใจ นี่ถือว่าเป็นการเสริมความแข็งแกร่งครบทุกด้าน และมันก็รู้สึกอีกว่าพลังแฝงในร่างมันเริ่มที่จะเพิ่มขึ้นอีกมากโขด้วย วิชากลืนฟ้าน่ากลัวยิ่งนัก มันสามารถดึงพลังแฝงของสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์มาเข้าสู่ร่างกายได้ จินตนาการไม่ออกเลยว่าหากเป็นคนธรรมดาจะเกิดอะไรขึ้น

ไม่นานภายในร่างของ’เต้าหลิง’ก็ขับเปลวเพลิงร้อนแรงและประกายสีทองออกมา สว่างรุ่งโรจน์ละลานตา ทำให้ภายในห้องสว่างจ้าขึ้นทันใด ราวกับว่าตัวมันเป็นดวงอาทิตย์ขนาดเล็กที่เปล่งปลั่งแสงจ้าออกมา

“ โปะ ! ”

ปรากฏเสียงหนึ่งดังขึ้นในร่างมันอย่างรุนแรง ส่งเสียงดังกึกก้อง บางสิ่งที่ควบคุมพลังที่ถึงขีดสุดเอาไว้ บัดนี้มันระเบิดออกมาแล้ว !

ทันทีที่เสียงตูมดังขึ้น ปรากฏคลื่นพลังสีทองอร่ามกระจายออกมา ร่างของมันเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่กำลังหมุนอยู่ ปลดปล่อยระลอกคลื่นสีทองออกมาเต็ม ทั้งยังส่องประกายขึ้นในห้องจนสว่างจ้าขึ้นมา

ปรากฏพลังที่แข็งแกร่งยิ่งหนึ่งตื่นขึ้นมา ระลอกคลื่นสีทองก็ยิ่งสว่างจ้าขึ้น มวลอากาศโดยรอบปริออก กำแพงห้องรอบข้างก็เริ่มที่จะปรากฏรอยร้าวขึ้นเป็นแนว   พลังที่แข็งแกร่งสีทองนั้นทะลวงเข้าไปหลอมรวมกับกระดูกและกล้ามเนื้อมันอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ทั้งเลือดและเนื้อทั่วร่างราวกับฟื้นคืนอีกครั้ง

ก่อนจะระเบิดคลื่นพลังที่แข็งแกร่งกล้าไร้เทียมทานออกมาอย่างต่อเนื่อง ห้องโอนเอน ราวกับใกล้จะถล่มลงมา และในขณะนั้นเอง พื้นห้องที่ทำขึ้นด้วยหินสีดำก็เปล่งแสงเครื่องหมายสีเงินออกมา ดูแล้วศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก

เครื่องหมายสีเงินเปล่งปลั่งออกมาทั่ว และห่อหุ้มคลื่นพลังสีทองที่ระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่งเอาไว้ ก่อนที่ห้องที่กำลังจะถล่มลงมานั้นจะสงบนิ่งดังเดิม จากนั้นเครื่องหมายสีเงินพลันหายไปในอากาศทันที

ทุกอย่างนิ่งสงัดมาราวหนึ่งถึงสองชั่วยามแล้ว ทันใดนั้นประตูห้องก็เปิดออกทันใด ปรากฏชายวัยกลางคนผู้หนึ่งสภาพดูน่าเวทนาทั้งยังไว้หนวดไว้เคราเดินเข้ามา ทุกย่างก้าวตัวก็จะเอียงกระเผลกไปด้วย ‘อาเป๋’ใช้สายตาสาดส่องเข้ามา และก็พบเข้ากับร่างของเต้าหลิงที่กำลังนั่งขัดสมาธิฝึกจิตอยู่บนเตียง นัยน์ตามันแทบจะถลนออกมาทั้งหมด

มันรู้สึกตื้นตันใจยิ่ง ก่อนจะกล่าวน้ำเสียงสั่นว่า

“ นี่..นี่ทำสำเร็จแล้วงั้นหรอ? ”

นัยน์ตาที่ตื้นตันใจของ’อาเป๋’กำลังมองไปที่ร่างหนึ่งที่นั่งอยู่บนเตียง มันรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งหนึ่ง ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยใบหน้าทั้งดีใจและตกใจ

“ กลิ่นไอพลังนี่ มันใกล้เคียงกับพลังของสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์ระดับต้น ! ”

“ กระต่ายน้อยนี่เจ้ากินอะไรเข้าไป ? ทำไมพลังถึงได้แข็งแกร่งขึ้นขนาดนี้ ! ”

ใบหน้า’อาเป๋’เต็มไปด้วยความตกตะลึง มันรู้สึกได้ถึงพลังในร่างของเต้าหลิงที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับติดจรวดได้

“ หรือว่าจะกินโอสถเหลวชั้นเยี่ยมเข้าไป ? ”

‘อาเป๋’ใช้ฝ่ามือถูกัน ในใจก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง ราวกับเป็นเด็กที่กำลังวิ่งเล่นอย่างซุกซนในห้องนี้ ก่อนจะพูดกับตัวเองว่า

“ เมื่อก่อนมันไม่มีจุดกำเนิดพลัง หรือว่าตอนนี้มันจะมีแล้ว ? ”

“ แต่ว่า.. ”

คิ้วของ’อาเป๋’ขมวดขึ้น และตรวจสอบพลังของ’เต้าหลิง’อย่างละเอียดครู่หนึ่ง ก่อนจะเกาหัวแล้วกล่าวว่า

“ ไม่มีคลื่นพลังจากจุดกำเนิดพลังเลย นี่มันเกิดอะไรขึ้น? พลังก็ไม่น่าจะทะลวงได้รวดเร็วเช่นนี้ จะฝืนกฎธรรมชาติเกินไปแล้ว  ”

ขณะนี้’อาเป๋’ก็หยิบกระปุกหยกหนึ่งออกมาจากช่องหน้าอกเสื้อ ด้านในปรากฏหยดน้ำสีม่วงหนึ่งหยด คลื่นพลังสีม่วงปะทุขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ปลดปล่อยแสงสว่างทแยงตาออกมา เหมือนกับหยกศักดิ์สิทธิ์สีม่วงสวย ดูท่าคงจะไม่ธรรมดามากแน่

‘อาเป๋’สูดลมหายใจลึก ก่อนจะนำของเหลวล้ำค่าสีม่วงหยดลงบนกลางหัวของ’เต้าหลิง’ สายตายังคงจับจ้องรอดูผล ของเหลวสีม่วงมาปรากฏอยู่กลางหัวของ’เต้าหลิง’ได้ครู่เดียวก็มลายหายไปทันที ภายในร่างของมันก็ปรากฏพลังสีม่วงขึ้น ทั้งยังตลบอบอวนไปทั่วเหมือนกับควันสีม่วงที่แพร่กระจายอยู่ในร่าง

พลังสีม่วงนี้ดูลึกลับยิ่งนัก พอมันเคลื่อนตัวผ่านกล้ามเนื้อมันก็มลายหายไปทันที ทันใดนั้นภายในร่างเต้าหลิงก็ระเบิดคลื่นพลังออกมา ทั้งน่ากลัว เก่าแก่ และดุร้าย !

ก่อนที่คลื่นพลังที่น่ากลัวจนถึงขีดสุดนั้นจะถูกกักเก็บอยู่ทั่วร่างของ’เต้าหลิง’ มันแค่ปรากฏออกมาแค่แวบเดียวเท่านั้น ก็กลับไปสงบนิ่งดังเดิม หากมันระเบิดออกมา คงจะสามารถถล่มฟ้าถล่มดินได้แน่ !

‘อาเป๋’กล่าวขึ้นด้วยใบหน้าตื้นตันใจว่า

“ เต้าหยวนเหลวนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ สามารถช่วยให้เจ้ากระต่ายน้อยฟื้นฟูจุดกำเนิดพลังในตอนนี้ได้ เพียงแค่ข้าหาเต้าหยวนเหลวมาให้ได้เพียงพอ เท่านี้ก็จะสามารถซ่อมแซมได้ทั้งหมด ! ”

“ ลั่วอวิ๋น เจ้าเห็นหรือไม่ ? ”

นัยน์ตาทั้งสองข้างของ’อาเป๋’ฉายแววทั้งตกใจและดีใจออกมายิ่ง ก่อนจะพูดกับตัวเองเบาๆว่า

“ เจ้าเห็นหรือไม่ ? ลูกชายของเราทำสำเร็จแล้ว ”

_________________________________________

สรุปตารางวิชาตามความเทพ 1 วิชาธรรมดา

ระดับต้นกลางสูง ( หมัดแยกดารา )

2 วิชามหัศจรรย์ 3 เจ็ดสิบสองยอดวิชามหัศจรรย์ 4 สิบยอดวิชาปาฏิหาริย์ ( ฝ่ามือสุริยันจันทราของพระเอก )

++ฝากคอมเม้นติชมให้กำลังใจกันด้วยนะครับ ^^

ช่วงภาษาจีนตอนละนิดชีวิตประจำวัน ตอนนี้เสนอคำว่า 吃饭(chī fàn) ชือฟ่าน แปลว่ากินข้าว

ตัวอย่างท่องจำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

你吃饭了吗?(nǐ chī fàn le ma  ) หนี่ชือฟ่านเลอมา คุณกินข้าวหรือยัง ?

我吃了(wǒ chī le ) หว่อชือเหรอะ ฉันกินแล้ว

我还没吃 (wǒ hái méi chī  ) หว่อไหเหมยชือ ฉันยังไม่ได้กิน

ที่มา:

(0 votes) 0/5
ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments