I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

GSDZ (盖世帝尊) ตอนที่ 28 วิหารโบราณ

| GSDZ (盖世帝尊) | 940 | 2360 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลไทย : XiaoeyuGao

ภายในถ้ำโบราณปรากฏหลุมและร่องรอยการขุดเจาะจำนวนมาก อีกทั้งสภาพร่องรอยยังทิ้งระยะเวลามานานมาก ซึ่งไม่รู้แน่ชัดว่ามันผ่านมากี่ปีแล้ว ภายในนี้ดูผิดปกติเป็นอย่างมาก

เมื่อครู่ก็มีควันดำพุ่งเข้ามาอย่างฉับพลัน ทำให้เต้าหลิงรู้สึกหนาวเยือกราวกับตกลงไปในอุโมงค์น้ำแข็ง หากมิใช่พลังในร่างที่ร้อนแผดเผาสลายควันดำไป ป่านนี้ตัวมันจะเป็นอย่างไรก็ยังไม่รู้ วิญญาณเตียวตกใจเสียจนขนทั่วร่างลุกซู่ราวกับขนเม่นขนาดเล็กที่กำลังทิ่มใส่ไหล่ของ’เต้าหลิง’พร้อมกับร้องกี้กี้ออกมา

เงาลึกลับนั่นทำให้’เต้าหลิง’ตกใจสะดุ้งเฮือก ทว่าในตอนที่มันสัมผัสได้ถึงไอแห่งความตายจากเงานั่น มันก็ผ่อนลมหายใจออกมาดังเฮ้อ ที่แท้มันก็เป็นซากศพที่แห้งแล้วนั่นเอง ไม่รู้เหมือนกันว่ามันตายมานานเท่าไร เพราะว่าร่างของมันไม่มีกลิ่นเน่าศพเลย อีกทั้งตรงกลางระหว่างคิ้วยังมีโลหิตสีดำอยู่ ดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก “ เลือดสีดำ ”

ใจ’เต้าหลิง’สั่นระรัว ฝ่าเท้าพลันก้าวถอยออกมา เม็ดเหงื่อเย็นๆออกมาชุ่มทั้งหลัง ก่อนจะพลังปากพูดออกมาว่า

“ ที่เตี่ยพูดบ่อยๆว่าภายในเหมืองจะมีสิ่งชั่วร้ายอยู่ หรือว่ามันจะเป็นเรื่องจริง? ”

มันกำหมัดแน่น จิตใจก็ตื่นตัวยิ่งขึ้นกว่าเดิม เมื่อก่อน’เต้าหลิง’เคยได้ยินอาเป๋เล่าให้ฟังบ่อยๆว่า ในเหมืองโบราณบางแห่งจะมีเรื่องชั่วร้ายเกิดขึ้น ดังนั้นอย่าเข้าไปลึกกว่านี้จะเป็นการดีที่สุด มิเช่นนั้นจะตายอย่างไรก็ยังไม่รู้ แร่หินนั้นสามารถสามารถถือกำเนิดขึ้นใต้ผืนดิน

เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ใครๆก็รู้กัน แร่หินแต่ละก้อนจำเป็นต้องใช้เวลาหลายปีมากถึงจะถือกำเนิดออกมาได้ แต่ก็มีแร่หินชั้นยอดบางชิ้น ยกตัวอย่างเช่นผลึกหินฟ้า ตามคำบอกเล่ามันจำเป็นต้องใช้เวลาหลายพันปีถึงจะถือกำเนิดออกมาได้ อีกทั้งเวลาในการกำเนิดแร่พวกนี้นั้นเป็นสิ่งที่ยากจะคาดเดาได้ แต่อย่างว่าแร่หินพวกนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะขุดกันขึ้นมาได้ง่ายๆ

ส่วนรายละเอียดยิบย่อยนั้น’เต้าหลิง’เองก็ยังรู้ไม่แน่ชัด รู้เพียงแต่’อาเป๋’ได้บอกเอาไว้ว่าการจะเข้าไปในเหมืองย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย บางทีก็อาจจะตายโดยไม่รู้ตัวก็ได้

มันพยามควบคุมสติของตนเอง สายตาก็จ้องไปที่เส้นทางเบื้องหน้าที่ไม่คุ้นเคย นัยน์ตาฉายแววหนักแน่นออกมา ไม่ว่ามันจะมีอันตรายมากน้อยเพียงไหนยังไงก็ต้องฝ่าเข้าไปให้ได้ !

ยิ่งเดินเข้าไปเท่าไหร่ผนังถ้ำก็ยิ่งขยายกว้างขึ้นเท่านั้น พลันปรากฏกลิ่นไอหนาวขึ้นใต้ผืนดิน ราวกับอยู่ในอุโมงค์ลมก็มิปาน จากนั้นก็มีเสียงระเบิดดังเปรี้ยงขึ้น ราวกับปีศาจที่ผุดขึ้นมาโจมตีจากขุมนรก หนาวเยือกรามไปถึงกระดูก

“ ไปให้พ้น ! ”

พลังโคจรไปทั่วร่างของมัน ก่อนเปล่งแสงสว่างจ้าสีทองออกมาโอบล้อมกาย ทั้งยังแผ่กระจายแสงออกไปโดยรอบ คอยต้านควันดำไม่ให้เข้าใกล้ ตอนนี้มันเหมือนกับเตาไฟกำลังคุโชนเตาหนึ่งที่กำลังวิ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว

“ ทางแยกเต็มไปหมดเลย ”

ขณะนี้ฝีเท้าของมันก็หยุดชะงัก สายตามองไปรอบๆ ซึ่งมีแต่ทางแยกเต็มไปหมด และก็มีร่องรอยการขุดของคนงาน เห็นได้ชัดว่าจะต้องเป็นคนที่มาขุดแร่ในตอนแรกเป็นคนทำขึ้นแน่

‘เต้าหลิง’ไม่กล้าเดินมั่วซั่ว มันลองสัมผัสการเรียกหาของวิชากลืนฟ้าอย่างละเอียด จนท้ายที่สุดสัมผัสก็พามาหยุดอยู่ที่ช่องด้านซ้ายสุด ก่อนฝีเท้าจะรีบก้าวเดินเข้าไปทันที

“ มีพลังหยินหนาแน่นมาก ”

ในตอนที่เข้ามาในนี้มันก็สัมผัสได้ว่าในนี้มีสิ่งที่น่ากลัวอยู่ ลมหนาวโดยรอบส่งเสียงหวีดร้องโหยหวนราวกับเสียงร้องไห้ของวิญญาณ ดูช่างน่าหวาดกลัวเสียเหลือเกิน วิญญาณเตียวตกใจเสียจนห่อตัวเป็นก้อนกลม เล็บปุกปุยของมันยกขึ้นมาปิดดวงตาสีแดงของมันเอาไว้ ไม่กล้ามอง

“ เหมืองโบราณนี่ไม่ธรรมดาจริงๆด้วย มีศพคนตายมากมายถึงเพียงนี้ ว่าแต่อะไรที่ฆ่าพวกมันกัน ? ”

‘เต้าหลิง’มองไปยังซากศพจำนวนมากที่นอนเกลื่อน ที่สำคัญพวกมันล้วนมีโลหิตสีดำอยู่ตรงกลางระหว่างคิ้ว เหมือนกับถูกอะไรบางอย่างทะลวงเข้าไปทำให้ตายในทันที ภายในถ้ำโบราณปรากฏลมหนาวออกมาเป็นระยะๆไหลแทรกซึมเข้ากระดูก ใต้ผืนถ้ำที่มืดสนิทปรากฏดวงตาสีแดงโลหิตผลุบๆโผล่ๆออกมาราวกับโคมไฟสองดวง

ทั้งยังปลดปล่อยพลังที่ดุร้ายออกมาด้วย ร่างกายของ’เต้าหลิง’พลันหนักอึ้ง ขนทั่วร่างที่ชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อตั้งขึ้น สัมผัสได้ถึงสายตาที่เย็นเฉียบเข้ากระดูกกำลังมองมาที่มัน มันพลันหันกลับไปมองพร้อมตะโกนเสียงดังออกมาว่า

“ ใคร ? ”

เสียงตะโกนประดุจเสียงฟ้าร้อง ภายในร่างระเบิดเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงเปรี้ยงดังขึ้น มวลอากาศโดยรอบล้วนสั่นสะเทือน

ดวงตาโตประดุจหินล้ำค่าสีแดงของวิญญาณเตียวกะพริบปริบๆ มันกลอกสายตามองไปรอบๆด้วยแววตาฉงนสงสัย

“ หรือว่าจะคิดไปเอง ? ”

สายตามองไปก็ไม่เจอใคร มันก็ขมวดคิ้วขึ้นแล้วกล่าวว่า

“ คงจะคิดไปเอง ต้องคิดไปเองแน่ๆ ”

วิญญาณเตียวนั้นขี้ขลาดสุดๆ หากมันสัมผัสได้ถึงสิ่งที่ไม่ชอบมาพากลมันก็จะร้องออกมาอย่างสุดกำลังทันที  ทว่าตอนนี้เจ้าตัวน้อยเองก็ไม่มีอาการใดๆ สงสัย’เต้าหลิง’คงจะคิดมากจนเกินไปจริงๆ หลังจากชะงักอยู่ครู่หนึ่ง’เต้าหลิง’ก็ย่ำเท้าก้าวเดินต่อไป ถึงตอนนี้ทุกอย่างดูราบรื่น

ไม่ได้เจอกับเหตุการณ์ประหลาดแต่อย่างใด ทว่าภาพที่อยู่เบื้องหน้ามันต้องทำให้หัวใจมันสั่นระรัว ปรากฏสถานที่หนึ่ง รูปร่างเหมือนกับพระราชวังแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ใต้ผืนดิน ทว่ากลับมีซากปรักหักพังจำนวนมากตกลงมา มองดูแล้วน่าสลดและอ้างว้างเหลือเกิน

“ ทำไมถึงมีสิ่งก่อสร้างอยู่ใต้ดิน ? ”

‘เต้าหลิง’ตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง ทุกอย่างดูผิดปกติไปเสียหมด ทุกที่ล้วนเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง ผนังบางส่วนก็มีรอยร้าวเป็นแนวยาวขนาดใหญ่อยู่ ราวกับถูกอะไรบางอย่างโจมตีจนกลายเป็นเช่นนี้

“ หรือว่าคนที่มาขุดแร่ในนี้จะเป็นคนสร้าง ? ”

‘เต้าหลิง’เกาหัวสองสามครั้ง สายตาก็มองสำรวจไปโดยรอบ ทว่าก็ยังสัมผัสไม่ได้ถึงอันตรายใดๆ

“ กี้กี้…. ”

วิญญาณเตียวกวัดแกว่งเล็บของมัน ชี้ไปทางห้องโถงของวิหารที่ทรุดโทรม ดวงตาโตลายเล็กน้อย ราวกับว่านึกอะไรบางอย่างได้ เต้าหลิงเดินไปตามทางที่อ้างว้าง มันก็รู้สึกได้ว่าตอนนี้เป้าหมายของมันใกล้ที่จะบรรลุแล้ว มันไม่กล้าที่จะเดินสุ่มสี่สุ่มห้าแต่อย่างใด

มันเพียงแต่เดินตามการเรียกหาของวิชากลืนฟ้าเท่านั้น แม้ว่าในนี้จะมีของล้ำค่าที่พวกคนก่อนๆทิ้งเอาไว้ แต่ทว่ามันก็ขอปฏิเสธ เพราะว่าทุกอย่างมันดูผิดปกติเกินไป มันมิกล้าเสี่ยง เดินผ่านซากที่ถล่มลงมา ‘เต้าหลิง’ก็เดินมาอยู่กลางห้องโถงใต้ดินห้องหนึ่ง ในนี้มีเสามังกรตั้งเรียงรายกันจำนวนมาก

ทว่าเสามังกรที่หยาบใหญ่เหล่านี้ส่วนใหญ่หักร้าว ไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนสร้างมันขึ้นมา ปรากฏเสียงวิ้งดังขึ้น ทว่าเต้าหลิงก็ยังไม่ทันจะได้หันไปมอง ก็ปรากฏคลื่นพลังที่ดุร้ายพุ่งเข้ามา ทั้งยังแฝงไว้ด้วยกลิ่นไอโบราณที่น่าหวาดกลัวและจิตสังหารที่รุนแรง ทำเอาเต้าหลิงต้องหยุดชะงัก คลื่นพลังที่น่ากลัวโอบล้อมร่าง’เต้าหลิง’เอาไว้

มันพลันรู้สึกหนาวเยือกเข้าไปถึงกระดูก ความหายนะครั้ง ใหญ่ได้มาเยือนถึงตัวแล้ว นี่สินะความน่ากลัวของความตาย

ครืนน ! พลังที่ชั่วร่ายไหลพรั่งพรูเข้าสู่ร่างกาย

ร่างของ’เต้าหลิง’สั่นสะท้าน ภายในร่างของมันราวกับมีพลังศักดิ์สิทธิ์ที่มีอานุภาพรุนแรงตื่นขึ้นมา ก่อนจะบดขยี้พลังชั่วร้ายจนแหลกเป็นจุล ! ยังไม่ทันที่’เต้าหลิง’จะคืนสติกลับมาครบ วิญญาณเตียวก็ส่งเสียงสะอื้น

นัยน์ตาโตของมันฉายแววประหลาดใจออกมาพร้อมกับพุ่งกระโจนเข้าไปด้านใน เห็นดังนั้น นัยน์ตาเต้าหลิงพลันหรี่ลง ก่อนพุ่งทะยานร่างตามวิญญาณเตียวไป มันรู้สึกได้ว่าในนี้มีแต่สิ่งที่อันตรายทั้งสิ้น แต่ทว่าโลหิตเทพสัตว์อสูรก็อยู่ไม่ไกลจากนี่แล้ว เบื้องหน้าปรากฏประตูหนึ่ง มองดูแล้วน่ากลัวเป็นอย่างมาก ทั้งยังเปล่งแสงสว่างไสวออกมา โอบล้อมไปด้วยพลังลึกลับขนาดใหญ่

ด้านบนหลังคาปรากฏธาตุกลุ่มอากาศที่สลัวตกลงมา   หลังจากผ่านประตูเข้ามา มันก็มาถึงพื้นที่โล่งแห่งหนึ่ง ดูอ้างว้างยิ่ง ปรากฏเป็นสภาพที่พังพินาศย่อยยับ ต้นไม้โบราณจำนวนมากล้วนหักโค่น โดยรอบเป็นยอดเขาถล่มลงมาจำนวนมาก บนพื้นปรากฏเป็นรอยแตกร้าวขนาดใหญ่จำนวนมาก

มองลึกลงไปมืดสนิทไม่เห็นพื้น ในนี้เหมือนกับว่าจะเคยมีการต่อสู้กันเกิดขึ้น ผืนดินล้วนถูกทำให้ยุบตัวลงไป หากมองทอดสายตาออกไป ก็จะเห็นหมอกหนาทึบอยู่ไกลๆ ซึ่งมองเห็นไม่ชัดเจนเท่าไรนัก แต่ทว่ามันกลับทำให้เต้าหลิงรู้สึกถึงแรงกดดันที่บีบอัดเข้าใส่ได้

นัยน์ตามันพลันหรี่ลง ตอนนี้มันรู้ถึงที่มาของพลังที่ชั่วร้ายที่เข้ามาโจมตีมันเมื่อครู่แล้ว ที่แท้ก็เป็นวิญญาณขนาดมหึมานี้นี่เอง ! มันเหมือนกับภูเขาโบราณขนาดยักษ์ที่ขวางอยู่เบื้องหน้า ใบหน้า’เต้าหลิง’เต็มไปด้วยความตกใจ นี่น่าจะเป็นร่างวิญญาณที่น่ากลัวชนิดหนึ่ง

รูปร่างมันใหญ่ประดุจภูเขา ยากที่จะจินตนาการจริงๆว่ามันจะแข็งแกร่งถึงเพียงไหน

“ วิชากลืนฟ้าชี้เป้าไปที่มันอย่างนั้นรึ ! ”

จากนั้น’เต้าหลิง’จึงพูดต่ออย่างตกตะลึงว่า

“ หรือว่านี่จะเป็นเทพสัตว์อสูร? ”

วิญญาณตนนี้แม้ว่ามันจะเคลื่อนไหวไม่ได้  ทว่าร่างของมันกลับปล่อยคลื่นพลังที่น่ากลัวออกมา ไอสังหารของมันราวกับกระบี่ฟ้าที่กระทบกันส่งเสียง ‘ เคร๊งเคร๊ง ’ ดังออกมา

หากมีใครเข้าไปใกล้ คาดว่าคงถูกฉีกร่างจนกลายเป็นเศษเนื้อแน่ !

“ เข้าใกล้ไม่ได้เลย ถ้าเข้าไปก็ต้องตาย ! ”

‘เต้าหลิง’กำหมัดแน่น มันรู้สึกได้ถึงกลิ่นไอสังหารที่เข้ามากดทับร่างกายของมัน  ไม่อยากจะคิดเลยว่าในตอนที่วิญญาณตนนี้ยังมีชีวิตอยู่มันจะแข็งแกร่งขนาดไหน มันรู้สึกได้ว่าวิญญาณตนนี้ตายไปแล้ว แต่ทว่ามันกลับมีพลังที่แข็งแกร่งจนมิอาจรุกรานมันได้

“ วิญญาณเตียวไปไหนแล้ว ? ”

‘เต้าหลิง’ขมวดคิ้วมองไปรอบๆ แต่ก็ยังหาวิญญาณเตียวไมเจอ

“ กี้กี้ ”

ปรากฏเสียงวิญญาณเตียวร้องดังขึ้น เจ้าตัวน้อยไปยืนทำลับๆล่อๆอยู่บนยอดภูเขาวิญญาณ นัยน์ตาสีแดงฉายประกายแสงจ้า ราวกับไข่มุกที่ส่องแสงสว่างยามค่ำคืนอยู่บนยอดเขาสูงก็มิปาน

“ วิญญาณเตียวเข้าไปได้ ”

‘เต้าหลิง’ตกตะลึง หรือเป็นเพราะว่าวิญญาณเตียวเป็นสัตว์วิญญาณ วิญญาณตนนั้นก็เลยไม่ทำร้ายมัน ? เจ้าตัวน้อยวิ่งลงมา เล็บปุกปุยของมันยังอุ้มโลหิตที่เหมือนกับหยกสีดำลงมาสามหยดด้วย ทุกๆหยดราวกับหลอมขึ้นจากหินศักดิ์สิทธิ์ โอบล้อมไปด้วยแสงจ้า ทั้งยังพรั่งพรูพลังบริสุทธิ์ออกมา เหมือนกับสมบัติล้ำค่าที่เปล่งแสงสว่างจ้า ทั้งยังอบอวลไปด้วยคลื่นพลังที่แกร่งกล้า !

โลหิตทั้งสามหยดมีความน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ภายในแฝงไว้ด้วยพลังหยินจำนวนมหาศาล เต้าหลิงรู้สึกหนาวเย็นเล็กน้อย มันช่างเป็นโลหิตที่น่าหวาดกลัวจริงๆ

“ โลหิตเทพสัตว์อสูร ! ”

‘เต้าหลิง’กลืนน้ำลายลงคอดังเฮือก พลั้งปากพูดออกมาอย่างตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้าง ไม่คิดเลยว่าของที่วิญญาณเตียวนำมาให้จะเป็นโลหิตเทพสัตว์อสูร

“ กี้กี้… ”

วิญญาณเตียวยื่นโลหิตล้ำค่าให้ ดวงตาโตสีแดงของมันยังมีความเสียดายอยู่เล็กน้อย หากมันทำการซึมซับพลังจากโลหิตทั้งสามหยดนี้คงจะส่งผลดีต่อตัวมันไม่น้อย เพียงเห็นเจ้าตัวน้อยยื่นโลหิตมาให้สองหยด ตัวมันเองเก็บเอาไว้หนึ่งหยด เต้าหลิงก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เจ้าตัวน้อยช่างไร้เดียงสาจริงๆ

‘เต้าหลิง’ยิ้มออกมาก่อนจะกล่าวว่า

“ ให้ข้าหยดเดียวก็พอ มากไปมันก็ใช้ประโยชน์ไม่ได้ ”

วิญญาณเตียวร้องออกมาด้วยอาการลิงโลด ก่อนยื่นโลหิตหยดหนึ่งส่งให้’เต้าหลิง’ ‘เต้าหลิง’หยิบมันวางไว้บนฝ่ามือพลันรู้สึกได้ถึงความหนาวเยือก โลหิตเริ่มแข็งตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้’เต้าหลิง’ตกตะลึงเป็นอย่างมาก หากพลังของมันรุนแรงกว่านี้หน่อย คาดว่า’เต้าหลิง’คงถูกแช่แข็งจนร่างแตกสลายไปแน่

ในตอนที่กำลังจะออกไปจากที่แห่งนี้นั้น คิ้วพลันขมวดขึ้นเล็กน้อย สายตามองลึกเข้าไปตรงกลางกลุ่มหมอกวิญญาณที่หนาทึบ ปรากฏเป็นวิหารโบราณแห่งหนึ่งที่ทั้งดูศักดิ์สิทธิ์และน่าเกรงขาม โดยรอบวิหารโบราณโอบล้อมไปด้วยสภาพอากาศ ทั้งยังเปล่งแสงสว่างจ้าละลานตาออกมา

“ นี่คืออะไร ? ”

สีหน้า’เต้าหลิง’ดูตกตะลึง นัยน์ตาจ้องเขม็งไปที่วิหารเบื้องหน้า ไม่อยากจะเชื่อว่าที่นี่จะมีวิหารที่ศักดิ์สิทธิ์ถึงเพียงนี้อยู่ ราวกับเป็นที่อยู่ของเซียนอย่างไรอย่างนั้น หมัดของมันกำแน่น อดไม่ได้ที่จะย่ำฝีเท้าเดินเข้าไป

หลังจากนั้นไม่นานทั่วร่างมันพลันหนักอึ้ง บังเกิดไอเย็นปะทุขึ้นภายในร่างอย่างไม่ขาดสาย มันจึงรีบหันหลังกลับแล้ววิ่งทันที

“ โฮก ! ”

ด้านข้างวิหารโบราณปรากฏวิญญาณรูปร่างคนขึ้น ทั่วร่างสวมเกราะสีดำ ร่างกายปลดปล่อยพลังที่หนาวเยือกออกมา ในมือถือหอกนักรบอันหนึ่งชี้ไปด้านหน้า รอบกายอบอวลไปด้วยคลื่นพลังที่น่ากลัว ยอดเขาพลันระเบิดกระจายออก !

ภาษาจีนวันละนิดชีวิตประจำวัน ตอนนี้เสนอคำว่า

给 (gěi) เก่ย แปลว่า ให้

ตัวอย่างการใช้

我给你 (wǒ gěi nǐ) หว่อเก๋ยหนี่ แปลว่า ฉันให้คุณ

可以给我吗?( kě yǐ gěi wǒ ma) เขออี่เก๋ยหว่อมา แปลว่า ให้ฉันได้ไหม

ที่มา:

(0 votes) 0/5
ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments