ตอนที่แล้วตอนต่อไปแปลไทย : XiaoeyuGao
ผู้คนโดยรอบต่างตกตะลึง เมื่อครู่วิหกขนเพลิงยังลอยอยู่บนฟ้า เร่งใช้ตราล้ำค่าสีแดงฉานโจมตีเข้ามา ทว่าตอนนี้พลันเหมือนกับเหมือนกับไก่ตัวหนึ่ง ส่งเสียงร้องโอ๊ยๆดังลั่น ทว่าฝ่ามือพลันกดซ้ำลงมา พริบตาเดียวก็กดอัดวิหกขนเพลิงเข้ากับพื้นอย่างจัง ณ ตีนเขาวิญญาณ ปรากฏพิมพ์นิ้วมือทั้งห้า
โดยรอบเป็นรอยร้าวขนาดใหญ่ ทำให้ผู้คนโดยรอบล้วนขนลุกซู่ นี่คือวิชามหัศจรรย์อย่างนั้นหรือ ? มิอยากจะเชื่อว่ามันจะน่ากลัวขนาดนี้
“ ข้าเดาว่าจะต้องเป็นอาจารย์ที่ลงมือ พิมพ์ฝ่ามือนี้กับพลังงานอักขระเมื่อครู่ไม่เหมือนกันซักนิด ”
“ ไม่ผิด วิหกขนเพลิงเป็นสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์ พอมันทะลวงเข้าสู่ขั้นซึมซับวิญญาณแล้วก็คงมั่นใจในตน เดาว่าอาจารย์เห็นมันแล้วคงไม่เจริญหูเจริญตา ก็เลยจัดการมันซะ ”
ผู้คนโดยรอบล้วนวิพากย์วิจาร เพราะว่าพิมพ์ฝ่ามือเมื่อครู่ดูน่ากลัวยิ่ง รู้สึกได้ว่าทั่วทั้งผืนฟ้าล้วนถูกปกคลุมเอาไว้เป็นของวิชาสังหารนี้ เขาวิญญาณลูกนี้เป็นแค่เขาวิญญาณระดับสูง ไม่น่าจะมีคนที่ใช้วิชามหัศจรรย์ที่น่ากลัวเช่นนี้ได้ วิหกขนเพลิงเกือบถูกบดจนตาย ทั่วร่างอาบชโลมไปด้วยคราบโลหิต
เอาแต่ซ่อนอยู่ด้านในไม่กล้าออกมา เพราะอับอายเหลือเกิน ห่างไกลออกไป แผ่คลุมไปด้วยเมฆแสงเรืองรองอย่างหนาแน่น ปรากฏยอดเขาสูงตระหง่านลูกหนึ่งเปล่งปลั่งแสงล้ำค่า ทั้งยังแฝงกลิ่นไอโบราณเอาไว้ ทุกที่ล้วนมีร่องรอยของกาลเวลา และนี่ก็คือเขาวิญญาณดึกดำบรรพ์
กำแพงหินล้วนมีลวดลายปรากฏขึ้น สามารถเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนได้ มันเป็นสถานที่ฝึกฝนที่ยากจะครอบครองได้แห่งหนึ่งเลย ณ ยอดเขา ปรากฏเด็กสาวชุดม่วงกำลังยืนอยู่ ทั่วร่างโอบล้อมด้วยแสงสีม่วง ใบหน้าดูละเอียดอ่อน เอวเว้าโค้งเรียวสวย ในขณะที่นัยน์ตาสีดำโตสังเกตเห็นพิมพ์ฝ่ามือนี้นั้น ทั่วร่างสั่นเทา มือเรียวสวยพลันกำแน่น
“ นั่นมันเหมือนกับฝ่ามือสุริยันจันทรา ? ”
สีหน้าของนางดูสงสัยและประหลาดใจ ฝีเท้าย่ำเดินลงเขาไป เพียงย่ำไปได้ก้าวเดียว เงาร่างของนางพลันหายวับไปด้วยความเร็วไร้ที่เปรียบ ราวกับบีบผืนดินให้เล็กลงกลายเป็นหนึ่งนิ้วได้อย่างไรอย่างนั้น
“ เหมือนว่าเต้าหลิงจะอยู่ที่นี่ ”
ดวงตาโตของ’จื่ออวี้’ฉายประกายดีใจออกมา หรือว่ามันจะฝึกวิชาฝ่ามือสุริยันจันทราสำเร็จแล้ว ? หัวใจของนางพลันสั่นระรัว พยามกดทับความรู้สึกที่โลดแล่นอยู่ในใจ ฝีเท้าเดินมาถึงยอดเขา ก็มองเห็นเงาหนึ่งกำลังเดินไปยังห้องวิหาร เพียงสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังที่แปลกปลอมเข้ามา
‘เต้าหลิง’ก็หันกลับไปมอง ก็พบกับใบหน้าละเอียดอ่อนของจื่ออวี้ ก่อนมันจะอดใจถามขึ้นมาไม่ได้ว่า
“ จื่ออวี้ เจ้ามาทำอะไร ? ”
‘หลินซือซือ’ก็หันกลับไปมองเช่นกัน สีหน้าของนางดูประหลาดใจ นางรู้จักเด็กสาวคนนี้ ได้ยินมาว่านางมาจากขุมพลังที่น่ากลัวอย่างร้านค้ามหาคลังสมบัติ ในตอนที่มาที่สำนักก็เกิดปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ขึ้น คือนางได้เข้าอยู่ที่เขาวิญญาณดึกดำบรรพ์ หลินซือซือไม่คิดเลยว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะรู้จักกับนางด้วย อีกทั้งจื่ออวี้ยังเป็นคนมาหาถึงที่อีกด้วย
“ จะไม่เชิญข้าเข้าไปรึ ? ”
‘จื่ออวี้’อมยิ้ม ชุดม่วงของนางปลิวไสว เส้นผมสีดำขลับ ทั่วเรือนร่างล้วนละเอียดอ่อนไร้ที่ติ ทำเอาโลกใบนี้ดูซีดเซียวไปเลย
“ ข้ากำลังจะไปหาเจ้าอยู่พอดีเลย ไม่คิดว่าเจ้าจะมาด้วยตัวเอง เจ้าก็อยู่ที่สำนักซิงเฉินด้วยหรือ ? ”
‘เต้าหลิง’ยิ้มถามขึ้น ก่อนจะเดินคู่เข้าไปด้านในกับนาง
“ อืม ห้องโถงซิงเฉินก็ใกล้จะเปิดแล้ว ข้าว่าจะเข้าไปดูมันซักหน่อย ”
‘จื่ออวี้’พยักหน้า ดวงตาโตสีดำมองไปรอบๆ ก่อนสายตาจะมองไปยังร่างของภูติเตียว ในใจตกตะลึงอย่างยิ่ง มองไม่ออกเลยว่ามันเป็นสัตว์ภูติชนิดไหนกัน ทว่าพลังที่มันปล่อยออกมารุนแรงอย่างยิ่ง
“ ห้องโถงซิงเฉินคืออะไรกันแน่ ? ”
‘เต้าหลิง’ไม่เข้าใจเล็กน้อย
“ มันคือสถานที่โบราณตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ เล่าลือกันว่าของสืบทอดของสำนักซิงเฉินก็ได้มาจากวิหารซิงเฉินนี่แหละ มีคนบอกว่าห้องโถงซิงเฉินเป็นขุมพลังอำนาจที่น่ากลัวหนึ่งในสมัยดึกดำบรรพ์ ด้านในเป็นเหมือนกับโลกใบเล็ก มีทรัพยากรจำนวนมากอยู่ ทุกครั้งที่มันเปิดออกก็จะมีคนจำนวนมากเข้าไปกัน แต่ก็อย่างว่าเรื่องพวกนี้เป็นแค่คำเล่าลือเท่านั้น ”
‘จื่ออวี้’หาที่นั่งลง ก่อนยิ้มแล้วพูดว่า
“ อีกทั้งยังเล่าลือกันมาอีกว่าในนั้นมีหนึ่งในเจ็ดสิบสองยอดวิชามหัศจรรย์เปลี่ยนทิศดารา มูลค่าของมันไม่สามารถตีค่าได้เลย ทุกครั้งที่เปิดห้องโถงก็จะดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้เข้ามา ”
‘เต้าหลิง’ขมวดคิ้ว ก่อนถามขึ้น
“ ในเมื่อมีทรัพยากรมากมายขนาดนั้น และก็ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์จนถึงตอนนี้ก็เปิดให้ใช้หลายครั้ง เช่นนั้นด้านในนั้นยังจะมีของอะไรดีๆเหลืออยู่อีกหรือ ? ”
‘จื่ออวี้’ยิ้มให้ ใช้มือเสยผมสวยก่อนพูดว่า
“ คงจะไม่เป็นอย่างนั้นแน่นอน ห้องโถงซิงเฉินมีความลึกลับบางอย่าง พลังงานด้านนั้นก็เปี่ยมล้นอย่างยิ่ง เป็นไปได้สูงว่าจะมีของล้ำค่าที่ยอดเยี่ยมอยู่ ทุกครั้งที่เปิดห้องโถง โอสถวิญญาณจำนวนมากก็โตเต็มที่แล้ว อีกทั้งพื้นที่ลึกลับต่างๆก็ยังสำรวจไม่เสร็จ ดังนั้นไปมันดูซักหน่อยก็ไม่เสียหาย ”
“ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ถึงตอนนั้นข้าจะไปดูมันเสียหน่อย ”
‘เต้าหลิง’พยักหน้า มันเกาหัวก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ ฝ่ามือสุริยันจันทราที่เจ้าให้ข้ามาเมื่อก่อน ข้ารู้สึกเหมือนกับว่ามันยังขาดอะไรบางอย่าง ? ”
ได้ยินดังนั้น สีหน้าของ’จื่ออวี้’ฉายประกายดีใจออกมา ก่อนกล่าวอย่างร้อนรนเล็กน้อย
“ นี่เจ้าฝึกวิชาฝ่ามือสุริยันจันทราสำเร็จแล้วจริงๆใช่หรือไม่ ? ”
“ อืม ตอนนี้บอกข้าได้หรือยังว่าวิชานี้มันมีที่มาเป็นอย่างไร? ”
‘เต้าหลิง’จะว่ายิ้มก็ไม่เชิง
“ ฟังจากน้ำเสียง นี่เจ้าตำหนิข้าอยู่หรือ ? ”
‘จื่ออวี้’เหลือบสายตามอง ทว่าใบหน้าของนางก็ยังปรากฏรอยยิ้มปีติอยู่
“ ไม่ใช่อย่างนั้น ข้ารู้สึกว่าวิชามหัศจรรย์นี้ดูน่ากลัวอย่างไรชอบกล ”
สีหน้า’เต้าหลิง’ดูสงสัยหนักขึ้น วิชามหัศจรรย์นี้มันยังไม่เคยศึกษาอย่างจริงจังเลย อานุภาพของมันก็น่ากลัวเช่นนี้แล้ว ไม่อยากจะจินตนาการถึงตอนที่มันสมบูรณ์เลย
“ นี่คือหนึ่งในสิบยอดวิชาปาฏิหาริย์ ! ”
สีหน้า’จื่ออวี้’ดูร้อนแรง ความดีใจปรากฏขึ้นที่หางคิ้ว
“ เป็นไปได้อย่างไร ? ”
‘เต้าหลิง’กำหมัดแน่น น้ำเสียงค่อยดูตกใจ หนึ่งในสิบยอดวิชาปาฏิหาริย์จะมีอยู่จริงได้อย่างไร ? มันเป็นแค่ตำนานเท่านั้น วิชามหัศจรรย์ที่เป็นอันดับหนึ่งในใต้หล้านี้เป็นของผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด แม้แต่เจ็ดจิบสองยอดวิชามหัศจรรย์ก็มิอาจเทียบได้ มันมิอยากจะเชื่อ วิชาฝ่ามือสุริยันจันทราที่ตนเองฝึก
จะเป็นหนึ่งในสิบยอดวิชาปาฏิหาริย์ในตำนานได้อย่างไร ? เพราะว่าการดำรงอยู่ของมัน จะทำให้ผู้แข็งแกร่งระดับโลกล้วนตื่นเต้นจนนอนไม่หลับไปหลายวันเลยทีเดียว
“ ข้าไม่ได้หลอกเจ้า เป็นหนึ่งในสิบยอดวิชาปาฏิหาริย์จริงๆ ”
‘จื่ออวี้’เดินเข้ามา กล่าวด้วยแววตาขอบคุณว่า
“ วิชามหัศจรรย์นี้แม้ว่าจะเป็นแค่พื้นฐาน ทว่าก็สามารถพัฒนาขึ้นเป็นสิบยอดวิชาปาฏิหาริย์จริงได้ ข้าคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าเจ้าจะฝึกมันสำเร็จ ! ”
ชุดม่วงของนางโบกสะบัด ภายในดูอ่อนหวาน รูปร่างสวยดูละเอียดอ่อน เมื่อก่อนไม่ว่านางเจอกับเรื่องอะไรก็จะเมินเฉยตลอด ทว่าพอเจอกับเรื่องนี้สีหน้าของนางถึงกับเสียการควบคุมเลยทีเดียว
“ หมายความว่าไง ? ”
‘เต้าหลิง’สงสัย สิบยอดวิชาปาฏิหาริย์แท้จริง? นี่มันเรื่องลวงหรือ
“ วิชาที่เจ้าฝึกหนะ จริงๆแล้วยังซ่อนอานุภาพเอาไว้อยู่อีก ”
‘จื่ออวี้’พยามสงบจิตใจลง ก่อนยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า
“ ในอดีตกาลมีผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าอยู่คนหนึ่ง มันฝึกวิชาฝ่ามือสุริยันจันทราจนสมบูรณ์แบบได้ อีกทั้งยังสืบทอดต่อมาให้คนรุ่นหลังด้วย ”
ตามตำนาน บรรพบุรุษหยินหยางได้ละสังขารไป แล้วทิ้งของสืบทอดที่ทำให้ทั้งโลกต้องสั่นสะเทือนเอาไว้ ขุมพลังอำนานจำนวนมากล้วนอยากครอบครองวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดนี้
น่าเสียดายที่ไม่มีใครสามารถไขความลับของมันได้ ทว่าก็มีคนคาดเดาไว้ว่า หากสามารถฝึกมันในระดับพื้นฐานได้ ก็จะสามารถเป็นกุญแจเปิดดินแดนลับที่บรรพบุรุษหยินหยางทิ้งเอาไว้ได้ ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ทว่าตระกูลต่างๆก็ได้ลองฝึกวิชาฝ่ามือนี้กันแล้วทั้งนั้น ทว่ากลับไม่มีใครสามารถฝึกได้สำเร็จ
เรื่องนี้ก็เลยไม่มีใครสนใจ จื่ออวี้ไม่คิดเลยว่าวิชาที่นางให้มันในวันนั้น มันจะสามารถฝึกสำเร็จได้ นี่เป็นสิ่งที่นางไม่เคยจินจนาการเอาไว้เลยจริงๆ
“ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ”
สีหน้าเต้าหลิงดูตกตะลึง ตนเองฝึกสำเร็จแล้ว ทว่าวิชานี้ดูอันตรายเกินไป หากแพร่งพรายออกไป จุดจบคงอนาถมากแน่ มีเป็นไปได้สูงที่จะถูกเล่นงาน
“ เต้าหลิง เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าจะช่วยเจ้าเก็บความลับเอง ตอนนี้ความลับนี้มีแค่เราสองคนเท่านั้นที่รู้ ”
‘จื่ออวี้’กล่าวอย่างหนักแน่น และก็ยังพูดแกมตำหนิต่ออีกว่า
“ เมื่อครู่เจ้าบ้าเกินไปแล้ว ไม่ควรเร่งรัดใช้ฝ่ามือสุริยันจันทราออกไป หากคนอื่นเห็นเข้า เจ้าได้ซวยแน่ แม้แต่ข้ายังปกป้องเจ้าไม่ได้ ”
“ ก็ข้าไม่รู้ และเจ้าก็ไม่ได้บอกข้า ”
‘เต้าหลิง’เหล่สายตามองไป ในใจวิตกขึ้นมาทันที ก่อนพูดว่า
“ เช่นนั้นเรื่องนี้จะจัดทำอย่างไรดี ? ”
‘จื่ออวี้’เดินไปรอบๆ นางเงียบไปพักหนึ่งก่อนพูดว่า
“ เรื่องนี้เดิมทีก็ไม่ใช่ความลับอยู่แล้ว และพลังของเจ้าในตอนนี้ก็ยังอ่อนแอเกินไป หากเรื่องนี้รั่วไหลออกไป คงได้เป็นปัญหาใหญ่ ข้าว่าแบบนี้ดีกว่า ”
ขระกำลังพูดอยู่นั้น นางก็ยิ้มนุ่มนวลแล้วพูดว่า
“ เจ้ามาเข้าร้านค้ามหาคลังสมบัติดีกว่า อำนาจของร้านค้าพวกข้าเจ้าก็เคยได้ยินแล้วนี่ หากมาเข้าร่วมก็จะมีแต่ผลดีไม่มีผลเสียใดใด ”
‘เต้าหลิง’เข้าใจเห็นด้วยกับคำพูดของนาง ร้านค้ามหาคลังสมบัติเป็นนายทุนขนาดใหญ่แห่งแดนลึกลับ ทั้ง ยังควบคุมการค้าขายสินค้าอย่างกว้างขวาง ของล้ำค่าจำนวนมากล้วนถูกปล่อยอกมาจากมือพวกมัน ทั้งนั้น หากสามารถสานสัมพันธ์กับร้านค้ามหาคลังสมบัติได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
การซื้อขายสินค้าก็จะ เป็นเรื่องที่ง่ายมาก เพียงเห็นมันเริ่มจะคล้อยตามเล็กน้อย ‘จื่ออวี้’ก็กล่าวอย่างลำบาดใจเล็กน้อยว่า
“ พลังของเจ้าตอนนี้ยังต่ำเกินไป อย่างเก่งที่สุดข้าก็พอจะให้ความน่าเชื่อถือแก่เจ้าได้ ข้าจะให้เจ้าดำรงตำแหน่งเป็นผู้อาวุโส ” “ แล้วข้าไม่ต้องทำอะไรเลยหรือ? ”
‘เต้าหลิง’สนใจอย่างยิ่ง สำหรับตำแหน่งมันไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
“ ไม่ต้อง สถานการณ์แบบนี้เจ้าไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น ตามจริงแล้วตำแหน่งนี้จะมอบให้แก่ชายหนุ่มบางคนจากขุมพลังอำนาจใหญ่ๆเท่านั้น แต่อย่างว่ามันก็เป็นแค่ตำแหน่งเท่านั้นแหละ ”
‘จื่ออวี้’ส่ายหน้าพูดออกมา นี่มันก็เป็นวิธีในการผูกมัดใจคนวิธีหนึ่งเท่านั้นแหละ
“ เช่นนั้นก็ดี ”
‘เต้าหลิง’พยักหน้า ตอนนี้มันกำลังต้องการโอสถวิญญาณอยู่พอดี ตำแหน่งนี้มาช่วยไว้ได้ทันเวลาพอดีเลย
“ อ้อ เหรียญเงินนี้ข้าให้เจ้า ”
‘จื่ออวี้’ส่งเหรียญเงินอันหนึ่งให้ไป ก่อนพูดต่อว่า
“ จำไว้อย่าพูดเรื่องนี้กับคนอื่นเด็ดขาด เจ้าต้องเชื่อข้านะ ”
“ อืม ”
‘เต้าหลิง’พยักหน้า
“ พอแค่นี้แล้วกัน ข้าไปก่อนละ ”
‘จื่ออวี้’ยืนขึ้นแล้วกล่าวลา เต้าหลิงมองนางเดินจากไป ในใจก็ร้อนรนขึ้นมา ของสิ่งนี้อันตรายเกินไป หากรั่วไหลออกไปข้างนอกจริงๆ เดาว่าจะต้องถูกคนใช้เป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์แน่
‘เต้าหลิง’ถอนหายใจออกมา มันรู้ดีว่าเรื่องจะต้องมาถึงตรงนี้ ตอนนี้มันทำได้แค่ก้าวเดินไปเรื่อยๆ ใครไปได้เร็วกว่ากันคนนั้นถือเป็นผู้ชนะ แม้แต่พลังของจื่ออวี้ก็ยังน่ากลัวขนาดนั้น ทั้งๆที่อายุของนางก็พอๆกับ’เต้าหลิง’
‘เต้าหลิง’สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนนั่งขัดสมาธิลงเพื่อดูหน่อยว่าอะไรที่อยู่กลางท้องน้อยของมัน จิตเอ่อทะลักออกมา ราวกับดวงตาที่สามปรากฏขึ้นในร่างกาย ในขณะที่มันกำลังดูบางสิ่งตรงกลางท้องน้อยนั้น ‘เต้าหลิง’พลันสะดุ้งเฮือก
ที่มา:
(0 votes) 0/5