ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปแปลไทย : XiaoeyuGao
ภายในตรอกซอย ‘เต้าหลิง’ทำปากยื่น ในมือยังกุมกระบี่หักเอาไว้ ก่อนตีไปที่หัวของ’เจี้ยนเซียวเซียว’จนสลบไป มันเดินหาที่ลึกลับก่อนจะนำนางไปซ่อนเอาไว้ ‘เต้าหลิง’เกาหัว มองไปยังพลังงานสีทองหยดนี้ ใจก็คิดจะให้นาง ทว่าก็น่าสงสาร หากให้นางไป สาวน้อยคนนี้จะต้องหักหลังมันอย่างแน่นอน
จากนั้นเต้าหลิงก็รีบหนีไปทันที มันยังไม่คิดจะกลับไปที่สำนักซิงเฉินในตอนนี้ แต่คิดจะไปหาห้องฝึกฝนเสียก่อน เพื่อรอสืบข่าวคราวที่ถูกปล่อยออกมา ตอนนี้’เต้าหลิง’ต้องการแข็งแกร่งให้รวดเร็วที่สุด แม้ว่าขั้นพลังกายของมันจะแข็งแกร่งยิ่ง
ทว่าต่อหน้ายอดฝีมือที่แท้จริงนั้นยังแกร่งไม่พอ ขอเพียงแค่ก้าวเข้าสู่ขั้นซึมซับวิญญาณ มันก็จะมีไพ่ตายเอาไว้ใช้นั่นเอง ตอนนี้เงินสะสมของ’เต้าหลิง’ก็มีมากมายมหาศาล ของที่ใช้ทะลวงไปขั้นซึมซับวิญญาณก็เตรียมพร้อมแล้ว ทั้งยังมีพลังงานสีทองอีก เพียงเท่านี้ก็ทำให้พลังของมันเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดแล้ว
เมืองชิงโจวมีห้องฝึกฝนมากมาย สามารถเช่าเพื่อขังตัวเองอยู่ในนั้นได้ ‘เต้าหลิง’เดินเตร่ในเมืองชิงโจวซักพัก ก็เดินมาถึงห้องฝึกที่ค่อนข้างหรูหราห้องหนึ่ง
“ ท่านต้องการห้องฝึกแบบไหนหรือเจ้าค่ะ? ”
เด็กสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาต้อนรับ ก่อนถามขึ้น
“ มีแบบไหนบ้าง ? ”
‘เต้าหลิง’กล่าวเสียงเรียบ มันพึ่งจะเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก ได้ยินดังนั้น เด็กสาวพลันขมวดคิ้ว เหล่สายตามองมันด้วยแววตาเมินเฉยเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวขึ้นว่า
“ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นระดับทั่วไป ระดับลึกลับ ระดับฟ้าชั้นสาม ราคาก็จะแบ่งเป็นหนึ่งวันหนึ่งร้อยเหรียญทอง ระดับลึกลับหนึ่งพัน ระดับฟ้าหนึ่งหมื่น ”
ราคาพวกนี้ถือว่าถูกมากๆแล้ว คนจำนวนมากที่ทำการฝึกฝนล้วนใช้ต้องเวลาหลายเดือน หากเช่าห้องฝึกฝนระดับฟ้า หนึ่งเดือนก็ต้องจ่ายสามแสนเหรียญทอง คนธรรมดาไม่กล้าเช่ามันอย่างแน่นอน
“ เอาห้องฝึกระดับฟ้าสิบวัน ”
‘เต้าหลิง’ยื่นการ์ดสีทองใบหนึ่งออกไป นี่คือเงินห้าแสนเหรียญทองตอนที่ได้มาจากร้านค้ามหาคลังสมบัตินั่นเอง สีหน้าของเด็กสาวดูไม่ปกติ นึกเสียใจภายหลังเหตุใดถึงได้ดูถูกมันกัน ก่อนจะรีบพยักหน้าแล้วพูดขึ้น
“ นายท่านโปรดรอซักครู่เจ้าค่ะ ข้าจะพาท่านไปเอง ”
ห้องฝึกฝนระดับฟ้านั้น ความจริงเป็นเพียงลานเล็กๆแห่งหนึ่ง พลังงานในนี้กับเขาวิญญาณของสำนักซิงเฉินก็พอๆกัน ทำให้มันเจ็บปวดรวดร้าวไปพักหนึ่ง นี่มันไม่คุ้มกับค่าเงินที่เสียไปเลยจริงๆ ‘เต้าหลิง’นั่งขัดสมาธิลงบนเบาะนั่ง สภาพจิตใจละเอียดและลึกซึ้ง ทั่วทั้งร่างล้วนดูมีชีวิตชีวา ปรากฏคลื่นลมอ่อนๆออกมา
วิญญาณของมันเปิดออกหลอมรวมกับฟ้าดิน เหนี่ยวนำพลังงานฟ้าดินโดยรอบ พร้อมดึงให้แล่นเข้าสู่ร่างกายและวิญญาณ ขั้นตอนนี้สำหรับผู้ฝึกฝนจำนวนมากแล้วค่อนข้างยาก การเหนี่ยวนำพลังฟ้าดินจะทำให้ร่างกายมีพลังฟ้าดิน พลังศักดิ์สิทธิ์จำนวนมหาศาล และมีพละกำลังที่สุดยอด
พลังทั่วร่างมันโคจรไปทั่ว ภายในร่างพรั่งพรูพลังออกมา ทั่วทั้งร่างเปล่งปลั่งแสง ปลุกพลังจากร่างกายทุกส่วนอย่างเต็มที่ ปลดปล่อยพลังแฝงทั่วร่างออกมาทั้งหมด เสียงตูมดังขึ้น ทั่วทั้งลานกว้างถูกพลังงานที่ดุดันอัดใส่ ทำเอาสั่นไหว ทว่าโดยรอบลานกว้างปรากฏเป็นลวดลาย พลังไม่อาจฝ่าออกไปได้
ขั้นซึมซับวิญญาณจะอ่อนแอหรือแข็งแกร่งนั้น หนึ่งคือร่างกายและธรรมชาติจะเกี่ยวข้องกัน ยิ่งร่างกายแข็งแกร่งเท่าไหร่ ร่างกายที่หลอมรวมฟ้าดินก็จะยิ่งน่ากลัวขึ้นเท่านั้น !
ยิ่งเป็นพลังแฝงของมันก็ยิ่งไม่มีใครเทียบได้ ร่างกายเปล่งปลั่งแสงจ้าละลานตา ดูดซับพลังงานโดยรอบ ร่างกายเหนี่ยวนำฟ้าดินและเริ่มเข้าใจความหมายของฟ้าดินอย่างลึกซึ้ง คือให้มองและคิดว่าตนเป็นโลกใบหนึ่ง
ราวครึ่งวันที่เงียบสงัดได้ผ่านไป ภายในร่างปรากฏเสียงฟ้าร้องดังขึ้น พลังสีทองเดือดพล่าน เกิดปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ขึ้นภายในร่าง ราวกับเบิกฟ้าผ่าดวงสุริยัน ร่างกายของมันเริ่มขยับส่งเสียงขึ้นมา
มันมองว่าตนเองเป็นโลกใบเล็กใบหนึ่ง กระดูกและกล้ามเนื้อทุกส่วนของมันล้วนเปล่งแสง ราวกับฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ก็มิปาน ก่อนเริ่มให้กำเนิดพลังลึกลับขึ้นจำนวนมาก
ครืนครืน !
พลังที่หลับใหลอยู่ในตัวเต้าหลิงระเบิดออกมา รูขุมขนตามผิวหนังมันเปิดออก เอ่อทะลักพลังกลืนกินที่น่ากลัว ราวกับมันได้เปลี่ยนเป็นสัตว์อสูรที่เชื่อมต่อกับโลกใบใหญ่ แล้วสกัดเหลือแต่เพียงพลังฟ้าดิน ทั่วทั้งลานเล็กสั่นสะเทือน พลังงานจำนวนมากจากโดยรอบแล่นไหลไปรวมกันตรงกลางพื้นที่
เลือดเนื้อของมันเปล่งปลั่งแสง ทำการผลัดเปลี่ยน ทั่วทั้งร่างแผ่คลุมไปด้วยเมฆแสงเรืองรอง ความน่ากลัวของพลังภายในร่างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ราวกับเป็นเตาหลอมที่ลุกไหม้คุโชน
ความเร็วในการกลืนกินของมันรวดเร็วยิ่ง พลังงานภายในลานเล็กเปี่ยมล้นสุดๆ ทว่ามันก็ยังไม่เพียงพอสำหรับเต้าหลิง เพียงกว่าสิบช่วงหายใจ โดยรอบพลันมืดสนิท !
หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปคงได้สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งแผ่นดิน เพราะว่าพลังที่นี่มีมากมายเกินกว่าจะดูดซับจนหมดได้ จินตนาการไม่ออกเลยว่าพลังแฝงของมันจะสูงถึงระดับไหนกัน
พลังงานโดยรอบแห้งสนิท เต้าหลิงเกือบจะหลุดจากขั้นตอนการทะลวงพลังแล้ว ฝ่ามือของมันรีบหยิบผลทงหลิงมาลูกหนึ่ง ก่อนจะยัดใส่ปากไปกินทั้งเปลือกเลย ผลทงหลิงหลอมละลาย แสงสว่างไสวที่ร่างของเต้าหลิงระเบิดออกมาพลันเข้มข้นขึ้นหลายเท่า ราวกับดวงสุริยันที่เปล่งปลั่งแสงจำนวนมาก มวลอากาศล้วนเปลี่ยนสีไป
‘เต้าหลิง’ราวกับเปลี่ยนเป็นเครื่องดูดฝุ่นที่น่ากลัว แสงดวงดาวที่พบหาได้ยากจากท้องนภาถูกเชื่อมดึงลงมาเข้าสู่ร่างกาย ห้วงอากาศโดยรอบคายพลังงานที่น่ากลัวยิ่งออกมา พลังงานโดยรอบลานเล็กล้วนถูกมันดูดเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง
ผลทงหลิงไม่เพียงแต่จะซ่อนพลังมหาศาลเอาไว้ แต่มันยังช่วยให้ความเร็วในการดูดซับพลังเพิ่มขึ้นอีก หลายเท่าตัวมากด้วย และในตอนที่กำลังทะลวงเข้าสู่ขั้นซึมซับวิญญาณนั้น พลังแฝงก็จะเพิ่มความ แข็งแกร่งขึ้นไปอีกส่วนใหญ่ๆ เพียงเท่านี้ก็เห็นได้ถึงมูลค่าของมันแล้ว
ร่างของ’เต้าหลิง’กระจายแสงออกมา กล้ามเนื้อทุกมัดล้วนดูดซับพลังพลังงานโดยรอบอย่างตะกละ ทว่ามันกลับไม่พอกับความต้องการ ..
“ ไม่พอ ไม่พอ ! ”
‘เต้าหลิง’หยิบโอสถเม็ดซึมซับวิญญาณจื่อซินกลืนลงไป มันรู้ดีว่าพลังแฝงในร่างของมันน่ากลัวขนาดไหน อีกทั้งมันยังอยากจะให้ปลุกพลังเสร็จสิ้นในอีกสองสามวันนี้ ดูแล้วคงต้องสิ้นเปลืองของล้ำค่าไปมากแน่
ทว่ามันยังมีพลังงานสีทองอยู่ ซึ่งตรงกับความต้องการของมันที่สุด พลังงานนี้สูงส่งอย่างยิ่ง จะต้องช่วยให้มันปลุกพลังถึงในระดับที่น่ากลัวได้แน่ !
หากตนเองได้กลายเป็นโลกใบหนึ่ง เช่นนั้นพลังงานที่ถือกำเนิดในโลกใบเล็กของตัวเองก็จะยิ่งสูงส่ง นั่นก็หมายความว่ายิ่งโลกใบเล็กเท่าไรก็จะยิ่งแข็งแกร่งอย่างนั้นหรือ ?
ดังนั้นอัจฉริยะจากตระกูลใหญ่ๆจำนวนมากถึงได้เตรียมของล้ำค่าที่ยอดเยี่ยมเอาไว้มากมายในระหว่างขั้นตอนการทะลวงเข้าสู่ขั้นซับวิญญาณ หรือแม้กระทั่งบางคนออกตามหาของล้ำค่าที่สุดยอดของโลก เช่นอากาศธาตุแสงต่างๆ อากาศธาตุม่วง อากาศธาตุฟ้าดิน หรือแม้กระทั่งอากาศธาตุก่อนกำเนิด !
ของเหล่านี้เต้าหลิงจะไปมีได้อย่างไรกัน ทว่ามันรู้ดีว่าเส้นทางในขั้นซึมซับวิญญาณของตนพึ่งจะเริ่มขึ้นเท่านั้น ของเหล่านี้ภายภาคหน้าอาจจะหามันเจอก็ได้
โอสถเม็ดซึมซับวิญญาณจื่อซินหลอมละลาย ภายในร่างของมันพรั่งพรูพลังสีงานสีม่วงออกมา หลอมรวมกับเลือดเนื้อและกระดูกของมัน ก่อนจะปลุกพลังแฝงในร่างอย่างไม่ขาดสาย
ร่างของ’เต้าหลิง’น่ากลัวยิ่ง ราวกับเซียนที่ถือกำเนิดขึ้น เปล่งปลั่งแสงสว่าง เส้นแสงแต่ละเส้นดูศักดิ์สิทธิ์สวยงาม ภาพเหตุการณ์ดูน่ากลัวเล็กน้อย
ขณะนี้พลังงานจากผลทงหลิงได้หมดไปแล้ว ความเร็วในการดูดซับของมันเริ่มน่ากลัวขึ้นทีละขั้น ปรากฏเสียงสวดดังขึ้นภายในร่าง ตัวอักขระวิชากลืนฟ้าน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ
ทั่วทั้งร่างราวกับกลายเป็นถ้ำมืดขนาดใหญ่ คอยดูดกลืนพลังงานต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่ลำแสงจากดวงดาว !
โดยรอบมืดสนิท ปรากฏห้วงอากาศออกมา ดูดกลืนพลังบริสุทธิ์จากฟ้าดินอย่างบ้าคลั่ง พลังงานทั้งห้าชนิดหลอมรวมกันทั้งหมด ก่อนขยายและเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ร่างกาย ปากทางเข้าตรอกแห่งหนึ่ง ใต้กองหินธรรมดากองหนึ่ง พลันปรากฏไอกระบี่ระเบิดออกมา ส่งเสียงดังตูมหินระเบิดกลายเป็นเศษผง
พร้อมกับปรากฏร่างสวมเกราะสีทองคนหนึ่งเดินออกมา ‘เจี้ยนเซียวเซียว’ขมวดคิ้วขึ้น มือเรียวสวยคลำไปที่ท้ายทอย ฟันกัดไปที่ริมฝีปากสีแดงแน่น ก่อนกล่าวอย่างเจ็บปวดว่า
“ ใครเป็นคนทำกัน ? ”
นางโกรธจนแทบจะเป็นบ้า ไม่อยากจะเชื่อว่าจะถูกคนลอบทำร้ายแล้วขโมยของไป ไม่ว่านางจะไปที่ไหน ล้วนเป็นดั่งดวงดารา นางเป็นคนที่โดดเด่น ตั้งแต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยโดนเอาเปรียบขนาดนี้มาก่อน
“ ต้องเป็นมันแน่ ไอ้หัวขโมยสมควรตายคนนั้น ! ”
‘เจี้ยนเซียวเซียว’ขบกราม เส้นผมสีดำมันวาวของนางปรากฏคราบโลหิต โกรธเสียจนตัวสั่นสะท้าน ในตอนที่กำลังจะออกไปตามล่ามันอยู่นั้น สายตาก็เหลือบมองไปบนพื้น สีหน้าพลันตกตะลึง เปิดขวดหยกออก สายตามองไปยังพลังงานสีทองในนั้น ‘เจี้ยนเซียวเซียว’ปรับอารมณ์จากโกรธกลายเป็นปีติทันที ก่อนจะหัวเราะอิอิแล้วพูดว่า
“ พลังงานนี้สุดยอดจริงๆ ที่แท้มันก็ไม่ได้ฮุบไว้คนเดียว ”
พอคิดถึงตรงนี้ คิ้วของนางพลันขมวดขึ้น ก่อนกล่าวอย่างร้อนใจเล็กน้อยว่า
“ ตายแล้ว เมื่อครู่ข้าถูกคนลอบทำร้ายนี่ เช่นนั้นมันก็ต้องถูกลอบทำร้ายด้วย ? ”
“ แย่แล้ว ”
‘เจี้ยนเซียวเซียว’เข้าใจอย่างชัดเจน เป้าหมายจะต้องเป็นที่หอคอยทงหลิงแน่ หากมันถูกจับตัวไป ก็ต้องถูกบีบบังคับให้ตอบคำถามแน่ หรือแม้กระทั่งอาจโดนฆ่าตาย นางเดินไปรอบๆอย่างกังวลใจ ‘เต้าหลิง’ให้พลังงานสีทองแก่นางมาหนึ่งหยด ‘เจี้ยนเซียวเซียว’ซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก
ตอนนี้เกิดเรื่องกับมัน แล้วนางจะทำอย่างไรดี และแล้วนางก็มาถึงหอคอยทงหลิง ที่นี่ดูวุ่นวายอย่างถึงที่สุด ผู้แข็งแกร่งจำนวนมากล้วนมากันที่นี่ และเริ่มเคลื่อนพลขึ้นไปยังชั้นเก้า
คนกลุ่มที่ช่วยกันปิดบังข่าวเมื่อครู่ถอนหายใจออกมา ข่าวนี้คุมไม่อยู่แล้วจริงๆ เพราะว่าที่นี่จะมีผู้แข็งแกร่งจำนวนมากมาฝึกบรรลุอักขระกัน เดาว่าอีกไม่นานคนใหญ่คนโตก็คงจะมา เพื่อจะขึ้นไปที่ชั้นสิบ
“ มันบอกว่ามีผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งโดนเล่นงานอยู่บนชั้นเก้าอย่างนั้นรึ? ”
‘เจี้ยนเซียวเซียว’กำหมัด ฝ่าเท้าย่ำเดินขึ้นไป เพื่อจะไปดูที่ชั้นเก้าเสียหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ที่มา:
(0 votes) 0/5