I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

GSDZ (盖世帝尊) ตอนที่ 43 ซึมซับวิญญาณ

| GSDZ (盖世帝尊) | 1010 | 2365 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลไทย : XiaoeyuGao

กลางลานเล็ก ปรากฏแสงสีทองพรั่งพรู เส้นพลังที่แข็งแกร่งอัดใส่มวลอากาศ แฝงไว้ด้วยคลื่นพลังศักดิ์สิทธิ์ ลานเล็กที่มีลวดลายสวยงามล้วนสว่างไสว ดูศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง  เงาหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ ร่างเปล่งปลั่งแสงสว่าง ทุกช่วงลมหายใจโดยรอบสั่นไหว นี่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และแข็งแกร่ง ร่างของมันได้เปลี่ยนกลายเป็นโลกใบเล็ก

ดูดกลืนพลังงานจากโลกใบใหญ่ หลอมรวมกับร่างกาย   ร่างของ’เต้าหลิง’อบอวลไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ มันกำลังหลอมรวมพลังงานสีทอง สามวันก่อนในตอนที่กลืนพลังงานสีทองหยดหนึ่งลงไป ร่างกายก็เกือบถูกอัดจนระเบิด ใช้เวลาไปร่วมสามวันเต็มๆ ถึงจะใช้พลังไปจนหมดครบถ้วน

ร่างของ’เต้าหลิง’ได้เปลี่ยนไป กล้ามเนื้อทุกๆมัดล้วนเปล่งปลั่งแสงสว่างละลานตา ราวกับเซียนที่จุติลงบนโลกมนุษย์ อีกทั้งยังมีอานุภาพของพลังที่หลับใหลอยู่โผล่ขึ้นมาและบางทีก็หายไปสลับกัน

“ ร่างกายของข้าดูแปลกๆยังไงชอบกล ”

‘เต้าหลิง’พึมพำ สองสามวันมานี้มันดูแข็งแกร่งยิ่งขึ้น มันรู้สึกภายในร่างกายมีแหล่งต้นกำเนิดพลังชนิดหนึ่งตื่นตัวขึ้นมา มันคิดว่านี่อาจจะเป็นแหล่งต้นกำเนิดกายนักปราชญ์ของตนเอง !

มันลองปลุกพลังนี้ขึ้นมา ทว่าก็ยังทำไม่ได้ มันคิดว่าต้องใช้พลังงานบางอย่างถึงจะกระตุ้นขึ้นมาได้ มันไม่ได้ทำการพักฟื้นแต่อย่างใด แต่คิดจะปลุกพลังต่อให้สำเร็จ พลังงานสีทองหยดหนึ่งแล่นไหลเข้าสู่ร่างกาย หลอมละลายกลายเป็นพลังศักดิ์สิทธิ์ที่โคจรอยู่จำนวนมาก ทั้งยังแฝงไว้ด้วยพลังชีวิตที่พรั่งพรู

เอ่อล้นทะลักเข้าสู่ภายในร่าง ความเร็วในการปลุกพลังพลันเพิ่มมากขึ้น  ช่วงเวลานี้เอง เมืองชิงโจวเกิดเรื่องใหญ่สะเทือนทั้งเมือง แม้ว่าผู้แข็งแกร่งที่รู้เรื่องนี้เป็นคนแรกๆจะปิดบังข่าวนี้

ทว่าก็ปิดได้แค่สามวันเท่านั้น ก่อนเรื่องนี้จะแพร่งพรายออกไปไกล หอคอยทงหลิงเป็นหอคอยศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่มายาวนานในเมืองชิงโจว ทว่าตอนนี้อานุภาพแรงกดดันของมันได้หายไป นี่เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก บ้างคิดว่ามีคนขโมยของล้ำค่าบนชั้นสิบไป ถึงได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แบบนี้ขึ้น

บ้างก็ว่าสมบัติล้ำค่าที่ถือกำเนิดขึ้นบนชั้นสิบ ได้หายไปเอง หอคอยทงหลิงถึงได้เกิดปรากฏเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ไม่ว่าจะพูดอย่างไรนี่ก็เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก อานุภาพแรงกดดันด้านในหอคอยทงหลิงได้หายไป ไม่รู้เลยว่าจะมีคนซักกี่คนที่คิดจะขึ้นไปบนชั้นเก้า เพราะว่าบนชั้นเก้านั้นมีของที่สืบทอดกันมาอยู่ !

ตอนนี้เมฆฝนได้มารวมตัวกันที่เมืองชิงโจว เพราะว่าอีกไม่นานห้องโถงซิงเฉินใกล้จะเปิดแล้ว ยิ่งตอนนี้ปรากฏเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก ทำให้ผู้แข็งแกร่งจำนวนมากรีบมาที่นี่กัน

ห้าวันผ่านไป ภายในลานเล็กปรากฏการปลุกปั่นคลื่นพลังที่แข็งแกร่งออกมา พลังทั่วร่างเต้าหลิงพุ่งทะยานถึงจุดสูงสุด พลังภายในร่างสั่นสะเทือน ทะลวงขั้นพลังย่อยไปหนึ่งขั้น

พลังเพิ่มขึ้นไปส่วนหนึ่งใหญ่ๆ ปรากฏพลังงานสีทองที่น่ากลัวเส้นหนึ่งถล่มทลายมวลอากาศจะพังพินาศ !

“ ทะลวงแล้ว ”

‘เต้าหลิง’พูดกับตนในใจ หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปคงได้สั่นสะเทือนทั้งปฐพี จากขั้นพลังกายทะลวงสู้ขั้นซึมซับวิญญาณต้องใช้เวลาร่วมครึ่งปีถึงจะปลุกพลังสำเร็จ ทว่ามันใช้เวลาไม่ถึงสิบวัน อีกทั้งยังทะลวงเข้าสู่ขั้นซึมซับวิญญาณระดับสองชั้นฟ้า นี่แค่พึ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น มันคิดว่าหากมีเวลาอีกซักช่วงเวลาหนึ่งก็จะสามารถทะลวงขั้นพลังย่อยขึ้นไปได้อีกหนึ่งขั้น !

เปลือกตาของมันเปิดขึ้น นัยน์ตาใสแจ๋ว เปล่งปลั่งแสงสว่างไสว ทั่วทั้งร่างโอบล้อมไปด้วยท่วงทำนอง ราวกับเป็นเซียนอมตะ ผมยาวปลิวไสว บุคลิกลักษณะยิ่งใหญ่อยู่เหนือผู้ใด ทันใดนั้นเปลือกตาเต้าหลิงพลันปิดลง ใบหน้าฉายแววปีติ จิตใจของมันมีชิตชีวา หากพิจารณาดีๆ

จะรู้สึกได้ว่ากลางสมองปรากฏอะไรบางอย่างกำลังชอนไชออกมา เต้าหลิงผ่อนคลายจิตใจ ปล่อยให้พลังประหลาดนั่นเลื้อยขยุกขยิกตามใจตนเอง

ก่อนความเร็วในการเลื้อยของมันจะสูงขึ้น เส้นเลือดดำในหัวของเต้าหลิงล้วนกำลังโป่งพอง และนี่คือขั้นตอนของการปลุกจิต หากยืนหยัดได้ก็จะปลุกพลังสำเร็จ ถ้าไม่ก็ต้องรอครั้งต่อไป

ความหมายของจิตที่ว่าก็คือวิญญาณของคน พลังงานชนิดนี้พิเศษเป็นอย่างมาก มีจิตของผู้แข็งแกร่งบางคน ไม่ทันไรก็สามารถมองกวาดสายตาไปรอบๆฟ้าดินได้ในระยะหมื่นเมตร น่ากลัวจนถึงขีดสุดจริงๆ จิตก็สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้เหมือนกัน ทว่าจำเป็นต้องใช้ของล้ำค่าสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมสุดๆในโลกนี้

ของล้ำค่าสวรรค์ที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้จิตได้นั้นหายากสุดๆ นอกจากนี้ก็ยังมีโอสถเม็ดเสินหุนก็ใช้ได้เหมือนกัน ทว่ามันก็หายากสุดๆเช่นเดียวกัน

วิญญาณกำลังสั่นไหว ยืนหยัดมาได้ครึ่งชั่วยามใหญ่ๆ กลางสมองของมันพลันเอ่อทะลักพลังงาน ประหลาดออกมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่พลังงานนี้ปรากฏออกมา

‘เต้าหลิง’ก็มองเห็นภาพจำนวนมาก จิตได้เปิดออก ความสามารถใน การจำของมันเพิ่มมากขึ้นส่วนหนึ่งใหญ่ๆ เพราะว่าจิตก็เป็นบ่อเกิดของมหาสมุทรแห่งปัญญา พื้นที่ความทรงจำนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเด็กหนุ่มตัวเล็กอายุสิบสองคนหนึ่ง กำลังหายใจอย่างหนักหน่วงอยู่ภายในห้องแห่งหนึ่ง

ทั่วร่างอาบชโลมไปด้วยเม็ดเหงื่อประดุจฝนตก มันใช้วิธีดั้งเดิมหลอมรวมร่างกาย ในปีนั้นมันขยันหมั่นเพียรเป็นอย่างมาก เพราะว่าทุกสายตาที่มองมาล้วนเหยียดหยามและดูถูก

มันนั้นไม่สามารถฝึกฝนวิชาได้ ทั้งยังชอบหลับไปโดยที่ไม่รู้ตัว ในปีนั้นมันได้ฝึกหลอมร่างกายอย่างหนักจนเป็นลมสลบไป จากนั้นมันก็ได้ยินเสียงลึกลับหนึ่งดังขึ้น และบอกให้มันฝึกวิชากลืนฟ้า

‘เต้าหลิง’ถอนหายใจออกมา นึกย้อนความทรงจำไป มองเห็นช่วงเวลาสุดแสนเลวร้ายที่ผ่านมา ที่มันมาถึงได้ขนาดนี้ก็คงต้องขอบคุณวิชากลืนฟ้า มันรู้สึกขอบคุณคนลึกลับนั่นเป็นอย่างมาก น่าเสียดายที่ไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ไหน

ตอนหกขวบ’เต้าหลิง’ยังเยาว์วัยอยู่มาก มันไม่เข้าใจอะไรหลายสิ่ง รู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่อาเป๋ทำเป็นอย่างมาก อาเป๋มักจะหาของบางอย่างมาทาที่ร่างของตน บ้างก็กลิ่นหอม บางก็รสชาติขมมาก บ้างก็มีพลังชิวิต..

“ ควมสามารถของเตี่ยมีสูงมากจริงๆ ! ”

‘เต้าหลิง’คิดขึ้นในใจ แร่หินพวกนั้นจะเป็นของที่คนธรรมดาหามาได้อย่างนั้นหรือ ? ตอน’เต้าหลิง’สามขวบ อาเป๋ก็พาเต้าหลิงไปทั่วทุกสารทิศ ใช้ชีวิตเยี่ยงคนป่าอยู่ช่วงหนึ่ง จนท้ายสุดก็มาที่เมืองชิงซาน

ภาพสถานที่แห่งหนึ่งพลันแล่นเข้ามาในหัวทำให้มันคุ้นเคยและไม่คุ้นเคย ที่นี่กว้างใหญ่ไพศาล ปรากฏเป็นวิหารจำนวนมาก ทุกๆวิหารล้วนดูศักดิ์สิทธิ์และน่าเกรงขาม ทำให้อดไม่ได้ที่จะบังเกิดความคิดเลื่อมใส

ผืนดินกว้างใหญ่นี้ปกคลุมไปด้วยพลังวิญญาณอย่างหนาทึบ แปลงโอสถผืนใหญ่หลั่งพลังบริสุทธิ์จำนวนมาก มีโอสถโบราณบางชนิดกำลังคายแสงสี ราวกับมีชีวิตก็มิปาน

ปรากฏเด็กน้อยคนหนึ่งกำลังนอนหลับอยู่บนก้อนหินก้อนหนึ่ง ด้านข้างปรากฏคู่สามีภรรยาวัยรุ่นเดินเข้ามา ผู้ชายบุคลิกลักษณะองอาจห้าวหาญ  ส่วนผู้หญิงตัวลอยขึ้นประดุจเซียน… ในตอนที่เห็นถึงตรงนี้ จิตเต้าหลิงพลันเจ็บปวด มันรีบตัดจิตออกทันที หายใจกระชั้นถี่เล็กน้อย ก่อนกล่าวพึมพำกับตนเองว่า

“ หรือว่านั่นจะเป็นข้า ? ”

ทั่วใบหน้ามันดูกลัดกลุ้ม ยิ้มออกมาก็ยังดูขมขื่นเล็กน้อย ตั้งแต่เล็กก็อยู่กับอาเป๋มาโดยตลอด ทว่ากลับไม่รู้เลยว่ามารดาไปอยู่ที่ไหน มันเคยถามแล้วตอนยังเยาว์วัย อาเป๋ก็ตอบก็ไม่รู้เช่นกัน ดังนั้นก็เลยปล่อยเลยตามเลยไป เรื่องนี้มันฝังอยู่ในใจมาโดยตลอด ไม่คาดคิดว่าตอนนี้มันจะโผล่ออกมา น่าเสียดายในความทรงจำนั้นไม่พบกับมารดา

“ ให้ข้าพัฒนาจิตก่อนเถอะ ก็น่าจะมองเห็นได้ ”

‘เต้าหลิง’สูดลมหายใจเข้าลึก พยามกลบความรู้สึกในใจ  ก่อนยันกายขึ้นอย่างช้าๆ ถึงเวลาต้องออกไปดูข้างนอกเสียหน่อยแล้ว   หลังจากเดินออกมาจากห้องฝึก ‘เต้าหลิง’ก็มาที่หอคอยทงหลิง โดยรอบเต็มไปด้วยผู้คนที่มุงดู พวกมันล้วนพูดคุยวิพากย์วิจารกัน เพราะว่าตอนนี้ด้านในไม่อนุญาตให้เขาไปได้แล้ว

ทำให้คนจำนวนมากล้วนไม่พอใจ หอคอยนี้เป็นสิ่งลึกลับ เมื่อก่อนขุมพลังขนาดใหญ่แห่งทวีปชิงใช้หอคอยนี้ในการหาผลประโยชน์ให้แก่ตนเองไม่รู้เท่าไหร่ ทว่าตอนนี้หอคอยแห่งนี้ทำประโยชน์อะไรไม่ค่อยได้แล้ว เพราะว่ามันถูกขุมพลังอำนาจยึดไว้เป็นที่เรียบร้อย ไม่อนุญาตให้คนนอกเข้าไปได้

เหตุผลง่ายๆก็เพราะของสืบทอดบนชั้นเก้านั่นเอง พวกมันคิดจะครอบครองเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว ในโลกที่ผู้แข็งแกร่งกลืนกินผู้อ่อนแอนั้น หากไม่มีพลังก็ทำอะไรไม่ได้ ทำให้ผู้อ่อนแอจำนวนมากล้วนถอนหายใจออกมาอย่างต่อเนื่อง

“ ท่านผู้เฒ่า เหตุใดหอคอยทงหลิงถึงได้เปลี่ยนไปเช่นนี้ ? ”

‘เต้าหลิง’เดินเตร่อยู่หลายรอบ จนถามขึ้นกับผู้เฒ่าท่านหนึ่ง

“ เจ้าหนู เขาเล่าลือกันว่าของล้ำค่าบนชั้นสิบหายไป ดังนั้นก็เลยดึงพลังฟ้าดินมาสร้างเป็นพลังงานไม่ได้ และตอนนี้ก็ไม่อนุญาตให้เข้าไปด้วย ”

ผู้เฒ่าพูดขึ้น

“ ของล้ำค่าหายไปไหนรึ ? ”

‘เต้าหลิง’ลองเชิงถามขึ้น

“ ไม่รู้ เล่าลือว่ามีคนขโมยไปหรือไม่ก็มันหายไปเอง แต่ไม่ว่าจะพูดยังไง ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกัน แน่  ”

มันส่ายหน้าพูดขึ้น ผู้คนโดยรอบล้วนซุบซิบกัน มีคนจำนวนมากสงสัยว่าของล้ำค่าบนชั้นสิบอาจจะถูก’อู่ตี้’เอาไป เพราะว่า’อู่ตี้’ เป็นคนที่มีขั้นพลังกายที่น่ากลัวที่สุดในแดนลึกลับแล้ว และก็มีคนสงสัยอีกว่าอาจจะเป็นบุตรผู้ภาคภูมิ แห่งสวรรค์จากดินแดนใหญ่ๆก็ได้ที่เอาของล้ำค่าบนชั้นสิบไป

สืบข่าวมาได้ซักพัก เต้าหลิงก็ผ่อนคลายลงมาก ขอเพียงแค่ตัวเองไม่ปล่อยเรื่องนี้ให้รั่วไหลไปก็รอดแล้ว แม้ว่าชั้นเก้าจะมีของสืบทอดอยู่ ทว่าส่วนใหญ่ก็ถูกเอาไปหมดแล้ว เหลือแต่เพียงส่วนเล็กๆเท่านั้น มูลค่าก็ไม่ได้สูงอะไรเป็นพิเศษ

จากนั้นมันก็มายืนอยู่ด้านหน้าศิลามหาเทพยุทธ์ กำหมัดพร้อมคิดขึ้นในใจว่า

“ ครั้งก่อนกันเหยาได้ของ ล้ำค่าไปหนึ่งชิ้น หากตอนนี้ข้าจะทำบ้าง ก็น่าจะได้ของล้ำค่าเหมือนกัน ? ”

สีหน้าเต้าหลิงดูเร่าร้อน ในขณะที่คิดจะไปทดสอบอยู่นั้น ฝ่าเท้าของมันหยุดนิ่งก่อนคิดขึ้นในใจว่า

“ รออีกหน่อยดีกว่า ครั้งก่อนกันเหยาก็ถูกตามล่าเพราะของล้ำค่านี่ และข้าก็ไม่มีที่พึ่งเสียด้วย อีกทั้งใกล้ๆหอทงหลิงก็มีผู้แข็งแกร่งอยู่มากมาย รออีกซักสองสามวันค่อยกลับมาใหม่ดีกว่า  ”

‘เต้าหลิง’ไม่รีบร้อน ไม่ว่าอย่างไรของล้ำค่าก็ไม่หนีไปไหนอยู่แล้ว อีกทั้งจะได้หรือไม่ก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน

“ กลับไปดูภูติเตียวหน่อยดีกว่าว่าเป็นอย่างไรบ้างแล้ว ถึงตอนนั้นค่อยไปถามจื่ออวี้เกี่ยวกับฝ่ามือสุริยันจันทรา ”

‘เต้าหลิง’ยืนบิดขี้เกียจ ก่อนจะเดินทางไปสำนักซิงเฉินอย่างไม่รีบร้อน ทั่วสำนักซิงเฉินค่อนข้างคึกคัก มีข่าวกระจายออกมาว่า ห้องโถงซิงเฉินแพร่กระจายคลื่นพลังออกมา เดาว่าใกล้จะเปิดแล้วแน่ เล่าลือกันว่ามันเป็นสถานที่ลึกลับสมัยโบราณ ด้านในมีของล้ำค่าที่ยอดเยี่ยมอยู่

ผู้คนจำนวนมากล้วนอยากเข้าไปตามหาของล้ำค่าในนั้นกันทั้งสิ้น ที่สำคัญมันยังมีเจ็ดสิบสองยอดวิชามหัศจรรย์อยู่ด้วย ไม่รู้ว่ามันจะดึงดูดอัจฉริยะมามากมายเท่าไหร่ ถึงตอนนั้นเดาว่าจะต้องเป็นงานมหกรรมที่ยิ่งใหญ่แน่

“ เปลี่ยนทิศดารา ? ”

‘เต้าหลิง’ได้ยินเสียงพูดคุยโดยรอบ เปลือกตาก็กระตุกทันที นี่เป็นเจ็ดสิบสองยอดวิชามหัศจรรย์ ตอนนี้มันก็ยังขาดแคลนวิชามหัศจรรย์อยู่ คิดไม่ถึงเลยว่าด้านในสถานที่ลับของสำนักซิงเฉินจะมีหนึ่งในเจ็ดสิบสองยอดวิชามหัศจรรย์อยู่ด้วย !

ตามคำเล่าลือวิชามหัศจรรย์นี้ สามารถยืมพลังจากกลุ่มดาว แล้วเปลี่ยนแปลงเป็นพลังที่น่ากลัวได้ นี่ถือได้ว่าเป็นวิชาระดับสุดยอดวิชาหนึ่งเลย !

“ ได้ยินว่าอู่ตี้ก็มาด้วยเหมือนกัน ไม่รู้ว่ามันจะมีหน้าตาเป็นยังไง? ได้ยินว่าตอนมันสิบขวบ ก็น่ากลัวมากแล้ว ”

“ ต้องเป็นอัจฉริยะบุรุษผู้ยิ่งใหญ่แน่ ”

เด็กสาวหน้าตาสวยคนหนึ่งกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าที่แดงเรื่อ เด็กสาวโดยรอบล้วนตาเป็นประกาย ‘อู่ตี้’คือบุตรผู้ภาคภูมิแห่งสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดในแดนลึกลับ

ตั้งแต่เกิดมาก็ยังไม่เคยเจอกับคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกันเลย เด็กสาวจำนวนมากล้วนปลื้มและศรัทธามัน ผู้อาวุโสในสำนักล้วนตื่นเต้นเล็กน้อย พวกมันไม่อยากจะเชื่อว่าจะได้เห็นรูปร่างหน้าตาที่สง่างามของอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งดินแดนลึกลับด้วยตาตัวเอง นี่มันเป็นเรื่องที่นานๆครั้งจะเกิดขึ้นซักที

“ มีอะไรน่าดูขนาดนั้นเลยหรือ ? มันก็ไม่ใช่สาวสวยเสียหน่อย ”

‘เต้าหลิง’เม้มฝีปาก ก่อนจะหันหลับเดินไปยังเขาวิญญาณ ภายในกลุ่มผู้คน ปรากฏสายตาจำนวนหนึ่งมองไปยังร่างของมัน ก่อนชายหนุ่มคนหนึ่งจะยิ้มเยาะแล้วพูดว่า

“ ดี เจ้าเด็กนี่เก็บตัวมาได้สองเดือนแล้ว ในที่สุดมันก็ออกมาเสียที  ”

“ หึ ไม่เสียเวลาข้ามากมายขนาดนั้นหรอก คราวนี้ข้าจะให้มันได้เห็นดี ”

คนกลุ่มนั้นหัวเราะเยาะออกมาอย่างต่อเนื่อง ‘หวังจวิ้นอี้’ก็พูดแล้ว หากใครฆ่ามันได้ก่อน ก็จะได้รางวัลอย่างงาม พวกมันอดใจไม่ไหวเดินตาม’เต้าหลิง’ไป

ที่มา:

(0 votes) 0/5
ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments