I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

GSDZ (盖世帝尊) ตอนที่ 30 การล่าครั้งใหญ่

| GSDZ (盖世帝尊) | 929 | 2380 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลไทย : XiaoeyuGao

ปรากฏเป็นเปลวเพลิงสีแดงฉานพุ่งลงมา ราวกับธารน้ำตกสายเล็กจำนวนมาก มวลอากาศถูกทะลวงจนระเบิดกระจายออก ก่อนกระทบกับผืนดินอย่างรุนแรง ปรากฏควันสีดำโพยพุ่งขึ้นจากผืนดิน หินจำนวนมากถูกหลอมละลาย เห็นได้ชัดเลยว่าระดับอุณหภูมิของมันสูงจนน่ากลัวเพียงใด

ตระกูลของพวกมันแข็งแกร่งอย่างยิ่ง มีวิหกขนเพลิงที่แข็งแกร่งบางตัว เพียงระเบิดเปลวเพลิงออกมาทั่วร่าง ก็สามารถทำให้ท้องนภาลุกโชตช่วงเต็มไปด้วยเปลวเพลิงได้ วิหกขนเพลิงสยายปีกดิ่งลงมา  ก็คงไม่ต้องพูดอะไรกันมาก มันเริ่มเปิดฉากเข้าโจมตีก่อน อยากจะให้’เต้าหลิง’ได้รับบทเรียนเสียบ้าง ให้มันได้รู้ว่าพลังของสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์มิใช่สิ่งที่ใครจะมาเล่นด้วยได้ง่ายๆ

“ เจ้ายังไม่ทะลวงเข้าสู่ขั้นซึมซับวิญญาณนี่ ”

‘เต้าหลิง’ส่งเสียงหึดังขึ้น สายตามองไปที่กงเล็บทั้งสองที่ยื่นออกมา ก่อนพุ่งตัวขึ้นไปโดยปราศจากอาวุธ ใจอยากจะทดสอบความแข็งแกร่งของร่างกายเสียหน่อย

“ หึ รนหาที่ตายจริงๆ ! ”

วิหกขนเพลิงกล่าวขึ้น ไอ้เจ้านี่มันห้าวหาญไม่กลัวแม้แต่เทวดาฟ้าดิน คงจะมั่นใจในพลังของตนมาก ประเดี๋ยวข้าจะสอนให้เองคำว่า ‘ตาย’ มันเขียนเยี่ยงไร

เคร๊งเคร๊ง ! ปรากฏเสียงกระทบกันของเหล็กและทองคำดังขึ้น

ปรากฏประกายไฟจำนวนมากแตกเป็นฟองฝอยบนหมัดของเต้าหลิง วิหกขนเพลิงตะลึงเล็กน้อย รู้สึกราวกับว่ากงเล็บของมันปะทะกับทองคำศักดิ์สิทธิ์อย่างไรอย่างนั้น ไม่คาดคิดจริงๆว่ากงเล็บของมันจะทำอะไรเต้าหลิงไม่ได้ !

“ ร่างกายแข็งแกร่งจริงๆ ! ”

ในขณะที่วิหกขนเพลิงกำลังตกตะลึงอยู่นั้น นัยน์ตาของมันก็ฉายแววปีติออกมา ก่อนคำรามเสียงดังออกมาว่า

“ ดี ยังไงข้าจะเอาเจ้ามาเป็นผู้ติดตามข้าให้ได้ ดูซิว่าข้าจะจัดการเจ้าอย่างไร ! ”

“ คุยโวอย่างไม่ละอายปาก มีอะไรดีก็งัดออกมาได้เลย ! ”

‘เต้าหลิง’ส่งเสียงหึดังขึ้น ในเขตสิบนี้ไม่รู้กี่คนต่อกี่คนแล้วที่ต้องถูกมันฆ่าตาย เจ้านี่มันเป็นปีศาจฆ่าคนมาแล้วจำนวนมาก เหรียญสอบในตัวมันจะต้องมีเยอะสุดๆแน่

ผู้เข้าสอบในเขตสิบจำนวนมากล้วนเกลียดชังมันอย่างยิ่ง วิหกขนเพลิงตัวนี้มีความเจ้าเล่ห์สุดๆ หากเจอกับผู้ที่แข็งแกร่งกว่ามันก็จะบินหนีขึ้นฟ้าไป ผู้เข้าสอบที่อ่อนแอในเขตสิบจำนวนมากล้วนถูกมันกวาดเหรียญสอบไปจนเรียบ

วิหกขนเพลิงส่งเสียงร้องออกมา ก่อนอ้าปากขึ้น ปรากฏลูกบอลเพลิงขนาดใหญ่ถูกพ่นออกมาราวกับลูกตุ้มเพลิงขนาดใหญ่ ก่อนพุ่งลงมาปูแผ่นฟ้าคลุมพื้นพสุธา ราวกับหินลาวาที่ร่วงพรู เสื้อ’เต้าหลิง’กระพือพรึบพรับ ผมยาวปลิวไสว ร่างของมันยังคงยืนนิ่งราวกับเทพอสูร

ทันใดนั้นมันก็ระเบิดพลังที่แกร่งกล้าออกมา ต้นไม้โบราณโดยรอบสั่นสะเทือน ใบไม้ปลิวว่อนไปทั่ว หินขนาดใหญ่จำนวนมากล้วนระเบิดกระจายออก พริบตาเดียวลูกบอลไฟพลันมอดดับลงทันที !

“ อะไรกัน ? ”

วิหกขนเพลิงตกใจสะดุ้งเฮือก รู้สึกได้ถึงไอเยือกแข็งที่พุ่งเข้าใส่ ทำให้ขนทั่วร่างที่ติดไฟอยู่มอดดับทันที

“ บ้าเอ๊ย ! ”

วิหกขนเพลิงคำรามดังลั่น อ้าปากขึ้น ก่อนคายตราล้ำค่าสีแดงฉานอันหนึ่งออกมา รูปร่างของมันเหมือนกับผลึกหินล้ำค่าใสแจ๋ว ทั้งยังเปล่งแสงสีแดงจ้าละลานตา มันระเบิดเปลวเพลิงออกมา ก่อนเข้าปะทะกับไอเยือกแข็งที่พุ่งเข้ามา

“ แหลกไปซะ ! ”

‘เต้าหลิง’คำรามเสียงดังออกมา ภายในร่างระเบิดแสงสีทองสว่างไสว ก่อนจะพุ่งหมัดออกไป พลังอันมหาศาลไหลทะลักออกมา มวลอากาศม้วนขึ้นพุ่งเข้าใส่วิหกขนเพลิง ต้นไม้ขนาดใหญ่โดยรอบล้วนถูกพัดจนหักโค่นลง ตราล้ำค่าสีแดงฉานเองก็ไม่ธรรมดา ความรุนแรงของมันทำเอาฟ้าดินสั่นสะเทือน ทว่าก็ไม่พ้นถูกเต้าหลิงซัดหมัดเดียวกระเด็นลอยออกไป !

“ แข็งแกร่งเกินไปแล้ว ! ”

ทั่วทั้งใบหน้าวิหกขนเพลิงเต็มไปด้วยความตกตะลึง ไม่อยากจะเชื่อว่าร่างกายของเด็กหนุ่มจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ คงถึงเวลาที่มันจะต้องหนีแล้ว มันคิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้ต่างหากเล่าที่เป็นปีศาจของจริง

“ จะหนีไปไหน ทิ้งของล้ำค่าเอาไว้ก่อน ”

‘เต้าหลิง’จะปล่อยมันไปได้อย่างไร มันยกหินขนาดใหญ่ราวๆห้าหกหมื่นจินขึ้น ก่อนจะเหวี่ยงพุ่งขึ้นฟ้าไป

ฟิ้วฟิ้วฟิ้ว ! ปรากฏหินจำนวนมากพุ่งขึ้นสู่ฟ้า ฝ่าเท้าเต้าหลิงพลันกระทืบลงพื้น ผืนดินถล่มลงมา ปรากฏคลื่นพลังระเบิดออกหอบหินจำนวนมากพุ่งทะยานเข้าใส่ร่างวิหกขนเพลิง

“ บัดซบ ! ”

ขนทั่วร่างวิหกขนเพลิงติดไฟขึ้นอีกครั้ง ก่อนร่างของมันจะระเบิดแสงเปลวเพลิงออกมา ปรากฏเป็นเปลวเพลิงสีแดงฉานขึ้นโอบล้อมร่าง ปีกขนาดยักษ์ทั้งสองกระพือขึ้น ปรากฏลมพายุเปลวเพลิงพัดหินจำนวนมากที่พุ่งเข้ามาหลอมละลายหายไปทันที วิหกขนเพลิงเองก็มิได้อ่อนแอ มันเป็นถึงสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์

กงเล็บของมันสามารถทะลายหินขนาดใหญ่หลายหมื่นจินให้เป็นผุยผงได้สบาย ทั้งยังมีร่างกายที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

‘เต้าหลิง’ยืนนิ่งอยู่บนผืนดิน สายตาเปล่งประกายออกมา มันไม่เคยคิดอยู่แล้วว่าเพียงแค่หินจะหยุดวิหกขนเพลิงได้ ขณะนี้มันสูดลมหายใจเข้าลึก สองขาพลันกระทืบลงพื้น ปรากฏผืนดินระเบิดแตกออก ร่างพุ่งทะยานขึ้นสู่ฟ้า   แขนทั้งสองกางออก พลังมหาศาลเอ่อล้นทะลัก ราวกับวิหกปีกทองที่สลายปีกโผบิน ทั่วทั้งร่างระเบิดพลังจำนวนมากออกมา ก้อนเมฆโดยรอบเริ่มแตกสลายตัวไป

“ น่ากลัวจริงๆ ”

วิหกขนเพลิงตกใจยิ่ง มันเคยเจอกับเทพวิหกที่แข็งแกร่งตัวหนึ่ง หรือก็คือเทพวิหกขนแดง เพียงแค่มันกดกงเล็บลงไป มันก็พ่ายแพ้อย่างยับเยิน

“ หากเจ้าเด็กนี่มันโตขึ้น จะต้องประมือกับทายาทเทพสัตว์อสูรได้แน่ ”

วิหกขนเพลิงสลายปีกออก ก่อนจะบินหนีไปด้วยความรวดเร็ว เวลานี้ยังไงมันก็ต้องหนี มิเช่นนั้นคงได้ถูกไอ้เด็กนี่จับตัวไว้แน่

“ ว๊ากกกกก ! ”

‘เต้าหลิง’ลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ ผมยาวปลิวไสวไปตามแรงลง มันพลันคำรามลากเสียงยาว บังเกิดเสียงฟ้าร้องดังขึ้นภายในร่าง  ก่อนปรากฏระลอกคลื่นสีทองกระจายออกมาจากปากของ’เต้าหลิง’ ผืนฟ้าฟืนดินล้วนถูกระลอกคลื่นทำลายจนแหลก !

วิ้ง !   วิหกขนเพลิงตัวสั่นสะท้าน ขนบนตัวของมันถูกเสียงคำรามอัดเข้าใส่จนหลุดล่วง ตัวมันเองก็เกือบจะล่วงลงสู่พื้นดินแล้วเช่นกัน ในใจมันหวาดผวาเป็นอย่างยิ่ง ก่อนจะกระพือปีกบินหนีอย่างรนลาน  ทว่าเต้าหลิงได้อาศัยจังหวะที่วิหกขนเพลิงเผลอ  พุ่งแขนเข้าไปราวกับมังกรเวหาที่พุ่งทะลวงฝ่าอากาศ

พริบตาเดียวก็หยิบกระเป๋าหนังสัตว์อสูรที่ซ่อนอยู่ใต้ปีกของวิหกขนเพลิงมาได้หนึ่งใบ ‘เต้าหลิง’ล่วงลงสู่พื้น ไม่ได้ตามล่ามันต่อ เพราะว่าวิหกตัวนี้สามารถบินได้ อีกทั้งยังรวดเร็ว หากอยากจะจับมันให้ได้ก็คงต้องใช้พลังจำนวนมาก

“ ในที่สุดไอ้ปีศาจนั่นก็ไปซะที ”

วิหกขนเพลิงบินหนีมาได้ ในขณะที่มันกำลังพักเอาแรงอยู่บนยอดเขายักษ์นั้น สายตาหวาดผวาก็มองสำรวจไปที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งซึ่งกำลังนั่งลงแล้วค้นของในกระเป๋าหนังสัตว์อสูรอยู่ มันถอนหายใจผ่อนคลายออกมาเฮือกหนึ่ง ก่อนจะหรี่ตามองไปที่กระเป๋าหนังสัตว์อสูรอย่างละเอียดอีกครั้ง ของสิ่งนั้นเหตุใดถึงคุ้นตานัก ?

“ ไม่นะ… ”

วิหกขนเพลิงซวนเซตกลงมาจากยอดเขา สำรอกโลหิตที่คั่งค้างออกมา โมโหเดือดดาลจนจะเป็นจะตาย เหรียญสอบที่มันรวบรวมมาอย่างยากลำบากตั้งแต่เมื่อวานเย็นจนถึงตอนนี้ยังมิได้หลับได้นอน กลับถูกชิงไปทั้งหมดแล้ว….

“ หกร้อยกว่าอัน ! ”

นัยน์ตา’เต้าหลิง’เป็นประกาย สายตาจ้องไปที่กองเหรียญสอบที่อยู่เบื้องหน้าอย่างไม่วางตา ก่อนเก็บพวกมันอย่างเบิกบานใจ หากนับเหรียญที่ติดตัวมันอยู่ด้วย ก็จะมีเกือบแปดร้อยเหรียญแล้ว หากออกล่าอีกสักครั้งก็น่าจะพอ

จากนั้นเงาของ’เต้าหลิง’ก็เดินลับหายไป ภายในเขตสิบดูวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง ทุกๆที่เต็มไปด้วยเสียงหวีดร้อง ตอนนี้ได้มียอดฝีมือโผล่ขึ้นมาอีกหนึ่ง และมันได้ทำการออกล่าเหรียญสอบไปทั่วเขตสิบ ผู้คนจำนวนมากล้วนหวาดกลัวคิดว่ามันเป็นยอดฝีมือขั้นซึมซับวิญญาณ

ด้านนอกป่าบุพกาลโอบล้อมไปด้วยผู้คนจำนวนไม่น้อย ปรากฏคนถอยหนีออกมาจากป่าบุพกาลอย่างต่อเนื่อง ทุกคนล้วนหน้าตามอมแมมไปด้วยฝุ่น มีผู้เคราะห์ร้ายจำนวนมากต้องเสียขาแขนไป ส่งเสียงหวีดร้องอย่างน่าเวทนา

“ อะไรนะ ? หนึ่งพันสี่ร้อยเหรียญ ! ”

ปรากฏพื้นที่ว่างหนึ่ง เหรียญสอบจำนวนมากถูกตั้งเป็นกองใหญ่ เด็กหนุ่มผมม่วงคนหนึ่งเดินออกมาจากเขตเก้า ทุกย่างก้าวพื้นสั่นสะเทือน เพียงมันผายฝ่ามือออกพลันปรากฏเหรียญสอบกองหนึ่งขึ้น ผู้อาวุโสเสื้อคลุมสีเงินมองไปที่กองเหรียญสอบพร้อมกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

มันคือผู้อาวุโสที่ทำหน้าที่ประกาศรางวัลตอนก่อนเริ่มสอบและก็ยังเป็นผู้อาวุโสลำดับที่สามแห่งสำนักซิงเฉินด้วย นามของมันคือ’ซุนเซี่ยงซาน’  ผู้คนโดยรอบล้วนตกตะลึงไปพักหนึ่ง ไม่อยากจะเชื่อเด็กหนุ่มผมม่วงคนนี้จะล่าเหรียญสอบมาได้หนึ่งพันสี่ร้อยกว่าเหรียญ

ย่อมต้องเป็นอันดับหนึ่งในเขตเก้าอย่างไม่ต้องสงสัย อีกทั้งก็ยังไม่รู้ด้วยว่ามันมาจากตระกูลไหนกันแน่

“ อันดับรายชื่อของทั้งเก้าเขตได้ออกมาแล้ว แต่ยังเหลือเขตที่สิบที่ยังไม่มีใครออกมาเลย ไม่รู้ว่าใครจะเป็นอันดับหนึ่งกันแน่ ?  ”

“ เร็วเข้า ใกล้จะหมดเวลาแล้ว ”

คนโดยรอบกล่าวเสียงค่อย การสอบครั้งนี้การจะได้อันดับหนึ่งมาครองไม่ใช่เรื่องเล่นๆ หากได้อันดับหนึ่งมาครองก็จะได้รับรางวัลเป็นโอสถเม็ดระดับสี่หนึ่งเม็ดและก็ยังมีสิทธิได้ไปที่หอคัมภีร์ลับอีกด้วย   รองเจ้าสำนักชิงซาน ‘เถาคังหนิง’ขมวดคิ้วขึ้น ใบหน้าเหี่ยวย่นดูย่ำแย่เล็กน้อย

คนที่แข็งแกร่งที่สุดในสำนักชิงซานอยู่ในเขตสิบ ทว่าเหตุใดมันถึงยังไม่ออกมา ? และก็ยังมี’เต้าหลิง’อีกคนที่มันมองเอาไว้ก็อยู่ในเขตสิบเช่นเดียวกัน

“ ฮ่าๆ น้องเถา การสอบครั้งนี้สงสัยศิษย์ของเจ้าคงจะตายจนจำไม่หมด ต้องจดบันทึกแล้วกระมัง ”

‘หัวจื้อเฉิง’กล่าวเยาะเย้ยขึ้น สายตาดูภูมิใจอย่างยิ่ง เด็กหนุ่มชุดขาวที่ยืนอยู่ด้านข้างได้ลำดับที่เก้าสิบแปดในเขตสาม แม้ว่าจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรมากเมื่ออยู่ในสำนักซิงเฉิน

แต่ทว่าเมื่อไปอยู่ในเมืองเล็กๆอย่างเมืองชิงซานแล้วนั้นย่อมเป็นเรื่องที่สุดยอดมาก ถึงตอนนั้นศิษย์ที่จะมาเข้าสำนักเจียลั่วจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ‘เถาคังหนิง’สะบัดแขนเสื้อหันไปอีกทาง ไม่อยากจะฟังคำพูดของมัน หวังย่าที่อยู่ข้างๆก็ยิ้มแล้วกล่าวขึ้นว่า

“ ท่านรองเจ้าสำนักไม่ต้องกังวลไปเจ้าค่ะ ครั้งนี้พี่หวังหลิ่งอยู่กับสายเลือดผู้นำตระกูลหวังอย่างนายน้อยเฟย ย่อมไม่เกิดเรื่องอะไรแน่เจ้าค่ะ ”

‘หวังย่า’รู้ถึงแผนการในครั้งนี้เป็นอย่างดี ‘หวังจวิ้นเฟย’คิดจะชิงลำดับที่หนึ่งของเขตมาให้ได้ ส่วน’หวังหลิ่ง’ก็สิ่งที่ต้องทำอยู่ นั่นก็คือฆ่า’เต้าหลิง’ เดาว่าตอนนี้คงกำลังตามฆ่า’เต้าหลิง’อยู่แน่ ดังนั้นก็เลยเสียเวลาตรงจุดนี้ไปนั่นเอง   ‘เถาคังหนิง’ตกตะลึงทันที สายเลือดผู้นำตระกูลหวังนั้นใกล้ชิดกับราชวงศ์กันเป็นอย่างมาก  ทั้งยังมีอิทธิพลกว้างใหญ่ไพศาล

หาก’หวังหลิ่ง’ได้อยู่กับคนระดับนั้น มันก็วางใจไปได้มาก ว่าแต่เหตุใด’เต้าหลิง’ถึงยังไม่ออกมา ? ‘เยว่อวิ้น’ขมวดคิ้วขึ้น มือสวยกำแน่น นางเป็นห่วงศิษย์ทุกคนที่เข้าไปจริงๆ โดยเฉพาะ’เต้าหลิง’นางห่วงมันเป็นอย่างมาก ก่อนคิดขึ้นในใจอย่างกลัดกลุ่มว่า

“ ขออย่าให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นเลย ”

ในขณะนั้นเองก็ปรากฏเงาหนึ่งพุ่งทะยานออกมาจากเขตสิบ หวังย่าที่กำลังมองไปที่เขตสิบอยู่นั้น เพียงเห็นรูปร่างหน้าตาของคนที่พุ่งทะยานออกมา สีหน้าของนางพลันอัปลักษณ์ทันที คิดขึ้นในใจอย่างคับแค้นว่า

“ ทำไมมันยังไม่ตาย ? นี่จะเป็นไปได้อย่างไร ? ”

‘หวังย่า’โกรธจนตัวสั่น ในตอนที่เข้าป่าไป’หวังหลิ่ง’ก็พูดแล้วว่าจะต้องฆ่ามันให้ได้ ทว่ามันกลับยังมีชีวิตอยู่ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วหวังหลิ่งอยู่ไหนกัน ?

“ หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ? ”

สีหน้าของนางดูย่ำแย่ ที่นางกังวลมิใช่หวังหวิ่งจะเป็นหรือจะตาย แต่เป็นผลึกหินฟ้าต่างหากที่นางกังวล หากเกิดอะไรขึ้นกับหวังหลิ่งจริง ผลึกหินฟ้าก็คงต้องหายไปด้วย เพียงเห็นเด็กหนุ่มที่พุ่งตัวออกมา ‘เยว่อวิ้น’ก็ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างผ่อนคลาย มันมีชีวิตออกมาได้ก็ดีแล้ว

การสอบครั้งนี้เดาว่าจะต้องมีคนตายจำนวนมากแน่

“ ไอ้เด็กนั่นมันล่ามาได้ห้าเหรียญเองหรือ ? ”

‘หัวจื้อเฉิง’แห่งสำนักเจียลั่วกล่าวยิ้มเยาะออกมา

“ หึ ห้าเหรียญก็นับว่าเยอะแล้ว ข้าเดาว่ามันจะต้องแอบซ่อนตัวอยู่ในอุโมงค์ที่ไหนซักแห่ง พอถึงตอนนี้แล้วมันค่อยออกมา  ”

เด็กหนุ่มชุดขาวยิ้มเยาะออกมา มันจำได้แม่นว่าเด็กหนุ่มคนนี้เคยหักหน้ามันไว้ตอนก่อนจะมาที่เมืองชิงโจว ในใจรู้สึกเคียดแค้นเป็นอย่างมาก

“ เด็กคนนี้… ”

สีหน้าซุนเซี่ยวซานดูตกตะลึงเล็กน้อย สายตามองมองไปที่ร่างของ’เต้าหลิง’อย่างละเอียด รู้สึกได้ว่าร่างกายของมันแข็งแกร่งจริงๆ

… ‘เต้าหลิง’เดินเข้ามา พลันปรากฏถุงขนาดใหญ่ขึ้นในอ้อมอก ทำให้ผู้คนด้านข้างตกตะลึง ของที่อยู่ถุงนั้นคืออะไรกันแน่ ?

ครืดด ! ปรากฏเหรียญสองสีดำสนิทไหลลงสู่พื้นขึ้นเป็นกองขนาดใหญ่ บรรยากาศโดยรอบพลันเงียบสงัดทันที

# ตอนนี้เป็นของวันอาทิตย์เช้า

ภาษาจีนวันละนิดชีวิตประจำวัน ตอนนี้เสนอคำว่า

几 (jǐ) จี่ แปลว่า กี่

ตัวอย่างการใช้

现在几点了?(xiàn zài jǐ diǎn le) เสี้ยนไจ้จี๋เตี่ยนเลอ แปลว่า ตอนนี้กี่โมงแล้ว

有几个人?(yǒu jǐ gè rén) โหยวจี่เก้อเหริน แปลว่า มีกี่คน

ที่มา:

(0 votes) 0/5
ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments