I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Reverend Insanity / Gu Daoist Master ตอนที่ 6: มุ่งสู่อนาคตที่สดใส

| Reverend Insanity / Gu Daoist Master | 1049 | 2338 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

 

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 6 มุ่งสู่อนาคตที่สดใส

Tr. Coffee Prince

 

 

ทะเลวิญญาณเป็นบางสิ่งที่ลึกลับและผิดปกติ เพราะแม้ว่ามันจะอยู่ภายในร่างกายของฟางหยวน แต่ในเวลาเดียวกันมันก็ไม่ได้ใช้พื้นที่เดียวกับอวัยวะภายในของเขาแต่มันราวกับถูกแยกให้อยู่ในอีกมิติหนึ่ง อาจกล่าวได้ว่ามันกว้างใหญ่ไพศาลราวกับไร้ที่สิ้นสุดแต่ในเวลาเดียวกันมันก็เป็นเพียงบางสิ่งที่เล็กจ้อยอยู่ภายในร่างกายเท่านั้น

มันมีลักษณะเป็นทรงกลมที่มีแสงสีขาวละมุนเคลือบคลุมอยู่อย่างบางเบา มันเป็นชั้นแสงที่เกิดจากวิญญาณแห่งความหวังที่ระเบิดขึ้นก่อนหน้านี้

หากสามารถมองเข้าไปภายในกลุ่มก้อนแสงทรงกลมนี้ ผู้คนอาจจะมองเห็นท้องทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาลที่ไร้ซึ่งระลอกคลื่นและมีผิวน้ำที่กระจ่างใสราวกับกระจกสีฟ้าคราม แต่มันกลับส่องประกายแสงสีทองแดงออกมา นี่คือแก่นพลังงานที่จะก่อกำเนิดขึ้นก็ต่อเมื่อคนผู้นั้นได้กลายเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่งเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตามระดับน้ำทะเลที่อยู่ภายในแก่นพลังงานของฟางหยวนกลับสูงไม่ถึงครึ่งของกลุ่มก้อนพลังงานแสงสีขาวใบนี้ มันสูงขึ้นมาเพียง 4 ใน 10 ส่วนเท่านั้น และนี่คือข้อจำกัดของพรสวรรค์ในนภาที่ 3

น้ำแต่ละหยดเป็นตัวแทนสมบัติ 3 ประการของคนผู้นั้น นั่นก็คือ พลังปราณ พลังชีวิต และจิตวิญญาณ

เรียกได้ว่ามันเป็นแหล่งเก็บรวมรวบพลังงานแห่งชีวิตของฟางหยวนมาตลอด 15 ปีที่ผ่านมา

ผู้ใช้วิญญาณจะใช้พลังงานภายในทะเลวิญญาณนี้เพื่อหล่อเลี้ยงดวงวิญญาณที่พวกเขาครอบครองอยู่ นั่นหมายความว่าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ฟางหยวนได้ก้าวเข้าสู่เส้นทางของผู้ใช้วิญญาณเรียบร้อยแล้ว

ฟางหยวนรวบรวมสติของตนเองอีกครั้งและรับรู้ได้ว่าตนเองไม่สามารถก้าวผ่านแรงกดดันไปข้างหน้าได้อีก “เป็นเช่นเดียวกับชีวิตก่อนหน้าของข้า” ฟางหยวนยกมุมปากขึ้นและไม่แยแสต่อผลลัพธ์นี้แม้แต่น้อย

“เจ้าไม่สามารถไปได้อีกแล้วหรือ?” ผู้อาวุโสผมขาวผู้คุมการทดสอบตะโกนถามเสียงดังและพยายามที่จะคว้ากุมเสี้ยวความหวังสุดท้ายของเขาเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ได้ตอบคำถามและเพียงเดินกลับมาเท่านั้น

ขณะนี้เหล่าเด็กหนุ่มสาวทั้งหมดจึงสามารถตอบสนองต่อความประหลาดใจของตนเองได้ในที่สุด จากนั้นเสียงซุบซิบนินทาจึงได้เริ่มต้นขึ้น

“อันใด? ฟางหยวนเดินไปได้เพียง 27 ก้าวเท่านั้นหรือ?”

“เขามีพรสวรรค์แค่นภาที่สาม?”

“ไม่น่าเชื่อ ผู้ใดจะคิดว่าอัจฉริยะเช่นเขากลับมีพรสวรรค์เพียงนภาที่สาม?”

ความโกลาหลวุ่นวายปะทุขึ้นภายในกลุ่มผู้เยาว์ทันที

“พี่ใหญ่…” ท่ามกลางฝูงชน ฟางเจิ้งเงยศีรษะขึ้นมองพี่ชายของเขาด้วยความตกใจ เขาไม่กล้าเชื่อว่าพี่ชายของเขามีพรสวรรค์เพียงนภาที่ 3

เขาเชื่อมาตลอดว่าพี่ชายของเขาจะต้องมีพรสวรรค์อยู่ในนภาที่ 1 และไม่ใช่แค่เขาเพียงผู้เดียว ทั้งลุงกับป้า รวมถึงทุกคนต่างคิดเห็นเช่นเดียวกัน

แต่ความจริงที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคนในขณะนี้กลับทำให้ความคาดหวังของพวกเขาพังทลายลงอย่างสมบูรณ์

“บัดซบ! เขามีพรสวรรค์แค่เพียงนภาที่ 3!” หัวหน้าตระกูลกำหมัดทั้งสองข้างจนแน่นพร้อมกับสูดหายใจลึก

ผู้อาวุโสที่เฝ้ามองจากในเงามืดมีความรู้สึกผสมปนเป บางคนขมวดคิ้ว บางคนก้มศีรษะ ในขณะที่บางคนก็ถอนหายใจ

“มีสิ่งใดผิดพลาดหรือไม่?”

“มันจะเป็นไปได้อย่างไร? วิธีการนี้ถูกต้องแม่นยำอย่างไม่จำเป็นต้องสงสัย นอกจากนั้นพวกเรายังเฝ้าดูอยู่ตลอดเวลา แล้วจะมีการใช้กลโกงได้อย่างไร?”

“แต่การกระทำและสติปัญญาของเขาก่อนหน้านี้ เจ้าจะอธิบายอย่างไร?”

“เฮ้อ…ยิ่งคาดหวังมากเท่าใด ก็ยิ่งผิดหวังมากขึ้นเท่านั้น ทายาทรุ่นหลังของตระกูลแสงจันทร์ของเราในปัจจุบันไม่เหมือนกับต้นตระกูลอีกต่อไปแล้ว”

 

ถุงเท้าที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำจากลำธารอันเย็นเยียบส่งความหนาวเหน็บเจาะเข้าไปถึงกระดูกของฟางหยวน แต่เขายังคงสงบนิ่งขณะที่เดินตรงเข้ามาใกล้กับฝูงชนกลุ่มใหญ่ เขาสามารถมองเห็นสายตาที่ตกตะลึงจากดวงตาของผู้อาวุโสและสายตาของเด็กหนุ่มสาวที่ทิ่มแทงมายังเขา บางคนก็เย้ยหยัน บางคนก็ชื่นชมยินดีในคราวเคราะห์ของเขา บางคนก็เย็นชารังเกียจ ราวกับเขาตกจากสรวงสวรรค์ชั้นฟ้าลงสู่โคลนตมเบื้องล่างและไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก

มันเป็นสถานการณ์เดียวกันกับในชีวิตก่อนหน้าที่ฟางหยวนไม่เต็มใจที่จะจดจำ

ในช่วงเวลานั้น เขารู้สึกราวกับฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย เขาเดินผ่านลำธารอย่างไร้สติและล้มลงกลางธารน้ำอันเหน็บหนาวราวกับคนไร้วิญญาณ แต่ถึงกระนั่นก็ไม่มีผู้ใดเข้าไปช่วยเหลือเขา

สายตาแห่งความรู้สึกผิดหวังและเย็นชาของผู้คนราวกับมีดอันแหลมคมที่ทิ่มแทงเข้าสู่หัวใจของเขา จิตใจของเขาสับสนวุ่นวายและเจ็บปวดราวกับตกลงจากที่สูง

อย่างไรก็ตามในชีวิตนี้กับฉากละครเดียวกันที่หวนคืนกลับมาอีกครั้ง จิตใจของฟางหยวนกลับนิ่งสงบและคิดไปถึงตำนานของมนุษย์คนแรกในยุคต้นกำเนิด ‘มอบหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ให้แก่ความหวังเพื่อมุ่งสู่อนาคตที่สดใสกว่า’

ความหวังยังคงอยู่ในตัวเขา แม้ว่ามันจะเป็นเพียงเสี้ยวความหวังเล็กๆ แต่มันก็ยังดีกว่าหลายคนที่ไร้ซึ่งพรสวรรค์อย่างสิ้นเชิงมิใช่หรือ?

หากคนผู้หนึ่งรู้สึกผิดหวังและปล่อยตนเองให้จมลงสู่ก้นบึ้งแห่งความมืดมนโดยไม่พยายามดิ้นรนขัดขืน แล้วความหวังจะมาจากที่ใด แล้วพวกเขาจะก้าวเดินต่อไปได้อย่างไร?

ความผิดหวังจากผู้อื่นจะทำสิ่งใดได้ หากคนผู้นั้นไม่ยินยอมต่อโชคชะตา เพราะสิ่งสำคัญที่สุดก็คือต้องรักษาความหวังเอาไว้ภายในหัวใจของตนเอง!

ประสบการณ์ 500 ปี ของเขาทำให้เขาเข้าใจหลายสิ่ง ชีวิตของคนผู้หนึ่งจะเปล่งประกายเมื่อคนผู้นั้นได้ไล่ตามความฝันของตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยถามความเห็นชอบจากผู้อื่น ไม่จำเป็นต้องสนใจความผิดหวังของผู้ใด และไม่จำเป็นต้องทำให้ทุกคนชมชอบ!

เดินบนเส้นทางของตนเอง เพิกเฉยต่อความผิดหวังและปล่อยให้ทุกคนรู้สึกในสิ่งที่พวกเขาต้องการ…

“เฮ้อ…” ผู้อาวุโสผมขาวผู้คุมการทดสอบถอนหายใจออกมาก่อนจะเรียกชื่อของเด็กคนต่อไป “ฟางเจิ้ง”

เงียบสงัด…คือคำตอบ

“ฟางเจิ้ง!” ผู้อาวุโสตะโกนเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง

“อา…ข้าอยู่นี่ ข้ามาแล้ว” ฟางเจิ้งตกใจและรีบวิ่งออกไป แต่น่าเสียดายที่เขาสะดุดเท้าตัวเองหกล้มลงไปกับพื้นและกลิ้งตกลงไปในลำธารอย่างทุลักทุเล

เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ เสียงหัวเราะจึงระเบิดขึ้นภายในถ้ำอันใหญ่โตแห่งนั้นในทันที

“พี่น้องแซ่ฟางไม่มีสิ่งใดพิเศษเลย” หัวหน้าตระกูลกล่าวอย่างเย็นชาและรู้สึกเบื่อหน่ายรำคาญต่อฟางเจิ้ง

“น่าขายหน้านัก” ฟางเจิ้งพยายามลุกขึ้นอย่างยากลำบาก แต่ด้วยความลื่นของลำธาร มันจึงทำให้เขาดูเงอะงะโง่เง่า และเขาก็รู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเมื่อเสียงหัวเราะยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ

แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาถูกดึงขึ้นจากลำธารและสามารถทรงตัวได้อีกครั้ง

“พี่ใหญ่…” เขาพยายามจะพูดบางสิ่งแต่มันกลับถูกแทนที่ด้วยการสำลักน้ำและตามมาด้วยอาการไออย่างรุนแรง

“ฮ่าฮ่าฮ่า พี่น้องตระกูลฟางนี่ช่างตลกยิ่งนัก” เด็กหนุ่มสาวต่างหัวเราะออกมาเสียงดัง ตรงข้ามกับเหล่าผู้อาวุโสที่เพียงถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวังเท่านั้น

ฟางเจิ้งรู้สึกโง่งมและทำสิ่งใดไม่ถูก เขาไม่รู้จริงๆว่าควรรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงของพี่ชายดังขึ้น “ไปเถอะ มุ่งสู่อนาคตที่สดใสของเจ้า”

ฟางเจิ้งอ้าปากค้าง ในขณะที่ฟางหยวนหันหน้ากลับและเดินตรงไปทางฝูงชนพร้อมกับมุมปากที่ยกตัวขึ้นเล็กน้อยอย่างมีความนัย

ฟางเจิ้งรู้สึกประหลาดใจเมื่อรับรู้ได้ถึงความสงบของฟางหยวน  เขามีพรสวรรค์นภาที่ 3 แล้วเขาสามารถเยือกเย็นเช่นนี้ได้อย่างไร? หัวใจของฟางเจิ้งเต็มไปด้วยความสงสัย ‘เหตุใดเขาจึงสงบนิ่งได้ถึงเพียงนี้ หากเป็นข้า…ข้า…’

เขาก้มหน้าเดินต่อไปยังฝั่งตรงข้ามและไม่ได้คิดถึงฉากปาฏิหาริย์ใดๆ เขาเดินไปเรื่อยๆด้วยความมึนงง เขาจมลึกอยู่ในห้วงความคิดโดยไม่รู้ตัวเลยว่าเดินไปได้ไกลเท่าใด แต่สุดท้ายแล้วจุดที่เขายืนอยู่กลับทำให้ทุกคนรู้สึกตื่นตะลึง

43 ก้าว!

“โอ้ สวรรค์! พรสวรรค์นภาที่ 1” ผู้อาวุโสผมขาวอุทานออกมาด้วยความตกใจ

“มันเป็นนภาที่ 1 จริงๆ”

“สามปีมาแล้วที่พรสวรรค์ระดับนี้ไม่ปรากฏในหมู่บ้านของพวกเรา”

ผู้เฒ่าผู้แก่ที่ยืนดูอยู่ต่างกรีดร้องออกมาและสูญเสียการควบคุมตนเองไปในทันที

“ดี สายเลือดแซ่ฟางเป็นกิ่งก้านสาขาของครอบครัวสกุลซื่อ เช่นนั้นพวกเราครอบครัวซื่อจะดูแลเขาเอง” ซื่อเหลียงเร่งประกาศออกมา

“จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร? ปีศาจเฒ่าเหลียง เจ้าขาดคุณธรรมและความสามารถ เจ้าจะทำให้เขาเดินไปในทางที่ผิด จะดีกว่าหากให้เขามาอยู่กับข้า โม่เฉิน!” โม่เฉินคำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด

“หยุดโต้เถียง ไม่มีผู้ใดมีคุณสมบัติพอที่จะเลี้ยงดูเด็กคนนี้มากไปกว่าผู้นำตระกูลคนปัจจุบันของพวกเจ้า ผู้ใดต้องการคัดค้าน จงมาสู้กับข้า อวี๋โป้!” หัวหน้าตระกูลแสงจันทร์กลายเป็นบ้าคลั่งและกวาดตาที่ลุกเป็นไฟมองไปยังผู้อาวุโสทุกคนในที่แห่งนั้น ทุกความผิดหวังของเขา…สูญสลายหายไปจนสิ้น

 


ติดตามความเคลื่อนไหวที่เร็วกว่าได้ที่เฟสบุ๊ค นิยายฆ่าเวลา >>


 

 

(0 votes) 0/5
ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments