I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

GSDZ (盖世帝尊) ตอนที่ 36 ฉงชี๋

| GSDZ (盖世帝尊) | 941 | 2366 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลไทย : XiaoeyuGao

มันแสดงร่างที่แท้จริงออกมา พลังดุดันไร้ที่เปรียบ คลื่นพลังโหมซัดกระหน่ำออกมา มวลอากาศพลันบิดเบี้ยว ก่อนกงเล็บขนาดยักษ์เหวี่ยงเข้าใส่ร่างของ’เต้าหลิง’

“ อย่างนี้สิถึงจะสนุก ”

ผมยาว’เต้าหลิง’ปลิวไสว ทั่วร่างเปล่งแสงสว่างสีทอง ปรากฏเสียงฟ้าร้องดังลั่นขึ้นภายในร่างเป็นระยะๆ ก่อนง้างฝ่ามือแล้วพุ่งออกไป  ทั้งสองร่างปะทะกันอย่างสูสี ทว่า’เต้าหลิง’กลับขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย

นัยน์ตาจ้องไปยังฝ่ามือของตน ปรากฏคราบโลหิตไหลซึมออกมา รู้สึกเจ็บปวดราวกับหัวใจถูกมีดกรีด  เพียงฉงชี๋เห็นเต้าหลิงได้รับบาดเจ็บ มันก็ยิ่งหัวเราะดังลั่นขึ้นไปอีก หนามคมกริบบนร่างกายของมันส่งเสียงเสียดสีกันดังเคร๊งเคร๊ง สามารถหักศาสตราวุธวิญญาณได้สบายๆ ดูแข็งแกร่งอย่างยิ่ง

“ ระวังหน่อย หนามบนร่างของมันแข็งแกร่ง ศาสตราวุธวิญญาณบางอันยังทำอะไรมันไม่ได้เลย เจ้าอย่าประมาทจะเป็นการดีที่สุด  ”

เด็กหนุ่มผมม่วงด้านข้างกล่าวเตือนขึ้น

“ ฉงชี๋ ! ”

‘เต้าหลิง’กำหมัดแน่น พลังโดยรอบแล่นเข้าสู่ร่างกาย และเริ่มฟื้นฟูบาดแผลบนฝ่ามือ ฉงฉี๋คือสัตว์ในตำนานหายากตัวหนึ่งซึ่งมีความน่ากลัวเป็นอย่างมาก สามารถต่อกรกับเทพสัตว์อสูรได้ ! อีกทั้งฉงชี๋ตัวนี้ยังเด็กอยู่ด้วย ฉงชี๋ในตำนานที่เล่าลือกันมาจะมีปีกยาว รูปร่างเหมือนกับเสือติดปีก

พลังของมันแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก สามารถทลายฟ้าดินลงได้อย่างง่ายดาย ฉงชี๋คำรามลั่น พลังดุร้ายภายในร่างระเบิดออก มือเท้าทั้งสี่แข็งแกร่งขึ้น พรวดเดียวก็ทำเอาผืนดินสั่นสะเทือนจนแตกร้าว พลังที่ระเบิดออกมาล้วนทำให้ผู้คนตกใจเป็นอย่างมาก

ใจ’เต้าหลิง’สั่นระรัว ตั้งแต่ออกเดินทางมาก็เพิ่งเคยประมือกับศัตรูที่น่ากลัวเช่นนี้เป็นครั้งแรก มันเปล่งเสียคำรามอกมา ปรากฏอักขระสีทองขึ้นบนผิวหนังทั่วร่าง ก่อนพุ่งเข้าไปราวกับคนครึ่งอสูร

ตูมตูมตูม !

เงาทั้งสองปะทะเข้าใส่กัน ทั่วทั้งเส้นทางสีทองสั่นสะเทือน บังเกิดรอยแยกขนาดใหญ่ขึ้น อักขระแตกออก ก่อนทั้งสองจะปะทะกันอย่างบ้าระห่ำ

“ ให้ข้าขยี้เจ้าซะ ! ”

ฉงชี๋คำรามออกมาลั่น กงเล็บกดลงมาราวกับภูเขาขนาดใหญ่ พุ่งเข้าไปยังหัวไหล่’เต้าหลิง’ ‘เต้าหลิง’คำรามลากเสียงยาว ฝ่ามือทั้งสองยืดขึ้นฟ้า ปรากฏอักขระสีทองขึ้น ก่อนเปลี่ยนรูปร่างเป็นกระบี่ล้ำค่าพุ่งไปยังกงเล็บที่กดทับลงมา

ในขณะเดียวกันร่างของ’เต้าหลิง’ก็ทะยานเข้าไปอีกทาง หมัดซ้ายพุ่งไปยังหน้าอกของฉงชี๋ กงเล็บของฉงชี๋น่ากลัวยิ่ง สามารถตะปบกระบี่ล้ำค่าสีทองให้แตกเป็นเศษได้ในคราเดียว ก่อนหมุนกงเล็บพุ่งไปยังหมัดของเต้าหลิงที่พุ่งเข้ามาอย่างฉับพลัน

“ อักขระนี่เป็นของหอคอยทงหลิง ! ”

นัยน์ตาเด็กหนุ่มผมม่วงฉายประหลาดใจ มิยักรู้ว่ามันสามารถเอาอักขระพวกนี้มาใช้ได้ด้วย พวกนี้ไม่ใช่อักขระธรรมดา หากพัฒนามันให้แกร่งขึ้นมันก็จะเป็นวิชามหัศจรรย์ที่น่ากลัววิชาหนึ่งเลยทีเดียว ที่’เต้าหลิง’สามารถเรียนรู้ได้รวดเร็วเช่นนี้ ก็เป็นเพราะว่ามันได้หลอมรวมกับพลังในหอคอยทงหลิง

ซึ่งนับได้ว่าพวกมันมีพลังในแบบเดียวกัน กระบวนท่าที่มันใช้ออกมาเร็วยิ่งขึ้นเรื่อยๆ อักขระเรียงกันเป็นแถวยาวกลางพื้นที่ว่างของอากาศ ก่อนเปลี่ยนรูปเป็นกระบี่ล้ำค่า,ระฆัง,หม้อ เรียงรายขึ้นกันอย่างต่อเนื่อง แล้วพุ่งเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง

ขณะนี้พลังของฉงชี๋เริ่มอ่อนแรงลง มันใช้พลังมากจนเกินไปทำให้ฟื้นฟูพลังไม่ทัน ‘เต้าหลิง’กับมันไม่เหมือนกัน เต้าหลิงสามารถหลอมพลังชีวิตโดยรอบให้ออกมาเป็นอักขระได้

จากนั้นก็ใช้เทคนิคสังหารออกไป ยิ่งมันใช้อักขระออกไปเท่าไหร่เทคนิคในการใช้ก็มากยิ่งขึ้นเท่านั้น หลังจากประมือกันร่วมร้อยกระบวนท่า ‘เต้าหลิง’ก็คำรามออกมาลั่น อ้าปากคายอักขระสีทองออกมาก่อรูปขึ้นเป็นภูเขาขนาดใหญ่ ก่อนพุ่งเข้าไปส่งเสียงดังตูม ฉงชี๋ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

ร่างของมันถอยออกไป นัยน์ตาทั้งสองข้างฉายแววดุดัน รู้สึกราวกับตนเป็นหินลับมีดก็มิปาน เพราะมันรู้สึกว่ายิ่งสู้กันมากเท่าไหร่วิธีการใช้อักขระของ’เต้าหลิง’ยิ่งพลิกแพลงมากขึ้นเท่านั้น เต้าหลิงใช้พลังไปมาก มันสูดลมหายใจเข้าลึก ไม่สนใจฉงชี๋อีกแล้ว ก่อนมุ่งหน้าเดินต่อไป

“ บัดซบ ! ”

‘ฉงชี๋’โกรธจนร่างแทบระเบิด นี่มันเมินข้าอย่างนั้นรึ ข้ารับไม่ได้ ! ‘ฉงชี๋’กรีดร้องคำรามออกมาอยู่ด้านหลัง ตอนนี้มันเสียเปรียบ’เต้าหลิง’อย่างมาก อีกทั้งยังใช้พลังงานไปมากมาย ทำให้ยากจะตามไปทัน ‘เต้าหลิง’ไม่สนใจมันแม้แต่น้อย มันเสียเวลาตรงนี้มามากแล้ว

เด็กสาวที่แบกระบี่ใหญ่ก็ใกล้จะถึงน้ำพุวิญญาณเต็มที ตอนนี้ใครที่ได้น้ำพุวิญญาณไปครองถือว่าเป็นเจ้า มันกำลังดูดซับพลังโดยรอบ ทำให้พลังที่สูญเสียไปฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงผายฝ่ามือออก ปรากฏอักขระขึ้นโดยรอบ ก่อนก่อตัวขึ้นเป็นระฆังยักษ์ ครอบร่างของมันเอาไว้แล้วเดินมุ่งหน้าต่อไป

ระฆังยักษ์สั่นไหว ต้านทานกับแรงกดดันโดยรอบ ทำให้’เต้าหลิง’เดินไปได้สบายมากขึ้น  ยิ่งเดินเข้าไปแรงกดดันยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ร่างของ’เต้าหลิง’มีระฆังสีทองครอบอยู่ ทำให้ความเร็วในการเดินของมันเพิ่มขึ้นอีก

“ อักขระพวกนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ ทั้งยังเป็นพลังแบบเดียวกับอักขระบนเส้นทางสีทองนี้ด้วย ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็คงประหยัดพลังงานไปไม่น้อย ”

เด็กหนุ่มผมม่วงมองด้วยความอิจฉา มันรู้ดีว่าอักขระพวกนี้ยอดเยี่ยมแค่ไหน เพราะมีผู้อาวุโสจำนวนมากที่ศึกษาอักขระพวกนี้ ทว่าอักขระพวกนี้ล้ำลึกยิ่ง ที่’เต้าหลิง’ใช้ได้ในตอนนี้เป็นแค่พื้นฐานเท่านั้น หลังจากผ่านเหตุการณ์การปะทะกันเมื่อครู่ ชายสามตาก็ดูว่านอนสอนง่ายขึ้นมาก

ไม่ยั่วโทสะเต้าหลิงอีกเลย อีกทั้งยังทุ่มกำลังสุดชีวิตมุ่งเดินไปยังน้ำพุวิญญาณ

“ สตรีนางนั้นน่ากลัวจริง ”

ในขณะที่’เต้าหลิง’ใกล้พวกมันเข้ามา ก็สัมผัสได้ถึงไอกระบี่ที่ทิ่มเข้ากระดูก ทำให้เจ็บปวดผิวหนังไปหมด ใจมันสั่นไหว ก่อนคิดขึ้นในใจว่า

“ ไม่รู้จริงๆว่านางกับกันเหยาใครจะแข็งแกร่งกว่ากัน ? ”

ทั่วร่าง’เต้าหลิง’เปล่งแสงออกมา ยิ่งเข้าใกล้น้ำพุวิญญาณมากเท่าไร ก็สัมผัสได้ถึงแหล่งต้นกำเนิดพลังที่เปี่ยมล้นมากขึ้น ขนตามผิวหนังคายไอแสงออกมา โอบล้อมไปด้วยแสงล้ำค่า ดูศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง

“ จะต้องไปชั้นเก้าได้แน่ หากฝึกพลังแฝงอยู่ที่นี่ซักระยะ ร่างกายของข้าจะต้องแข็งแกร่งขึ้นไปอีกระดับหนึ่งแน่ ! ”

‘เต้าหลิง’พึมพำกับตนเอง มันใช้โลหิตเทพสัตว์อสูรเปิดพลังแฝงในร่างแล้ว แต่พลังแฝงในร่างก็ยังทะลวงไปไม่ถึงขีดสูงสุด ดังนั้นพลังเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่มันต้องการในตอนนี้พอดี   ด้านหน้าปรากฏน้ำพุวิญญาณปล่อยแสงออกมา

โอบล้อมไปด้วยพลังต้นกำเนิด พลังชีวิตหมุนวนไหลเชี่ยวกราด ให้ความรู้สึกถึงพลังที่เปี่ยมล้นถึงขีดสุด เซิงมิ่งเหลวเหล่านี้ เป็นของล้ำค่าจริงๆ ยิ่งอยู่ในขั้นพลังกายหากหลอมรวมกับพลังนี้ได้ ก็จะสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ต้นกำเนิดพลังชีวิตได้ อนาคตจะต้องเป็นคนที่น่ากลัวมากแน่

หรือแม้กระทั่งสามารถปรับเปลี่ยนพลังแฝงของร่างกายได้ ! เซิงมิ่งเหลวด้านในมีน้อยมาก มีเพียงสิบหยดเท่านั้น ปรากฏเป็นสีเขียวมรกต ทุกหยดล้วนมีคลื่นพลังชีวิตขนาดใหญ่หมุนเวียนอยู่

“ มีแค่สิบหยด จะแบ่งอย่างไรดี ? ”

ตาที่สามของชายสามตาเปล่งแสงออกมา ก่อนพูดอย่างไม่แยแสว่า

“ พวกเราที่นี่มีอยู่สี่คน ”

“ คนละสองหยด แล้วจะเหลืออีกสองหยด นั่นก็แล้วแต่ความสามารถของตัวเองแล้วกัน  ”

เด็กหนุ่มผมม่วงเปิดปากพูดขึ้น เซิงมิ่งเหลวนี้ไม่ธรรมดา เป็นของที่ผู้แข็งแกร่งรุ่นอาวุโสใช้กันมาก ใครจะไปยอมเสียเปรียบกัน    ชายสามตามองไปยังพวกมันแวบหนึ่ง ก่อนพยักหน้าเล็กน้อย ดวงตาที่สามเปิดออกครึ่งหนึ่ง แสงเปล่งจ้า  อักขระที่ซ่อนอยู่ภายในพลันสั่นไหว ก่อนระเบิดพลังที่น่ากลัวออกมา

ดวงตาที่สามของมันน่ากลัวยิ่ง ด้านในคายภูเขาลูกหนึ่งออกมา ปรากฏเป็นสีดำทมิฬ พริบตาเดียวมวลอากาศก็ถูกมันกดทับ แรงกดดันพลันระเบิดเพิ่มขึ้น !

“ เขาสวนจ้ง ! ”

นัยน์ตาเด็กหนุ่มผมม่วงดูเคร่งเครียด ก่อนตะโกนไปว่า

“ นี่เจ้าคิดจะทำอะไร? คิดจะฮุบคนเดียวรึ ! ”

‘เต้าหลิง’รู้สึกได้ถึงแรงกดดันโดยรอบที่รุนแรงอย่างยิ่ง ขาทั้งสองข้างยุบลงพื้น สีหน้าของมันดูเคร่งเครียดทันที ชายสามตาใช้เขาสวนจ้งได้อย่างชำนาญ คิดจะกดทับพวกมันทั้งสาม เขาสวนจ้งเป็นของล้ำค่าที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งชนิดหนึ่ง ซึ่งหลอมขึ้นมาจากเหล็กสวนจ้ง

ของล้ำค่าประเภทนี้มีน้ำหนักที่มาก มีเขาสวนจ้งบางลูกมีน้ำหนักมากถึงหนึ่งล้านจิน ทว่าก็มีแต่ยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะใช้มันได้ ชายสามตาลงมืออย่างฉับพลัน หลังจากเรียกเขาสวนจ้งออกมาแล้ว ฝ่ามือก็พุ่งไปกอบเซิงมิ่งเหลวทั้งสิบหยดก่อนจะเอาพวกมันไปโดยไม่เหลือไว้ซักหยด

ก่อนจะพาร่างของมันพุ่งไปตามเส้นทางสีทองเพื่อออกไปจากที่นี่

“ หึ ! ”

เด็กสาวแบกกระบี่ใหญ่สีทองส่งเสียงหึดังขึ้น ดวงตาสวยนางหรี่ลงปรากฏไอกระบี่พุ่งออกไป ราวกับพายุที่ซัดโหมกระหน่ำสองลูกอัดเข้าใส่เขาสวนจ้งที่ลอยอยู่บนอากาศ ทั้งยังแฝงไว้ด้วยจิตกระบี่สังหารที่น่ากลัว ทำเอาเขาสวนจ้งส่งเสียงครืนดังออกมา

“ ย่าห์ ! ”

เด็กหนุ่มผมม่วงคำรามลั่น ทั่วร่างโอบล้อมไปด้วยสายฟ้าสีม่วง มันอ้าปากคายพัดสีม่วงล้ำค่าอันหนึ่งออกมา ก่อนสะบัดพัดพลันบังเกิดพายุหมุนสีม่วงขึ้น ทำเอาเขาสวนจ้งสั่นสะเทือน

“ หายไปซะ ! ”

‘เต้าหลิง’คำรามลากเสียงยาว พลังพุ่งทะยานขึ้นสูงสุด หมัดกำแน่น ก่อนพุ่งอัดเข้าใส่เขาสวนจ้งดังสนั่น ทว่าของล้ำค่าชิ้นนี้หนักอย่างยิ่ง รวมกับแรงกดดันโดยรอบด้วยแล้ว ทำให้การร่วมแรงของพวกมันทั้งสาม ไม่สามารถทำลายเขาสวนจ้งลงได้

“ หึ ไม่มีประโยชน์ พวกเจ้าอยู่ที่นี่ไปเถอะ ”

ชายสามตายิ้มเยาะ เขาสวนจ้งลูกนี้มีน้ำหนักร่วมหลายแสนจิน แล้วพวกมันจะไปทำลายลงได้อย่างไร ?

“ รนหาที่ตาย ! ”

เด็กสาวแบกกระบี่ใหญ่กล่าวอย่างเย็นชา ผมนางปลิวไสว กระบี่ใหญ่สีทองด้านหลังพลันพุ่งฝ่ามวลอากาศออกไปประดุจแม่น้ำแสงสายยาวแห่งหนึ่ง ก่อนฟันเข้าที่เขาจ้งสวนจนขาดครึ่งอย่างง่ายดายราวกับผ่าเต้าหู้

“ อะไรกัน ? ”

ชายสามตาสะดุ้งเฮือก หันหน้ากลับแล้วรีบหนีทันที กระบี่ใหญ่นั่นอย่างต่ำก็เป็นศาสตราวุธแห่งเต๋า ! นัยน์ตาเด็กหนุ่มผมม่วงฉายแววปีติ ใช้แรงโบกสะบัดพัดม่วงล้ำค่าจนก่อลมพายุขนาดใหญ่พุ่งเข้าไป อักขระโดยรอบล้วนมอดดับ ชายสามตาซวนเซจนเกือบล้มลงกับพื้น

“ ไอ้สามตาประหลาด หยุดเดี๋ยวนี้ ! ”

‘เต้าหลิง’ตะโกนดังลั่น จะยอมให้มันหนีไปไม่ได้เด็ดขาด ได้ยินดังนั้น ชายสามตาก็โกรธจนตัวสั่น ไอ้เจ้านี้กล้าเรียกตระกูลสามตาผู้ยิ่งใหญ่ว่าสามตาประหลาดงั้นรึ ?

ไม่นานชายสามตาก็รู้สึกได้ถึงไอหนาวเกาะขึ้นตามผิวหนัง ก่อนปรากฏไผ่สีเขียวมรกตพุ่งเข้ามา ‘เต้าหลิง’ถือไผ่ทมิฬตีอัดเข้าใส่หน้าผากของชายสามตา พร้อมกับที่หน้าผากปูดออกมาเป็นลูกซาลาเปาใหญ่ มองดูแล้วคล้ายเขาอันหนึ่ง

เสียงชิ๊งดังขึ้น พร้อมกับไอกระบี่พุ่งเข้ามาซ้ำ ตัดข้อมือของไอ้สามตาประหลาด หยดเซิงมิ่งเหลวล้ำค่าล่วงหล่นพื้นทันที

“ อ๊าคคค ! ”

ชายสามตาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ทั่วทั้งร่างสั่นเทา รู้สึกได้ว่าจะต้องถูกพวกมันทั้งสามฆ่าทิ้งแน่  นัยน์ตา’เต้าหลิง’ฉายประกาย มันใช้พลังสุดชีวิตเร่งรัดใช้ไผ่ทมิฬออกมา ไผ่ทมิฬนี้กำลังยืดยาว ระเบิดอักขระสีทองขึ้นหนึ่งชั้น ก่อนหอบเซิ่งมิ่งเหลวกลับมา

เด็กหนุ่มผมม่วงโบกสะบัดพัดหอบเซิงมิ่งเหลวที่เหลืออยู่ขึ้น ก่อนเก็บเข้าไปอย่างดีใจแล้วหนีไปทันที เพียงเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สีหน้าเด็กสาวแบกกระบี่สีทองมืดครึ้มทันที เมื่อครู่ก็ร่วมแรงร่วมใจกันทั้งสามคน ทว่าตอนนี้พวกมันทั้งสองกลับเอาไปหมดแล้ว…

“ บัดซบ ! ”

นางมองไปยังเงา’เต้าหลิง’ที่วิ่งหนีไปตามเส้นทางสีทอง ก่อนกัดริมฝีปากแดงชุ่มชื้น แล้วตามไปด้วยใบหน้ามืดครึ้ม

ที่มา:

(0 votes) 0/5
ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments