ตอนที่แล้วตอนต่อไปแปลไทย : XiaoeyuGao
‘เต้าหลิง’ตกตะลึง เดิมทีมันคิดว่าเส้นทางสีทองแห่งนี้จะไปมีคนอยู่ได้อย่างไร ทว่าพริบตาเดียวมันก็เห็นคนอยู่กลุ่มหนึ่ง อีกทั้งพวกมันยังเดินไปบนในเส้นทางสีทองอีกด้วย ความเร็วในการเดินของพวกมันเชื่องช้ายิ่ง พยามมุ่งเดินไปด้านหน้า ปรากฏแหล่งกำเนิดน้ำพุวิญญาณแห่งหนึ่งดึงดูดพวกมันให้เข้าไป
น้ำพุวิญญาณโอบล้อมไปด้วยหมอกควันเปล่งแสงสว่าง อีกทั้งมันยังปลดปล่อยคลื่นพลังชีวิตที่เปี่ยมล้นประดุจทะเลแดง รูปร่างมันราวกับตาน้ำพุชีวิตก็มิปาน ละอองแสงนับพันเส้นถูกฉีดออกมา
อีกทั้งพลังกลุ่มนี้ เหมือนกับว่ามันจะเป็นแหล่งต้นกำเนิดพลังชีวิตที่แฝงอยู่ในหอคอยทงหลิง ! แหล่งกำเนิดพลังเหล่านี้มีความน่ากลัวยิ่ง ทุกๆหยดล้วนเป็นของล้ำค่าที่ยอดเยี่ยม
‘เต้าหลิง’ใจสั่นไหว มันไม่คิดเลยว่าปลายเส้นทางสีทองจะมีน้ำพุวิญญาณอยู่ มันมองตาเป็นมัน หลายวันมานี้มันดูดซับพลังธาตุไม้มาโดยตลอด ทำให้คุณสมบัติร่างกายมันเปลี่ยนพลิกไปอีกครั้ง
ทว่าการจะขยายและเพิ่มความแกร่งให้พลังธาตุไม้เป็นสิ่งที่ยากยิ่ง มันต้องใช้เวลาที่ยาวนานถึงจะทำได้ แต่ตอนนี้กลับได้เจอกับแหล่งต้นกำเนิดพลัง ใจของมันจะไม่สั่นระรัวได้อย่างไร ?
ปรากฏสิ่งมีชีวิตเดินมาตามเส้นทางสีทอง ดึงดูดความสนใจของพวกมัน หนึ่งในนั้นเป็นคนสามตาหรี่ตา มองมา ปรากฏแสงแตกกระจายออก ดวงตาที่สามโอบล้อมไปด้วยคลื่นพลังที่น่ากลัว ภายในแฝงอักขระเอาไว้ ดูลึกลับยิ่ง ภูติในกลุ่มตนหนึ่งไม่รู้ว่า’เต้าหลิง’จะแข็งแกร่งกว่าตอนที่ประมือกับชายสามตาเท่าไร แต่คนที่มาถึงเส้นทางสีทองนี้ได้ ล้วนไม่อ่อนแอ
“ มิอยากจะเชื่อว่าจะมีคนมา ช่างบังเอิญเสียจริงๆ ”
คนสามตาส่งเสียงหึดังขึ้น สีหน้าดูไม่ปีติซักเท่าไร เพราะว่าน้ำพุวิญญาณแอ่งนี้คงจะไม่เพียงพอสำหรับทุกคน เด็กหนุ่มผมม่วงหันกลับมามองแวบหนึ่ง สีหน้ามันพลันฉายแววประหลาดใจออกมา แม้ว่า’เต้าหลิง’จะใช้อักขระสีทองอำพรางรูปร่างหน้าตาเอาไว้ ทว่าเพียงแวบเดียวมันก็มองออก คนคนนี้เหมือนกับมัน เป็นหนึ่งในสิบศิษย์ใหม่สำนักซิงเฉิน !
เด็กหนุ่มผมม่วงไม่ประหลาดใจก็คงแปลก คนที่ขึ้นมาที่ชั้นเก้าหอคอยทงหลิงได้ล้วนเป็นพวกที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งสิ้น เพราะว่าแรงกดดันในชั้นนี้รุนแรงเป็นอย่างมาก
“ ตาน้ำพุวิญญาณนี้จะขับออกมาเป็น ‘เซิ่งมิ่งเหลว’ ล้ำค่าเพียงสิบหยดต่อปีเท่านั้น ตอนนี้มาเพิ่มอีกหนึ่งเห็นที่คงจะแบ่งกันไม่พอ ”
เงาสีทองทั่วร่างเงาหนึ่งกับคนสามตาหันไปสบตากันแวบหนึ่ง ก่อนยิ้มเยาะแล้วพูดขึ้น พวกมันล้วนมาเพื่อเอาเซิงมิ่งเหลวล้ำค่านี้กันทั้งสิ้น ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ความลับอะไร
ในหนึ่งปีจะมีเพียงสิบหยดเท่านั้น ของเหลวชนิดนี้แฝงไว้ด้วยพลังชีวิตมหาศาล สามารถยืดอายุให้ยืนยาวไปอีกได้ อีกทั้งหากนำมาหลอมเป็นโอสถ ก็จะกลายเป็นของที่ล้ำค่าที่สุด โดยเฉพาะกับขั้นพลังกาย เซิงมิ่งเหลวล้ำค่านี้จะมีคุณประโยชน์เพิ่มขึ้นไปอีก
สามรารถขยายและเสริมความแข็งแกร่งให้แก่แหล่งต้นกำเนิดพลังชีวิตได้ เป็นของล้ำค่าที่มีมูลค่าสูงส่งเทียบสวรรค์ แต่น่าเสียดายที่ว่าตาน้ำพุชีวิตนี้จะขับออกมาเพียงสิบหยดต่อปีเท่านั้น
“ เจ้าหนูเจ้ารีบออกไปจากที่นี่จะดีกว่า เซิงมิ่งเหลวในปีนี้ ไม่มีส่วนแบ่งของเจ้า ”
ดวงตาที่สามของคนสามตาเปิดครึ่งหนึ่งพร้อมกับพูดออกไป ผมยาว’เต้าหลิง’ปลิวไสว แรงกดดันบนเส้นทางสีทองพลันรุนแรงขึ้น ราวกับว่ามันกำลังแบกภูเขาทมิฬอย่างไรอย่างนั้น และในตอนที่มันได้ยินคำพูดของคนสามตา มันจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า
“ หอคอยทงหลิงเป็นบ้านของเจ้ารึ ? ”
ตอนนี้เซิงมิ่งเหลวจำเป็นต่อตัวมันจริงๆ ของสิ่งนี้จะช่วยปรับปรุงคุณสมบัติร่างกายของมันให้ดียิ่งขึ้นไปอีกมาก ได้ยินดังนั้น สีหน้าชายสามตาเคร่งขรึมทันที ก่อนกล่าวขึ้นว่า
“ เช่นนั้นเจ้าก็ลองดู ! ”
‘เต้าหลิง’มิได้สนใจมัน มันดึงพลังบริสุทธิ์รอบทิศแล่นเข้าหลอมรวมกับร่างกาย ฝ่าเท้าย่ำเดินเข้าไปอย่างต่อเนื่อง สายตามองไปยังเงาที่อยู่ด้านหน้าสุด กระบี่ใหญ่สีทองด้านหลังของนางดูน่ากลัวเล็กน้อย เปล่งแสงสีทองออกมา ปรากฏเสียงโลหะสั่นสะเทือน อักขระโดยรอบแตกกระจายออกทันที
และนี่คือศาสตราวุธล้ำค่าที่น่ากลัวอย่างยิ่งอันหนึ่ง เด็กสาวคนนี้แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก นางสวมเสื้อเกราะสีทองเปล่งแสงสีทองสว่างไสว ร่างกายมีส่วนเว้าโค้ง ผิวหนังเปล่งแสงสีขาวสะอาดตา ภายในร่างปลดปล่อยไอกระบี่ออกมา ทำให้ผู้คนที่อยู่โดยรอบล้วนหวาดผวา
ขณะนี้พวกมันอยู่ใกล้กับตาน้ำพุชีวิตมาก ฝีเท้า’เต้าหลิง’เร่งความเร็วขึ้น ทว่ายิ่งเดินเข้าไปเท่าไร แรงกดดันก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเท่านั้น มันดึงพลังโดยรอบให้แล่นเข้าสู่ร่างกายอย่างต่อเนื่อง หลอมรวมเป็นพลังบริสุทธิ์ที่ใช้ทดแทนพลังงานในร่างที่เสียไปอย่างไม่ขาดสาย ยิ่งเดินลึกเข้าไปเท่าไร
‘เต้าหลิง’ก็รู้สึกได้ถึงพลังที่เปี่ยมล้นยิ่งขึ้น อีกทั้งยังแฝงไว้ด้วยพลังต้นกำเนิด ทำให้คุณสมบัติร่างกายของมันผลัดเปลี่ยนรวดเร็วยิ่งขึ้นไปอีก
“ ในที่สุดมันก็ได้ผล ”
สีหน้าเต้าหลิงดูดีอกดีใจ หากได้แหล่งต้นพลังนี้มาล่ะก็ คุณสมบัติร่างกายจะต้องพัฒนาขึ้นอีกมากแน่ เห็นได้ชัดว่าความเร็วในการฟื้นฟูของพวกมันสู้’เต้าหลิง’ไม่ได้ ระยะห่างระหว่างเต้าหลิงและยอดฝีมือทั้งสี่ห่างกันเพียงหนึ่งช่วงใหญ่ๆเท่านั้น ชายสามตาหันมามองแวบหนึ่งก่อนยิ้มเยาะแล้วพูดขึ้นว่า
“ ที่แท้ร่างกายมันก็เป็นธาตุไม้ หึ ! ”
พวกมันรู้ดีว่าแม้คุณสมบัติร่างกายธาตุไม้จะหายาก ทว่าความรุนแรงในการโจมตีกลับมิได้แข็งแกร่ง ชายสามตาคิดว่าที่ความเร็วในการฟื้นฟูของ’เต้าหลิง’สูงเช่นนั้น จะต้องเป็นคุณสมบัติธาตุไม้อย่างแน่นอน
“ เจ้าระวังตัวด้วย ”
สายตาเด็กหนุ่มผมม่วงจ้องไปที่เต้าหลิง ก่อนคิดเตือน’เต้าหลิง’ในใจ พวกมันเป็นคนสำนักเดียวกัน หากมีอัจฉริยะต้องมาตายตกที่นี่ คงจะน่าเสียดายน่าดู ‘เต้าหลิง’มองไปยังแววตาเป็นมิตรของเด็กหนุ่มผมม่วง ริมฝีปากพลันฉีกยิ้มออกมา ตอนนี้มันอยากจะลองประมือกับอัจฉริยะเก่งๆอยู่พอดี
“ ข้ารู้แล้ว ใช่ ! เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้างในเส้นทางสีทองนี้คืออะไร? ”
ได้ยินดังนั้น เด็กหนุ่มผมม่วงดูประหลาดใจ ก่อนจะพูดต่อว่า
“ ข้างในนั่นลึกลับมาก มีสิ่งที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณอยู่ แต่ว่าทางที่ดีเจ้าอย่าไปดีกว่า เพราะว่าแรงกดดันตรงนั้นรุนแรงกว่านี้เสียอีก ประเดี๋ยวจะพลาดท่าเอาง่ายๆ ”
“ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ”
‘เต้าหลิง’ตะลึง แม้แต่แรงกดดันชั้นเก้าก็ยังรุนแรงขนาดนี้ ชั้นสิบก็คงไม่ต้องไปพูดถึง เลยว่ามันจะรุนแรงขนาดไหน มิน่าชั้นสิบถึงได้เป็นแค่ตำนานที่เล่าลือกันมาเท่านั้น ไม่มีทางขึ้นไปได้อย่างแน่นอน ขณะนี้มันก็เข้าใกล้เงาสีทองเข้ามาเรื่อย ภูติตนนี้แข็งแกร่งยิ่ง อีกทั้งยังปลดปล่อยพลังที่ดุร้ายออกมา ทำให้ผู้คนต่างหนาวเข้ากระดูก จากนั้นมันจึงกล่าวอย่างเย็นเรียบว่า
“ เมื่อครู่ข้าบอกแล้วว่าให้ออกไปซะ เหตุใดถึงไม่ฟัง? ”
นัยน์ตามันฉายแววดุดันออกมา มองจ้องไปที่ร่างเต้าหลิงตาเป็นมัน ก่อนยิ้มเยาะแล้วพูดขึ้นว่า
“ ไม่เลว ข้ารู้สึกได้ถึงพลังชีวิตที่เปี่ยมล้นในกายเจ้า หากข้ากินเจ้าได้ ข้าก็จะมีโอกาสได้เซิงมิ่งเหลวล้ำค่ามากยิ่งขึ้น ! ”
“ เจ้าเป็นสัตว์อสูรรึ ถึงได้อยากกินข้า? ”
‘เต้าหลิง’ส่งเสียงหึดังขึ้น ได้ยินดังนั้น พลังของเงาสีทองก็สงบลงทันที นัยน์ตาทั้งสองข้างฉายแววเคียดแค้น ไอ้เจ้านี่ใจกล้ายิ่งนักถึงได้กล้ากล่าววาจาสุนัขเช่นนี้ออกมา
“ เจ้าสมควรตาย ! ”
มันคำรามเสียงแหลม ฝ่ามือเปลี่ยนเป็นสีแดงอ่อน ก่อนพุ่งเข้าใส่ หวังจัดการเต้าหลิงให้เรียบร้อยเสียก่อนแล้วค่อยกินมัน พลังที่ดุร้ายโหมซัดกระหน่ำเข้ามา หมัดของ’เต้าหลิง’พุ่งออกไป ปรากฏอักขระสีทองเนืองแน่น ก่อนจะปะทะกับฝ่ามือที่พุ่งเข้ามา
เสียงตูมดังลั่นฟ้าดิน
ฝ่ามือระเบิดเสียงดังสนั่นออกมา อักขระโดยรอบสั่นสะเทือนจนสลายตัวไป การปะทะกันในครั้งนี้ ดุดันเป็นอย่างยิ่ง
“ หือ? ”
เงาสีทองประหลาดใจ มันไม่คิดว่าร่างกายของ’เต้าหลิง’จะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ก่อนกล่าวอย่างตระกะว่า
“ ดีมาก ข้าชอบเลือดเนื้อของเจ้ามาก หากข้ากินเจ้าพลังของข้าจะต้องเพิ่มขึ้นอีกมากแน่ เจ้ายอมให้ข้าได้กินเจ้าเถิด ”
ฝ่ามือของมันขยับอีกครั้ง ฝ่ามือสีแดงคล้ำเปลี่ยนเป็นพิมพ์ฝ่ามือขนาดใหญ่ กดทับมวลอากาศโดยรอบแตกร้าว ก่อนพุ่งฝ่ามือเข้าไป เต้าหลิงกำหมัดแน่น พลังภายในร่างเอ่อล้นทะลัก ผมยาวปลิวไสว ทั่วร่างเปล่งแสงสีทองจ้าทั่วทิศ ก่อนปล่อยหมัดพุ่งเข้าปะทะอย่างจัง
สภาพโดยรอบสั่นสะเทือน อักขระมอดดับไป เส้นทางสีทองระเบิดเสียงดังสนั่นลั่น เงาทั้งสองปะทะเข้าใส่กันอย่างรุนแรง พวกมันใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายล้วนๆในการเข้าปะทะกัน ทำเอามวลอากาศระเบิดแตกออกเป็นสภาวะสุญญากาศ เงาสีทองคำรามเสียงสั่น ภายในร่างระเบิดพลังที่ดุร้ายออกมาราวกับเทพอสูรที่ตื่นขึ้น
ยิ่งปะทะมันยิ่งมั่นใจ ทุกกระบวนท่าฝ่ามือของมันล้วนทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือน ‘เต้าหลิง’ไม่ยอมแสดงความอ่อนแอออกมาให้เห็นเป็นอันขาด ทั่วร่างเปล่งเส้นแสงสีทองออกมาราวกับแสงกระบี่ที่หน้ากลัวจำนวนมากฟาดฟันลงมา กำปั้นของมันระเบิดพลังที่แกร่งกล้าทะลายได้ทุกสิ่ง ทุกๆกระบวนท่าล้วนองอาจห้าวหาญยิ่ง
“ ยอมแพ้ซะ ! ”
เงาสีทองคำรามลากเสียงยาว พิมพ์มือขนาดใหญ่กดทับลงไปราวกับแผ่นหินก็มิปาน
“ ไปให้พ้น ! ”
‘เต้าหลิง’คำรามลั่น ฝ่ามือเปล่งแสงสีทองสว่างจ้าประดุจดั่งหลอมขึ้นจากทองคำ ก่อนปล่อยพุ่งขึ้นไปปะทะกับพิมพ์มือขนาดใหญ่จนแตกสลายไป ความเร็วของภูติสีทองสูงส่งยิ่ง ร่างของมันพลันพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับปลดปล่อยพลังที่เปี่ยมล้นออกมา ก่อนฝ่ามือพุ่งเข้าไปที่หน้าอกของ’เต้าหลิง’
ขาขวาของ’เต้าหลิง’พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ประดุจกระบี่คมพุ่งออกจากฝัก กระดูกส่งเสียงปะทะกันดังสนั่น กระบวนท่านี้’เต้าหลิง’ใช้พลังทั้งหมดที่มี มวลอากาศระเบิดแตกออกเป็นชั้นๆ ก่อนพื้นส่วนเท้าเหยียบอยู่จะถล่มทลายลง เสียงตูมระเบิดดังขึ้น คลื่นเสียงกระจายออกทำให้ผู้คนต่างแสบแก้วหู
ทั่วร่างภูติสีทองสั่นสะท้าน รู้สึกราวกับปะทะกับภูเขาขนาดใหญ่ ก่อนฝีเท้าของมันจะถอยออกไปครึ่งก้าว
“ แข็งแกร่งมาก ! ”
เด็กหนุ่มผมม่วงตกตะลึง มันรู้ถึงภูมิหลังของภูติสีทองดี ตระกูลของมันมีร่างกายที่แข็งแกร่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ทว่าไอ้เจ้านี่กลับปะทะภูติสีทองได้ นอกจากมันจะไม่เสียท่าให้แล้ว มันยังกลับทำให้ภูติสีทองถอยไปได้ !
เด็กสาวที่แบกกระบี่ใหญ่สีทองด้านหน้าสุดหันมามอง นางสวมเสื้อเกราะสีทอง ริมฝีปากแดงชุ่มชื้น นัยน์ตาสดใสมีชีวิตชีวา จมูกหยกงอนขึ้นสวย ดูงดงามเป็นอย่างยิ่ง สายตามองไปยังเต้าหลิงแวบหนึ่ง ก็หันกลับไป ดูเป็นคนที่ไม่ชอบพูด ภูติสีทองโกรธจนตัวสั่น นัยน์ตาเคร่งขรึม แหงนหน้ามองฟ้าก่อนคำรามเสียงดังลั่น พลังดุร้ายเพิ่มขึ้น ก่อนพุ่งทะยานเข้าไป
“ มาได้จังหวะพอดี ! ”
‘เต้าหลิง’ฉีกยิ้มกว้าง ฝ่าเท้าทั้งสองพลันกระทืบลงพื้น แรงกดดันโดยรอบยากจะหยุดมันได้ พริบตาเดียวมันลอยขึ้น ก่อนขยับฝ่ามือทั้งสองข้าง มันเหมือนดั่งวิหกสลายปีกโผบิน แขนทั้งสองข้างกางออกพร้อมกับพลังมหาศาลพุ่งทะลักออกมา ภายในร่างปรากฏเสียงฟ้าร้องดังครืนๆ พลังโคจรไหลไปรวมอยู่ที่กลางฝ่ามืออย่างบ้าคลั่ง
ก่อนใช้พลังทั้งหมดพุ่งฝ่ามืออกไป เต้าหลิงมิเกรงกลัวความตาย กล้ามเนื้อแต่ละมัดล้วนระเบิดพลังที่เปี่ยมล้นออกมา ราวกับมังกรน้อยที่พุ่งทะยานฝ่าเวหา ทุกกระบวนท่าแข็งแกร่งและดุดันไร้ที่เปรียบ
ฉีกมวลอากาศเป็นแถบยาว เงาทั้งสองปะทะเข้าใส่กัน ทุกกระบวนท่ารุนแรงอย่างยิ่ง ทำเอาเส้นทางสีทองสั่นสะเทือนดังครืน นัยน์ตาภูติสีทองดูเย็นชามากขึ้น มันรู้สึกว่าร่างกายของ’เต้าหลิง’น่ากลัวยิ่งขึ้นเรื่อยๆ พลังภายในร่างโคจรราวกับน้ำไหลเชี่ยวกราด ทำให้ตัวมันยากที่จะใช้พลังออกมาได้
“ ว๊ากกก ! ”
ภูติสีทองคำรามลั่น ร่างของมันเปลี่ยนเป็นแดงคล้ำ ความสูงเพิ่มขึ้นร่วมเก้าเมตร โฉมภายนอกเหมือนกับเสือดาว ผิวหนังสีแดงคล้ำของมันไร้ขนขึ้น ทว่ากลับเป็นหนามแหลมคมที่งอกออกมา !
“ เจ้าบังอาจยั่วโทสะข้า จะสวรรค์หรือนรกใครก็ช่วยเจ้าไม่ได้ ! ”
มันคำรามออกมา ไอสังหารเดือดพล่าน
ที่มา:
(0 votes) 0/5