ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปแปลไทย : XiaoeyuGao
‘หวังจวิ้นเฟย’โกรธจนใบหน้าเขียวปัด อีกนิดเดียวมันก็จะทำสำเร็จแล้วเชียว ทว่าจู่ๆก็มีวิญญาณเตียวตัวหนึ่งโผล่ออกมาขัดขวาง และที่น่าโมโหกว่าก็คือ ในตอนที่มันจะฆ่าวิญญาณเตียวนั้น กลับมีไอ้เด็กที่มันคิดว่าตายไปแล้วโผล่ออกมาอีก ทั้งยังพกศาสตราวุธล้ำค่ามาอีกด้วย
มันลองใช้สิบสองเข็มเงินเข้าปะทะ ทว่าเข็มเงินกลับสั่นสะท้าน และในตอนที่หอคอยม่วงระเบิดคลื่นพลังที่แกร่งกล้าที่สุดออกมา ช่วงวินาทีนั้นไม่มีอะไรที่จะสามารถต่อกรกับหอคอยม่วงได้เลย มันขบกรามแน่น ฝ่ามือพลันหงายขึ้น พลังภายในร่างจำนวนมหาศาลเอ่อล้นทะลักออกมา ก่อรูปขึ้นเป็นสัตว์อสูรสีทองแดงตัวหนึ่ง ดูคล่องแคล่วปราดเปรียวดั่งมีชีวิต
ทั่วร่างโอบล้อมไปด้วยพลังที่ดุร้าย มันระเบิดคลื่นพลังออกทำเอามวลอากาศโดยรอบแตกร้าว
“ วิชานี้อีกแล้ว ! ”
เปลือกตา’เต้าหลิง’กระตุกขึ้น พร้อมส่งเสียงหึออกมาทันที หมัดของมันกำแน่น ปรากฏแสงดวงดาวเป็นเงาวาวขึ้นไปทั่วอีกครั้ง ตอนนี้หวังจวิ้นเฟยใกล้จะถึงขีดสุดแล้ว แน่นอนมันย่อมใช้วิชามหัศจรรย์นี้ออกมาได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเท่าไรนัก
“ ตายซะ ! ”
‘หวังจวิ้นเฟย’ตะโกนดังลั่น พร้อมกับกระทิงคลั่งเหยียบย่ำอากาศออกไป มันคำรามออกมาดังสนั่น ดูดุร้ายอย่างยิ่ง หากถูกกงเล็บของกระทิงคลั่งซัดเข้าให้ล่ะก็ ไม่ตายก็ต้องสาหัสแน่
‘เต้าหลิง’คำรามลั่น กำปั้นสีทองระเบิดแสงสว่างจ้าออกมา หมัดพลันพุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็วสูง พลังสีทองที่เดือดพล่านเอ่อล้นทะลักออกมา ก่อนจะพุ่งปะทะกับกระทิงคลั่งด้วยความหนักแน่น
ในทันทีที่พลังระเบิดออกมานั้น ‘เต้าหลิง’สะบัดแขนครั้งหนึ่ง หอคอยม่วงที่ปล่อยคลื่นพลังกดทับสิบสองเข็มเงินอยู่นั้นก็ลอยกลับมาอยู่บนหัวของมัน ก่อนจะปลดปล่อยพลังสีม่วงลงมาห่อหุ้มร่างกายเอาไว้ ในตอนที่ทุกอย่างสิ้นสุดลง เบื้องหน้าปรากฏการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง
กำปั้นและกระทิงคลั่งประสานกัน ระเบิดคลื่นพลังที่รุนแรงออกมา ทั่วทั้งถ้ำโบราณราวกับจะถล่มลงมา หินขนาดใหญ่โดยรอบล้วนถูกคลื่นพลังซัดสาดจะกระเด็นไปทั่ว จากนั้นพวกมันก็ระเบิดกระจายออกเป็นเศษดิน พลังที่อยู่ในร่างของ’เต้าหลิง’ใกล้จะหมดแล้ว มันจึงหยิบโอสถเม็ดเสว่โพ่ออกมา ก่อนจะกินมันเข้าไปและเริ่มทำการดูดซับพลังอย่างบ้าคลั่ง
“ มอบชีวิตของเจ้ามาให้ข้าซะ ! ”
ผมยาวหวังจวิ้นเฟยเป็นกระเซิง ทั่วร่างปลดปล่อยไอสังหารออกมาอย่างเนืองแน่น ใบหน้าที่ขาวซีดอัปลักษณ์ไร้ที่เปรียบ ก่อนจะพุ่งทะยานเข้าใส่กลุ่มฝุ่นควันที่คละคลุ้งอยู่เบื้องหน้า
ทันใดนั้น ปรากฏระลอกคลื่นแสงสีทองจ้ากระจายออกเป็นวงกว้างพร้อมกับเสียงเสียดสีของกระดูกดังกรอบแกรบออกมาจากกลุ่มฝุ่นควัน
“ อะไร ? ”
‘หวังจวิ้นเฟย’ตกใจสะดุ้งเฮือก ฝ่าเท้ารีบก้าวถอยออกไปอย่างรวดเร็ว ทว่ามันก็สายเกินไปเสียแล้ว หมัดสีทองพลันพุ่งทะลวงอากาศซัดเข้าใส่หน้าอกของมันอย่างจัง
“ แค่ก.. ”
มันทรุดลงกับพื้น ก่อนสำรอกโลหิตจำนวนมากออกมา ทั่วทั้งหน้าอกของมันระเบิดแตกกระจาย สายตาจ้องมองไปที่เด็กหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาด้วยแววตาหวาดกลัว ก่อนจะกล่าวอย่างโมโหว่า
“ ข้าคือหวังจวิ้นเฟยแห่งตระกูลหวัง นี่เจ้าคิดจะทำอะไร ? ”
“ ส่งเจ้ากลับบ้านเก่า ! ”
นัยน์ตา’เต้าหลิง’ฉายแววอำมหิต ก่อนใช้ฝ่าเท้ากระทืบลงไปอย่างแรง จนร่างของ’หวังจวิ้นเฟย’แทบจะระเบิดแตกออก
“ เจ้า..เป็นเจ้ารนหาที่ตายเอง เจ้าก่อเรื่องใหญ่เข้าแล้ว ข้าขอสั่งให้เจ้ารีบปล่อยข้าไปเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นใครก็ช่วยเจ้าไม่ได้ ตระกูลหวังไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะล่วงเกินได้ ”
‘หวังจวิ้นเฟย’ขบกรามกล่าวออกมาอย่างเคียดแค้น รู้สึกได้ว่าชีวิตของมันคงอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว
“ หึ เมื่อครู่ในตอนที่เจ้าส่งคนมาฆ่าข้าเจ้ายังทำได้หน้าตาเฉย แต่ตอนนี้กลับมาร้องขอชีวิต ! ”
‘เต้าหลิง’ยิ้มเยาะออกมา มันไม่ใช่คนใจอ่อนที่ไม่กล้าลงมืออยู่แล้ว ใครดีมามันก็จะดีกับเป็นสิบเท่า หากใครร้ายมา มันก็จะร้ายกลับเป็นสิบเป็นร้อยเท่า !
หลังจากฆ่า’หวังจวิ้นเฟย’แล้ว ‘เต้าหลิง’ก็สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนมันจะนั่งลงอย่างยากลำบาก เพียงแค่ศึกใหญ่ครั้งเดียวมันก็สูญเสียพลังไปมากจริงๆ
“ กี้กี้… ”
วิญญาณเตียวส่งเสียงวิ่งเข้ามา ทั่วร่างของมันเต็มไปด้วยคราบโลหิต ก่อนมันจะใช้ขนปุกปุยของมันถูกับแขนของเต้าหลิงอย่างสนิทสนม ดวงตาโตสีแดงประดุจหินล้ำค่าฉายประกายดีอกดีใจออกมา
“ เจ้าตัวน้อย เมื่อครู่ข้าเอาเปรียบเจ้าไปเยอะเลย ”
‘เต้าหลิง’ฉีกยิ้มออกมา ก่อนอุ้มวิญญาณเตียวมาตรงหน้าอก พลางใช้มือลูบไปที่หัวของมันอย่างเอ็นดู
“ กี้กี้ ”
วิญญาณเตียวส่งเสียงร้องออกมา ตั้งแต่เกิดมามันก็อยู่แต่ที่นี่ ยังไม่เคยได้ใกล้ชิดกับคนเลย ดังนั้นมันจึงไม่สามารถพูดภาษามนุษย์ได้ เล็บอันน้อยๆของมันโบกออกไป เล็บขนปุกปุยของมันพยามชี้ไปตรงเข็มเงินทั้งสิบสองที่อยู่บนพื้น
“ ไปสิ ข้าให้เจ้า ”
‘เต้าหลิง’ยิ้มหัวเราะออกมา วิญญาณเตียวตัวนี้มีธาตุวิญญาณที่สูงมาก คาดว่าน่าจะเป็นสัตว์วิญญาณชนิดหนึ่ง วิญญาณเตียววิ่งกระหืดหอบเข้ามาด้วยอาการดีอกดีใจ เล็บน้อยๆของมันช้อนเข็มเงินทุกเล่มขึ้นมา ก่อนอ้าปากแล้วคายหมอกสีขาวออกมา เข็มเงินทั้งสิบสองลอยขึ้นจากพื้นหมุนอยู่รอบตัวมันพร้อมเปล่งแสงจ้า
เล็บน้อยๆของมันเขี่ยไปที่เข็มเงิน มันทำราวกับว่าเข็มเงินเป็นของเล่นของมัน ดูช่างไร้เดียงสาและมีเสน่ห์เหลือเกิน
‘เต้าหลิง’นั่งพักอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเดินไปค้นตัว’หวังจวิ้นเฟย’ คิ้วมันพลันขมวดขึ้น เหตุใดในตัวมันถึงไม่มีของอะไรเลย ?
“ ไม่น่าจะเป็นไปได้ แม้แต่เหรียญสอบอันเดียวก็ไม่มี ในเมื่อสถานะมันสูงส่งขนาดนั้น ก็น่าจะมีเหรียญสอบติดตัวซักอัน และคนอย่างมันก็ต้องคิดที่จะติดลำดับหนึ่งอยู่แล้ว ! ”
จิตใจ’เต้าหลิง’เริ่มสั่นไหว หลังจากขบคิดอยู่ครู่หนึ่งสายตาของมันก็จ้องไปที่กำไลข้อมือสีเงินอันหนึ่งที่อยู่ในอกเสื้อ’หวังจวิ้นเฟย’ นัยน์ตามันฉายประกายออกมา ก่อนยิ้มกว้างแล้วกล่าวออกมาว่า
“ หรือว่านี่จะเป็นกำไลมิติที่คนพูดถึงกัน ? ”
กระเป๋ามิติสามารถเก็บของได้ ทุกส่วนของมันล้วนใช้หนังของสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์ที่ล้ำค่าในการสร้างมันขึ้น ของสิ่งนี้กล้าพูดได้เลยว่าล้ำค่าอย่างยิ่ง ส่วนกำไลมิติหรือแหวนมิติเป็นการใช้หินมิติในการสร้างมันขึ้นมา ตามคำเล่าลือมันเป็นแร่หินชนิดหนึ่ง ที่จะหามันเจอได้บนกลางท้องฟ้ายามราตรีหรือไม่ก็สถานที่พิเศษบางสถานที่เท่านั้น
จิตใจของมันลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง เมื่อก่อนมันเคยอ่านเจอในตำราโบราณว่า กำไลมิติเป็นของล้ำค่าที่จะยึดติดกับเจ้าของมัน ทว่าตอนนี้’หวังจวิ้นเฟย’ได้ตายไปแล้ว ดังนั้นของสิ่งนี้ย่อมไม่มีเจ้าของ นิ้วของมันเปล่งแสงสีทองออกมา เคลือบไปที่ตัวของกำไลสีเงิน ก่อนกำไลสีเงินกระจายคลื่นลึกลับออกมา
กำไลสีเงินที่อยู่ในนัยน์ตาของมันพลันเปลี่ยนเป็นอีกห้วงมิติหนึ่งทันที
“ กำไลมิติจริงๆด้วย ! ”
ใบหน้าเล็กดูประหลาดใจ ของสิ่งนี้เป็นของที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง แม้มีเงินก็ยากที่จะซื้อมันได้ ไม่คิดเลยว่า’หวังจวิ้นเฟย’จะมีของล้ำค่าชนิดนี้อยู่
ปึงปึง ! ปรากฏกองสิ่งของขนาดใหญ่ล่วงลงสู่พื้น ใบหูของวิญญาณเตียวกรกะดิกครั้งหนึ่ง เล็บน้อยๆที่กำลังเขี่ย เข็มเงินเล่นอย่างสนุกสนานต้องหยุดลง ดวงตาโตมองไปทางกองสิ่งของขนาดใหญ่ ก่อนวิ่งกระหืดหอบเข้าไปด้วยอาการดีอกดีใจ
“ เยอะจริงๆ ! ”
‘เต้าหลิง’สูดลมหายใจเข้าลึก ปรากฏเหรียญสอบร่วมร้อยสามสิบเหรียญอยู่กลางนัยน์ตามัน เจ้านี่มันจัดการไปแล้วกี่คนกัน ‘เต้าหลิง’เก็บเหรียญสอบไปทั้งหมด ตรงนี้ยังมีแร่หินอยู่อีกเล็กน้อย ทว่าหากเทียบกับแร่หินที่’เต้าหลิง’มีอยู่ติดตัวแล้ว ความต่างมันค่อนข้างมาก
นอกจากนี้ก็ยังมีของต่างๆอีกมากมายที่ไร้ประโยชน์
“ เป็นคนตระกูลใหญ่แท้ๆ แต่ไม่เห็นจะมีของล้ำค่าซักเท่าไหร่ ”
‘เต้าหลิง’ค้นสิ่งของในกองเสร็จก็ทำปากแบะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังได้กำไลมิติมา ซึ่งทำให้มันดีใจเป็นอย่างมาก ของสิ่งนี้เป็นของล้ำค่าที่หาได้ยากยิ่ง ภายภาคหน้าจะพกพาของอะไรก็จะสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
“ กี้กี้… ”
วิญญาณเตียวร้องเรียก กวัดแกว่งเล็บของมันชี้ไปที่หัวของมัน ปรากฏดอกไม้สีม่วงช่อหนึ่งอยู่ด้านบน ทั้งยักปกคลุมไปด้วยหมอกสีม่วง
“ นี่มันของล้ำค่า ”
‘เต้าหลิง’มองมันแวบหนึ่ง ดอกไม้สีม่วงนี้เป็นของล้ำค่าที่หลอมขึ้นมาจากหยกล้ำค่าชนิดหนึ่ง ค่อนข้างไม่ธรรมดา ‘เต้าหลิง’ยันกายขึ้นก่อนเดินไปที่ต้นทงหลิง หลังจากที่มันเด็ดผลทงหลิงออกมาแล้วมันก็สังเกตเห็นวิญญาณเตียวกำลังใช้แขนเช็ดน้ำลายของมัน ทั้งยังแสดงท่าทีที่ตระกระตระกราม
‘เต้าหลิง’ยิ้มก่อนจะยื่นผลทงหลิงลูกหนึ่งให้วิญญาณเตียวไป มันดมฟึดฟัดอยู่สองสามครั้ง เล็บน้อยๆของมันก็โอบผลทงหลิงขึ้น ดวงตาโตสีแดงกรอกไปมาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะลงมือแทะลงไปหนึ่งคำ
“ กินเร็วๆเข้าอย่ามัวเสียเวลา ”
‘เต้าหลิง’เงียบไปพักหนึ่ง ผลทงหลิงนี้มีประโยชน์ต่อขั้นซึมซับวิญญาณเป็นอย่างมาก ทั้งยังมีมูลค่าเทียบเคียงกับโอสถเม็ดซึมวับวิญญาณจื่อซิน แต่วิธีการกินของวิญญาณเตียวนี่ช่างเสียเวลาของมันจริงๆ ทันใดนั้น สายตาของมันก็มองลึกเข้าไปในถ้ำโบราณ มันสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน
วิญญาณเตียวเร่งแทะผลทงหลิงอย่างสุดกำลัง ดวงตาโตสีแดงของมันฉายประกายดีอกดีใจ ทว่าในตอนที่เห็นเต้าหลิงเดินลึกเข้าไปในถ้ำโบราณ ดวงตาของมันก็แสดงความหวาดกลัวออกมา ก่อนร้องกี้กี้เรียก’เต้าหลิง’แกมตักเตือน ได้ยินดังนั้น ‘เต้าหลิง’ก็หันกลับมา เพียงเห็นท่าทางวิญญาณเตียวที่ดูเคร่งเครียด
คิ้วของมันพลันขมวดขึ้น ในใจคิดขึ้นว่า
“ โอกาสกับอันตรายมันเป็นของคู่กันอยู่แล้ว หากปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไป ภายภาคหน้าคงไม่มีโอกาสหาโลหิตเทพสัตว์อสูรได้อีกแล้ว ”
มันนั่งขัดสมาธิลง และเริ่มดูดซับพลังฟ้าดินเพื่อฟื้นฟูพลัง ราวครึ่งชั่วยามผ่านไปก็ฟื้นฟูจนถึงขีดสุด ก่อนเรียกหอคอยม่วงออกมาและเดินลึกเข้าไปด้านใน วิญญาณเตียวยืนลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนเรียกเข็มเงินทั้งสิบสองออกมา และเดินตามหลัง’เต้าหลิง’เข้าไปอย่างระมัดระวัง
ภายในถ้ำโบราณมืดเป็นอย่างมาก ดวงตา’เตาหลิง’เปล่งแสงสีทองออกมา ภาพที่เห็นโดยรอบราวกับกลางวัน บนพื้นมีเศษหินจำนวนมากเกลื่อนกราด มันเดินเข้ามาได้ซักพักก็ดึงพลั่วอันหนึ่งที่ทิ่มอยู่ในพื้นออกมา บนตัวพลั่วเต็มไปด้วยคราบสนิม สีหน้ามันดูตกตะลึงเล็กน้อย
สายตามองสำรวจไปที่กำแพงหินครู่หนึ่ง ก็พบกับร่องรอยที่เป็นหลุมบ่อขึ้นจำนวนมาก
“ นี่มันเหมืองแร่ ”
‘เต้าหลิง’กล่าวอย่างตะลึงต่อว่า
“ อีกทั้งยังมีคนมาขุดแร่แล้วด้วย ดูท่าน่าจะนานมาแล้ว แต่ว่าด้านในถ้ำแร่นี้จะมีโลหิตเทพสัตว์อสูรได้อย่างไร ? ”
สีหน้าของ’เต้าหลิง’ดูสงสัยปนประหลาดใจ ในใจคิดจะต้องระวังตัวให้มากขึ้น ที่แห่งนี้มันดูลึกลับเกินไป พลังทั่วร่างมันเร่งขึ้นจนถึงจุดสูงสุด และเริ่มเดินเข้าไปด้านในตามแรงดึงดูดของวิชากลืนฟ้า พื้นที่ด้านในค่อยๆขยายกว้างขึ้น เหมืองแร่แห่งนี้ใหญ่สุดๆ พลังที่ซ่อนอยู่ส่วนลึกแผ่กระจายความรุนแรงออกมาเล็กน้อย
วิญญาณเตียวดูหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ดวงตาโตสีแดงมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง มันกระโดดขึ้นมายืนบนไหล่ของ’เต้าหลิง’ ขนสีขาวหิมะทั่วร่างของมันลุกซู่ ก่อนจะร้องเสียงแหลมออกมา
“ กี้กี้กี้… ”
“ เจออะไร ? ”
‘เต้าหลิง’เปล่งแสงสีทองจ้าออกมารอบตัว ทั่วร่างโอบล้อมไปด้วยพลังที่ร้อนผ่าว ดวงตาทั้งสองข้างราวกับเครื่องตรวจจับมองสำรวจไปโดยรอบ ทันใดนั้นมันก็สัมผัสได้ถึงพลังที่หนาวเยือกพุ่งเข้ามา
“ หลีกไป ! ”
‘เต้าหลิง’คำรามออกมา พร้อมปล่อยหมัดพุ่งทะยานออกไป ทว่าเบื้องหน้ากลับเป็นควันสีดำต่างหากที่ถูกมันต่อย นี่มันเหมือนกับไอสังหารสีดำหนึ่ง รูปร่างเหมือนกับตัวอ่อนแมลง ขณะนี้ควันสีดำกำลังเกาะอยู่ตามผิวหนังของมัน ก่อนจะชอนไชเข้าไปในตัวของ’เต้าหลิง’ ปรากฏเสียงตูมดังขึ้น
ภายในร่างของ’เต้าหลิง’ระเบิดเสียงฟ้ารองดังสนั่นออกมา พลังสีทองที่ร้อนแผดเผาพุ่งทะลัก ควันสีดำที่กำลังชอนไชเข้าไปในร่างพลันถูกเผาไหม้แหลกเป็นจุล
“ นี่มันตัวบ้าอะไรกัน ? ”
หมัดทั้งสองข้างกำแน่น ควันสีดำเมื่อครู่ดูหนาวเยือกเหลือเกิน หากมันไม่ระเบิดพลังที่ร้อนแผดเผาออกมา เดาว่าคงต้องถูกควันดำฆ่าตายแน่ ‘เต้าหลิง’มองไปรอบๆด้วยความระมัดระวัง ในตอนที่สังเกตเห็นเงาคนเงาหนึ่งเข้า สีหน้ามันพลันเปลี่ยนเป็นตกตะลึง พลังทั่วร่างโหมซัดกระหน่ำออกมาอย่างบ้าคลั่ง
_________________________________
ช่วงนี้กำลังสนุก ผมเลยแปลได้อย่างต่อเนื่อง เพราะผมอ่านพร้อมแปลลงคอมเลย ฮ่าๆ
ภาษาจีนวันละนิดชีวิตประจำวัน ตอนนี้เสนอคำว่า
喝 (hē) แปลว่า ดื่ม
ตัวอย่างการใช้
喝水 (hē shuǐ) เฮอสุ่ย แปลว่า ดื่มน้ำ
喝牛奶 (hē niú nǎi) เฮอหนิวหน่าย แปลว่า ดื่มนม
喝可乐 (hē kě lè) เฮอเค่อเล่อ แปลว่า ดื่มโค้ก
喝酒 (hē jiǔ) เฮอจิ่ว แปลว่า ดื่มเหล้า
ที่มา:
(0 votes) 0/5