I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

GSDZ (盖世帝尊) ตอนที่ 29 พลังที่เพิ่มขึ้น

| GSDZ (盖世帝尊) | 961 | 2355 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลไทย : XiaoeyuGao

ภายในวิหารใต้ดิน ปรากฏเงาหนึ่งกำลังวิ่งกระหืดหอบเข้ามา ผมยาวปลิวไสวลอยขึ้นอากาศ ฝ่าเท้ามันพลันกระทืบลงพื้น ปรากฏเสียงระเบิดของผืนดินดังขึ้น พร้อมกับร่างที่พุ่งทะยานไปด้วยความเร็วสูง วิญญาณเตียวกระโดดเกาะแขนเสื้อของมันแน่น ตัวห้อยต่องแต่ง พร้อมกับส่งเสียงร้องกี้กี้ดังลั่น

ด้านหลังปรากฏเรื่องเลวร้ายขึ้น หินจำนวนมากถล่มลงมา ผืนดินปรากฏรอยแยกขนาดใหญ่เต็มไปหมด พลังที่น่ากลัวกำลังไล่หลังพวกมันมาด้วยความรวดเร็ว มันมีลักษณะเป็นเงาดำที่อัดแน่นไปด้วยพลังหยิน ในมือถือหอกชี้ไปด้านหน้า ความเร็วของมันสูงมาก มันวิ่งผ่านตรงไหนตรงนั้นล้วนปรากฏลอยแยกขนาดใหญ่ลึกหลายฉื่อ(ฟุต)

‘เต้าหลิง’ร้อนรนดั่งไฟรนก้น รู้สึกได้ถึงพลังที่น่ากลัวกำลังกดดันเข้ามา คลื่นลมโอบล้อมทั่วร่าง ฝ่าเท้ากระทืบลงพื้นพุ่งทะยานไปด้านหน้า จะต้องรีบออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด มิเช่นนั้นได้ตายแน่

วิ่งมาถึงส่วนกลางถ้ำโบราณ ร่างของ’เต้าหลิง’ก็พุ่งกระโจนเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว ในตอนที่มันเข้ามาถ้ำโบราณก็เริ่มยุบตัวแล้ว พลันปรากฏหินขนาดใหญ่ล่วงลงมาจากบนเพดานถ้ำ

“ บ้าเอ๊ย ! ”

‘เต้าหลิง’ขบกรามแน่น มันถูกหินขนาดใหญ่อัดเข้าใส่ บริเวณส่วนหลังของมันเจ็บปวดอย่างมาก ริมฝีปากปรากฏธารโลหิตไหลออกมา บนพื้นเต็มไปด้วยหินขนาดใหญ่จำนวนมากที่ตกลงมา ดูแออัดเป็นอย่างมาก

‘เต้าหลิง’อุ้มวิญญาณเตียวเอาไว้ พร้อมกับวิ่งตะลุยออกไปด้านนอกอย่างสุดกำลัง มันไม่กล้าจะเสียเวลาแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว ไม่คิดเลยว่าที่นี่จะมีวิญญาณที่น่ากลัวขนาดนี้อยู่ด้วย หินขนาดใหญ่จำนวนมากตกลงมาสู่พื้นถ้ำอย่างต่อเนื่อง ทั่วทั้งถ้ำใกล้จะถล่มลงมา มันไม่รู้เลยว่าตัวมันถูกหินอัดใส่ไปกี่ก้อนแล้ว

‘เต้าหลิง’ไอออกมาเป็นโลหิต พลันรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวที่ตามมาด้านหลัง ดูอันตรายยิ่งนัก

“ โฮกก ! ”

ปรากฏเสียงคำรามระเบิดดังขึ้น คลื่นเสียงกระจายไปทั่ว ถ้ำโบราณล้วนสั่นสะเทือน ดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก ด้านหลังราวกับมีตัวอะไรกำลังต่อสู้กันอยู่ คลื่นพลังที่แข็งแกร่งทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรง ปรากฏเสียงตูมเปรี้ยงเปรี้ยงดังออกมา ถ้ำโบราณนี้ใกล้จะพินาศย่อยยับลงมาแล้ว มวลอากาศสั่นสะเทือน เป็นสภาพที่น่าหวาดกลัวจริงๆ

“ เมื่อครู่นั่นมันตัวอะไรกัน ? ”

สีหน้า’เต้าหลิง’ดูไม่ปกติ มันวิ่งไปยังจุดที่เก็บผลทงหลิงอีกครั้งด้วยความเร็วตลอดเส้นทาง ทั่วทั้งหลังชโลมไปด้วยเม็ดเหงื่อเย็นๆ จากนั้นมันก็พึมพำกับตัวเองว่า

“ ในเหมืองโบราณนี่มันอันตรายจริงๆ โลหิตเทพสัตว์อสูรจะอยู่ในเหมืองพวกนี้หมดเลยหรือป่าว ? ”

มันเกาหัวสองสามครั้ง ในใจยังคงคิดสงสัย ทว่าตอนนี้ต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้เสียก่อนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เรื่องบางเรื่องก็ไม่ใช่สิ่งที่มันจะไปเฉียดใกล้ได้

“ กี้กี้… ”

วิญญาณเตียวเกาะอยู่ที่ขากางเกง’เต้าหลิง’ เล็บน้อยๆของมันชี้ไปที่ต้นไผ่สีดำพร้อมร้องเรียกออกมา

“ เจ้าจะเอามันไปด้วยหรือ ? ”

‘เต้าหลิง’หันหน้าไปมอง เพียงเห็นวิญญาณเตียวพยักหน้ารับ ‘เต้าหลิง’ก็รีบวิ่งไปดึงต้นไผ่สีดำทันที  มองดูแล้วต้นไผ่สีดำที่สูงราวหนึ่งฉื่อนี้ราวกับว่าจะมีบางสิ่งที่พิเศษอยู่ด้วย ‘เต้าหลิง’ถอนรากถอนโคนต้นไผ่ดำออกมาทั้งหมด มันมองดูอยู่พักหนึ่งสีหน้าของมันก็ดูประหลาดใจเล็กน้อย

เมื่อครู่ตอนที่มันดึงขึ้นมา ต้นไผ่ดำนี้ดูธรรมดามาก แต่ทว่ามันกลับต้องใช้แรงมากกว่าปกติถึงจะดึงมันออกมาได้

“ หรือว่ามันจะเป็นของล้ำค่า ? ”

‘เต้าหลิง’ดันลิ้นชนเพดาน ก่อนจะรีบเก็บต้นไผ่ดำแล้ววิ่งออกไปด้านนอกทันที มันไม่มีเวลาจะมาตรวจดูต้นไผ่ดำแล้ว ที่นี่มันผิดปกติเกินไป หากไม่แข็งแกร่งก็คงไม่มีทางเข้าไปสำรวจด้านในได้แน่ ห่างจากพื้นที่อันตรายมาไกลพอสมควร

‘เต้าหลิง’ก็สบายใจขึ้นมาก ทว่าจู่ๆมันก็หยุดวิ่ง แล้วเดินไปหาอุโมงค์เก่าที่เลิกใช้งานใกล้ๆแถวนั้น ภายในอุโมงค์มีกลิ่นคาวคละคลุ้งเต็มไปหมด คาดว่าน่าจะเป็นรังฟักไข่ของพวกสัตว์อสูร    มันได้รับบาดเจ็บหนักพอสมควร เมื่อครู่ตอนที่ถูกหินจำนวนมากอัดเข้าใส่ มันก็เกือบจมอยู่ใต้กองหินอยู่แล้ว

ดีที่ร่างกายของมันแข็งแกร่ง หากลองเปลี่ยนเป็นคนอื่นดูคาดว่าคงได้ถูกอัดจนกระดูกสันหลังหักร้าวแน่ มันนั่งขัดสมาธิลงดูดซับพลังฟ้าดิน กล้ามเนื้อที่เสียหายค่อยๆฟื้นฟูกลับมา พลังที่อ่อนนุ่มแทรกซึมไปยังบาดแผลบริเวณหลังและเริ่มทำการฟื้นฟู เวลาล่วงเลยผ่านไปจนกระทั่งถึงเที่ยงคืนเปลือกตาจึงเปิดขึ้น

“ ต้องรีบแล้ว เวลาสอบก็ใกล้จะหมดเต็มที แม้ว่าข้าจะได้เหรียญสอบมาเยอะก็จริง ทว่าผู้เข้าสอบมีถึงสามพันคน อย่างน้อยที่สุดต้องรวบรวมให้ได้ห้าร้อยเหรียญ ตอนนี้ก็แค่เกือบๆเท่านั้น  ”

ปรากฏแสงกระทบเข้าสู่ม่านตาของ’เต้าหลิง’  มันพลันมองไปที่วิญญาณเตียวด้วยแววตาฉงนสงสัย สีหน้า มันฉายแววตกตะลึงทันที วิญญาณเตียวกำลังหลับสนิท ร่างขนปุกปุยของมันเปล่งแสงสว่างล้ำค่า ภายในร่างปรากฏพลังกำลังตื่นขึ้นมา

“ มันกินโลหิตเทพสัตว์อสูรไป ! ”

สีหน้า’เต้าหลิง’ตกตะลึงยิ่ง ก่อนพึมพำกับตัวเองว่า

“ หรือว่าเจ้าตัวน้อยกับโลหิตเทพสัตว์อสูรจะมีความเกี่ยวข้องกัน ? ”

ในโลกใบนี้มีโลหิตสัตว์อสูรบางตัวที่มีพลังแฝงอันรุนแรง ทำให้ไม่สามารถดูดซับมันโดยตรงได้ แต่ว่าตอนนี้วิญญาณเตียวกลับสามารถดูดซับมันได้ อีกทั้งยังเป็นโลหิตเทพสัตว์อสูร นี่เป็นสิ่งที่ยากจะเชื่อได้จริงๆ หากมันดูดซับโลหิตเทพสัตว์อสูรไปแล้ว พลังของมันจะต้องเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าแน่ !

‘เต้าหลิง’เกาหัวสองสามครั้ง สายตาก็มองไปยังการเปลี่ยนแปลงของวิญญาณเตียวอย่างละเอียด มันสัมผัสได้เลยว่าภายในร่างของวิญญาณเตียวกำลังปลุกพลังขึ้น ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะหลับสนิทเช่นนี้อีกนานเท่าไร แต่คิดว่าจะต้องใช้เวลานานแน่

ครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วนอยู่ครู่หนึ่ง ‘เต้าหลิง’ก็จัดท่านั่งให้ดี ในมือปรากฏโลหิตสีหยกทมิฬหยดหนึ่งขึ้น มันขบคิดครู่หนึ่ง จึงกล่าวออกมาว่า

“ โลหิตนี้น่าจะเป็นธาตุหยาง หากซึมซับมันได้ ร่างกายของข้าก็จะมีธาตุหยินและหยางครบ หากเป็นเช่นนั้นจริงข้าก็สามารถฝึกวิชาฝ่ามือสุริยันจันทราได้แล้ว ! ”

แม้ว่ามันจะไม่รู้ว่าฝ่ามือสุริยันจันทราจะมีอานุภาพมากน้อยเพียงใด ทว่ามันก็รู้สึกได้ว่าวิชาฝ่ามือนี้มีความล้ำลึกอย่างยิ่ง จนถึงตอนนี้มันเข้าใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากฝึกสำเร็จ อานุภาพของมันจะต้องน่ากลัวอย่างมากแน่ เช่นนั้นก็เท่ากับว่ามันได้มีวิชาที่ไว้ใช้ป้องกันตัวเพิ่มมาแล้ว

โลหิตเทพสัตว์อสูรแล่นเข้าสู่ร่างกาย ร่างของ’เต้าหลิง’สั่นสะท้าน รู้สึกว่าทั่วทั้งร่างกำลังจะถูกแช่แข็ง ฟันสั่นกระทบกันส่งเสียงกึกกึก เสียงบทสวดวิชากลืนฟ้าดังขึ้น ปรากฏพลังลี้ลับขึ้นในเนื้อหนังเป็นระยะๆ ภายในร่างกายมันปรากฏการเคลื่อนไหวขึ้น โลหิตสีหยกดำเริ่มหลอมรวมกัน และเปล่งแสงสว่างเลอค่าออกมา

ก่อนจะชอนไชเข้าสู่ร่างกายอย่างบ้าคลั่ง พลังบริสุทธิ์ทั่วร่างเต้าหลิงพรั่งพรู บริเวณศีรษะเปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์กระจายออกมา ทั่วร่างมันล้วนระเบิดคลื่นพลังที่น่ากลัวออกมา ทั่วทั้งอุโมงค์พลันสั่นสะเทือน ‘เต้าหลิง’รู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งที่กำลังจะเพิ่มขึ้น สีหน้าดูไม่ปกตินัก

มันนั้นประเมินระดับพลังของโลหิตเทพสัตว์อสูรต่ำไปจริงๆ ในเวลานี้พลังในร่างกายของมันเปี่ยมล้นถึงขีดสุด รู้สึกได้ว่าร่างกายล้วนถูกบีบอัดจนแน่น ! ทุกเส้นพลังสีหยกดำล้วนแฝงไว้ด้วยพลังบริสุทธิ์จำนวนมหาศาล มันเริ่มไหลเวียนไปทั่วร่างกาย กระดูกภายในร่างเต้าหลิงล้วนสั่นสะเทือน ปรากฏเสียงกรอบแกรบระเบิดดังออกมา

“ ดูดซับมาให้หมด ! ”

‘เต้าหลิง’คำรามเสียงต่ำ บทสวดวิชากลืนฟ้าพลันรุนแรงและฉับพลันมากขึ้น กล้ามเนื้อแต่ละมัดล้วนเปล่งแสงออกมา และดึงพลังบริสุทธิ์จำนวนมหาศาลเหล่านั้นมาหลอมรวมเข้ากับร่างกาย กระดูกทุกๆชิ้น กล้ามเนื้อทุกๆมัดล้วนสั่นสะท้าน ภายใต้การท่องบทสวดของวิชากลืนฟ้า

ทำให้โลหิตเทพสัตว์อสูรถูกพลังที่แกร่งกล้าหนึ่งบีบอัดเข้าสู่ร่างกาย ก่อนจะปรากฏพลังแฝงจำนวนมหาศาลเอ่อล้นทะลักออกมา  ! พลังแฝงเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ความเร็วในการดูดซับพลังบริสุทธิ์เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ภายในอุโมงค์เต็มไปด้วยเมฆที่มีสีแสงเรืองรอง ดูศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก

เปรี้ยงเปรี้ยง ! ร่างกายสั่นไหว

ปรากฏเสียงฟ้าร้องดังขึ้นตรงบริเวณท้องน้อย ราวกับสายฟ้าสีทองที่ผ่าลงมาทำลายได้ทุกสิ่ง เป็นปรากฏการณ์ที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก ‘เต้าหลิง’ดูดซับพลังบริสุทธิ์จำนวนมหาศาลอย่างสุดชีวิต ในตอนที่ฟ้าใกล้จะสางแล้วนั้นกล้ามเนื้อของมันพลันเปล่งแสงสว่างจ้าออกมา ทั่วร่างเปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมาเหมือนกับผลึกหินล้ำค่า

ตัวมันราวกับเป็นเซียนที่ถูกลงโทษให้จุติลงมาเกิดในโลกมนุษย์  ภายในร่างปรากฏพลังที่แกร่งกล้าโหมซัดกระหน่ำไปทั่วร่าง !   ราวกับแม่น้ำสายยาวสายหนึ่งพุ่งทะลักออกมา พลังภายในร่างร้อนแผดเผายิ่งขึ้น ทั้งยังแฝงไว้ด้วยคลื่นพลังชีวิตที่เปี่ยมล้น โลหิตเทพสัตว์อสูรมีความรุนแรงเป็นอย่างมาก ราวหนึ่งคืนผ่านไป ร่างกายของมันก็เปิดพลังแฝงออกมาได้จำนวนมาก

พลังภายในร่างเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว เต้าหลิงรู้สึกว่าตัวมันได้เฉียดใกล้กับระดับที่สุดยอดเข้าแล้ว ในเวลานี้กล้ามเนื้อของมันได้ผลัดเปลี่ยนไป ‘เต้าหลิง’กำหมัดแน่น

พลังทั่วร่างพลันโหมซัดกระหน่ำระเบิดออกมาเป็นคลื่นพลังที่ดุดัน   ปรากฏเสียงฟ้าร้องระเบิดดังสนั่นลั่นผืนฟ้าผืนดิน หากมองทอดออกไปจะเห็นทั่วทั้งถ้ำโบราณพังถล่มลงมา หินจำนวนมากกระเด็นกระจัดกระจาย ก้อนเมฆบนท้องฟ้าสั่นไหว !

ปรากฏเงาสีทองหนึ่งเดินออกมา ผมยาวปลิวไสว แขนเสื้อสะบัดไปมา แสงสว่างโอบล้อมทั่วร่าง เผยให้เห็นใบหน้าเล็กที่ดูอ่อนวัยของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ‘เต้าหลิง’จับวิญญาณเตียวใส่ไว้ในกระเป๋าหนังสัตว์อสูร ก่อนพุ่งทะยานออกไปทันที   ในพื้นที่เขตสิบดูวุ่นวายเป็นอย่างมาก

ผู้คนจำนวนมากเดินออกมา พวกมันล้วนทำหน้าม่อยคอตกกันเป็นแถว ในเขตสิบแห่งนี้มีอัตราคนสอบตกที่สูงมาก บนพื้นเต็มไปด้วยซากศพ ผืนดินอาบชโลมไปด้วยโลหิต กลิ่นคาวคละคลุ้ง ไม่รู้เลยว่าต้องมีคนสังเวยชีวิตไปเท่าไหร่สำหรับการสอบครั้งนี้ ‘เต้าหลิง’ก็เดินมาถึงพื้นที่หนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยซากศพ

สายตาก็มองไปยังบาดแผลบนศพ บ้างก็ถูกเผาไหม้ บ้างก็ถูกกงเล็บตะปบใส่จนเละ คาดว่าน่าจะต้องเป็นสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งเป็นตัวการแน่

“ ตอนนี้เหรียญสอบคงถูกพวกยอดฝีมือแย่งไปหมดแล้วแน่ จะแย่งคืนกลับมาก็ไม่ใช่ง่ายๆซะด้วย ”

‘เต้าหลิง’พึมพำกับตนเอง แม้ว่าพลังของมันจะเพิ่มขึ้นมากโข ทว่าหากเทียบกับพวกยอดฝีมือขั้นซึมซับวิญญาณแล้ว ยังคงห่างไกลกันอีกมาก ในขณะที่เต้าหลิงกำลังเดินเข้าไปด้านในนั้น ก้อนเมฆบนท้องฟ้าพลันสั่นไหว จากนั้นก็แตกสลายออก ปรากฏเป็นเปลวเพลิงสีแดงฉานเอียงตัวลงมา แผดเผาโดยรอบไปทั่ว

บนพื้นเป็นทะเลสาบสายหนึ่งถูกเปลวเพลิงเผาไหม้จนระเหยกลายเป็นไอ !

หินโดยรอบล้วนระเบิดกระจายออก ปรากฏเป็นวิหกตัวหนึ่งลอยเคว้งอยู่กลางอากาศทั่วร่างของมันเป็นสีแดงฉาน นัยน์ตาสีแดงเรื่อจ้องมาที่เต้าหลิงด้วยความเย็นชา

“ เป็นมันนี่เอง วิหกขนเพลิง ”

‘เต้าหลิง’กำหมัดแน่น มันคือสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์ที่ยังโตไม่เต็มวัยอีกทั้ง’เต้าหลิง’ก็เคยเจอมันแล้วที่เมืองชิงโจว มันจำได้แม่น’เยว่อวิ้น’บอกมันไว้ว่าห้ามต่อสู้กับวิหกขนเพลิงเป็นอันขาด วิหกขนเพลิงกระพือปีก มวลอากาศพลันสั่นสะเทือน ทั่วร่างโอบล้อมไปด้วยเปลวเพลิงสีแดงฉาน ก่อนมันระเบิดเสียงทุ้มต่ำดังออกมา

“ มนุษย์ ร่างกายของเจ้าไม่ธรรมดา ในเขตสิบนี้ร่างกายของเจ้าแข็งแกร่งที่สุดอย่างที่ข้าไม่เคยเจอมาก่อน  ”

‘เต้าหลิง’มองไปที่มันแล้วพูดขึ้นว่า

“ เจ้าหมายความว่าอย่างไร ? ”

“ ข้ายังขาดผู้ติดตามอยู่ ขอแค่เจ้ามากับข้า ภายภาคหน้าเจ้าก็จะมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทุกหัวระแหง ! ”

วิหกขนเพลิงยื่นข้อเสนอให้ ไม่อยากจะฆ่ามัน เพราะว่ามันรู้สึกได้ว่าภายภาคหน้าความสำเร็จของ’เต้าหลิง’จะต้องยิ่งใหญ่แน่

“ ข้าก็ขาดผู้ติดตามอยู่เหมือนกัน ก็คือเจ้ายังไงเล่า ”

‘เต้าหลิง’กล่าวขึ้นพร้อมชี้ไปที่มัน

“ เจ้าพูดอะไร ? ”

วิหกขนเพลิงตะลึงชั่วขณะ คิดว่ามันคงฟังผิดไป ด้วยสถานะของมันที่เป็นถึงสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์และบารมีของตระกูลวิหกขนเพลิง อัจฉริยะจากตระกูลต่างๆจำนวนมากล้วนอยากได้ข้อเสนอนี้กันทั้งสิ้น

แต่ทว่าไอ้เด็กนี่กลับต้องการจะให้ข้าเป็นทาสรับใช้มันอย่างนั้นรึ ?

วิหกขนเพลิงบังเกิดโทสะขึ้น สายตาเย็นชามองไปที่’เต้าหลิง’อย่างเหยียดหยาม  มันไม่คิดเลยว่าไอ้เด็กนี่จะใจกล้าถึงเพียงนี้ เดาว่ามันคงยังไม่เคยสัมผัสถึงพลานุภาพอันเกรียงไกรของสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์  ดูท่าคงต้องสั่งสอนมันเสียบ้าง

ภาษาจีนวันละนิดชีวิตประจำวัน ตอนนี้เสนอคำว่า

走 (zǒu) โจ่ว แปลว่า เดิน ไป

ตัวอย่างการใช้

我先走了 (wǒ xiān zǒu le) หว่อเซียนโจ่วเลอ แปลว่า ฉันไปก่อนละ

他走了 (tā zǒu le) ทาโจ่วเลอ แปลว่า เขาไปแล้ว

 

ที่มา:

(0 votes) 0/5
ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments