I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

GSDZ (盖世帝尊) ตอนที่ 26 ผลทงหลิง

| GSDZ (盖世帝尊) | 941 | 2360 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลไทย : XiaoeyuGao

สายลมเย็นสบายพัดไปมา ใบไผ่ปลิวว่อนไปทั่ว ป่าไผ่ผืนนี้มีความพิเศษก็คือ ทุกๆต้นจะเปล่งแสงสีเขียวมรกตออกมาเล็กน้อย คอยมอบพลังชีวิตให้แก่ผู้คน มองดูแล้วต้นไผ่พวกนี้ก็เหมือนกับภูตผีนั่นเอง

อีกทั้งพลังฟ้าดินที่อยู่ในป่าไผ่นี้ยังเปี่ยมล้นอย่างยิ่ง  พลังพวกนี้ได้เปลี่ยนคุณสมบัติของต้นไผ่ หากเวลาได้ล่วงเลยผ่านไป คาดว่าพวกมันคงได้วิวัฒนาการขึ้นอีกมาก !

ทุกสรรพสิ่งในโลกใบนี้ล้วนสามารถทำการซึมซับได้ พวกมันล้วนมีสติปัญญา ยกตัวอย่างเช่นหญ้าต้นหนึ่งมันก็สามารถซึมซับพลังจนกลายเป็นหญ้าที่พิเศษได้เช่นกัน นัยน์ตาของ’หวังจวิ้นเฟย’ร้อนผ่าว มันเม้มริมฝีปาก สายตาจ้องเข้าไปในถ้ำโบราณแห่งหนึ่งที่อยู่ด้านหน้าของป่าไผ่

ด้านข้างปากทางเข้าถ้ำปรากฏหญ้าปกคลุมเอาไว้ ดูลึกลับเล็กน้อย ทว่าถ้ำโบราณนี้ไม่ธรรมดา มันปลดปล่อยพลังบริสุทธิ์ที่เปี่ยมล้น ทั้งยังเปล่งแสงสว่างออกมา ด้านในถ้ำจะต้องมีของล้ำค่าที่ยอดเยี่ยมอยู่อย่างแน่นอน

“ นายน้อยเฟย พลังที่อยู่ในป่าไม้พวกนี้เปี่ยมล้นยิ่งนัก ทั้งยังขึ้นไปรวมกันอยู่ในถ้ำ ข้าว่าผลทงหลิงจะต้องอยู่ในนั้นอย่างแน่นอน ! ”

เด็กหนุ่มคนหนึ่งอดใจไม่ไหวเปิดปากพูดออกมา

ได้ยินดังนั้น สีหน้าของ’หวังจวิ้นเฟย’ก็ดูคึกคักยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า มันฉีกมุมปากยิ้มกว้างขึ้นแล้วกล่าวว่า

“ ไม่ผิด หวังว่าในนั้นจะมีผลทงหลิงอยู่จริงๆ หากมีจริงๆล่ะก็ ฮ่าฮ่า พลังขั้นซึมซับวิญญาณของข้าจะต้องเพิ่มขึ้นอีกมากแน่ ! ”

“ เช่นนั้นคราวนี้นายน้อยเฟยจะต้องมีชื่อเสียงโด่งดังแน่นอนขอรับ ! ”

เด็กหนุ่มกล่าวประจบสอพอขึ้น มันนั้นรู้จักผลทงหลิงเป็นอย่างดี ผลทงหลิงเป็นของล้ำค่าชนิดหนึ่งในโลกใบนี้ที่จะถือกำเนิดขึ้นในที่ที่พิเศษบางสถานที่เท่านั้น และยังเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับขั้นซึมซับวิญญาณอีกด้วย ส่วนมูลค่าของมันนั้น ก็ทัดเทียมกับโอสถเม็ดซึมซับวิญญาณจื่อซินเลยทีเดียว !

“ แล้วนี่ทำไมหวังหลิ่งถึงยังไม่มา ? ”

ผ่านไปครู่หนึ่ง ‘หวังจวิ้นเฟย’ก็กล่าวด้วยใบหน้าขรึมว่า

“ ให้มันไปจัดการเรื่องเล็กน้อยแต่กลับใช้เวลานานถึงเพียงนี้ หึ! ”

“ พวกมันทั้งสองน่าจะแอบอู้กันอยู่ขอรับ ”

จากนั้นเด็กหนุ่มก็กล่าวประจบต่อว่า

“ ข้าว่าในนี้ไม่มีอันตรายอะไรหรอกขอรับ ถ้าหากมีจริง แค่มีนายน้อยเฟยคนเดียวพวกมันก็แหลกเป็นผุยผงแล้วขอรับ ! ”

‘หวังจวิ้นเฟย’พยักหน้าอย่างยอมรับ คำพูดประจบสอพลอของเด็กหนุ่มได้ผลดียิ่งนัก ‘หวังจวิ้นเฟย’ไม่รอพวกมันทั้งสองแล้ว สองเท้าก้าวยาวเข้าไปในถ้ำโบราณทันที ด้านหลังหินขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากพวกมันทั้งสอง ปรากฏเป็น’เต้าหลิง’กำลังมองลอดผ่านช่องหินไปทางพวกมันทั้งสองคน

หัวใจก็เต้นระรัว เพราะว่าที่นี่เป็นถ้ำที่วิชากลืนฟ้าพามา !

“ หรือว่าโลหิตเทพสัตว์อสูรจะอยู่ในนี้ ? ”

‘เต้าหลิง’พยามสงบจิตใจลง สายตาก็มองดูพวกมันทั้งสองที่กำลังเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว ‘เต้าหลิง’ไม่รอช้าเดินตามเข้าไปอย่างระมัดระวัง รอดูก่อนว่าข้างในเป็นอย่างไรค่อยว่ากันอีกที ‘เต้าหลิง’ก็เดินเข้ามาภายในถ้ำโบราณ มันรู้สึกได้ว่าพลังฟ้าดินในนี้เปี่ยมล้นยิ่งขึ้น ทั้งยังมีกลิ่นหอมบริสุทธิ์โชยออกมา

นัยน์ตามันฉายประกายออกมา ในนี้จะต้องมีโอสถวิญญาณอยู่อย่างแน่นอน ! โอสถวิญญาณเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง ทุกๆส่วนของมันล้วนไม่ธรรมดา ทั้งยังเป็นโอสถที่ถือกำเนิดขึ้นในขุนเขาวิญญาณหรือแม่น้ำสายใหญ่ โอสถชนิดนี้ไม่ใช่สิ่งของที่คนธรรมดาจะหามาได้ และที่สำคัญโอสถวิญญาณหากนำไปหลอมเป็นโอสถเม็ดหรือเหลว

ก็จะทำให้มูลค่าของมันล้ำค่าอย่างยิ่ง เต้าหลิงก็เดินมาตามเส้นทางที่วังเวงได้ครู่หนึ่ง สายตาของมันก็เพ่งมองไปด้านหน้า ปรากฏแสงสีเขียวมรกตจ้าละลานตาขึ้นกระทบกับผืนถ้ำ ทั้งยังแผ่คลุมไปด้วยพลังวิญญาณอย่างหนาทึบ

‘หวังจวิ้นเฟย’มองไปที่ต้นไม้ขนาดเล็กต้นหนึ่งที่อยู่เบื้องหน้าด้วยแววตาเป็นประกาย ต้นไม้ต้นนี้เปล่งแสงจ้าออกมา พลังวิญญาณกำลังดูดซับพลังฟ้าดินโดยรอบ อีกทั้งบนต้นไม้นี้ยังห้อยผลไม้สามลูกที่เปล่งแสงสีเขียวมรกตจ้าลงมาอีกด้วย

มันมีขนาดใหญ่ราวๆกำปั้นของเด็กทารก รูปร่างสวยสดงดงาม ปล่อยกลิ่นหอมกระจายฟุ้ง เปล่งแสงแวววาวใสแจ๋ว ประดุจดั่งแกะสลักขึ้นจากหยกแข็งศักดิ์สิทธิ์อย่างไรอย่างนั้น

“ ไม่อยากจะเชื่อมันมีถึงสามลูก ! ”

‘หวังถวน’ตัวสั่นเทา นัยน์ตาแดงฉานจ้องเขม็งไปที่ผลไม้สามลูก ใจอยากจะกลืนกินพวกมันทั้งหมด และในขณะนี้มันก็สัมผัสได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่กำลังมองมาอย่างเคร่งเครียด ‘หวังถวน’ตกใจสะดุ้งโหยง พลันเปลี่ยนคำพูดใหม่ว่า

“ นายน้อยเฟย หากท่านซึมซับพลังจากผลทงหลิงทั้งสามลูกนี้ พลังของท่านจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ข้าเดาว่าท่านจะต้องทะลวงไปจนถึงขั้นซึมซับวิญญาณระดับหกชั้นฟ้าได้ในเวลาอันสั้นอย่างแน่นอนขอรับ !  ”

“ ไม่ผิด ”

‘หวังจวิ้นเฟย’พยักหน้าพร้อมกับจิตใจที่ฮึกเหิม ผลทงหลิงมีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม สามารถช่วยทะลวงระดับพลังย่อยไปได้หลายระดับพลัง และที่สำคัญผลทงหลิงยังช่วยเพิ่มพลังในร่างของมันให้มากยิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว พอถึงตอนนั้นแล้วตัวมันก็จะสามารถใช้พลังของขั้นซึมซับวิญญาณได้ดียิ่งขึ้น

‘หวังถวน’รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย นี่มันมีตั้งสามลูก ดูท่า’หวังจวิ้นเฟย’คงคิดจะกินมันคนเดียวเป็นแน่แท้ ทว่าพอนึกถึงสถานะของอีกฝ่าย ความคิดอันชั่วช้าของมันก็ต้องมอดดับไปทันที

ขณะนี้’เต้าหลิง’กำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในเงามืด มันกำหมัดแน่น ในใจกระวนกระวายเล็กน้อย หากพุ่งเข้าไปตอนนี้คงยากที่จะชนะได้ และหากปล่อยให้’หวังจวิ้นเฟย’ซึบซับพลังของผลทงหลิงไป ตัวมันย่อมมิใช่คู่มือของ’หวังจวิ้นเฟย’แน่นอน ภายในถ้ำโบราณแห่งนี้ยังมีทางตัดแยกไปมาอยู่อีก

มันรู้สึกได้ว่าความเร็วในการท่องบทสวดของวิชากลืนฟ้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนลึกของถ้ำโบราณแห่งนี้จะต้องมีโลหิตเทพสัตว์อสูรอยู่แน่ๆ

‘หวังจวิ้นเฟย’มิอาจทนไหว ฝ่าเท้าย่ำก้าวเดินเข้าไป ก่อนฝ่ามือยืดออกไปดึงผลทงหลิงออกมา ในขณะนั้นเองด้านข้างของต้นทงหลิง ปรากฏต้นไผ่สีดำต้นหนึ่งหยั่งรากลึกลงในดิน มองดูแล้วมันแค่ต้นไผ่ธรรมดา ทั้งยังสูงแค่หนึ่งฉื่อ (ฟุต)

ทว่าตอนนี้ต้นไผ่สีดำพลันสั่นไหว ปรากฏวิญญาณเตียวขนาดเล็กตัวหนึ่งพุ่งกระโจนออกมา นัยน์ตาโตประดุจหินล้ำค่าสีแดงจ้องไปที่อาหารของมันที่กำลังจะมีคนขโมยไป มันขู่คำรามอย่างดุดันพักหนึ่ง ก่อนพุ่งกระโจนเข้าใส่

ปรากฏเงาสีขาวหนึ่งพุ่งเข้าใส่ ‘หวังจวิ้นเฟย’ไม่ได้สนใจหันกลับมามองแต่อย่างใด มันพลันรู้สึกเจ็บปวดที่ข้อมืออย่างสุดแสน ปรากฏเป็นรอยเขี้ยวจำนวนมากขึ้น

“ อะไร ? ”

สีหน้า’หวังถวน’ฉายแววหวาดผวา เพียงเห็นวิญญาณเตียวที่อยู่บนพื้น มันก็กล่าวขึ้นอย่างหวาดกลัวว่า

“ นี่มันสัตว์วิญญาณ นายน้อยเฟยระวังขอรับ ”

สีหน้าของ’หวังจวิ้นเฟย’ดูมืดครึ้มถึงขีดสุด มันรู้สึกว่าข้อมือของมันเจ็บปวดอย่างยิ่ง มันจ้องเขม็งไปที่วิญญาณเตียวด้วยนัยน์ตาคบกริบ ก่อนจะระเบิดเสียงคำรามออกมาว่า

“ ไอ้เดรัจฉานชั่ว ข้าจะฆ่าเจ้า ! ”

ถ้ำโบราณพลันสั่นไหว พลังภายในร่าง’หวังจวิ้นเฟย’ระเบิดออกมา ก่อนจะกดทับพลังไปที่ร่างของวิญญาณเตียว ใจคิดจะบดร่างของมันให้แหลกไปเสีย วิญญาณเตียวหวีดร้องเสียงแหลม ขนสีขาวประดุจหิมะลุกซู่ ร่างขนปุกปุยของมันระเบิดพลังวิญญาณที่เปี่ยมล้นออกมา

ขาหลังของมันพลันเหยียดลงพื้น พลังมหาศาลเอ่อล้นทะลัก ผืนดินปรากฏลอยร้าวขึ้นในขณะเดียวกันกับที่ร่างเล็กพุ่งทะยานเข้าใส่หวังจวิ้นเฟย วิญญาณเตียวมีความเร็วที่สูงยิ่งนัก ราวกับเงาลางหนึ่งที่กำลังวิ่งพ่านอยู่รอบตัวของ’หวังจวิ้นเฟย’

ทว่า’หวังจวิ้นเฟย’ได้ปลดปล่อยพลังออกมาคุ้มกันเอาไว้ทั่วร่าง จึงทำให้สามารถยันการโจมตีของวิญญาณเตียวได้อย่างต่อเนื่อง

“ ไอ้เดรัจฉานชั่วนี่มันเร็วจริง ! ”

สีหน้าของ’หวังจวิ้นเฟย’เขียวปัด เมื่อครู่มันเกือบจะได้ผลทงหลิงมาครองแล้วเชียว ทว่าในช่วงเวลาสำคัญเช่นนั้นไอ้เดรัจฉานชั่วนี่กลับเข้ามาขวางเอาไว้ นี่จึงทำให้มันรู้สึกอาฆาตแค้นเป็นอย่างมาก

‘เต้าหลิง’เม้มริมฝีปากยิ้มออกมา ในใจรู้สึกขอบคุณเล็กน้อย นี่ก็เท่ากับว่ามันสามารถชนะพวกมันได้โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย เมื่อครู่’หวังจวิ้นเฟย’คิดจะฆ่ามัน คิดไม่ถึงเลยว่ากรรมจะตามสนองมันได้รวดเร็วเช่นนี้ ร่างของวิญญาณเตียวไม่ใหญ่นัก ทั่วร่างสีขาวประดุจหิมะ ใบหูของมันแหลม ดวงตาประดุจหินล้ำค่าสีแดง

“ ไอ้เดรัจฉานชั่ว ไม่เคยมีใครสั่งสอนเจ้าเลยรึไง ! ”

สีหน้า’หวังจวิ้นเฟย’เริ่มย่ำแย่ แม้ว่าความเร็วของวิญญาณเตี้ยวจะสูงมาก ทว่ามันก็ไม่เคยมีประสบการณ์ในการต่อสู้มาก่อนเลย เดาว่าตั้งแต่เกิดมามันก็คงอยู่แต่ที่นี่มาโดยตลอด ขณะนี้ฝ่ามือของ’หวังจวิ้นเฟย’หงายออก ปรากฏเข็มเงินอันหนึ่งขึ้นกลางฝ่ามือ และในตอนที่ปล่อยมันออกไปนั้นเข็มเงินได้ระเบิดจิตสังหารที่ดุดันออกมา ก่อนพุ่งทะลวงฝ่ามวลอากาศออกไป

“ ฟิ้ว.. ”

วิญญาณเตียวสะดุ้งโหยง มันหันหลังกลับก่อนจะวิ่งหลบ ทุกครั้งที่ร่างขนปุกปุยของมันกระโดดหลบ ชั่วพริบตาเดียวบนพื้นก็ปรากฏเข็มเงินอันหนึ่งปักลงพื้นตามมาทันที จนท้ายที่สุดมันก็พลาดท่าถูก เข็มเงินอันหนึ่งแทงเข้าไปในหนังของมัน ปรากฏโลหิตไหลเป็นทางยาวลงมา

กี้ๆ !

เข็มเงินทั้งสิบสองเล่มน่ากลัวเป็นอย่างมาก หากนำมารวมกันครบทั้งสิบสอง มันจะเหมือนกับเครื่องจักรสังหารเครื่องหนึ่งที่อบอวลไปด้วยจิตสังหารที่ดุดัน เข็มเงินทุกๆเล่มล้วนแฝงไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ ด้วยความรุนแรงของเข็มเงินบัดนี้ถ้ำโบราณได้สั่นสะเทือนจนมีหินถล่มลงมา ดูอันตรายเป็นอย่างมาก

“ ฮ่าฮ่า ไอ้เดรัจฉานชั่ว ! ”

‘หวังจวิ้นเฟย’หัวเราะดังลั่น ทั้งใบหน้าล้วนเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ แม้ว่าเมื่อครู่วิญญาณเตียวจะเข้ามาขัดขวางความสุขของมัน ทว่าพอคิดๆดูแล้วทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ขอแค่ฆ่าไอ้เดรัจฉานชั่วนี้ได้ผลทงหลิงก็ต้องตกเป็นของมันอย่างแน่นอน !

“ นี่มันชุดของล้ำค่า ! ”

‘เต้าหลิง’กำหมัดแน่น ฝ่าเท้าก็เริ่มก้าวเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมายืนอยู่ด้านหลังของ’หวังถวน’ด้วยความเงียบเชียบ ‘หวังถวน’กำลังตะโกนโห่ร้องสนับสนุนให้’หวังจวิ้นเฟย’อยู่  มันตะโกนอยู่ดีๆเสียงก็หายไปทันที

มันหันหน้ากลับมาก็พบเข้ากับใบหน้าเล็กที่กำลังแสยะยิ้มอยู่ ใจมันสั่นระรัว และในตอนที่มันกำลังจะเปิดปากพูดอยู่นั้น  นิ้วของ’เต้าหลิง’ก็พุ่งเข้าไปที่กลางหน้าผากของมันพอดี ปรากฏแสงสีทองพุ่งทะยานฝ่าอากาศออกไป ราวกับกระบี่ขนาดเล็กสีทอง ก่อนจะแทงทะลุหัวของ’หวังถวน’ไป

เวลานี้เข็มเงินทั้งสิบสองกำลังบินว่อนไปทั่ว หินขนาดใหญ่แต่ละก้อนล้วนแตกสลาย อานุภาพในตอนที่เข็มเงินทั้งสิบสองอยู่ด้วยกันนั้นก็รุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

ทว่าสีหน้าของ’หวังจวิ้นเฟย’กลับขาวซีดเล็กน้อย ของล้ำค่าชุดนี้ไม่ใช่สิ่งของธรรมดา การที่จะใช้มันออกมาย่อมมิใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน ดวงตาสีแดงของวิญญาณเตียวฉายแววร้อนรนออกมา แม้ว่ามันจะเร็วก็จริง ทว่าเข็มเงินกลับเร็วกว่า

หากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ชีวิตน้อยๆของมันคงได้สูญสิ้นแน่   ‘เต้าหลิง’ค่อยๆกระชั้นชิดเข้ามาเรื่อยๆ และในตอนที่มันใกล้จะถึงตัว’หวังจวิ้นเฟย’แล้วนั้น ฝ่ามือของมันหงายขึ้น ปรากฏหอคอยสีม่วงขนาดเล็กขึ้นกลางฝ่ามือ โอบล้อมไปด้วยแสงสีม่วง หอคอยม่วงหมุนเคว้งอยู่กลางอากาศ

ชั้นทั้งเก้าเปล่งแสงสว่างสีม่วงออกมา ทั้งยังปลดปล่อยคลื่นพลังที่น่าหวาดกลัวกระจายฟุ้งออกมาอีกด้วย

“ อะไร ? ”

‘หวังจวิ้นเฟย’รู้สึกเสียวสันหลังจนต้องหันหลับไปมองด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป ชั่วพริบตาเดียวมันพลันควบคุมเข็มเงินทั้งสิบสองให้พุ่งเข้าใส่หอคอยล้ำค่าสีม่วงที่กำลังพุ่งเข้ามาโจมตีมัน หอคอยม่วงและเข็มเงินทั้งสิบสองพุ่งปะทะเข้าใส่กัน พลันปรากฏคลื่นลมขนาดมหึมาขึ้น ถ้ำโบราณล้วนสั่นสะเทือน หินจำนวนมากตกลงสู่พื้น กระจัดกระจายกันไปทั่ว

“ ฟู่วว ! ”

‘เต้าหลิง’อ้าปากออก ก่อนพ่นพลังสีทองออกจากปากไปผสมรวมกับหอคอยม่วง  พลังที่ ปลดปล่อยออกมาจากหอคอยม่วงรุนแรงขึ้นทันที และเริ่มปะทะเข้ากับเข็มทั้งสิบสองอย่างดุดัน เข็มเงินทั้งสิบสองเริ่มสั่นสะท้าน สีหน้าของ’หวังจวิ้นเฟย’ซีดเผือด ก่อนจะกล่าวอย่างตะลึงว่า

“ เป็นไปได้ อย่างไร เจ้าจะมีศาสตราวุธล้ำค่าได้อย่างไรกัน ทั้งยังเป็นศาสตราวุธล้ำค่าระดับกลาง ! ”

ศาสตราวุธล้ำค่านั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง และเข็มเงินทั้งสิบสองเองก็เป็นศาสตราวุธล้ำค่าระดับกลางเช่นกัน เพียงแต่หากเข็มเงินทั้งสิบสองมารวมอยู่ด้วยกัน ก็จะสามารถใช่ต่อกรกับศาสตราวุธล้ำค่าระดับสูงได้เลย

‘หวังจวิ้นเฟย’นั้นมีสถานะที่ค่อนข้างสูงในตระกูลหวัง ดังนั้นเป็นธรรมดาที่มันจะต้องได้ของล้ำค่ามา ทว่ามันกลับไม่คิดเลยว่าไอ้เด็กนี้จะมีศาสตราวุธล้ำค่าด้วยเช่นกัน นี่ทำให้มันหงุดหงิดเป็นอย่างมาก หรือว่าหวังหลิ่งจะถูกไอ้เด็กนี่ฆ่าไปแล้ว ?

“ ที่แท้มันก็คือศาสตราวุธล้ำค่านี่เอง ”

‘เต้าหลิง’สูดลมหายใจเข้าลึก มันเร่งรัดใช้พลังของหอคอยม่วงออกไปอย่างต่อเนื่อง หอคอยม่วงยกตัวลอยขึ้นสูง พลังที่ระเบิดออกมานั้นก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เข็มเงินทั้งสิบสองลอยนิ่งค้างอย่างฝืนทนอยู่กลางอากาศ !

เข็มเงินทั้งสิบสองนั้นน่ากลัวเป็นอย่างมาก มันเหมือนกับเครื่องจักรสังหารขนาดใหญ่ดีๆนี่เอง หากหวังจวิ้นเฟยฝืนใช้มันออกมาอย่างเต็มที่ คาดว่าวิญญาณเตียวและเต้าหลิงคงจะหนีไม่พ้นแน่

“ บัดซบ เป็นเจ้ารนหาที่ตายเอง ตอนนี้ใครก็ช่วยเจ้าไม่ได้ ! ”

สีหน้า’หวังจวิ้นเฟย’ฉายแววน่ากลัวจนอัปลักษณ์ออกมา ปรากฏไอสังหารออกมาทั่ว ก่อนมันจะเบิดเสียงคำรามออกมาว่า

“ ข้าจะฆ่าเจ้า ! ”

เตียว (สัตว์ชนิดหนึ่งของจีน ขนมีค่ามาก)

ภาษาจีนวันละนิดชีวิตประจำวัน ตอนนี้เสนอคำว่า 写(xiě) เสี่ย แปลว่า เขียน

ตัวอย่างการใช้ 我在写着信(wǒ zài xiě zhe xìn) หว่อไจ้เสี่ยเจอซิ่น แปลว่า ฉันกำลังเขียนจดหมาย

ที่มา:

(0 votes) 0/5
ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments