I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

GSDZ (盖世帝尊) ตอนที่ 47 หอคอยเล็ก

| GSDZ (盖世帝尊) | 966 | 2365 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลไทย XiaoeyuGao

ใบหน้า’เต้าหลิง’ดูหนักอึ้ง ปากอ้ากว้าง ราวกับกินไข่ห่านได้ทั้งใบ ทั่วใบหน้าเต็มไปด้วยความตะลึงยากจะเชื่อได้ ภายในร่างกายของมัน ปรากฏหอคอยหนึ่งลอยขึ้นมา เปล่งแสงใสแจ๋วแวววาว มองดูเก่าแก่ นี่ไม่ใช่หอคอยเล็กบนชั้นสิบหรือ ?

“ เหตุใดหอคอยเล็กนี้ถึงมาอยู่ในตัวข้า !  ”

‘เต้าหลิง’กลืนน้ำลายลงคอไปหลายเฮือก ท้ายที่สุดก็ร้อง ออกมาด้วยความตกใจ ตอนแรกมันคิดว่าหอคอยนี้บินหนีไป มันก็เสียดายอยู่พักหนึ่ง ซึ่งบนชั้นสิบหอคอยทงหลิงนั้นก็มีแอ่งน้ำอยู่บ่อหนึ่ง และก็มีหอคอยอันนี้อยู่อีกอันหนึ่ง  อันที่จริงแล้วพลังงานสีทองนั่นก็น่ากลัว

ดังนั้นมันก็เลยคิดว่าภูมิหลังของหอคอยเล็กนี้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เดาว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่า !

ทว่ามันกลับมาอยู่ภายในร่างกาย นี่ทำให้’เต้าหลิง’ยากจะรับได้ อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของหอคอยทงหลิงมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกี่ยวข้องกับหอคอยเล็กนี่  มันลองใช้งานหอคอยเล็กนี้ดู ทว่ากลับไม่เกิดปฏิกิริยาอะไรขึ้นเลย ดูท่าคงยังใช้มันไม่ได้ มันขมวดคิ้ว สำรวจหอคอยเล็กนี่อย่างละเอียด

ในตอนที่อักขระสีทองปรากฏออกมา หอคอยเล็กนี่ก็เปลี่ยนไป เอ่อทะลักคลื่นพลังลึกลับออกมา ราวกับหอคอยเล็กนี่เปลี่ยนเป็นอักขระขนาดใหญ่เต็มไปหมดอย่างไรอย่างนั้น ทั้งยังอบอวลไปด้วยคลื่นพลังที่น่ากลัวอย่างหนาทึบ

“ หรือว่าในของล้ำค่านี้จะซ่อนวิชามหัศจรรย์เอาไว้ ? ”

‘เต้าหลิง’ตกตะลึง สำรวจหอคอยเล็กอย่างละเอียด และก็เข้าพบกับอักขระหนึ่งซึ่งมันลึกล้ำเกินกว่าจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ อักขระกลางนัยน์ตามันกำลังเปลี่ยนไป จากหนึ่งตัวกลายเป็นสองตัว สองตัวกลายเป็นสามตัว ท้ายที่สุดก็เปลี่ยนเป็นอักขระสีทองจำนวนมาก กดทับทั่วฟ้าดิน ปลดปล่อยพลังออกมาทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือน

หัวของ’เต้าหลิง’ปรากฏเสียงวิ้งดังขึ้น รู้สึกราวกับสมองใกล้จะระเบิดแตกออก ใจของมันสั่นระรัว รีบตัดจิตทิ้งไม่กล้ามองต่อ สีหน้าของมันขาวซีด ดูตกตะลึง ก่อนพูดว่า

“ เป็นอักขระที่น่ากลัวมาก แม้แต่จะมองก็มองไม่ได้ หรือว่าจะเป็นอักขระของหอคอยทงหลิง? หรือว่าจะมาจากหอคอยเล็กนี่ ? บางทีมันอาจจะเป็นแหล่งต้นกำเนิดพลัง ! ”

มันมองตาเป็นมัน อักขระสีทองนี้มีผู้แข็งแกร่งจำนวนมากต้องการฝึกบรรลุมัน หากทำสำเร็จก็จะส่งผลดีไม่น้อย ตอนนี้อักขระที่สงสัยว่าเป็นแหล่งต้นกำเนิดพลังก็อยู่ในมือมันแล้ว นี่ก็อธิบายได้ว่าอย่างน้อยที่สุดมันก็เป็นวิชามหัศจรรย์ที่น่ากลัววิชาหนึ่งเลย !

“ หอคอยเล็กนี่มีที่มาอย่างไรกัน เหตุใดตอนแรกถึงได้หายไป ? ”

‘เต้าหลิง’ลูบคาง ในใจสงสัยเล็กน้อย ตามหลักแล้วหอคอยเล็กนี่สามารถเปลี่ยนให้หอคอยทงหลิงกลายเป็นสถานที่ฝึกฝนศักดิ์สิทธิ์ได้ แล้วเหตุใดตอนนี้ถึงใช้มันไม่ได้ ?  หากมันมีความสามารถนี้จริงๆ แล้วทำไมจะใช้มันฝึกฝนไม่ได้ จะได้ฝึกฝนพลังทุกๆวัน ?

ครุ่นคิดได้พักหนึ่ง ‘เต้าหลิง’ก็ส่ายหน้าอย่างจำยอม มองว่าตนเองนั้นคิดมากจนเกินไปแล้ว ในโลกใบนี้จะเกิดเรื่องดีๆแบบนี้กับทุกคนเลยอย่างนั้นหรือ นี่ถือว่าดีมากแล้ว

“ ไม่รู้ว่าหอคอยนี้อยู่ในร่างข้ามันจะดีหรือไม่ดีกันแน่ ดูแล้วมันน่าจะเป็นศาสตราวุธอย่างหนึ่ง อาจเป็นเพราะว่าพลังของข้ายังอ่อนแอเกินไป ก็เลยใช้งานมันออกมาไม่ได้    ”

‘เต้าหลิง’รู้ดีว่าในโลกใบนี้มีของล้ำค่าที่น่ากลัวอยู่อีกหลายอย่าง หากพลังไม่พอก็ไม่มีทางควบคุมมันได้ บางทีหอคอยเล็กนี่อาจเป็นหนึ่งในนั้น รอจนตนเองฝึกจนถึงระดับหนึ่งก่อนก็จะสามารถเรียกหอคอยเล็กนี้ออกมาได้ มันไตร่ตรองอยู่นานพอสมควร ก่อนยันกายขึ้นแล้วเดินออกไปด้านนอก

เตรียมไปซื้อวิญญาณโอสถสำหรับทำโอสถจ้วงหุน  ‘เต้าหลิง’รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยสำหรับการหลอมโอสถครั้งแรก และมันก็ยังไม่รู้ด้วยว่าระดับความยากในการหลอมโอสถนั้นมากหรือน้อยเพียงไหน ในใจหวังไม่อยากให้ล้มเหลวเลย

เขตการแลกเปลี่ยนสินค้าของสำนักดูคึกครื้นเป็นอย่างยิ่ง ผู้คนไปๆมาๆหนุนเวียนกันไป ทุกที่ล้วนเป็นแผงลอย คนที่ซื้อขายวิญญาณโอสถนั้นมีน้อยอย่างมาก เพราะว่าของจำพวกนี้เดิมทีก็ค่อนข้างหายากแล้ว

“ ช่างมัน ไปดูที่ร้านค้ามหาคลังสมบัติดีกว่า อย่างไรก็มีเหรียญผู้ยิ่งใหญ่อยู่ บางทีอาจจะได้ราคาที่ถูกลงหน่อย ”

มันเดินเตร่ไปรอบๆอยู่พักหนึ่ง และในขณะที่มันกำลังจะกลับไปที่ร้านค้ามหาคลังสมบัตินั้น หางตาของมันก็เหลือบไปเห็นร้านค้าหรูหราแห่งหนึ่งเข้า

“ นี่มัน … ”

‘เต้าหลิง’เงียบกริบ มันไม่คิดเลยว่าแม้แต่สำนักซิงเฉินก็มีร้านค้ามหาคลังสมบัติอยู่ด้วย ดูท่าอำนาจของร้านค้ามหาคลังสมบัติคงกว้างขวางกว่าที่ตนเองคิดไว้มากมาย ไม่รู้ว่าร้านค้ามหาคลังสมบัตินี้จะมีกฎต่างจากสำนักชิงซานอย่างไร ภายในร้านมีผู้คนอยู่จำนวนมาก สายตามองสำรวจไปรอบๆอยู่พักหนึ่ง

ก่อนมองไปยังเด็กสาวคนหนึ่งที่เดินมา ในใจมันรู้สึกหนาวๆเล็กน้อย  ‘ หวังย่า’กำลังต้อนรับแขกท่านหนึ่งอยู่ ทว่าตอนที่เห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งเข้า สีหน้าของนางดูตกใจ นางไม่คิดเลยว่า’เต้าหลิง’จะมาที่นี่ด้วย

“ หึ ขยะ ”

นางคิดขึ้นในใจ ‘หวังจวิ้นอี้’พูดแล้วนี่ว่าจะฆ่ามัน แล้วเหตุใดตอนนี้มันถึงยังไม่ตาย ในใจพลันบังเกิดโทสะขึ้นไม่น้อย

“ เจ้ามาทำอะไรที่นี่ ? ”

‘หวังย่า’เดินเข้ามา พูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย หรือว่ามันจะมาขอคืนดี ?

“ ข้าจะไปไหนต้องรายงานเจ้าด้วยรึ ? ”

สายตามองไปยังนาง ก่อนยิ้มเยาะออกมา ได้ยินดังนั้น สีหน้าของ’หวังย่า’พลันเคร่งเตรียดทันที ก่อนจะหัวเราะเยาะขึ้นว่า

“ ต้องขอโทษจริงๆ ที่นี่ไม่ต้อนรับเจ้า เจ้ารีบไปซะ นี่ไม่ใช่ที่ที่เจ้าจะมีสิทธิเข้ามาได้ ”

“ แปลก เจ้าเป็นเจ้าของร้านรึ ถึงพูดได้ว่าจะไม่ต้อนรับข้า ? ดูวางท่าเสียใหญ่โต ”

‘เต้าหลิง’หัวเราะเยาะ ในใจรู้สึกแปลกเล็กน้อย เหตุใดนางถึงมาอยู่ที่นี่ ?

“ ไอ้ขยะ นี่เจ้ายังกล้าย้อนข้าอีกหรือ ? ”

สีหน้าหวังย่าดูย่ำแย่ มันคิดว่าร้านค้ามหาคลังสมบัติเป็นสถานที่แบบใดกัน? ที่นางมาอยู่ที่นี่ได้ก็เพราะคำพูดของ’หวังจวิ้นอี้’ ร้านค้านี้นั้นไม่ใช่ว่าใครก็จะเข้ามาได้  ตำแหน่งสาวใช้นั้นแม้ว่าจะไม่สูง ทว่าในสำนักซิงเฉินนี้จะมีซักกี่คนกันที่กล้ามาพาลใส่ที่นี่ !

“ ช่างน่าขันจริงๆ ข้ามาซื้อของที่นี่ แล้วร้านค้านี้มีเหตุผลใดที่จะไม่ขายของให้ลูกค้ารึ ? ”

‘เต้าหลิง’มองไปที่นางก่อนยิ้มเยาะแล้วกล่าวขึ้นว่า

“ เจ้ามีสิทธิอะไรมาไล่ข้า ช่างน่าหัวร่อจริงๆ ! ”

เสียงปะทะคารมดังขึ้น ทำให้เป็นจุดสนใจแก่ผู้คนโดยรอบ มีคนจำนวนไม่น้อยมองชี้นิ้วเข้ามา จนเด็กหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้นว่า

“ นั่นไงมัน มิอยากจะเชื่อว่าจะกล้ามาพาลถึงที่นี้ เจ้าคิดจะทำอะไร ? เห็นที่นี่เป็นตลาดหรืออย่างไร !   ”

“ เด็กสาวคนนี้ข้ารู้จัก ได้ยินว่านางเป็นญาติกับหวังจวิ้นอี้ เจ้าเด็กนั่นซวยแน่ ไม่อยากจะเชื่อว่าจะกล้าล่วงเกินญาติของหวังจวิ้นอี้ ”

“ ที่แท้ก็เป็นญาติของหวังจวิ้นอี้ มันเป็นหลานชายของผู้อาวุโสตระกูลหวัง ได้ยินว่าอำนาจของมัน กว้างขวางมาก และยิ่งไปกว่านั้นตระกูลหวังยังเป็นตระกูลขุนนางชั้นสูงในราชวงศ์กันอีกด้วย ! ”

สีหน้าของผู้คนโดยรอบพลันตกตะลึงทันที ‘หวังจวิ้นอี้’เป็นคนที่มีชื่อเสียงในสำนักซิงเฉิน แม้ว่าพลังของมัน จะไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมาก ทว่าสถานะของมันก็ไม่ธรรมดา น้อยคนนักที่จะกล้าล่วงเกิน

ดังนั้นผู้คนในร้านค้านี้จึงเมินเฉยเต้าหลิงกันทั้งสิ้น คำพูดดังกล่าวทำความยโสของหวังย่าเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด นางทำตัวสูงส่ง สายตาดูถูกมองไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะยิ้มเยาะออกมาว่า

“ นี่เจ้ายังคิดจะซื้อของที่นี่อีกหรือ ? ข้าว่าเจ้าไปฝันเอาเถอะ ข้าจะบอกอะไรให้นะ เจ้ารีบไสหัวไปได้แล้ว มิเช่นนั้นอย่ามาว่าข้าใจร้าย ! ”

“ ข้าก็อยากจะดูหน่อย ว่าเจ้าจะใจร้ายได้แค่ไหน ”

‘เต้าหลิง’กล่าวถากถาง ท่าทีที่ไม่แยแสของเด็กหนุ่มทำให้ผู้คนโดยรอบตกตะลึง

ใจคิดคงได้เห็นเรื่องสนุกๆแล้ววันนี้ เพราะว่ามักจะมีคนที่มองว่าตัวเองเป็นใหญ่เป็นโตโดนไล่ตะเพิดออกจากร้านนี้เป็นประจำ

“ ทุกคนดูทางนี้ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้า เป็นมันที่หาเรื่องใส่ตัวเองกล้ามาพาลใส่ที่นี่ มันคิดว่าร้านค้ามหาคลังสมบัติของเราเป็นที่ใดกัน ? ตลาดขายผักอย่างนั้นรึ !? ”

นัยน์ตาสวยของ’หวังย่า’มองไปรอบๆอย่างรวดเร็ว มุมปากแฝงรอยยิ้มอ่อนหวานเอาไว้พร้อมพูดขึ้น

“ ฮ่าๆ พวกข้าจะเป็นพยานให้เจ้าเอง ว่ามันไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีกล้ามาพาลใส่ที่นี่ ก็ให้บทเรียนมันไปหน่อยเถอะ ให้มันได้รู้เสียบ้างว่าที่นี่ที่ไหน  ”

“ ใช่ อย่าคิดว่าเข้าสำนักซิงเฉินได้แล้วจะมีอภิสิทธิ์อะไรขนาดนั้น น้องชายข้าว่าเจ้ารีบขอโทษดีกว่า เจ้าจะได้ไม่มีปัญหา ”

ผู้คนโดยรอบหัวเราะก๊าก ‘หวังย่า’กำลังยืนกอดอก สายตายิ้มเยาะมองไปยัง’เต้าหลิง’ เพื่อรอให้มันขอโทษ ผู้เฝ้าประตูทางเข้าทั้งสองที่อยู่โดยรอบก็สนใจกับเหตุการณ์นี้เหมือนกัน ปรากฏชายหนุ่มคนหนึ่งยิ้มขึ้นแล้วกล่าวว่า

“ น้องหวังย่า นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? กำลังลำบากอยู่หรือไม่ ? ”

ชายหนุ่มทั่วใบหน้าเต็มไปด้วยความประจบประแจงคนนี้เป็นญาติกับ’หวังจวิ้นอี้’นั่นเอง ภูมิหลังของมันไม่ธรรมดา ‘หวังย่า’ใช้สายตาของมันให้เป็นประโยชน์ ชี้ไปที่’เต้าหลิง’แล้วยิ้มเยาะขึ้นว่า

“ ไอ้คนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงคนนี้มันมาพาลที่นี่ ทุกคนบอกข้าทีว่าข้าควรจะทำอย่างไรดี ? ”

“ นี่ยังต้องพูดกันอีกรึ ? กล้าล่วงเกินน้องหวังย่าของพวกเราก็เท่ากับเดินอยู่บนเส้นตาย ! ”

สีหน้าของผู้เฝ้าประตูพลันเคร่งขรึมทันที สายตาแหลมคมมองไปยังเต้าหลิงแล้วตะโกนออกไปว่า

“ น้องชาย ข้าแนะนำเจ้าอย่าง รีบขอโทษแล้วไสหัวไปซะ มิเช่นนั้นจะได้เห็นดีกัน ! ”

“ แล้วถ้าข้าไม่ขอโทษเล่า ? ”

สายตาเต้าหลิงจ้องไปยังมัน ดูเยือกเย็นเล็กน้อย ชายหนุ่มยิ้มเยาะครู่หนึ่ง ก่อนเดินเข้ามาด้วยใบหน้าขึงขัง แล้วพูดขึ้นว่า

“ นี่เจ้ายั่วโทสะข้ารึ ตามกฎของร้านค้ามหาคลังสมบัติสมบัติแล้ว ตอนนี้ข้าสามารถทุบตีเจ้าได้ ! ”

มันพลันกำหมัด อบอวลไปด้วยพลังที่แข็งแกร่ง พริบตาเดียวก็พุ่งหมัดเข้าไปยังหน้าอกของ’เต้าหลิง’

“ ใช่ ตีมันให้ตาย ! ”

สีหน้า’หวังย่า’ดูปีติ วันนี้นางสร้างสถานการณ์ได้ดีจริงๆ หากแย่งผลึกหินฟ้ามาอยู่ในมือตนเองได้ คงจะส่งผลดีไม่น้อย…

“ บ้าอำนาจเสียจริง ”

มุมปาก’เต้าหลิง’ยกขึ้น นัยน์ตาสีดำมองไปยังหมัดที่พุ่งเข้ามา ฝ่ามือเรียวยาวที่อยู่ในแขนเสื้อพลันยืดออกมา ก่อนพุ่งปะทะกับหมัดของชายหนุ่ม

“ ข้าก็ขอแนะนำเจ้าอย่างเหมือนกัน อย่าเที่ยวรังแกคนอื่นให้มากนัก ! ”

นัยน์ตาของมันฉายแววเฉียบขาด ฝ่ามือพลันเพิ่มแรงเข้าไป ปรากฏเสียงกระดูกหักดังกรอบขึ้น แขนของชายหนุ่มหักลงทันที  สีหน้าและแววตาของชายหนุ่มบิดเบี้ยว พริบตาเดียวร่างก็ลงไปนอนพิการกับพื้น เหงื่อเย็นอาบชโลมทั่วร่าง รู้สึกราวกับแขนทั่งท่อนถูกตัดทิ้ง ร้องโหยหวนออกมาด้วยความเจ็บปวด

ผู้คนโดยรอยตกตะลึง แต่ที่ตะลึงมิใช่พลังของมัน แต่เป็นความกล้าของมันต่างหาก มิอยากจะเชื่อว่ามันจะกล้าลงมือที่นี่ ยังไงก็ตายสถานเดียว

“ ดีมาก ดีจริงๆ ! ”

‘หวังย่า’อดไม่ไหวหัวเราะดังลั่น มันรนหาที่ตายจริงๆ กล้าทำร้ายผู้เฝ้าประตูของร้านค้ามหาคลังสมบัติ ใครก็ปกป้องมันไม่ได้ !

“ บัดซบ เจ้าตายซะ ! ”

ด้านข้างปรากฏผู้เฝ้าประตูอีกคนที่ตลอดเวลาเอาแต่เงียบคำรามดังขึ้น ฝ่ามือปรากฏกระบี่ล้ำค่าเล่มหนึ่ง ระเบิดไอกระบี่ออกมา ก่อนพุ่งเข้าไป

“ เข้ามา ! ”

‘เต้าหลิง’คำรามลั่น ฝ่ามือยืดออกไปอีกครั้ง ปรากฏอักขระสีทองพุ่งออกไป ราวกับคลื่นลมขนาดใหญ่ห้อมล้อมกระลี่ล้ำค่าเอาไว้ กระบี่สั่นไหวก่อนระเบิดกระจายออก แขนเสื้อของมันสั่นไหว พลันปรากฏพายุพัดกระพือโหมส่งเสียงหวีดร้อง พุ่งอัดเข้าใส่บนหน้าอกของมัน  จนร่างกระเด็นลอยออกไป

“ แข็งแกร่งมาก ”

มีคนตะลึง ผู้เฝ้าประตูทั้งสองล้วนทะลวงสู่ขั้นซึมซับวิญญาณ ทว่ากลับถูกเด็กหนุ่มคนนี้จัดการลงอย่างง่ายดาย

“ เจ้าตายแน่ ! ”

‘หวังย่า’มองไปยังผู้เฝ้าประตูที่ร้องโอดครวญ ก่อนจะยิ้มเยาะออกมา

“ หาญกล้านักนะ ! ”

ปรากฏเงากลุ่มหนึ่งเดินลงมาจากชั้นสอง หนึ่งในนั้นเป็นคนสวมชุดคลุม พอมันเห็นฉากดังกล่าว พลันคำรามลั่น ก่อนพุ่งทะยานปล่อยหมัดเข้าไป ทำเอาฟ้าดินสั่นสะเทือน

‘หวังย่า’อดไม่ได้หัวเราะดังลั่นออกมา ชายหนุ่มชุดคลุมคนนี้เป็นยอดฝีมือขั้นซึมซับวิญญาณระดับสี่ชั้นฟ้า การจะจัดการกับ’เต้าหลิง’เป็นเรื่องที่สบายมาก ตามกฎแล้วตอนนี้สามารถฆ่ามันได้ !

ที่มา:

(0 votes) 0/5
ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments