I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

GSDZ (盖世帝尊) ตอนที่ 45 ความลับอักขระ

| GSDZ (盖世帝尊) | 1024 | 2361 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลไทย : XiaoeyuGao

ยอดเขาวิญญาณ เงาทั้งสามพุ่งทะยานเข้ามา ฝ่ามือพุ่งไปยังร่างของ’เต้าหลิง’ พวกมันไม่กล้าลงมือสังหารที่นี่ แม้ว่าพวกมันจะกล้าฝ่าฝืนกฎของสำนักซิงเฉิน ทว่าหากเอาถึงชีวิตแม้แต่หวังจวิ้นอี้ก็ปกป้องอะไรพวกมันไม่ได้ อีกทั้งเจ้าคนนี้ยังเป็นศิษย์ใหญ่ติดลำดับหนึ่งในสิบ หากไม่ระวังพลั้งมือฆ่ามันตายคงได้เป็นเรื่องใหญ่

“ เจ้าไม่คิดจะตอบโต้รึ ? ”

มือสวยของ’หลินซือซือ’กุมกระบี่ล้ำค่า ริมฝีปากเรียวสวยเปิดขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากประกบฟันแวววาว ดูงดงามอย่างยิ่ง

“ พวกมันรู้ว่าข้าร้อนเงิน ก็เลยมาส่งเงิน ”

ฝีเท้า’เต้าหลิง’ย่ำเดินไปด้านหน้า มองไปยังกำปั้นทั้งสามที่พุ่งเข้ามา ก่อนยิ้มบางๆ  ‘หลินซือซือ’เงียบกริบ เหลือบมองก่อนหยุดนิ่ง นางก็อยากจะดูหน่อยว่ามันจะประมือกับคนทั้งสามอย่างไร หมัดทั้งสามเปล่งลำแสง พุ่งทะยานไปยังร่างของมัน ทว่าก็มิใช่จุดตาย ต้องการเพียงแค่ให้มันบาดเจ็บเท่านั้น

‘เต้าหลิง’มองไปยังพลังงานทั้งสามที่พุ่งเข้ามา ฝ่ามือของมันพลันวาดออกไปเบื้องหน้า ปรากฏอักขระสีทองขึ้น ทุกๆตัวอักขระล้วนหนักอึ้งไร้ที่เปรียบ เปล่งปลั่งลำแสงสว่างไสว ราวกับแม้น้ำอักขระสายเล็กที่พุ่งเข้าไปด้านหน้า

พลังงานที่อักขระสีทองก่อรูปขึ้นนั้นหนักอึ้งอย่างยิ่ง ราวกับภูเขาขนาดเล็กที่พุ่งไปด้านหน้า พลังงานทั้งสามพลันถูกบดจนแหลกสลายไป ในขณะเดียวกันแม่น้ำอักขระสีทองก็เอ่อล้นทะลักเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง

“ อักขระปาฏิหาริย์ มันจะต้องได้มาจากหอคัมภีร์ลับแน่ ”

สีหน้า’หวังเฟยไป๋’ดูเร่าร้อน ครั้งนี้มาไม่เสียเที่ยวจริงๆ ได้ผลึกหินฟ้าแล้ว ยังจะได้วิชามหัศจรรย์ไปอีกด้วย พลังหมัดของมันเอ่อล้นทะลัก ดึงดูดพลังฟ้าดินชั้นยอด หมัดนี้เปี่ยมล้นไปด้วยพลังอย่างยิ่ง ในตอนที่ปล่อยออกไปมวลอากาศถล่มทลาย พุ่งทะยานเข้าใส่แม่น้ำอักขระสีทองจนบิดเบี้ยว

ทว่า’เต้าหลิง’ว่องไวกว่า ในตอนที่อักขระสีทองพุ่งเข้าไป ร่างของมันก็พุ่งทะยานเข้าไป แขนทั้งสองกางออก ฝ่ามือทั้งสองพุ่งอัดเข้าใส่คนทั้งสองข้าง’หวังเฟยไป๋’  แรงอัดฝ่ามือน่ากลัวยิ่ง อักขระสีทองกดทับลงไป ทั่วร่างคนทั้งสองสั่นสะท้าน รู้สึกได้ว่าฝ่ามือนี้หนักอึ้งอย่างยิ่ง หน้าอกราวกับถูกค้อนยักษ์ทุบใส่

ก่อนกระเด็นลอยไปด้านหลัง ลงนอนกับพื้นสำรอกโลหิตออกมา สีหน้าดูหวาดผวาทันใด นี่เป็นสิ่งที่พวกมันคาดไม่ถึงจริงๆ   นัยน์ตาโตของหลินซือซือฉายประกาย ก่อนพริ้มตายิ้มแล้วพูดขึ้นว่า

“ แข็งแกร่งจริงๆ ”

“ อะไร ? ”

สีหน้า’หวังเฟยไป๋’ดูย่ำแย่ แม้ว่าพวกมันทั้งสองจะพึ่งทะลวงเข้าสู่ขั้นซึมซับวิญญาณ ทว่าความสามารถในการต่อสู่ก็ไม่ธรรมดา มิอยากจะเชื่อว่าพวกมันจะถูกฝ่ามือเดียวซัดกระเด็นลอยออกไป

“ ไอ้เดรัจฉาน มิหน้าถึงได้สามหาวนัก ที่แท้ก็มีพลังนิดหน่อยนี่เอง ทว่าสำหรับข้ามันเจ้ายังแกร่งไม่พอ! ”

‘หวังเฟยไป๋’ตะโกนลั่น หมัดเปลี่ยนเป็นฝ่ามือ เอ่อทะลักคลื่นพลังธาตุปีศาจออกมา ทั่วทั้งฝ่ามือล้วนเป็นสีดำ ทั้งยังปรากฏอักขระออกมา ก่อนพลังงานโดยรอบจะเอ่อทะลักออกมาอย่างบ้าคลั่ง ก่อรูปขึ้นเป็นพิมพ์มือขนาดใหญ่สีดำทมิฬฝ่ามือหนึ่ง

“ ระวัง นั่นมันฝ่ามือปีศาจวัว ! ”

ใบหน้าของหลินซือซือเปลี่ยนไปเล็กน้อย นางรู้จักวิชามหัศจรรย์นี้ มันเป็นวิชาของสำนักซิงเฉิน เล่าลือว่าแค่ฝึกถึงระดับต้น ก็สามารถฝ่าภูเขายักษ์ให้ขาดได้

“ ตาย ! ”

‘หวังเฟยไป๋’คำรามลั่น พิมพ์มือสีดำทมิฬกดทับลงมา อัดแน่นไปด้วยอักขระ โดยรอบสั่นสะเทือน ก่อนพุ่งไปยังร่างของ’เต้าหลิง’

“ ย่าห์ ! ”

นัยน์ตาทั้งสองของ’เต้าหลิง’ลุกโชน พลังโคจรไปทั่วร่าง กำหมัดแน่น กระดูกอัดกันส่งเสียงฟ้าร้องดังลั่นสนั่นแก้วหู ก่อนปล่อยหมัดพุ่งทะยานออกไป พลังหลั่งไหลประดุจน้ำเชี่ยวกราด เปล่งปลั่งแสงสีทองละลานตา เสียงตูมดังสนั่น หมัดของมันปะทะเข้ากับพิมพ์มือสีดำทมิฬ พลังมหาศาลระเบิดออกจากกำปั้น

ปรากฏพลังสีทองพุ่งออกมาประดุจแม่น้ำสายยาวกลับตาลปัตร พริบตาเดียวก็ระเบิดพิมพ์มือสีดำทมิฬจะแหลกเป็นเศษ ทั่วร่างของหวังจวิ้นเฟยสั่นสะท้าน   ขาซ้ายของ’เต้าหลิง’พลันยกขึ้น ประดุจกระบี่แหลมพุ่งออกจากฝัก

ในตอนที่พุ่งออกไป ปรากฏคลื่นลมที่แข็งแกร่งตามไปด้วย หินขนาดยักษ์แต่ละก้อนล้วนถูกหอบลอยขึ้น ส่งเสียงดังสนั่นลั่นฟ้าดิน

“ อะไร ?! ”

สีหน้า’หวังเฟยไป๋’เปลี่ยนไป มันรวบรวมฝ่ามือปีศาจวัวขึ้นมาใหม่ ทว่ากลับถูกฝ่าเท้าของเต้าหลิงถีบจนแตกกระจาย !   ในขณะเดียวกัน กระบวนท่านี้ก็ดุดันและแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ฝ่าเท้าพุ่งเข้าไปยังหน้าอกของมัน ทำเอาร่างของมันกระเด็นฝ่าอากาศลอยออกไป กระดูกล้วนปริแตกออก

“ มิอยากจะเชื่อว่ามันจะแกร่งกว่าวิชามหัศจรรย์ ร่างกายของมันน่ากลัวจริงๆ ! ”

‘หลินซือซือ’ตกตะลึง แม้ว่า’หวังเฟยไป๋’จะพึ่งฝึกฝ่ามือปีศาจวัวสำเร็จ ทว่าอานุภาพก็ไม่ธรรมดา มิอยากจะเชื่อว่ามันจะใช้เพียงร่างกายก็สามารถรับมือได้ ร่างกายของมันจะต้องแข็งแกร่งสุดๆแน่  ‘หวังเฟยไป๋’และอีกสองคนตกใจสะดุ้งเฮือก รีบตะเกียกตะกายเตรียมจะหนี ในใจหวาดผวายิ่ง

เหตุใดศิษย์ใหม่คนนี้ถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้ ?

“ เมื่อครู่ข้าก็พูดไปแล้ว ข้ากำลังร้อนเงิน ”

‘เต้าหลิง’พุ่งมายืนอยู่ด้านหน้า ก่อนจะดึงกระเป๋าหนังสัตว์อสูรที่อยู่บนตัวพวกมันอย่างชำนาญ

“ เจ้า ไอ้บัดซบ เอาของข้าคืนมาเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นใครก็ช่วยเจ้าไม่ได้ กล้าล่วงเกินตระกูลหวังก็เท่ากับเดินอยู่บนเส้นตาย ! ”

‘หวังเฟยไป๋’คำรามเสียงแหลม นี่เป็นสมบัติทั้งหมดของมันแล้ว

“ หึ ที่ตายคือพกเจ้าต่างหาก ตอนนี้ยังกล้าข่มข้าอีก เช่นนั้นข้าจะสอนบทเรียนแก่พวกเจ้าซักหน่อย ! ”

‘เต้าหลิง’แสยะยิ้ม ก่อนฝ่าเท้ากระทืบลงไป ส่งเสียงดัง ‘ปักปักปัก’ ทั้งสามร้องโหยหวน ก่อนเงาทั้งสามจะถูกมันแตะลงเขาไป

“ เจ้านี่โหดจริงๆเลยนะ ”

‘หลินซือซือ’เพ่งมองไปแวบหนึ่งด้วยแววตาประหลาดใจ เงาทั้งสามกลิ้งราวกับลูกหิมะที่กลิ้งลงเขาไป นางแลบลิ้นออกมา ใบหน้าสวยเผยรอยยิ้ม ‘เต้าหลิง’เปิดกระเป๋าหนังสัตว์อสูรอย่างดีอกดีใจ แม้ว่าของจะไม่ได้เยอะแยะอะไรมาก

ทว่า’หวังเฟยไป๋’ก็มีบัตรหนึ่งแสงเหรียญทองอยู่หนึ่งใบ และก็ยังมีโอสถวิญญาณหนึ่งต้น นี่ทำให้มันดีอกดีใจยิ่งนัก

“ พลังของเจ้าเด็กนี่เหมือนว่าข้าจะรับมือได้อยู่ ”

ด้านบนชั้นเมฆสูง วิหกขนเพลิงกำลังพักผ่อน มันดูการประมือกันจากเบื้องบนอยู่ตลอด  วิหกขนเพลิงรอคอยโอกาสนี้มานานแล้ว ในที่สุดก็เจอมันเสียที

“ ทำให้ข้าสูญเสียทุกอย่างที่ควรจะได้ ดูหน่อยว่าข้าจะจัดการเจ้าอย่างไร ”

วิหกขนเพลิงยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย มันได้ทะลวงเข้าสู้ขั้นซึมซับวิญญาณแล้วทำให้พลังของมันเพิ่มขึ้นมาก คิดว่าจะต้องจัดการเต้าหลิงได้แน่ ทั่วร่างของมันโอบล้อมไปด้วยแสง ขนสวยของมันเปล่งปลั่งประกาย ราวกับหลอมขึ้นมาจากทองคำศักดิ์สิทธิ์สีแดงฉาน ทั้งยังแฝงไว้ด้วยเส้นแสงสีแดงฉาน

ดูแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ในขณะที่วิหกขนเพลิงกำลังเตรียมตัวบุกเข้าโจมตี นัยน์ตาพลันหรี่ลงเล็กน้อย มันมองเห็นเต้าหลิงยกหินขนาดใหญ่ราวเจ็ดแปดแสนจินก้อนหนึ่งขึ้น ในใจคิดสงสัย มันคิดจะทำอะไร ?

เสียงตูมดังขึ้น ‘เต้าหลิง’หมุนหินก่อนนี้ด้วยมือเดียว ราวกับมันเป็นหินก้อนเล็กอย่างไรอย่างนั้น พริบตาเดียวมันก็เหวี่ยงขึ้นไปยังก้อนเมฆบนฟ้า

เมื่อทะลวงเข้าสู่ขั้นซึมซับวิญญาณ สัมผัสของมันก็จะดีขึ้นมาก เมื่อครู่ก็สัมผัสได้แล้วว่ามีคนแอบมองอยู่ ก็เลยอยากจะดูหน่อยว่าเป็นใครกันที่ซ่อนตัวอยู่

“ บัดซบ ! ”

วิหกขนเพลิงคำรามลั่น คิดย้อนไปถึงตอนที่ถูกขโมยกระเป๋าหนังสัตว์อสูรของตนเอง กระเป๋าหนังใบนั้นทำขึ้นจากหนังสัตว์อสูรชั้นเยี่ยม สามรถปกปิดพลังได้ มิอยากจะเชื่อว่าตอนนี้มันจะยังใช้หินยักษ์เขวี้ยงมาทำร้ายตนอีก ไม่รู้ว่ามันจะแข็งแกร่งขึ้นหรือไม่ ?

วิหกขนเพลิงกระพือปีกทั้งสองข้าง บังเกิดพายุเปลวเพลิงก่อตัวขึ้น ก้อนเมฆโดยรอบแตกสลาย ก่อนพายุเปลวเพลิงพุ่งลงไป  ทำเอาหินขนาดยักษ์แตกร้าว  ร่างของวิหกขนเพลิงจึงพุ่งทะยานตามลงไป

‘หลินซือซือ’ตกตะลึง เมื่อครู่นางยังประหลาดใจกับการกระทำของเต้าหลิงอยู่เลย ทว่าตอนนี้กลับมีวิหกตัวใหญ่พุ่งทะยานลงมาจากก้อนเมฆ อีกทั้งยังเป็นสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์ นี่ทำให้นางตกใจยิ่ง

“ เจ้าหนู มาดูกันว่าวันนี้ข้าจะจัดการกับเจ้าอย่างไร ! ”

วิหกขนเพลิงคำรามลั่น ร่างของมันขยายใหญ่ขึ้น ยอดเขาวิญญาณปรากฏเงามืด ก่อนเปลวเพลิงสีแดงฉานจะตกลงมาทั่วบริเวณ ฝ่าเท้าเต้าหลิงพลันกระทืบลงพื้น เสื้อของมันกระพือพรึบพรับ ผมยาวปลิวไสว หลังจากที่ผืนดินสั่นสะเทือนส่งเสียงดังตูม โดยรอบตัวมันปรากฏอักขระสีทองลอยขึ้นมา ต่อกันพุ่งขึ้นไปบนฟ้า

เปลวเพลิงสีแดงฉานที่ตกลงมาถูกพลังมหาศาลห่อหุ้มเอาไว้ ก่อนถูกอัดรวมกันพุ่งกลับไปยังวิหกขนเพลิงที่อยู่บนฟ้า

“ บัดซบ ให้ข้าขยี้เจ้าซะ ! ”

วิหกขนเพลิงคำรามออกมาด้วยความแค้น อ้าแกคายตราล้ำค่าสีแดงฉานออกมาอันหนึ่ง เปล่งปลั่งแสงสว่างจ้าละลานตา   ตราล้ำค่านี้แข็งแกร่งกว่าครั้งก่อน เพิ่มพูนเปลวเพลิงสีแดงฉานทั่วฟ้า อบอวลไปด้วยพลังที่น่ากลัว ขนาดใหญ่ราวภูเขาขนาดเล็ก ก่อนเริ่มเปลี่ยนทิศทาง พุ่งไปยังเปลวเพลิงที่หอบขึ้นมาจนแหลกเป็นเศษผง แล้วยังพุ่งกดทับลงต่อไปอีก

“ ของล้ำค่านี้แข็งแกร่งมาก ”

‘หลินซือซือ’ตกตะลึง ต้นไผ่โดยรอบยอดเขาวิญญาณล้วนถูกเผาไหม้เป็นจุล ทำให้เป็นที่สังเกตแก่คนจำนวนมาก ไม่รู้ว่าวิหกขนเพลิงกำลังต่อสู้กับใครอยู่    ตราล้ำค่าสีแดงฉานกลับด้าน แรงกดดันพลันเพิ่มขึ้น เต้าหลิงรู้สัมผัสได้ทันทีว่าของล้ำค่านี้ไม่ธรรมดา มันรู้สึกได้ถึงแรงกดดัน

ของล้ำค่านี้จะต้องแข็งแกร่งอย่างแน่นอน     ขณะนี้ฝ่ามือทั้งสองของ’เต้าหลิง’วาดออกไป ปรากฏอักขระจำนวนหนึ่งขึ้น ทั้งยังแฝงไปด้วยคลื่นพลังที่น่ากลัว เลือดเนื้อทุกส่วนของมันเปล่งปลั่งแสง ขับพลังที่เปี่ยมล้นออกมา

อักขระสีทองเปลี่ยนกลายเป็นภูเขาขนาดใหญ่ลูกหนึ่ง หนักอึ้งไร้ที่เปรียบ ราวกับเป็นของจริงอย่างไรอย่างนั้น

“ เป็นอักขระที่มหัศจรรย์มาก ”

‘หลินซือซือ’ตกตะลึง ดวงตาโตมองไปรอบๆ รู้สึกได้ว่าอักขระนี้ดูยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก   ห่างออกไป ปรากฏเด็กผมม่วงคนหนึ่งกำลังมองการต่อสู้อยู่

ในใจก็ตกตะลึง เมื่อก่อนมันเคยถามผู้แข็งแกร่งภายในตระกูลมัน ก็เลยได้ล่วงรู้ความลับบางอย่าง อักขระนี้สามารถก่อรูปออกมาเป็นอาวุธสังหารได้นับหมื่นชนิด เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะได้วิชามหัศจรรย์นี้มา ภูเขาอักขระสีทองปะทะกับตราล้ำค่าส่งเสียงดังสนั่นลั่นฟ้าดิน ก้อนเมฆสั่นะสะเทือนจนสลายหายไป

คลื่นพลังขนาดมหึมาระเบิดกระจายออกเป็นวงกว้าง ดูรุนแรงเป็นอย่างมาก

“ เกิดอะไรขึ้น ? ”

‘เต้าหลิง’ขมวดคิ้ว เมื่อครู่ตอนที่ใช้อักขระออกไป ก็รู้สึกได้ว่าภายในร่างมีอะไรบางอย่างกำลังสั่นไหว ทำให้มันประหลาดใจยิ่งนัก รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างดิ้นอยู่ตรงกลางท้องน้อย !

“ เจ้าหนู มาดูกันว่าข้าจะจัดการกับเจ้าอย่างไร ! ”

วิหกขนเพลิงคำรามเสียงดังลั่น ทั่วร่างเอ่อพลังดุร้ายออกมา ก่อนจะหลอมรวมกับตราล้ำค่าอย่างต่อเนื่อง ตราล้ำค่าอันใหญ่นี้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ปรากฏหมอกห้อมล้อมเบาบาง ราวกับดาวตกสีแดงฉาน มันไม่กล้าลงไปประมือระยะประชิดกับ’เต้าหลิง’ มันรู้ว่าร่างกายของ’เต้าหลิง’นั้นแข้งแกร่งขนาดไหน

หากปะทะกับมันคงเสียเปรียบไม่น้อย เสียงตูมดังขึ้น ฟ้าดินพลันสั่นสะเทือน ตราล้ำค่าขนาดใหญ่สีแดงฉานหมุนพุ่งฝ่าอากาศไป ในขณะเดียวกันอักขระสีทองก็รวมกลุ่มกัน ก่อนพุ่งปะทะกับตราล้ำค่าสีแดงฉาน

ผู้คนโดยรอบล้วนตกตะลึงอย่างยิ่ง รู้สึกว่าราวกับว่าตราล้ำค่าทั้งสองนี้มีบางอย่างเหมือนกัน ? เต้าหลิงอึ้งไปพักหนึ่ง รู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของอักขระมากยิ่งขึ้น

อีกทั้งเมื่อครู่ตอนที่สลักอักขระออกมาเป็นรูปตราขนาดใหญ่นี้ ก็รู้สึกได้ว่ามันเกี่ยวข้องอะไรบางอย่างกับของที่อยู่กลางท้องน้อย !

“ น่ากลัวจริงๆด้วย ”

เด็กหนุ่มผมม่วงมองทอดออกไป ในใจรู้สึกตะลึง อีกทั้งยังรู้สึกว่าพลังงานของอักขระนี้ดูยอดเยี่ยมกว่าอักขระที่ผู้แข็งแกร่งในตระกูลบอกมาเสียอีก วิหกขนเพลิงบังเกินโทสะ เหตุใดถึงได้รู้สึกว่าตราขนาดใหญ่สีทองนี้กับของล้ำค่าของตนคล้ายคลึงกัน ?   ในขณะที่เต้าหลิงกำลังจะมองดูท้องน้อยของตนว่ามีอะไรแปลกไปหรือไม่

พลันสังเกตเห็นวิหกขนเพลิงใช้ตราขนาดใหญ่สีแดงฉานพุ่งเข้ามาอีกครั้ง มันยืดฝ่ามือออกไปอย่างรำคาญเล็กน้อย ปรากฏพลังลึกลับทั้งสองชนิดเอ่อล้นทะลักออกมา

“ ฝ่ามือสุริยันจันทรา ! ”

‘เต้าหลิง’ตะโกนดังลั่น ฝ่ามือทั้งสองประกบเข้าหากัน ฟ้าดินราวกับก่อรูปขึ้นเป็นฝ่ามือที่น่ากลัวฝ่ามือหนึ่ง ! ฟ้าดินล้วนมืดครึ้มลงมา ภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของผู้คน ปรากฏฝ่ามือที่น่ากลัวฝ่ามือหนึ่งขึ้น อบอวลไปด้วยกลิ่นไอที่น่ากลัว ราวกับภูเขานิ้วทั้งห้า

“ ไม่ดีแล้ว ! ”

ขนทั่วร่างวิหกขนเพลิงหนาวจนตั้งขึ้น ตกใจจนเกือบหัวใจวายตาย รู้สึกว่ามือขนาดใหญ่นี้สามารถขยี้มันจนตายได้  ฝ่ามือลวงตาขนาดใหญ่ปกคลุมทั่วฟ้า

ขยับเล็กน้อยพลันบังเกิดลมพายุก่อตัวขึ้น ก่อนพุ่งตบเข้าใส่ร่างของวิหกขนเพลิงจากบนฟ้าให้ตกลงมากระแทกกับพื้น ผืนดินปรากฏรอยร้าวพังถล่มทลาย

ที่มา:

(0 votes) 0/5
ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments