I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

GSDZ (盖世帝尊) ตอนที่ 37 เจ็บหนัก

| GSDZ (盖世帝尊) | 920 | 2366 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลไทย : XiaoeyuGao

พื้นที่บนชั้นเก้าดูโออ่ายิ่งใหญ่มาก พลังบริสุทธิ์เปี่ยมล้นจนพรั่งพรู พลังชีวิตฮึกเหิม พลังจำนวนมากล้วนหลอมขึ้นเป็นแก่นแท้ ปรากฏแสงสีม่วงล่องลอยอยู่กลางอากาศ  ด้านในเป็นดั่งแดนสวรรค์ที่หายาก ผู้แข็งแกร่งด้านนอกล้วนมองมันตาเป็นมัน

ทว่าชั้นที่เก้าก็มิใช่ว่าใครจะขึ้นมาได้ แรงกดดันสูงถึงขีดสุด และก็ยังมีพลังคุมกฎอยู่ด้วย ! อีกทั้งพลังคุมกฎพวกนี้น่ากลัวเป็นอย่างมาก ในตอนที่เต้าหลิงเดินเข้ามา ก็รู้สึกได้ว่าร่างกายเกือบจะถูกเสียดสีจนแหลกเป็นเศษ

มันกินเซิงมิ่งเหลวลงไปหยดหนึ่ง ทั่วทั้งร่างเปล่งปลั่งแสง รูขุมขนคายแสงออก โอบล้อมไปด้วยพลังชีวิตที่เปี่ยมล้น พลังบริสุทธิ์ที่แฝงอยู่ในเซิงมิ่งเหลวหนึ่งหยดมีสูงมาก จมูกและปากของมันล้วนอัดแน่นไปด้วยเส้นพลังที่ไหลเวียนจำนวนมาก

พลังโคจรไปทั่วร่าง มันคำรามออกมาครั้งหนึ่ง ก่อนฝ่าเท้าจะย่ำเดินเข้าไป ในใจหวาดกลัวชั้นที่เก้าอย่างมาก รู้สึกได้ถึงพลังที่เกิดจากแสงสลัวพวกนี้ หากอยู่ที่นี่นานเกินไป ร่างกายก็จะถูกบดขยี้จนดับสิ้นไปได้

“ มิน่าเล่าเด็กผมม่วงถึงได้ห้ามข้าเข้ามา นี่ไม่ใช่ที่ที่คนจะอยู่ได้จริงๆ ”

‘เต้าหลิง’ขบกรามแน่น ร่างของมันถูกพลังคุมกฎเสียดสีจนปรากฏโลหิตซึมออกมา ! ทว่ามันได้กินเซิงมิ่งเหลวล้ำค่าเข้าไป ทำให้ภายในร่างของมันล้วนอัดแน่นไปด้วยพลังที่เปี่ยมล้น คอยฟื้นฟูบาดแผลของร่างกาย

‘เต้าหลิง’มิกล้าเดินสุ่มสี่สุ่มห้าในนี้ มันรีบหาหินสีดำก้อนใหญ่ก่อนนั่งลงไป เปลือกตาทั้งสองปิดลงและเริ่มฝึกฝนพลัง หากเป็นคนอื่นคงไม่กล้าฝึกพลังที่นี่ เพราะว่าพลังคุมกฎจากแสงสลัวเหล่านั้นน่ากลัวยิ่ง

สามารถขยี้ร่างของมนุษย์จนตายทั้งเป็นได้ ทว่า’เต้าหลิง’ไม่เหมือนกัน เพราะว่าคุณสมบัติร่างกายของมันได้เปลี่ยนพลิกไปแล้ว  แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังต้องใช้แหล่งต้นกำเนิดพลังในนี้ในการหลอมรวมกับร่างกายให้รวดเร็วยิ่งขึ้นอยู่ดี

พื้นที่ในชั้นที่เก้ากว้างใหญ่ไพศาล ด้านในปรากฏวิหารโบราณแห่งหนึ่งตั้งอยู่ ผนังวิหารปลดปล่อยกลิ่นไอโบราณออกมา ไม่รู้ว่าอยู่มานานเท่าไรแล้ว  มีบุตรผู้ภาคภูมิแห่งสวรรค์ที่แข็งแกร่งบางคนได้ของสืบทอดในชั้นเก้าไป บ้างก็ได้วิชาโบราณชั้นยอด แต่ถึงอย่างนั้นคนที่ได้ของล้ำค่าพวกนั้นไปมีน้อยนิด ส่วนใหญ่เป็นอัจฉริยะมีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก

ในชั้นเก้านี้ค่อนข้างอ้างว้าง ทุกที่ล้วนเงียบสงัดไร้เสียง เว้นแต่สถานที่โบราณบางแห่งยังส่งเสียงฟ้าร้องดังลั่น ทั้งยังมีเสียงกระทบกันของโลหะดังแฝงขึ้นด้วย ราวกับกำลังตีเหล็กอยู่อย่างไรอย่างนั้น

สิบวันผ่านไปไวดั่งโกหก ‘เต้าหลิง’ก็เอาแต่ฝึกฝนพลังอยู่ตลอด พลังชีวิตในร่างกายของมันเปี่ยมล้นถึงขีดสุด ผิวหนังเปล่งปลั่งแสง โอบล้อมไปด้วยพลังที่หนาแน่น และเวลาก็ผ่านไปอีกครึ่งเดือน พลังโดยรอบแล่นไหลเข้าสู่ร่างกายเต้าหลิงอย่างบ้าคลั่ง ความเร็วในการดูดกลืนสูงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

กล้ามเนื้อทุกมัดโอบล้อมไปด้วยพลังชีวิตที่เข้มข้น พลังของมันพุ่งขึ้นถึงขีดสุด สัมผัสได้ถึงขีดจำกัดที่สุดยอด ราวกับทะเลทรายที่อยู่เบื้องหน้า ยากที่จะทะลวงต่อไปได้

“ ถึงขีดจำกัดอีกแล้ว ”

‘เต้าหลิง’เปิดเปลือกตาทั้งสองขึ้น ในช่วงเวลาที่ผ่านมา มันได้ใช้พลังจากที่นี่ในการหลอมรวมกับร่างกายอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความเร็วในการฝึกพลังของมันเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด เวลานี้พลังทั่วร่างเต้าหลิงได้เปลี่ยนไป เปล่งปลั่งแสงสีเขียวมรกต ทั่วทั้งร่างราวกับตาน้ำพุชีวิตเปล่งแสง และยังหลอมรวมกับพลังฟ้าดินโดยรอบ ราวกับเป็นสัญญาณที่ว่าใกล้จะทะลวงเข้าสู่ขั้นซึมซับวิญญาณ

“ เหมือนกับว่าแหล่งต้นกำเนิดพลังจะออกมาจากข้างใน ข้ารู้สึกได้ถึงพลังที่เปี่ยมล้นดั่งมหาสมุทรเลย  ”

‘เต้าหลิง’แหงนหน้ามองไปยังเส้นทางด้านหน้า ปรากฏหมอกแสงสลัวปกคลุม มองลึกเข้าไปเห็นประตูบานหนึ่ง มันยันกายขึ้นก่อนมุ่งหน้าเดินไป แรงกดดันที่นี่ยังคงรุนแรง โดยเฉพาะพลังคุมกฎที่สร้างบาดแผลให้ร่างกายได้ จะว่าไปแม้แต่เทพสัตว์อสูรที่น่ากลัวก็ยังไม่กล้าอยู่ที่นี่นานๆ เพราะว่าร่างกายจะได้รับบาดเจ็บ

‘เต้าหลิง’มิเกรงกลัว มันสามารถใช้พลังจากแหล่งต้นกำเนิดฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว และนั่นคือข้อได้เปรียบของมัน มันเดินเดินหยุดหยุด จนหลายวันผ่านไปก็แค่เกือบจะถึงหน้าประตูเท่านั้น แค่นี้ก็เห็นได้ชัดเลยว่าแรงกดดันที่นี่รุนแรงขนาดไหน

‘เต้าหลิง’รู้สึกได้ว่ามันนั้นฝึกจนถึงขีดสุดแล้ว ในขณะเดียวกันมันก็รู้สึกได้ว่าตนยังทะลวงต่อไปได้อีก เพียงแค่ต้องมีโอกาส อีกทั้งยังรู้สึกได้ว่าครั้งนี้มันใช้ได้เพียงพลังแฝงของตัวเองในการเปิดบ่วงพันธนาการเท่านั้น บางทีวิชากลืนฟ้าอาจจะพัฒนาจะถึงขีดสุดแล้วก็ได้

เบื้องหน้าปรากฏเป็นประตูสีทองบานหนึ่ง ประดุจพระอาทิตย์สีทองกำลังลุกไหม้คุโชนดวงหนึ่ง ดูร้อนแรงไร้ที่เปรียบ อบอวลไปด้วยพลังที่น่ากลัว ทั้งยังแฝงไว้ด้วยอานุภาพและความสง่างามน่าเกรงขาม ด้านในราวกับพระราชวังของพระเจ้า

“ ที่ที่น่ากลัวจริงๆ หรือว่านี่จะเป็นชั้นสิบ ? ”

‘เต้าหลิง’ตกตะลึง นัยน์ตาสั่นคลอน มันรู้สึกว่าพลังของหอคอยทงหลิงล้วนปลดปล่อยออกมาจากด้านในนี้  อีกทั้งพลังบริสุทธิ์ที่ประตูปล่อยออกมา ล้วนยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง !

“ เอาวะ ! ”

‘เต้าหลิง’กำหมัด เดินเข้าไปอย่างไม่มีทางเลือก มันคิดจะหลอมพลังเหล่านี้เข้ากับร่างกายทุกส่วนให้ได้ การหลอมรวมในครั้งนี้ถึงแก่นแท้ยิ่งขึ้น  อวัยวะภายในทั้งห้าเปล่งปลั่งแสง กระดูกทุกส่วนส่องแสงใสแจ๋ว ส่งเสียงดังออกมาเป็นจังหวะ เส้นผมแต่ละเส้นล้วนเปล่งแสงสีทองจ้าละลานตา มันจมอยู่ท่ามกลางแสงสีทอง ฝ่าเท้าก้าวเดินเข้าไป !

เพียงฝ่าเท้าข้างหนึ่งเหยียบลงกลางประตู รูขุมขนทั่วร่างลูกชูชัน เหงื่อเย็นไหลเป็นสายน้ำ ก่อนจะรีบก้าวถอยออกมาอย่างฉับพลัน ทว่ามันยังช้าไป ประตูบานนี้ประดุจท้องฟ้าและพระอาทิตย์ที่ลุกไหม้ พลังภายในที่น่ากลัวได้ตื่นขึ้น ส่งเสียงครืนครืนดังต่อเนื่อง ราวกับทะเลทรายที่พุ่งออกมา เข้าปะทะกับร่างของมัน

“ แค่ก.. ”

‘เต้าหลิง’พ่นโลหิตกองใหญ่ออกมา ก่อนร่างจะลอยขึ้นอากาศ ทั่วทั้งร่างใกล้จะระเบิดออก โลหิตสดๆหลั่งไหล กระดูกในร่างแต่ละส่วนล้วนแตกหัก ! เหตุการณ์ได้เปลี่ยนพลิกไป พลังคุมกฎกดทับใส่ร่าง บดขยี้ร่างของมัน ! เต้าหลิงคำรามลั่น เส้นผมที่เปรอะโลหิตปลิวไสวอย่างบ้าคลั่ง

ยังดีที่มันได้เตรียมเซิงมิ่งเหลวล้ำค่าไว้ใช้พอดี จึงทำให้ร่างกายเริ่มฟื้นฟูบาดแผลอย่างรวดเร็ว หากช้าไปเพียงเสี้ยววินาทีเดียว ก็จะถูกบดขยี้จนดับสิ้นไป ! พลังบริสุทธิ์พรั่งพรูห่อร่างของมันเอาไว้ ฟื้นฟูบาดแผลสาหัสบนร่างของมัน อาการของมันหนักมาก พลังคุมกฎของชั้นเก้าก็ชอนไชเข้าสู่ร่างกาย

ทำให้’เต้าหลิง’ยากจะต้านทานได้ มันยืดหยัดรักษาบาดแผลร่วมหนึ่งวันก่อนอาการต่างๆจะดีขึ้นมาเล็กน้อย มันนั่งสมาธิอยู่หน้าประตูชั้นสิบอีกครั้ง  และเริ่มดูดซับพลังมหาศาลในชั้นนี้  ฟื้นฟูบาดแผลจนเวลาล่วงเลยผ่านไปสามวันเต็มๆ

“ เฮ้อ เข้าไม่ได้จริงๆรึ ”

‘เต้าหลิง’ถอนหายใจออกมา ด้านในนั้นน่ากลัวเกินไป หากมิใช่ฝึกฝนอยู่ที่ชั้นเก้ามาร่วมเดือน เมื่อครู่คงตายไปแล้ว

“ เช่นนั้นจะทำอย่างไรถึงจะเข้าไปได้ ? ”

‘เต้าหลิง’เกาหัวยิกๆ ในใจไม่ยอมแพ้ง่ายๆ อีกทั้งอยากจะรู้ด้วยว่าด้านในจะมีอะไรซ่อนอยู่  มันเดินมาได้ซักพักก็เห็นวิหารโบราณแห่งหนึ่ง ประตูสีดำทองแดงขนาดใหญ่ล้วนขึ้นสนิม ไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนสร้างมันขึ้น และมิอยากจะเชื่อว่ามันจะอยู่ที่นี่มานานมาก อดไม่ได้ที่จะต้องตกตะลึง

มันใช้มือลูบไปที่จมูกของมันอย่างครุ่นคิด อยากจะเปิดประตูเข้าไป ทว่าประตูใหญ่นี้ใหญ่และหนักอึ้งเกินไป ยากจะเปิดออกได้

“ ใช่แล้ว เมื่อครู่เด็กหนุ่มผมม่วงบอกว่าที่นี่มีของที่สืบทอดต่อกันมาอยู่ เดาว่าคงจะต้องใช้ดวงถึงจะเปิดมันได้  ”

‘เต้าหลิง’ส่ายหน้า ถอนหายใจออกมาก่อนเดินเข้าไปในส่วนลึก หวังว่าจะได้ของที่สืบทอดกันมาเหล่านั้น เบื้องหน้าปรากฏสระน้ำโบราณแห่งหนึ่ง คลับคล้ายตาน้ำพุชีวิตมาก ทว่าน่าเสียดายของที่อยู่ในนั้นถูกคนเอาไปหมด สภาพแห้งขอดไม่รู้ว่ามันมีสภาพเช่นนี้มานานกี่ปีแล้ว

บนเส้นทางมันมองเห็นแปลงโอสถโบราณจำนวนไม่น้อย ของด้านในแปลงล้วนไม่มีสิ่งใด ที่เหลืออยู่คงเป็นคำเล่าลือ ของกว่าครึ่งใหญ่ๆในนั้นล้วนถูกคนเอาไปหมด ยิ่งเดินลึกเข้าไปเท่าไร วิหารก็ยิ่งน้อยลง ทว่าพวกมันกลับไม่ธรรมดา วิหารที่อยู่ด้านนอกล้วนขึ้นสนิม แต่ ณ ตรงนี้สวยสดงดงามไร้ที่เปรียบ เดาว่าจะต้องสร้างขึ้นมาจากแร่หินที่ล้ำค่าเอามากๆแน่

“ ของสืบทอดในนี้จะต้องยอดเยี่ยมมากแน่ๆ ”

‘เต้าหลิง’พึมพำกับตนเอง มันเดินเตร่ในนี้มาหลายวัน จนกระทั่งเดินเข้ามาถึงจุดที่ลึกที่สุด ปรากฏวิหารทั้งห้าตั้งตระหง่านอยู่ด้านใน ดูศักดิ์สิทธิ์น่าเกรงขาม ทั้งยังเปล่งแสงสีทองตกลงมา ราวกับที่พำนักของเหล่าทวยเทพ

ขณะนี้มันก็มาอยู่หน้าวิหารแห่งหนึ่ง รูปร่างเป็นห้องโถงโบราณ อบอวลไปด้วยกลิ่นไอโบราณ ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยแก่เต้าหลิง สีหน้ามันดูดีอกดีใจ ลองผลักประตูดู มิอยากเชื่อว่ามันจะเปิดออก !

“ หรือว่าของสืบทอดจะอยู่ในนี้ ? ”

‘เต้าหลิง’ปีติยิ่ง เพราะว่าวิหารโบราณทั้งห้านี้ล้วนไม่ธรรมดาที่สุด อาจจะมีของที่สืบทอดกันมาอยู่ก็ได้ อัจฉริยะจากแดนลึกลับจำนวนมากล้วนอยากมาให้ถึงที่นี่ เพียงเท่านี้ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าของสืบทอดพวกนี้ล้ำค่าเพียงไหน ทำให้ตระกูลเก่าแก่ตาร้อนผ่าว

ทว่าก็ยังมีของอยู่อีกไม่น้อยที่ยังไม่มีใครหยิบเอาไป เดา ว่ามันจะต้องยากเกินระดับความสามารถของพวกมัน อากาศในวิหารโบราณพลิ้วไหว แต่กลับอัดแน่นไปด้วยพลังที่น่าเกรงขาม ราวกับสถานที่ประกอบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์สมัยโบราณ ‘เต้าหลิง’รู้สึกได้ว่าพลังในนี้กับตัวมันนั้นเหมือนกัน

มันเดินมาถึงส่วนลึกของวิหาร ถอนหายใจยาว ของสืบทอดในนี้ถูกคนเอาไปหมดแล้ว มันเห็นกล่องหยกอันหนึ่ง ทว่าของด้านในก็ถูกคนอื่นเอาไปแล้วเช่นกัน

“ นี่มันหลอกข้าหรือ? อะไรก็ไม่มีซักอย่าง ยังจะให้ข้าเขามาอีก ”

‘เต้าหลิง’ขมวดคิ้วขึ้น  ไม่พอใจเป็นอย่างมาก จากนั้นสีหน้าของมันก็ฉายแววสงสัยออกมา เพราะว่าหากของในตำนานถูกเอาไปหมดแล้ว วิหารโบราณก็น่าจะเปิดประตูไว้ แล้วเหตุใดวิหารโบราณนี้ถึงได้ปิดประตู ?

“ หรือว่าคนที่เอาของไปจะไม่ได้เอาไปทั้งหมด ? ”

ฝ่ามือเต้าหลงกำหลวม เพื่อพิสูจน์สันนิษฐานของตน มันจึงเดินสำรวจไปยังประตูข้างที่อยู่รอบทิศ ก่อนจะเดินไปถึงประตูข้างหนึ่ง ทว่าน่าเสียดายมันกลับไม่มีของอะไรเลย  ‘เต้าหลิง’รู้สึกว่าประตูข้างพวกนี้เป็นแค่ชั้นรอง จะต้องเป็นห้องหลักเท่านั้นถึงจะมีของในสืบทอดอยู่

ด้านในปรากฏลานแห่งหนึ่ง มีต้นไม้โบราณหยาบใหญ่ตั้งอยู่ มันเดินเล่นไปรอบๆพักหนึ่ง ก็เห็นเป็นลอยคราบเลือดที่ถูกพลิกหาอยู่ มันเม้มริมฝีปาก คนอื่นคงไม่น่าโง่ขนาดนั้น พวกมันจะต้องเอาของสืบทอดทั้งหมดออกไปอยู่แล้ว  เดินมาถึงส่วนลึกที่สุด เต้าหลิงก็มองเห็นห้องหลอมโอสถห้องหนึ่ง ก่อนส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นว่า

“ ในเมื่อมีคนเข้ามาในนี้แล้ว อีกทั้งห้องหลอมโอสถยังเป็นที่ที่สำคัญขนาดนั้น คงไม่มีโอสถเหลืออยู่แล้วหละ  ”

มันคิดจะหันหลังกลับไป ทว่าฝีเท้าของมันก็อดไม่ได้ที่จะย่ำเดินเข้าไปโดยไม่รู้ตัว อุณหภูมิในนี้ร้อนแรงเป็นอย่างยิ่ง ชั้นวางหยกล้วนว่างเปล่า คงจะถูกคนเอาไปหมดแล้ว ทว่าตรงกลางสุดปรากฏเป็นเตาหลอมโอสถเตาหนึ่ง  ใบหน้าเล็กของเต้าหลิงตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าจะเหลือเตาหลอมโอสถอีกหนึ่งเตา

มิอยากจะเชื่อว่าคนที่เข้ามาจะไม่ได้เอาเคาหลอมโอสถออกไปด้วย

“ หรือว่ามันจะหนักเกินไปหรือ คนที่มาก่อนถึงไม่ได้เอาไปด้วย ? ”

‘เต้าหลิง’เกาหัว ก่อนเดินเข้าไป มือทั้งสองจับไปที่ฝาเตา ก่อนใช้พลังทั่วร่างเลื่อนเปิดมัน ใครจะไปคาดคิดว่ามันจะซวนเซจนเกือบล้ม ฝาเตาถูกเปิดออกอย่างง่ายดาย มันอุ้มฝาเตาเอาไว้สีหน้าดูมืดเล็กน้อย ในตอนที่เสียงเปิดฝาเตาดังขึ้น มันก็มองไปยังด้านในเตา พบกับกระดาษสีทองแผ่นหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยตัวอักษรที่ขีดเขียงลงไป

เปล่งแสงสว่างจ้าละลานตาออกมา ทุกๆตัวอักษรโบราณโอบล้อมไปด้วยแสงไฟ

“ ของสืบทอด ! ”

สีหน้า’เต้าหลิง’ดูปีติยิ่ง ในตอนที่จะหยิบมันขึ้นมา มันก็รู้สึกถึงพลังที่น่ากลัวหนึ่ง ทำให้รูขุมขนตามร่างลุกตั้งชูชัน ฝีเท้าพลันก้าวถอยหลัง รู้สึกได้ถึงอันตรายที่จะเอาถึงชีวิต

ที่มา:

(0 votes) 0/5
ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments