I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

GSDZ (盖世帝尊) ตอนที่ 18 อู่ตี้

| GSDZ (盖世帝尊) | 952 | 2361 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลไทย : XiaoeyuGao

เด็กสาวชุดคลุมมีบุคลิกลักษณะที่เป็นเอกเลิศไม่เป็นสองรองใคร ชายเสื้อคลุมนางปลิวไสว นัยน์ตาฉายประกายเจ้าเล่ห์ออกมา มองดูแล้วให้ความรู้สึกแปลกประหลาด เชื่อว่านางยังคงมีบางอย่างซุกซ่อนเอาไว้อยู่แน่ เพียงเห็นเด็กสาวที่เดินมา ผู้คนโดยรอบต่างซุบซิบกัน พวกมันต่างรู้สึกเร่าร้อนยิ่ง อยากจะเข้าไปทำความรู้จักใจแทบขาด

ทว่าด้วยอารักษ์ขาและผู้ติดตามที่อยู่รอบตัวนาง ทำให้พวกมันล้วนไม่กล้าเข้าใกล้

“ นางคือกันเหยา องค์หญิงน้อยแห่งราชวงษ์กัน และยังเป็นองค์หญิงที่คนในราชวงษ์เอ็นดูมากที่สุด ! ”

“ ที่แท้ก็เป็นนาง ได้ยินว่านางมีคุณสมบัติร่างกายที่พิเศษ มีพรสวรรค์สูงส่ง ทั้งยังได้ศึกษาคัมภีร์โบราณจักรพรรดิกันด้วย ”

“ ใช่แล้ว คัมภีร์โบราณจักรพรรดิกันเป็นคัมภีร์ที่สูงส่งที่สุดในราชวงษ์กัน ภายภาคหน้ากันเหยาจะต้องเป็นจอมยุทธ์สาวผู้มีชื่อเสียงโด่งดังแน่ !  ”

ผู้คนโดยรอบล้วนใจสั่นสะท้าน ราชวงษ์กันเป็นดินแดนลึกลับขนาดใหญ่ทั้งยังมีอิทธิพลกว้างขวาง และวิชาที่มีอานุภาพสูงที่สุดของตระกูลพวกมันก็น่ากลัวจนไร้ที่เปรียบ มีเพียงไม่กี่สุดยอดวิชาเท่านั้นที่ล้ำกว่า ‘เต้าหลิง’เกาไปที่หัวของมัน อำนาจสูงส่งเช่นนี้มันพึ่งจะเคยได้ยินเป็นครั้งแรก

ทั้งนกหงส์ก็ดูไม่ธรรมดามาก รถหงส์ก็ดูน่ายำเกรง มันช่างเป็นของล้ำค่าที่แปลกประหลาดเสียจริง

“ หือ องค์หญิงน้อยทรงไม่เข้าหอคอยทงหลิงหรอกหรือ ? ”

มีคนสงสัยถามขึ้น เพราะเห็นนางเดินไปด้านหน้า มันอยากจะรู้นักว่าจะมีใครเข้าไปในหอคอยทงหลิงบ้าง ด้านในหอคอยนี้มีพลังของชีวิตอยู่ หากดูดซึมได้คงจะส่งผลดีต่อร่างกายไม่น้อย  อีกทั้งยิ่งขึ้นไปสูงเท่าไร พลังชีวิตก็จะยิ่งเข้มข้นมากขึ้นเท่านั้น !

ผู้คนกลุ่มหนึ่งมองไปโดยรอบก่อนจะเดินตามไป  ‘เต้าหลิง’และ’เยว่อวิ้น’ก็เดินตามไปเช่นกัน ทว่าองค์รักษ์ที่อยู่ด้านหน้าเข้มงวดยิ่ง พวกมันกระจายโอบล้อมไว้ทั้งสี่ด้าน ไม่ยอมให้ผู้ใดได้เข้าใกล้องค์หญิงน้อย ชายหนุ่มจำนวนมากล้วนรู้สึกเสียดาย ใครเล่าจะไม่อยากสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับนาง

“ ข้าเข้าใจแล้ว องค์หญิงน้อยจะต้องไปที่ศิลามหาเทพยุทธ์แน่ พวกเรารีบไปดูกันเถอะ !  ”

มีคนพูดเสียงดังขึ้น

“ โอ้ว ไม่อยากจะเชื่อองค์หญิงน้อยจะไปที่ศิลามหาเทพยุทธ์ นางต้องไปสลักชื่อลงบนนั้นแน่ อยากรู้จริงๆ ว่านางจะได้ลำดับที่เท่าไหร่ ? ”

ผู้คนกลุ่มเดิมรู้สึกเร่าร้อนขึ้นมาทันที พวกมันคุยกันในระหว่างที่วิ่งไปด้วย อยากจะไปเห็นด้วยตาของตนเอง ทว่าบรรยากาศกลับดูคึกคักยิ่ง ซึ่งโดยปกติแล้วจะไม่ดูคึกคักเช่นนี้

“ ศิลามหาเทพยุทธ์คืออะไรหรือขอรับ ? ”

‘เต้าหลิง’ขมวดคิ้วขึ้น พร้อมกับถาม’เยว่อวิ้น’ ชื่อนี้มันพึ่งจะเคยได้ยินเป็นครั้งแรก ได้ยินดังนั้น’เยว่อวิ้น’ก็หัวเราะเบาๆก่อนจะกล่าวว่า

“ เมืองชิงโจวมีศิลามหาเทพยุทธ์อยู่แท่นหนึ่ง ทั้งยังมีที่มาที่ลึกลับด้วย มันสามรถทดสอบพลังของผู้คนได้ ที่สำคัญจะต้องเป็นขั้นพลังที่เหมือนกันทั้งหมด หากผู้ใดมีพลังเหนือกว่ารายชื่อที่อยู่บนศิลาแท่นนี้ ก็จะได้สลักชื่อลงบนนั้น ”

“ เอ่อ แล้วมันได้ประโยชน์ยังไงหรือ? ”

นัยน์ตา’เต้าหลิง’พลันเป็นประกายขึ้นมา น้ำเสียงดูเร่าร้อน ‘เยว่อวิ้น’เงียบไปครู่หนึ่ง ทั้งหมดนี่ก็เพื่อเกียรติยศยังไงเล่า แล้วมันจะถามถึงประโยชน์ทำไม ? แต่นางก็ยิ้มแล้วพูดขึ้น

“ ไปดูเองเถอะ ถึงตอนนั้นเจ้าก็จะรู้เอง ”

ไม่นาน’เต้าหลิง’ก็มองเห็นศิลาหินสีทองตั้งตระหง่านอยู่ รูปร่างสูงใหญ่ราวกับภูเขาที่ตั้งอยู่เบื้องหน้าเปล่งแสงประกายสีทองจ้า อีกทั้งบนแท่นศิลายังมีชื่อจำนวนมากสลักอยู่ด้วย  มันตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง สายตาจำนวนมากล้วนมองทอดยาวขึ้นไปด้านบน ยิ่งมองขึ้นไปสูงเท่าไหร่

ชื่อก็จะยิ่งน่ากลัวขึ้นเท่านั้น ทุกๆรายชื่อล้วนอบอวลไปด้วยจิตใจแห่งยุทธ์ที่น่ายำเกรง ทำให้ผู้คนล้วนใจสั่นระริก ท้ายที่สุดสายตาของมันก็มองขึ้นไปบนจุดสูงสุด ใจสั่นระรัว รู้สึกราวกับว่าร่างกายถูกกดทับจนระเบิดออก นี่คือจิตใจแห่งยุทธ์ขนาดมหึมาที่กดทับลงมา ทำให้ต้องอยู่ใต้อำนาจของมัน เหมือนดั่งคำเล่าลือมิมีผิด ! ‘ บ้าเอ้ย ! ’

นัยน์ตา’เต้าหลิง’ทั้งสองข้างมองไปรอบๆ ในใจก็ตะโกนลั่น พลังที่หลับใหลอยู่ในร่างส่งเสียงปะทุขึ้นมา ก่อนจะตั้งสมาธิสะกดพลังเอาไว้ ด้านหลังของมันก็เต็มไปด้วยเหงื่อซึมออกมา ‘เต้าหลิง’หอบออกมายกใหญ่ ก่อนจะเหลือบไปเห็น’เฉิงเมี่ยวฝู๋’ที่กำลังมองขึ้นไปด้านบน

มันพลันใช้มือดึงแขนเสื้อของนางพร้อมกับพูดขึ้นว่า

“ อย่ามอง ! ”

“ เป็นอะไร ? ”

‘เฉิงเมี่ยวฝู๋’งงงวงเล็กน้อย แต่นางก็ยอมทำตามแต่โดยดี นางรู้ว่า’เต้าหลิง’คงไม่มีเจตนาร้ายต่อนางแน่

“ อย่ามอง ชื่อที่อยู่บนสุดน่ากลัวมาก ”

‘เต้าหลิง’ส่ายหัวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม โลหิตที่อยู่ในร่างมันเริ่มเดือดพล่าน เพียงแค่เห็นชื่อมันก็มองไม่ได้แล้ว มันจะน่ากลัวอะไรเช่นนี้ !

“ ลำดับที่หนึ่งคืออู่ตี้ ชื่อนี้สลักลงเมื่อห้าปีก่อน แล้วตอนนั้นอายุมันก็แค่สิบขวบด้วย ”

‘เยว่อวิ้น’กระซิบขึ้นเบาๆให้พอได้ยิน ใบหน้า’เต้าหลิง’พลันหดลงทันที สิบขวบก็ติดลำดับที่หนึ่ง ? นี่มันคงจะแข็งแกร่งสุดๆแน่  แต่ว่าไม่รู้ทำไม พลังที่กดทับลงมาเมื่อครู่ถึงได้ให้ความรู้สึกที่คุ้ยเคยนัก ราวกับว่าเคยเจอมันที่ไหนซักที่หนึ่ง…

“  อู่ตี้ เป็นชื่อที่น่ากลัวจริงๆ ”

มือสวยของ’เฉิงเมี่ยวฝู๋’กำแน่นด้วยความตกใจยิ่ง ‘เยว่อวิ้น’เงียบไม่พูดจา ‘อู่ตี้’เป็นดั่งจักรพรรดิของยุคสมัยนี้ อัจฉริยะจำนวนมากล้วนตกอยู่ใต้บัญชาของมัน ไม่มีใครเทียบมันได้ คาดว่าในภายภาคหน้ามันจะต้องเป็นจอมยุทธ์อันดับหนึ่งแห่งยุคสมัยนี้แน่ ! ดูจากชื่อของมันก็รู้แล้ว ว่ามีอำนาจมากเพียงใด ในโลกใบนี้จะมีใครกล้าตั้งชื่อแบบนี้อีก ?

(อู่ตี้ = ประมาณจักรพรรดิ)

เบื้องล่างของศิลาหิน ปรากฏสายตาเฉียบแหลมของกันเหยากำลังมองขึ้นไป พลังทั่วร่างนางเริ่มปะทุขึ้น จากนั้นนางก็ควบคุมพลังให้ลดไปจนถึงขั้นพลังกาย ฝ่ามือสวยทั้งสองข้างปลดปล่อยคลื่นพลังที่น่าเกรงขามออกมา ทั่วทั้งแขนประดุจดั่งร่างของหงส์ ปลดปล่อยพลังออกมาพรั่งพรู ก่อนจะฟาดเข้าไปที่ศิลาหินสีทองโดยตรง

ปรากฏเสียงตูมดังขึ้น ศิลาหินสีทองสั่นไหวชั่วครู่ ประกายแสงสีทองสว่างจ้าออกมาละลานตา จากนั้นผู้คนโดยรอบต่างตกตะลึง เมื่อกันเหยานางลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ โดยรอบโอบล้อมไปด้วยแสงจ้า ราวกับธิดาสวรรค์ก็มาปาน นางใช้นิ้วของนางสลักตัวอักษรลงไป ทุกๆตัวอักษรล้วนแฝงไว้ด้วยจิตใจแห่งยุทธ์

ผู้คนล้วนตะลึงยิ่ง ลำดับที่แปดสิบเก้าของ’กันหลิง’ค่อยๆจางหายไป ก่อนที่ชื่อของ’กันเหยา’จะมาแทนที่ !

‘เต้าหลิง’เองก็ตะลึงไม่แพ้กัน เพราะหลังจากที่นางสลักชื่อลงไปแล้ว มุมปากของนางก็ฉีกยิ้มขึ้น ราวกับว่านางเพียงแค่ต้องการจะเขี่ยชื่อของคนคนนั้นออกไป… ผู้คนบางส่วนเริ่มจะเข้าใจ องค์หญิงน้อยคงไม่อยากจะเปิดเผยพลังแน่  ในโลกใบนี้ยังมีอัจฉริยะอีกมากมายที่ซ่อนตัวตนเอาไว้ไม่ยอมเผยพลังของตัวเองออกมา

เพราะไม่อยากที่จะต้องหลบหนีจากตามล่าสังหารจากศัตรู เมื่อนางสลักชื่อลงไปเรียบร้อยแล้ว ศิลาหินก็คายของล้ำค่าที่มีพลังสีทองห้อมล้อมเอาไว้ชิ้นหนึ่งออกมา ทั่วทั้งใบหน้านางดูยินดียิ่งก่อนจะเดินไปเก็บของล้ำค่านั้นแล้วเดินจากไป

“ พระเจ้า ศิลามหาเทพยุทธ์คายของล้ำค่าออกมาแล้ว พลังขององค์หญิงน้อยจะต้องไม่ใช่แค่ลำดับที่แปดสิบเก้าแน่ !  ”

“ ใช่แล้ว ไม่อยากจะเชื่อว่าศิลามหาเทพยุทธ์จะให้รางวัลแก่องค์หญิงน้อยด้วย นี่มันไม่ได้เกิดขึ้นในรอบหลายปีที่ผ่านมาเลยนะ ข้าจำได้ว่าตอนที่อู่ตี้อายุสิบขวบมันก็ได้ของล้ำค่าไปชิ้นหนึ่งเหมือนกันและก็ไม่รู้ด้วยว่ามันได้อะไรไป ”

ผู้คนโดยรอบล้วนตกตะลึง อยากรู้มากว่านางได้ของล้ำค่าอะไรไป มีคนบางคนที่ติดลำดับสามสิบลงไปก็ยังไม่ได้ของล้ำค่าจากศิลามหาเทพยุทธ์เลย นี่มันวัดกันที่วาสนาจริงๆ อีกทั้งของล้ำค่าที่ศิลามหาเทพยุทธ์คายออกมาล้วนไม่ธรรมดา บ้างก็ได้ของล้ำค่าสมัยดึกดำบรรพ์ บ้างก็ได้ตำราจากคนสมัยก่อน บ้างก็ได้ทรัพยากรล้ำค่าต่างๆ เป็นต้น ซึ่งพวกมันล้วนไม่ใช่สิ่งของธรรมดา

“ ของล้ำค่าพวกนี้เป็นของใครหรือ หรือว่ามันจะมีอยู่ในศิลามหาเทพยุทธ์ ? ”

‘เต้าหลิง’เกาหัวสองสามครั้ง หากเป็นเช่นนั้นจริง คนที่แข็งแกร่งก็น่าจะทำลายศิลาหินนี่เสีย และก็ขโมยของล้ำค่าออกไป ‘เยว่อวิ้น’เองก็ไม่ค่อยเข้าใจซักเท่าไหร่ ‘เต้าหลิง’รู้สึกว่าโลกใบนี้มีสิ่งปาฏิหาริย์มากมายหรือเกิน ไม่นาน’เต้าหลิง’ก็มองไปที่หอคอยทงหลิงแล้วพูดขึ้นว่า

“ ข้าจะเข้าไปที่หอคอยทงหลิงได้ไหม ? ”

“ หากเจ้าอยากไป ครั้งนี้ข้าก็จะช่วยให้เจ้าเข้าไป ”

‘เยว่อวิ้น’เม้มริมฝีปาก ก่อนจะพูดต่อ

“ รอเจ้าเข้าสำนักซิงเฉินเสียก่อน เจ้าก็จะสามารถใช้เหรียญสถานะเข้าไปได้ด้วยตัวเอง ”

“ ที่แท้ก็ต้องใช้เหรียญสถานะด้วยหรือ หากไม่มีอำนาจ การจะก้าวไปได้แต่ละเก้าช่างยากเย็น ”

‘เต้าหลิง’ถอนหายใจออกมา มันเริ่มจะเข้าใจถึงการแบ่งชนชั้นในโลกนี้มากยิ่งขึ้นแล้ว  เดินมาถึงหอคอยทงหลิง ‘เยว่อวิ้น’ก็เดินไปคุยกับคนกลุ่มหนึ่งที่เฝ้าอยู่ที่หน้าหอคอย ไม่นานนางก็หันหน้ากลับมาแล้วพูดขึ้นว่า

“ เข้าไปสิ จำเอาไว้นะอย่าอวดเก่งเป็นอันขาด หากเกิดอะไรขึ้น จะไม่มีใครช่วยเจ้าได้ ”

สีหน้าของ’เยว่อวิ้น’ดูจริงจัง ทำให้ใจของ’เต้าหลิง’พลอยตื่นตัวไปด้วย มองเข้าไปด้านในก็ดูไม่ราบรื่นเป็นอย่างยิ่ง ดูท่าน่าจะต้องมีการประมือกันเกิดขึ้นแน่ หอคอยนี้เหมือนดั่งร้านสะดวกซื้อ ผู้คนเข้าออกมากหน้าหลายตา ในตอนที่’เต้าหลิง’ก้าวเข้าไปนั้น ในใจมันรู้สึกตะลึงเล็กน้อย

เพราะว่าในนี้มันช่างกว้างใหญ่เหลือเกิน ราวกับห้วงอากาศหนึ่งก็มิปาน มองทอดออกไปก็ไม่เห็นหัวของคนอื่นแล้ว อีกทั้งในนี้ยังปกคลุมไปด้วยหมอก

“ ใช่แล้ว นี่ก็คือหมอกวิเศษที่เล่าลือกันมา ! ”

‘เต้าหลิง’สูดลมหายใจลึก ก่อนจะเดินเข้าไป ทว่าในขณะที่มันกำลังเดินเข้าไปอยู่นั้น มันก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่ถาโถมเข้ามา ด้านข้างก็ปรากฏเด็กหนุ่มสาวจำนวนหนึ่งเดินเข้ามา ซึ่งพวกมันก็มีท่าทีไม่ต่างกันเลยคือดูเหนื่อยเล็กน้อย ‘เต้าหลิง’ก็คิดขึ้นในใจอย่างปีติว่า

“ ที่นี่มันดีจริงๆ ร่างกายของข้าต้องแกร่งขึ้นแน่ ! ”

มันนั้นต้องการที่จะเสริมความแข็งแกร่งของร่างกาย ซึ่งประจวบเหมาะตรงที่ว่าหอคอยทงหลิงนั้นก็สามารถช่วยสนองความต้องการของมันได้ ‘เต้าหลิง’เดินสำรวจในนี้อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง แรงกดดันที่ชั้นสองนี้รุนแรงกว่าชั้นหนึ่งเท่าตัว ทว่ามันก็มิได้ทำให้’เต้าหลิง’รู้สึกอะไรมากนัก มันยังคงขึ้นไปต่อเรื่อยๆจนกระทั่งถึงชั้นที่ห้า !

ในตอนที่พึ่งขึ้นมาที่ชั้นห้านั้น แรงกดดันโดยรอบรุนแรงราวกับหินยักษ์หนักหลายหมื่นจินกดทับลงมา ร่างกายของมันหนักอึ้งเล็กน้อย แรงกดดันของชั้นนี้ทำให้มันรู้สึกหวั่นไหวไม่น้อย หมอกควันในชั้นนี้ลอยฟุ้งเต็มไปหมด ทั้งยังแฝงไปด้วยพลังชีวิตที่เปี่ยมล้นกว่าชั้นที่สี่หลายเท่าตัว

มันสูดเข้าไปเฮือกหนึ่ง ก็รู้สึกได้ว่าพลังนี้ช่างลี้ลับยิ่ง มิน่าเชื่อว่ามันจะเข้าไปหลอมรวมกับร่างกายในทันที

“ ยอดเยี่ยม ! ”

‘เต้าหลิง’ตื่นเต้นสุดๆ หากทำการฝึกฝนในนี้ระยะยาวล่ะก็ ร่างกายจะต้องพัฒนาขึ้นแน่ ทว่าสำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว สิ่งนี้ล้วนเป็นไปได้ยากยิ่ง เพราะว่าแรงกดดันในนี้กดทับร่างกายพวกมันอยู่ตลอดเวลา หากคิดที่จะฝึกฝนในนี้ จะต้องมีร่างกายที่แข็งแกร่งเสียก่อนถึงจะทำได้

“ หลีกไป อย่าขวางทางนายน้อยของข้า ! ”

ในขณะที่’เต้าหลิง’กำลังใช้แรงกดดันโดยรอบมาหลอมรวมกับร่างกายอยู่นั้น ก็ปรากฏเสียงตะคอกเสียงหนึ่งดังขึ้น มันเป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งรูปร่างสูงใหญ่ บุคลิกท่าทางองอาจห้าวหาญ ดวงตาประดุจกระดิ่งทองคำ ศีรษะดูใหญ่โต อีกทั้งยังให้ความรู้สึกที่น่ากลัว

ขอบคุณทุกคอมเม้นครับที่ส่งกำลังใจ ช่วงนี้ศัพท์ค่อนข้างยากมันเลยทำให้ขี้เกียจ แต่ก็เสดแล้วครับ ฮาๆ

#ถ้าหายไปไม่ต้องสงสัยยังแปลไม่เสร็จ ไม่ก็ขี้เกียจ

ช่วงภาษาจีนวันละนิดชีวิตประจำวัน ตอนนี้เสนอคำว่า 这(zhè) แปลว่า นี่ นี้

ตัวอย่างนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน 这是什么?(zhè shì shén me) เจ้อซื่อเสินเมอ ? นี้คืออะไร ?

这是谁的?(zhè shì shéi de) เจ้อซื่อเสยเตอะ นี่ของใคร ?

这是我的(zhè shì wǒ de) เจ้อซื่อหว่อเตอะ นี่เป็นของฉัน

ที่มา:

(0 votes) 0/5
ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments