ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปแปลไทย : XiaoeyuGao
ปรากฏลำแสงหนึ่งพุ่งออกมาจากดวงตาที่สามที่ตั้งอยู่ระหว่างคิ้วของชายสามตา รูปร่างคล้ายกระบี่วิเศษ ลำแสงวิ่งผ่านไปมวลอากาศพลันระเบิดออก ดูแล้วรุนแรงยิ่งนัก
หัวใจ’เต้าหลิง’บีบรัดแน่น มันรู้สึกได้ถึงอันตรายที่เข้ามา ก่อนจะพาร่างของมันกระโดดหลบลำแสงนั่น ทว่าด้วยพลังที่โอบล้อมลำแสงนั่นรุนแรงเกินไป ทำให้พลังนั้นแฉลบไปโดนคอของมัน จนปรากฏเป็นโลหิตไหลซึมออกมา
เมื่อครู่หากมันหลบช้าไปเพียงเสี้ยววินาทีเดียว หัวของมันคงไปขาดสะบั้นแน่ เพราะว่าเพียงแค่เศษเสี้ยวของพลังที่ปล่อยออกมาจากตาที่สามก็สามารถทำให้ร่างกายของเต้าหลิงได้รับบาดเจ็บแล้ว
“ ระวังตาที่สามของมัน อย่าโดนลำแสงของมันเด็ดขาด ”
‘กันเหยา’ใช้แรงทั้งหมดดันตาข่ายขึ้นมา ก่อนจะกล่าวอย่างร้อนรน เมื่อครู่นางก็เสียท่าให้แก่ดวงตาที่สามไป ทำให้นางเสียเปรียบเอามากๆ ดวงตาที่สามนี้เป็นความพิเศษของตระกูลสามตา มีความน่ากลัวยิ่ง
ใต้หล้านี้มีคนจำนวนไม่กี่คนเท่านั้นที่จะกล้าล่วงเกินตระกูลสามตา เหตุเพราะพวกมันล้วนหวาดกลัวดวงตาที่สามนั่นเอง ‘เต้าหลิง’พยักหน้า ร่างของมันก็เริ่มขยับทันที พลังที่ไหลเวียนอยู่ในร่างพุ่งลอยขึ้นอากาศ ภายในร่างปรากฏเสียงฟ้าร้องดังขึ้น ก่อนที่ร่างของมันจะง้างหมัดพุ่งเข้าไป ทั่วทั้งร่างล้วนเปล่งแสงสว่างสีทองจ้า
“ แหลกไปซะ ! ”
ชายสามตาคำรามออกมา ก่อนจะปล่อยหมัดพุ่งออกไปปะทะ ปรากฏเสียงตูมดังขึ้น หมัดทั้งสองเข้าปะทะกัน คลื่นพลังระเบิดออกเป็นวงกว้าง หินขนาดใหญ่จำนวนมากถูกหอบลอยขึ้นเคว้งกลางอากาศ ก่อนจะถูกคลื่นพลังซัดจนแตกกลายเป็นผุยผง
ชายสามตาตะลึงเล็กน้อย เมื่อครู่มันใช้กำลังทั้งหมดเข้าปะทะแล้ว ไม่อยากจะเชื่อว่าร่างกายของมันกับไอ้เด็กนั่นจะสูสีกันถึงเพียงนี้ ไอ้เด็กนี่มันมาจากไหนกัน ร่างกายมันถึงได้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้
‘เต้าหลิง’คำรามออกมา พลังทั่วร่างปะทุขึ้นอย่างรุนแรง ผมยาวปลิวไสว ก่อนจะพุ่งทะยานเข้าใส่ พร้อมปล่อยหมัดรัวเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง ทั่วร่างชายสามตาเปล่งแสงออกมา ระดับพลังของมันก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ดวงตาที่สามเปิดออกเต็มดวง
ทันใดนั้นภาพของ’เต้าหลิง’ที่อยู่ในนัยน์ตาของมันก็เริ่มช้าลง ก่อนมันจะปล่อยหมัดพุ่งออกไปที่เอวของ’เต้าหลิง’ การโจมตีของชายสามตารวดเร็วอย่างยิ่ง ทว่าเมื่อครู่’กันเหยา’ได้เตือน’เต้าหลิง’ไว้แล้ว มันก็ได้เตรียมตัวรับมือกับดวงตาที่สามมาโดยตลอด
แต่ไม่คิดเลยว่าดวงตาดวงที่สามจะร้ายกาจเช่นนี้ มันจึงดึงข้อศอกลงมาต้านเอาไว้ ทำให้ร่างของคนทั้งสองสั่นสะท้าน
“ ตาย ! ”
นัยน์ตา’เต้าหลิง’จ้องเขม็ง พลังทั่วร่างถูกเค้นออกมา ปรากฏเป็นแสงสีทองที่ร้อนแผดเผา มันยกหมัดขึ้นแล้วปล่อยออกไปจนเกินเสียงตูมดังขึ้น ปรากฏแสงสว่างจ้าแสบตาออกมาทั่ว จนเห็นแค่เงาของทั้งสองที่ปะทะกัน หินขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณนั้นล้วนแตกสลาย ปรากฏแสงแวววับขึ้นพร้อมกับเสียงปะทะกันดังสนั่นอย่างต่อเนื่อง
สีหน้าของ’หานเจียว’ดูไม่ดียิ่งนัก จู่ๆก็มีอัจฉริยะโผล่มา อีกทั้งยังแข็งแกร่งยิ่ง หากชายสามตาจัดการกับเด็กนั่นไม่ได้จะต้องเป็นปัญหาใหญ่แน่ อีกทั้งยังมี’กันเหยา’ซึ่งนางก็มิใช่คนที่จะประมือด้วยได้ง่ายๆ นางสามารถประมือกับพวกมันได้ถึงสามคน อีกทั้งยังสังหารไปได้หนึ่ง
แค่นี้ก็พอจะเห็นได้แล้วว่านางแข็งแกร่งแค่ไหน !
‘เต้าหลิง’ยิ่งสู้มันยิ่งฮึกเหิม ร่างกายของมันได้รับบาดเจ็บบ้างเล็กน้อย ดวงตาที่สามของชายสามตาช่างน่าหวาดกลัวยิ่งนัก ความเร็วของ’เต้าหลิง’เมื่ออยู่ต่อหน้ามันจะช้าลงทันที หมัดของมันพุ่งอัดเข้าที่หัวคิ้วของเต้าหลิงอย่างจัง ทำให้โลหิตพุ่งทะลักออกมาทันที
หัวคิ้ว’เต้าหลิง’กระตุกเล็กน้อย ภายในร่างปรากฏเสียงฟ้าร้องระเบิดดังขึ้น มันคำรามออกมาลั่นก่อนจะพุ่งหมัดเข้าใส่หน้าอกของชายสามตา ทำให้ทั่วร่างของชายสามตาล้วนสั่นสะท้าน พลังชีวิตที่อยู่โดยรอบเริ่มเคลื่อนตัว มันถูก’เต้าหลิง’ดูดซับไปแทนที่พลังที่มันสูญเสียไป
ทันใดนั้นบาดแผลตรงหัวคิ้วก็ค่อยๆฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็ว กลับมาที่ชายสามตา ทั่วร่างมันเต็มไปด้วยเหงื่อ ดวงตาที่สามเริ่มที่จะพร่ามัว มันได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งยังดูดซับพลังมารักษาร่างไม่ทัน หากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป มันคงได้ถูกแรงกดดันในชั้นนี้อัดจนระเบิดตายแน่ !
“ ตาย ! ”
ชายสามตาคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง พลังที่กักเก็บอยู่ในตาที่สามถูกปล่อยออกมา ซึ่งการโจมตีครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งก่อนยิ่ง ลำแสงพุ่งฝ่าอากาศตรงดิ่งไปที่หัวของ’เต้าหลิง’ ใจหวังจะให้ทะลุหัวของมันไปซะ
“ หึ ข้าก็กำลังรอเจ้าอยู่ ! ”
‘เต้าหลิง’คำรามออกมา พลันปรากฏหอคอยล้ำค่าเปล่งแสงสีม่วงลอยขึ้นสู่อากาศ ก่อนจะเข้าปะทะกับลำแสงของชายสามตา ปรากฏเสียงตูมดังขึ้น มวลอากาศฉีกออกกลายเป็นสภาวะสุญญากาศ หอคอยม่วงแข็งแกร่งยิ่งนัก สามารถสลายพลังของชายสามตาได้
มันลอยหมุนติ้วอยู่กลางอากาศจนสลายพลังได้ทั้งหมด ทว่ามันก็สูญเสียพลังไปมากอยู่เหมือนกัน เมื่อพลังของชายสามตาสลายไปหมดแล้ว ‘เต้าหลิง’ก็เก็บหอคอยม่วงกลับไปดังเดิม
“ บัดซบ ! ”
ชายสามตาเดือดดาลเป็นฟืนไฟ ในนี้มันไม่สามารถปลดปล่อยพลังออกมาได้เต็มที่ มันคิดว่าตอนนี้มันมิใช่คู่มือของ’เต้าหลิง’เสียแล้ว หากยังคงสู้ต่อไป แรงกดดันในชั้นเจ็ดนี้คงต้องทำให้มันบาดเจ็บสาหัสแน่
“ อึ้บ ! ”
‘กันเหยา’เปล่งเสียงออกมาเบาๆ นางพยามใช้หัวดันตาข่ายขึ้นไป ก่อนจะเรียกกระบี่ล้ำค่าสีแดงฉานขึ้นในมือ ปรากฏเสียงแครกดังขึ้นพร้อมกับที่ตาข่ายใหญ่นั้นฉีกขาดออก
“ อะไร ? ”
ชายสามตาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตกใจ ตอนแรกมันคิดจะหนีอยู่แล้ว แต่’กันเหยา’กลับหลุดออกมาได้เสียก่อน หาก’กันเหยา’ฟื้นคืนพลังมาได้อย่างเต็มที่ จะต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่ ราชวงศ์กันมิใช่สิ่งที่จะไปล่วงเกินได้จริงๆ
“ หึ เข้ามาอย่าคิดหนี ”
‘เต้าหลิง’ตะโกนออกไป พลังทั่วร่างระเบิดออกมา ปรากฏเป็นระลอกคลื่นสีทองกระจายเข้ามา
“ เข้ามาเลย ! ”
ชายสามตาอ้าปากออกแล้วคายตราล้ำค่าอันหนึ่งออกมา ตราล้ำค่าระเบิดแสงจ้าขึ้นก่อนจะสลายระลอกคลื่นสีทอง’เต้าหลิง’เอาไว้ได้ ชายสามตาอ่อนแรงลงกว่าเดิม มันเก็บตราล้ำค่าของมันก่อนจะรีบวิ่งหนีไปทันที เมื่อเห็นดังนั้น’เต้าหลิง’จึงตะโกนไล่หลังออกไปว่า
“ เอาสมบัติของเจ้ามาให้ข้าเดี๋ยวนี้ ! ”
“ บ้าเอ๊ย ! ”
‘หานเจียว’ระเบิดโทสะออกมา แผนการของมันล้มเหลวหมดแล้ว อีกทั้งยังไปล่วงเกินราชวงศ์กันอีก คงได้ซวยไม่น้อยแน่
“ เจ้าผีขี้งก ”
‘กันเหยา’ปาดเหงื่อของนางที่หน้าผากออก สายตาก็มองไปที่’เต้าหลิง’ที่กำลังวิ่งไล่ชายสามตา ตอนนี้นางเหนื่อยล้าจริงๆ นางจึงหยิบกาหยกอันหนึ่งออกมาก่อนจะกระดกน้ำแร่ทิพย์ลงไปสองสามอึก จากนั้นจึงเดินตาม’เต้าหลิง’ไป
นางเดินมาได้ซักพักก็เห็น’เต้าหลิง’ที่กำลังนอนหอบแฮกๆอยู่บนพื้น นางรีบเดินเข้าไปทันที แล้วพูดขึ้นว่า
“ เจ้าไม่เป็นไรนะ ”
“ แรงกดดันชั้นนี้มันเพิ่มขึ้นเกินไป ”
‘เต้าหลิง’ถอนหายใจออกมา เมื่อครู่มันเกือบทำสำเร็จแล้ว แต่ว่าชายสามตากลับเรียกของล้ำค่าที่ใช้หลบหนีออกมาทำให้มันจับตัวชายสามตาไม่ได้
“ การจะฆ่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่เจ้าคิดหรอกนะ ยังไงพวกมันก็ต้องมีของล้ำค่าที่ใช้หลบหนีกันอยู่แล้ว ”
‘กันเหยา’เลียริมฝีปาก ก่อนจะส่งกาหยกให้’เต้าหลิง’ แล้วพูดขึ้นว่า
“ น้ำแร่ทิพย์นี่จะช่วยฟื้นฟูพลังของเจ้า ดื่มมันหน่อยเถอะ ”
‘เต้าหลิง’กระดกมันลงไปสองสามอึก สายตานางก็มองมาที่’เต้าหลิง’ด้วยแววตาตกใจ ในตอนที่’เต้าหลิง’ดื่มน้ำแร่ทิพย์เสร็จแล้ว นางก็ยังคงจ้องอยู่ จากนั้นใบหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที เมื่อครู่เหมือนกับว่านางพึ่งจะดื่มมันไป นี่ก็เท่ากับว่านางกับ’เต้าหลิง’ได้ประกบปากกันหรือไม่…
“ เจ้าเป็นอะไรของเจ้า? ”
‘เต้าหลิง’มองเห็นสีหน้าของนางที่แปลกไป จากนั้นมันก็มองไปที่กาหยก ก่อนจะกล่าวอย่างไม่พอใจว่า
“ เมื่อครู่ข้าก็ช่วยเจ้าไปตั้งเยอะ ได้แค่น้ำแร่ทิพย์ของเจ้าเพียงเล็กน้อยเองหรือ ? เจ้าจะขี้เหนียวเกินไปแล้ว ”
“ เจ้าต่างหากที่ขี้เหนียว ! ”
‘กันเหยา’โต้ตอบอย่างโมโหทันที นัยน์ตาจ้องเขม็ง นี่มันจะพูดเรื่องเมื่อครู่อีก ทำไมกัน? ไม่ได้การแล้ว จะต้องเก็บความลับเอาไว้ จะต้องไม่มีใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาด !
พลังที่อยู่แฝงอยู่ในน้ำแร่ทิพย์นั้นเปี่ยมล้นมาก ‘เต้าหลิง’รู้สึกได้เลยว่าตอนนี้ทั่วร่างของมันอัดแน่นไปด้วย พลัง จากนั้นมันก็พูดขึ้นว่า
“ เมื่อครู่เจ้าพูดแล้วนี่ หากช่วยเจ้าข้าจะได้รางวัล.. ข้าว่ากระบี่ล้ำค่าสีแดงฉานของเจ้าก็ดูไม่เลว ข้าต้องการกระบี่เล่มนั้นเพียงเล่มเดียวก็พอ ”
ได้ยินดังนั้นมุมปากของ’กันเหยา’ก็กระตุกขึ้นทันที มือทั้งสองกำแน่น มันเกิดความรู้สึกอย่างหนึ่งขึ้นในใจ นางรู้สึกได้ว่านี่ไม่ใช่ตัวนาง ตัวนางแต่ก่อนไม่ว่าจะไปที่ไหนล้วนเป็นที่นับหน้าถือตาแก่ผู้คน มีคนมากมายอยากจะช่วยเหลือนางแต่ก็ทำไม่ได้ แต่กับมัน แค่อ้าปากก็พูดถึงแต่ผลประโยชน์ !
ไอ้ขี้งก ! นางตั้งฉายาให้มันเรียบร้อย ก่อนจะมอง’เต้าหลิง’ด้วยหางตาแล้วพูดขึ้นว่า
“ หึหึ เห็นทีคงจะไม่ได้ กระบี่ล้ำค่าเล่มนี้ผู้อาวุโสให้ข้ามา เจ้าเลือกอันอื่นเถอะ ”
“ โลหิตเทพสัตว์อสูร ? ”
‘เต้าหลิง’รีบพูดขึ้นทันที ในใจคิดว่าด้วยสถานะของนางเองก็ไม่ธรรมดา ก็น่าจะมีของเช่นนี้อยู่ ? ได้ยินดังนั้น’กันเหยา’ก็มึนหัวอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวด้วยใบหน้าเคร่งขรึมว่า
“ ข้าไม่มีหรอก เลือกอันอื่นเถอะ ”
“ เฮ้อ ไอ้นี่ก็ไม่มี ไอ้นั่นก็ไม่มี นี่เจ้ากำลังเล่นลูกไม้กับข้าอยู่หรือ ? ”
‘เต้าหลิง’มองจับผิดไปที่นาง พร้อมกล่าวออกไป ‘กันเหยา’ขบฟันหน้าแน่น ดวงตาโตกลอกไปกลอกมา ก่อนจะทำปากมุ่ยแล้วพูดขึ้นว่า
“ โลหิตเทพสัตว์อสูรข้าไม่มี แต่ข้ามีโลหิตสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์ ”
เมื่อครู่นางพึ่งจะฆ่ามันไปตัวหนึ่ง แม้จะยังไม่โตเต็มวัย แต่ว่ายังไงก็เป็นโลหิตของสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์ เบื้องหน้าปรากฏร่างสีเงินของมังกรเหมันต์ตัวหนึ่งซึ่งโดนผ่าครึ่งออกเป็นสองส่วน คราบโลหิตไหลนองเต็มพื้น เขาที่อยู่บนหัวมันหักแตก และเจ้าของร่างที่ว่านี่ก็คือ’หานเจียว’ !
“ ของดีนี่ ! ”
ในใจ’เต้าหลิง’ยินดียิ่ง ภายในร่างของ’หานเจียว’มีสายเลือดของมังกรแท้จริงอยู่ ทั้งยังแข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรเกล็ดเสือดาว มันต้องการแค่โลหิตสัตว์อสูรเท่านั้น ไม่ว่าจะแข็งแกร่งในระดับไหนก็ตามมันก็ต้องการทั้งหมด เพราะจะได้ใช้มันในการเปิดพลังแฝงที่อยู่ในร่างกาย
โลหิตสีเงินสองสามหยดถูกเก็บขึ้นมาจากหน้าอกของ’หานเจียว’ แม้ว่าจะมีแค่สามหยด ทว่ามันกลับมีมูลค่ายิ่ง หากนำไปขายข้างนอกจะได้เงินกลับมาไม่น้อย
“ เจ้าจะเข้าสำนักซิงเฉินหรือ ? ”
นัยน์ตาคู่สวยของ’กันเหยา’มองไปที่มันด้วยแววตาเจ้าเล่ห์
“ อืม ข้ามาเพื่อเข้าสำนักซิงเฉิน ดูท่าอีกไม่นานก็คงได้เวลาสอบแล้ว ”
‘เต้าหลิง’พยักหน้า ก่อนจะมองไปที่นางแล้วพูดขึ้นทันทีว่า
“ เจ้าก็ด้วยหรอ ? ”
“ ก็ใช่หนะสิ เออนี่ ข้าว่าพลังของเจ้าเหมือนกับว่ายังไม่ได้ทะลวงไปขั้นซึมวิญญาณ ? ”
‘กันเหยา’รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เหตุใดมันถึงยังไม่ทะลวง ?
“ ผ่านช่วงนี้ไปก่อนข้าค่อยทะลวง ”
‘เต้าหลิง’สูดลมหายใจลึก มันหวนคิดไปถึงคำพูดของ’อาเป๋’ที่บอกให้มันขึ้นไปให้ถึงชั้นเก้า แม้ว่าการจะขึ้นไปชั้นเก้าจะยากเอาการ แต่มันก็คิดว่าคงจะไม่ได้ยากอะไรมากมายนัก
“ เมื่อครู่เจ้าช่วยข้าไว้ โอสถเม็ดเหยินนี่ข้าให้เจ้า ”
ฝ่ามือเนียนขาวของ’กันเหยา’ยื่นออกมา ปรากฏโอสถเม็ดเปล่งแสงสีทองจ้าเม็ดหนึ่ง กลิ่นหอมลอยฟุ้ง จากนั้นนางก็พูดขึ้นอย่างโกรธๆว่า
“ ข้าบอกเจ้าแล้วว่าข้าไม่ใช่คนขี้เหนียว ”
เมื่อครู่ตอนที่’เต้าหลิง’ประมือกับชายสามตา ‘กันเหยา’ก็มองออกได้อย่างชัดเจนว่า หากมันได้กินโอสถเม็ดนี้ไป ก็น่าจะสามารถขึ้นไปชั้นแปดได้ และนี่ก็ถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณที่มันช่วยชีวิตเอาไว้แล้ว
“ โอเคๆ เจ้าไม่ใช่คนขี้เหนียว ว่าแต่นี่ยาอะไรหรือ ? ”
‘เต้าหลิง’หยิบโอสถเม็ดสีทองขึ้นมาดู ในใจก็รู้สึกปีติขึ้นมา คาดว่าโอสถเม็ดนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่
“ นี่คือโอสถเม็ดเหยิน หากเจ้ากินมันในตอนนี้ มันก็น่าจะสามารถช่วยให้เจ้าขึ้นไปชั้นแปดได้ ”
‘กันเหยา’เม้มริมฝีปากแดงของนาง รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเหตุใดมันถึงไม่รู้จักโอสถเม็ดเหยินกัน นี่มันเป็นโอสถเม็ดที่มีชื่อเสียงโด่งดัง แม้ว่ามูลค่าของมันจะไม่สูงนัก ทว่าสำหรับขั้นพลังกายแล้วมันเป็นโอสถที่สามารถทะลายขีดจำกัดของพลังได้
ทันใดนั้นก็ปรากฏเสียงฝีเท้าหนักดังขึ้นแต่ไกล พร้อมกับบุคคลสองคนสวมชุดนักรบสีเงินรีบวิ่งเข้ามา ชุด นักรบสีเงินนั้นแตกต่างกับแบบปกติเล็กน้อย คือมีอักขระสีทองสลักขึ้นชุด อีกทั้งยังแฝงไว้ด้วยคลื่นพลังลึกลับอยู่เต็มไปหมด
โดยผู้อาวุโสท่านหนึ่งที่เดินนำหน้ามาลักษณะน่ากลัวยิ่ง นัยน์ตาทั้งสองข้างราวกับตะเกียงสีทองสองอันกำลังลุกโชน ทั่วร่างปกคลุมไปด้วยคลื่นพลังที่น่าหวาดกลัว
ยังรับสมัครคนแปลอยู่นะ ไม่จำกัดจำนวน มาซักร้อยคนวันละร้อยตอน 20 วันก็แปลทันต้นฉบับ ฮ่าๆ
ภาษาจีนตอนละนิดชีวิตประจำวัน ตอนนี้เสนอคำว่า 叫(jiào) เจี้ยว แปลว่า เรียก
ตัวอย่างในชีวิตประจำวัน 你叫什么名字?(nǐ jiào shén me ming2 zi) หนี่เจี้ยวเสินเมอหมิงจึ แปลว่า คุณชื่ออะไร ?
我叫… (wǒ jiào) หว่อเจี้ยว แปลว่า ฉันชื่อ…
ที่มา:
(0 votes) 0/5