I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Isekai Mahou wa Okureteru! ตอนที่ 6 ข้อสงสัยของสภาจอมเวท

| Isekai Mahou wa Okureteru! | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

แปลไทย : Hyaku man

นับตั้งแต่สองวันแรกที่ผู้กล้า’เรอิจิ’ยอมรับภารกิจปราบราชาปีศาจ จอมเวทของราชสำนัก ‘เฟลเมเนีย สติงเรย์’ ได้กลายเป็นอาจารย์สอนการใช้เวทมนตร์ตามคำสั่งของราชา ตอนนี้ เธอกำลังจะไปสอน’เรอิจิ’

“ฉันเป็นครู ของผู้กล้า คิกๆๆๆ”

(เฟลเมเนีย)

เธอพูดขณะที่เดิน ภายในใจของเธอเต็มไปด้วยความสุข จากจอมเวททุกคนเป็นเธอที่ได้นับเลือกให้เป็นผู้ฝึกสอนผู้กล้าที่จะช่วยโลก แค่คิดว่าเธอได้เป็นคนสอนผู้กล้า นั่นทำให้เธออยากจะหัวเราะ ซึ่งหมายความว่าเธอได้รับความเชื่อถือมากกว่าสภาจอมเวทคนอื่นๆ และได้รับความคาดหวังจากราชา

“ฟุฟุฟุ”

(เฟลเมเนีย)

เธอไม่สามารถที่จะอดกลั้นเสียงหัวเราะของเธออีกต่อไปได้ เธอดีใจที่ไม่มีใครอยู่รอบๆ ด้วยบุคลิกอันเข้มงวดของเธอ หากคนอื่นมาเห็นเธอหัวเราะมันคงจะน่าอายมาก ในเรื่องของการเรียนการสอน ดูเหมือนว่าในโลกที่ผู้กล้าจากมาจะไม่มีเวทมนตร์อยู่ นั่นเป็นเหตุผลที่เรากำลังสอนเวทมนตร์ให้เขาอยู่ในตอนนี้

เธอยังจำได้วันที่พวกเขาถูกอัญเชิญมาและเมื่อพวกเขาเห็นเวทมนตร์ครั้งแรก เธอยังคงจำตาที่เป็นประกายของพวกเขาได้แม่น เมื่อเธอถามผู้กล้าเกี่ยวกับโลกของพวกเขา ดูเหมือนว่าจะมีสิ่งที่ใกล้เคียงกับเวทมนตร์อยู่ พวกเขาเรียกมันว่าวิทยาศาสตร์ เป็นเทคโนโลยีที่ทุกคนสามารถใช้ได้ มันช่วยพัฒนาอารยธรรมขึ้น มันน่าสนใจดี ถ้าหากพวกเขามีเวลา

‘เฟลเมเนีย’ก็อยากจะรู้มากกว่านี้ และตอนนั้นเอง

“นั่นซุยเมอินี่”

(เฟลเมเนีย)

บนทางเดิน ที่ยืนอยู่นั่นคือ’ซุยเมอิ’

‘ซุยเมอิ ยาคางิ’ ส่วนสูงพอๆกับคนทั่วไป ผมสีดำ ดวงตาที่อ่อนโยน ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น เขาแสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาอันยิ่งใหญ่เมื่ออยู่ร่วมกับ’เรอิจิ’ ผู้ชายคนนั้นเดินอยู่ข้างหน้าเธอ แต่เปลี่ยนทางไปสู่จุดหมายที่แตกต่างกัน ตอนที่เห็น เธอคิดว่าสถานที่ที่เขาไปเป็นทางเหนือของคัลเมเลีย ไม่มีห้องครัวหรือห้องน้ำ ไม่ใช่สถานที่ที่’เรอิจิ’อยู่ แล้วทำไมเขาถึงไปทางนั้น

(เดี๋ยวก่อน….ฉันได้ยินมาว่าซุยเมอิซุกตัวอยู่ในห้องพักของเขาตลอดเวลาหลังจากกรณีพิพาทในท้องพระโรง)

(เฟลเมเนีย)

เธอไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเขามากนัก นับจากวันนั้นเธอยังไม่ได้คุยอะไรกับเขา เธอได้ยินมาว่าเขาจะออกมาก็ต่อเมื่อไปเข้าห้องน้ำหรือไปหาพวกเพื่อนของเขา เธอคิดว่าเพราะเขาถูกเรียกตัวมาจากกะทันหัน ทำให้เขากลัวและซุกตัวอยู่เหมือนกับเด็กน้อย

“ถ้าอย่างนั้น เขาเป็นอะไร “

(เฟลเมเนีย)

อาคารทางเหนือเป็นสถานที่ที่ไม่ค่อยมีคนไป เห็นแบบนั้น’เฟลเมเนีย’ก็รู้สึกสนใจขึ้นมา จากนั้นเธอก็รู้บางสิ่งบางอย่าง

(ยังเหลือเวลาอยู่จนกว่าจะถึงเวลานัด เพราะอย่างนั้นขอดูหน่อยก็แล้วกัน)

(เฟลเมเนีย)

เมื่อ’เฟลเมเนีย’ตัดสินใจจะตามเขา มันไม่ใช่เพียงเพราะเธอสนใจเท่านั้น เพราะว่าเธอมีหน้าที่หยุดเขาจากการกระทำที่ไม่ดีด้วย ไม่เพียงแค่นั้น ผู้ชายคนนั้น ‘ซุยเมอิ’มีความลับอะไรเก็บซ่อนไว้อยู่ นั่นเป็นเหตุผลที่เธอตามดูความเคลื่อนไหวของเขา

(หากว่าเราทัก ซุยเมอิโดโนะจะต้องตกใจอย่างแน่นอน)

(เฟลเมเนีย)

ครั้งแรกที่พบกันเขาพยายามจะใช้เวทมนตร์ จากบรรดาทั้งสามคนเขาเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ คนอื่นอาจไม่ได้สังเกตเห็น แต่เธอเห็น เวทย์ถูกยกเลิกทันทีและเขาก็แสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ผิดแน่นอน นั่นคือเวทมนตร์ ผู้กล้า’เรอิจิ’บอกว่าเวทมนตร์ไม่มีในโลกของเขา

การแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีกระจายไปทั่วทุกที่และช่วยสร้างอารยธรรม อาคารเรียงรายอย่างเป็นระเบียบและพวกเขาสามารถเดินทางไปยังดวงจันทร์ ไม่มีแววโกหกในสายตาของเขา เขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องโกหก แล้วทำไม’ซุยเมอิ’ถึงสามารถใช้เวทมนตร์ได้?

และตอนนี้คือการเริ่มต้นที่จะสืบเรื่องนั้น โดยที่’ซุยเมอิ’ไม่ได้สังเกตเห็น เขายังคงเดินไปยังสถานที่ที่เขาสนใจ จากนั้นเมื่อเธอหันไปที่มุม …

“โอ๊ะ~”

“หวา!?”

(แม่บ้าน)

มีเสียงร้อง ดูเหมือนว่าจะเป็นแม่บ้าน เสียงกรีดร้องนี้จะต้องมาจากเธอแน่

“ฉันขอโทษ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”

(เฟลเมเนีย)

“ฉันต่างหากค่ะที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษ ฉันหวังว่าฉันจะไม่ได้ทำร้ายใบหน้าของสติงเรย์ซามะนะคะ?”

(แม่บ้าน)

“ไม่นี่ หน้าฉันไม่ได้เป็นอะไร”

(เฟลเมเนีย)

“แล้วที่อื่นล่ะคะ?”

(แม่บ้าน)

“ไม่มี ไม่มีแม้แต่ฝุ่น “

(เฟลเมเนีย)

เมื่อเห็นแม่บ้านมีท่าทีเช่นนั้น เธอยิ้ม แม่บ้านแสดงสีหน้าโล่งอก

“งั้นเหรอคะ? ดีจัง”

(แม่บ้าน)

“งั้นขอตัวก่อนนะ”

(เฟลเมเนีย)

“ค….ค่ะ!”

(แม่บ้าน)

“ฟู่…”

(เฟลเมเนีย)

มันไม่ได้เป็นภูมิปัญญาที่มาพร้อมกับอายุ แต่เป็นสิ่งที่เธอได้เรียนรู้จากการเป็นสภาจอมเวทย์ ได้เห็นความผิดพลาดของเธอ แม่บ้านโค้งตัวลง

“ฉัน…ฉันขอโทษจริงๆค่ะ!”

(แม่บ้าน)

“คุๆๆ ก็ไม่เป็นไร.”

(เฟลเมเนีย)

แม่บ้านโค้งคำนับอีกครั้งแล้วเมื่อ’เฟลเมเนีย’ต้องการจากไป ‘เฟลเมเนีย’นึกขึ้นได้

“ขอโทษนะ ช่วยอะไรหน่อยได้มั้ย?”

(เฟลเมเนีย)

“เอ๋? แน่นอนค่ะ “

(แม่บ้าน)

“ก่อนที่เราจะชนกัน มีคนอื่นเดินผ่านมา เธอเห็นเขาไหม?”

(เฟลเมเนีย)

“เอ๋? ไม่มีใครนี่คะ มีแต่สติงเรย์ซามะ”

(แม่บ้าน)

“อะไรนะ?”

(เฟลเมเนีย)

แตกต่างจาก’เฟลเมเนีย’ยามปกติ เมื่อได้ยินคำตอบของแม่บ้านเธอพึมพำ …

“มีอะไรเหรอคะ?”

(แม่บ้าน)

“ฉันจะถามอีกครตั้งไม่มีใครเดินผ่านที่นี่แน่นะ?”

(เฟลเมเนีย)

“ค่ะ”

(แม่บ้าน)

“เธอไม่ได้โกหก?”

(เฟลเมเนีย)

“ค่ะ ฉันสาบานต่อพระเจ้าเลยว่า ที่ฉันบอกสติงเรย์ซามะไปเป็นความจริงแน่นอน “

(แม่บ้าน)

‘เฟลเมเนีย’ขู่เธอและแม่บ้านยอมรับ แม้ว่า’เฟลเมเนีย’จะไม่ใช้กำลังทางกายภาพใด ๆ และ’เฟลเมเนีย’ก็หยุดชะงัก

“ไม่มีทางที่เธอจะไม่พบใคร ก่อนหน้าที่เราจะชนกันซุยเมอิโดโนะ  อ่า…ฉันหมายถึงเพื่อนของผู้กล้าเรอิจิผ่านมาทางนี้”

(เฟลเมเนีย)

“เพื่อนของท่านผู้กล้า? ฉันไม่พบใครเลยนะคะ”

(แม่บ้าน)

เมื่อเห็นแม่บ้านสับสน’เฟลเมเนีย’คิดว่า

“หมายความว่า … “

(เฟลเมเนีย)

“หืมมม สติงเรย์ซามะคะ  ฉันต้องไปที่หอคอยใต้”

(แม่บ้าน)

“อ่า ก็ไม่เป็นไร เธอไปได้ ขอโทษที่พูดอะไรแปลกๆ “

(เฟลเมเนีย)

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันไปนะค่ะ”

(แม่บ้าน)

แม่บ้านก้มหัวและจากไป

( …… )

(เฟลเมเนีย)

‘เฟลเมเนีย’สับสน เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาก็หายตัวไปทันที นี่แปลกมาก

(อืม  ยังพอมีเวลา ดูข้างในก่อนแล้วกัน)

(เฟลเมเนีย)

ขณะที่เดิน เธอก็ไม่พบใคร เมื่อเธอมาถึงหอคอยเหนือ เธอแปลกใจ

(อะไรน่ะ)

(เฟลเมเนีย)

เธอพบว่าประตูเปิด มันไม่น่าจะมีใครมาที่นี่ ไม่เพียงแค่นั้น แต่ที่ประตูถูกปิดผนึกอยู่ มันต้องใช้เวทมนตร์พิเศษที่จะเปิดมัน

แต่ . . . . . . . คนที่รู้คาถาคือราชา หัวหน้าจอมเวท และฉัน . . . . . . .

มันไม่มีร่องรอยของราชาหรือหัวหน้าจอมเวทที่นี่ แล้วทำไมมันถึงเปิดได้ล่ะ ? ‘เฟลเมเนีย’ลบตัวตนของเธอและเดินไปที่ประตู เหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงปรากฏอยู่ตรงหน้า เธอประหลาดใจมาก ‘เฟลเมเนีย’ยืนแอบมองเข้าไปข้างใน เธอเห็นรูปปั้นถือหนังสือที่คล้ายกันสองเล่ม

มีแสงคล้ายกับการใช้เวทอัญเชิญประกอบขึ้นเป็นทรงกระบอก

(อย่างที่คิดเลย . . . . . . .)

( เฟลเมเนีย )

เธอไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงเปิดประตู แต่ข้อเท็จจริงที่เขามาที่นี่ เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นจอมเวทย์ แต่-

(ฉันควรจะทำยังไงดีตอนนี้ ฉันควรจะรีบออกจากที่นี่?)

(เฟลเมเนีย)

นี่คือสถานที่หวงห้าม ตามปกติเธอจะรีบออกไปทันที แต่นี่คือเพื่อนของผู้กล้า นอกจากนั้นแล้วเขายังเป็นจอมเวท แน่นอนเธอมั่นใจว่าสามารถเอาชนะเขาได้ แต่นี่คือเพื่อนของผู้กล้า มันอาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ จะเกิดอะไรขึ้นหากว่าการปราบราชาปีศาจถูกยกเลิกเพราะเรื่องนี้ เธอไม่สามารถตัดสินใจได้ แต่ฉันสงสัยว่า เขาทำอะไร …

(ฉันคิดว่าเขากำลังค้นคว้าเกี่ยวกับการอัญเชิญ แต่ … )

(เฟลเมเนีย)

เพราะพวกเขาเป็นจอมเวท เธอสงสัยว่าทำไมเขาถึงเดินไปรอบๆ ตามปกติในการวิเคราะห์วงเวท จอมเวทจะต้องยืนอยู่ด้านนอกและวิเคราะห์เฉพาะวงกลมเท่านั้น แต่เธอไม่เห็นเขาทำแบบนั้น เหมือนกับคนปกติที่ไม่รู้จักเวทมนตร์และไม่แน่ใจในสิ่งที่ต้องทำ แต่วงเวทอัญเชิญเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเข้าใจได้

ไม่มีใครได้รับความสามารถให้เข้าใจมัน สุดท้ายแล้วเฟลเมเนียก็ไม่สามารถที่จะเปล่งเสียงหรือออกไปได้ หลังจากดูพฤติกรรมอันแปลกประหลาดของ’ซุยเมอิ’แล้ว เธอตัดสินใจที่จะไปเข้าประชุมแทน

“เกี่ยวกับเพื่อนผู้กล้าเรอิจิงั้นเหรอ?”

(ราชา)

‘เฟลเมเนีย’ยืนอยู่ด้านหน้าของราชาในท้องพระโรง แน่นอน เหตุผลก็คือ’ซุยเมอิ’ หลังจากวันนั้นเธอก็พยายามจับตาดูเขา และตอนนี้เธอตั้งใจจะถามราชา ราชาสับสนและ’เฟลเมเนีย’คุกเข่าลงพยักหน้า

“ใช่ค่ะ”

(เฟลเมเนีย)

“มิซึกิ อาโนวเหรอ”

(ราชา)

“ไม่ใช่ค่ะ อีกคนหนึ่งซุยเมอิ”

(เฟลเมเนีย)

ราชาหรี่ตาลง

“จากที่เรารู้เขาซ่อนตัวอยู่ในห้องและไม่เคยออกมา”

(ราชา)

“นั่นไม่จริงเลยค่ะ เขาได้ออกจากห้องไปหลายครั้ง”

(เฟลเมเนีย)

นี่เป็นผลมาจากการเฝ้าดูของ’เฟลเมเนีย’ เธอพบว่า’ซุยเมอิ’ออกจากห้องไปนับครั้งไม่ถ้วนและแน่นอนไม่มีใครรู้ ตรงกันข้ามเขาค่อนข้างจะกระตือรือร้น เมื่อได้ยิน ราชากล่าวเสียงหลง

“เราไม่เคยได้ยินเรื่องนี้จากใครเลย”

(ราชา)

“มันเป็นเพราะเขาต้องการให้เป็นแบบนั้น โดยพยายามไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร”

(เฟลเมเนีย)

“ไม่มีใครเห็นเขาเลยงั้นเหรอ?”

(ราชา)

“หม่อมฉันคิดว่า น่าจะเป็นคนเดียวที่รู้”

(เฟลเมเนีย)

ใช่แล้ว มีแค่เธอเท่านั้น เมื่อเธอถามคนอื่นๆดู พวกเขายืนยันว่าไม่เคยพบอะไรเลย

“แล้วทำไมเจ้าถึงเป็นคนเดียวที่รู้”

(ราชา)

“หม่อมฉันพบเขาโดยบังเอิญ ดูเหมือนว่าเขาจะใช้เวทมนตร์เมื่อไม่มีคนอยู่รอบๆ”

(เฟลเมเนีย)

“เวทมนตร์? เจ้าสอนให้เขาหรือ”

(ราชา)

“ไม่ค่ะ เขารู้อยู่ก่อนแล้ว”

(เฟลเมเนีย)

ราชาทำใบหน้าเหลือเชื่อ

“แต่เราได้ยินมาว่า เวทมนตร์เป็นเพียงแค่เรื่องในจินตนาการในโลกของผู้กล้าเรอิจิ”

(ราชา)

“หม่อมฉันเองก็สงสัย แต่เป็นความจริงที่ว่าซุยเมอิโดโนะใช้เวทมนตร์ได้”

(เฟลเมเนีย)

“หรือผู้กล้าเรอิจิโกหกเรา”

(ราชา)

“หม่อมฉันไม่คิดอย่างนั้น”

(เฟลเมเนีย)

ไม่ มันไม่ใช่เรื่องโกหก มันเป็นความจริงที่ว่าผู้กล้า’เรอิจิ’มีความสามารถทางเวทมนตร์สูงมาก แต่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อนและราชาก็ไว้ใจเขาเกินไป

“เราก็เชื่อแบบนั้น แต่….”

(ราชา)

“ทำไมถึงมีความแตกต่างในเรื่องของพวกเขา ใช่มั้ยค่ะ”

(เฟลเมเนีย)

“เด็กคนนั้นปกปิดเวทมนตร์ของเขาและตอนแรกผู้กล้าก็ไม่เคยรู้เรื่องของเวทมนตร์มาก่อน”

(ราชา)

ราชาเอียงหัวของเขา เวทมนตร์เป็นเทคโนโลยี เวทมนตร์เป็นทางแยกของชีวิต เวทมนตร์ทำให้คนพัฒนา ถ้าเราไม่รู้จักมันมันก็ไม่น่าจะแตกต่างจากเทคโนโลยีในแง่ของประโยชน์

“ฝ่าบาท อาจมีสถานการณ์ซับซ้อนในโลกอื่น แต่ตอนนี้….”

(เฟลเมเนีย)

“เหตุผลที่เขาทำเพื่อปกปิดฐานะและเวทมนตร์ของเขา”

(ราชา)

“ใช่แล้วค่ะ”

(เฟลเมเนีย)

“การเคลื่อนไหวของพวกเขาไม่ถูกจำกัด นับต้องแต่ที่พวกเขาถูกพามาที่โลกนี้ มีอะไรที่ต้องซ่อน แล้วทำไม? ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำอย่างนั้น….”

(ราชา)

ใช่แล้ว เขาเป็นเพื่อนของผู้กล้า ราชามีคำสังให้ปราสาทเป็นมิตรและให้ความร่ามมือกับพวกเขา แต่…..

“ปัญหาคือสถานที่ที่ซุยเมอิโดโนะไป”

(เฟลเมเนีย)

“มันคือที่ไหน?”

(ราชา)

“ห้องเก็บเอกสาร เขาได้นำหนังสือหลายเล่มมาจากที่นั่น”

(เฟลเมเนีย)

“เหรอ? เราคิดว่าเพราะเขาเอาแต่ซุกตัวอยู่ในห้อง จะว่าไป ในเมื่อเขาไม่สามารถกลับโลกของเขาไป เขาอาจจะพยายามหาข้อมูล”

(ราชา)

เมื่อราชาได้ยิน “ห้องเก็บเอกสาร” เขาก็ประหลาดใจ แต่แล้วเขาก็พยักหน้า เขาคิดว่า’ซุยเมอิ’ ไม่ต้องการยอมแพ้ให้กับความไร้สาระของการอัญเชิญและต้องการที่จะศึกษา กษัตริย์ชื่นชมเขานิดหน่อย นั่นก็จริง แต่มีอะไรมากกว่านั้น

“นอกจากนี้เขายังเข้าไปในห้องต้องห้าม “

(เฟลเมเนีย)

“ห่ะ อะไรนะ? แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะเข้าไปในนั้น … “

(ราชา)

มันคือสถานที่ที่ของสำคัญทางประวัติศาสตร์ถูกเก็บเอาไว้ จึงห้ามไม่ให้ใครเข้าออก

“เขาไปได้อย่างง่ายดาย”

(เฟลเมเนีย)

“อืม…เขาคงไปที่นั่นและกลับออกมา”

(ราชา)

‘เฟลเมเนีย’หยุดหายใจชั่วขณะและ…

“เขาเข้าไปข้างใน”

(เฟลเมเนีย)

“นั่น…เป็นไปไม่ได้ คนที่จะเข้าไปได้มีแค่เรา หัวหน้าจอมเวทและเจ้า “

(ราชา)

“ค่ะ แต่ว่าซุยเมอิสามารถเปิดเข้าไปได้ “

(เฟลเมเนีย)

บรรยากาศเปลี่ยนเป็นหนักอึ้ง ประตูที่ถูกร่ายเวทย์ดินไว้นับไม่ถ้วน มีแต่คนที่เข้าใจถึงหลักการของเวทมนตร์ธาตุดินเป็นอย่างดีเท่านั้นที่สามารถเปิดมันได้ นั่นแสดงให้เห็นถึงขอบเขตเวทมนตร์ของ’ซุยเมอิ’

“เขาไปทำอะไรที่นั่น?…..เป็นคำถามที่ดูโง่แฮะ….เขากำลังค้นคว้างั้นเหรอ?”

(ราชา)

“หม่อมฉันเองก็ไม่ทราบค่ะ แต่คิดว่าน่าจะใช่”

(เฟลเมเนีย)

“เขาต้องการที่จะกลับมากขนาดนั้นเลย…”

(ราชา)

ราชารู้สึกหดหู่ เขารู้สึกผิดที่เรียกพวกเขามาโดยปราศจากการยินยอมพร้อมใจ ราชาคิด ดูเหมือนว่าราชาจะคัดค้านความคิดเรื่องการอัญเชิญผู้กล้า เขาไม่อยากจะดึงคนที่เกี่ยวข้องเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ เขาต้องการให้พวกเขาประสบความสำเร็จด้วยพลังของตัวเอง

แต่ถ้าพวกเขาทำแบบนั้น  โลกก็จะถูกทำลาย แต่แล้วในที่สุดเขาก็กลัวราชาปีศาจและไม่มีทางเลือก แม้จะเห็นด้วย ราชาก็ยังเป็นทุกข์และเสียใจเป็นอย่างมาก

“หลังจากนี้เจ้าจะทำยังไงต่อ?”

(ราชา)

“หม่อมฉันจะเป็นคนจัดการเขาด้วยตัวเองหากเขาสร้างเรื่องวุ่นวาย … “

(เฟลเมเนีย)

“อืม มันก็จริงที่จะเกิดเรื่องวุ่นวาย “

(ราชา)

“ค่ะ แต่ข้อมูลนี้ยังไม่เพียงพอ”

(เฟลเมเนีย)

ใช่แล้ว ข้อมูลนี้ยังไม่เพียงพอ มันอาจจะเป็นการเข้าใจผิด นั่นเป็นเหตุผลที่เธอบอกเรื่องนี้กับราชา

“นั่นก็จริง เจ้าจะจัดการเรื่องนี้เมื่อมีบางอย่างเกิดขึ้นใช่มั้ย?”

(ราชา)

“แน่นอนค่ะ”

(เฟลเมเนีย)

เห็นได้ชัดว่านั่นเป็นเหตุผลที่เธอสังเกตมาได้มากขนาดนี้

“เจ้าบอกเรื่องนี้กับใครแล้วบ้าง?”

(ราชา)

“ไม่ค่ะ มีเพียงพระองค์เท่านั้น”

(เฟลเมเนีย)

“ดี. อย่าบอกเรื่องนี้กับใครจนกว่าจะแน่ใจ “

(ราชา)

“ค่ะ”

(เฟลเมเนีย)

ราชาประสงค์ที่จะไม่ให้ใครรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้เฟลเมเนียจะไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เธอก็เชื่อฟัง แล้วเฟลเมเนียก็ถามเกี่ยวกับแผน

“ฝ่าบาท หม่อมฉันควรจะทำยังไงต่อจากนี้”

(เฟลเมเนีย)

เธอถามเพราะเธอไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงกับ’ซุยเมอิ’ แต่เธอจะต้องทำอะไรบางอย่างแม้ว่าเขาจะเป็นเพื่อนของผู้กล้าก็ตาม ราชาเอียงศีรษะ

” มู ไม่เป็นไรปล่อยเขา เขาไม่ต้องการถูกรบกวน นั่นคือเหตุผลที่เขาทำมันอย่างลับๆ ตราบใดที่เขาไม่คิดจะทำอะไรที่ไม่ดี . “

(ราชา )

” แต่มันเป็นสถานที่ต้องห้าม … “

(เฟลเมเนีย)

” เนื่องจากเขาเคยไปที่นั่น มันช่วยไม่ได้ มีหนังสือที่สำคัญเท่านั้น และแผนที่ที่เขาสามารถจะใช้ทำอะไรได้ “

(ราชา )

มันเป็นความจริงว่ามันไร้ประโยชน์เพราะเขามาจากโลกที่แตกต่างกัน แต่เธอก็ยังรู้สึกว่าการตัดสินนี้อ่อนเกินไป

(นั่นคือเหตุผลที่ฝ่าบาทไม่ได้ต้องการให้ใครรู้?)

(เฟลเมเนีย)

ถ้ามีคนรู้มันก็จะกลายเป็นเรื่องวุ่นวาย แต่ถ้าไม่มีใครรู้มันก็จะไม่เป็นอะไร นั่นเป็นเหตุผลที่ราชาบอกให้เธอห้ามไปบอกใคร การตัดสินใจของราชานั้นถูกแต่ แต่เธอก็ยังรู้สึกขัดแย้งอยู่ดี

“พระองค์จะไม่ใช้มาตรการใดๆกับเขา?”

(เฟลเมเนีย)

“เจ้าไม่เห็นด้วย?”

(ราชา)

“ซุยเมอิเป็นจอมเวท ต้องมีอีกหลายอย่างที่เขาสามารถทำได้ หม่อมฉันรู้ว่ามันจะเป็นดีที่สุดหากไม่ไปยุ่งกับคนของผู้กล้า แต่ถ้าไม่ทำอะไรเขาเลยก็จะเป็นผลเสียต่อภาพลักษณ์ของราชา… “

(เฟลเมเนีย)

“เราไม่สนใจหรอก”

(ราชา)

จากการแสดงออกของราชาดูเหมือนว่าเขาต้องการจะแก้ไขเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แต่สำหรับเธอหากยอมแค่นี้ก็จะเสียเกียรติของสภาจอมเวท

“ฝ่าบาท มันค่อนข้างเสี่ยง แต่หม่อมฉันจะไม่ทำอะไรพวกเขา  หากเกิดอะไรขึ้น หม่อมฉันจะบอกกับเรอิจิโดโนะ”

(เฟลเมเนีย)

“เจ้ามีความมั่นใจในการโน้มน้าวใจ”

(ราชา)

“แม้จะเป็นเวลาไม่นาน หม่อมฉันก็ยังเป็นอาจารย์ของเขา ไม่มีทางที่เขาจะไม่สนใจฟัง”

(เฟลเมเนีย)

‘เฟลเมเนีย’มั่นใจเพราะว่าเธอคือคนสอนเวทมนตร์ให้’เรอิจิ’ ถ้าเธอบอกกับเขาว่าเพื่อนของเขาทำสิ่งไม่ดี เขาจะต้องอะไรกับมัน จากการพูดคุยกับพวกเขาทำให้เธอรู้ว่า’เรอิจิ’เกลียดคนเลว ไม่มีปัญหา เพราะงั้นตอนนี้….

“ขอเพียงฝ่าบาทอนุมัติ”

(เฟลเมเนีย)

หลังจากที่คิดราชาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ไม่”

(ราชา)

“ฝ่าบาท!!! แต่ว่า…”

(เฟลเมเนีย)

“เฟลเมเนีย ซุยเมอิโดโนะเป็นแขกคนสำคัญของเรา เราไม่อนุญาตให้เจ้ามีเจตนาร้ายต่อเขา”

(ราชา)

“แต่ว่า หม่อมฉันไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรต่อเขา เพียงแค่มาตรการที่ไม่ให้เขาทำอะไรตามใจตัวเองมากเกินไป!”

(เฟลเมเนีย)

‘เฟลเมเนีย’พยายามเกลี้ยกล่อมราชาอีกครั้งแต่ราชายังคงยืนกราน

“ไม่ ไม่มีแต่เฟลเมเนีย”

(ราชา)

” … .”

(เฟลเมเนีย)

“เข้าใจมั้ย?”

(ราชา)

“เข้าใจแล้วค่ะ”

(เฟลเมเนีย)

‘เฟลเมเนีย’แอบไขว่นิ้วของเธอไว้ข้างหลัง มันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นหลังจากที่เธอกลายเป็นสภาจอมเวท มันก็สักพักแล้วล่ะ ฝ่ายตรงข้างเป็นจอมเวทที่น่าผิดหวัง แม้ว่าเธอจะถูกปฏิเสธเธอก็เพียงโกรธและสัญญาว่าจะจ่ายให้เขาคืนเป็นหมื่นเท่า

(ไม่ได้!)

(เฟลเมเนีย)

ตราบใดที่ราชาไม่อนุญาต เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นั่นคือคำตัดสินของราชา เธอไม่สามารถจะทำตามอำเภอใจ แต่ตราบใดที่ราชาไม่รู้เธอจะแอบลงโทษ’ซุยเมอิ’หากว่ามีอะไรเกิดขึ้น ใช่แล้วตอนนี้’ซุยเมอิ’ยังไม่สังเกตเห็นเธอ เธอสามารถทำอะไรก็ได้โดยไม่ให้ใครรู้

แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นจอมเวทจากที่ไหนสักแห่งที่เธอไม่รู้จัก แต่เธอก็ไม่อนุญาตให้มาทำอะไรอวดดีในคัลเมเลียได้ มันไม่น่าให้อภัยและไม่สมควรได้รับการอภัย จากตำแหน่งของเธอนี่เป็นความรับผิดขอบของเธอ ภาพลักษณ์ของราชา ความปลอดภัยของคัลเมเลีย มันเป็นหน้าที่ของเธอที่จะปกป้องพวกเขา แม้ว่าจะไม่มีใครเลยที่รู้แต่เธอก็จะไม่สนใจ เธอจะทำให้เด็กอวดดีรู้ว่าสถานที่ของเขาอยู่ที่ไหน

“เฮ้อ… * เฟลเมเนียยังคงเป็นเด็ก … “

(ราชา)

คำกล่าวของราชาเอลมาเดียสหลังจากที่’เฟลเมเนีย’ออกไป เขาได้เห็นเด็กอย่าง’เฟลเมเนีย’กระตุ้นบางอย่าง เธอจะยอมแพ้ไม่ได้ เธอจะทำอะไรโดยไม่มีคนอื่นรู้ งั้นก็ช่วยไม่ได้ ขอโทษนะเจ้าหนู แล้วเราจะต่อว่าเธอให้หลังจากนี้

“ปัญญาเป็นสิ่งที่ยากเนอะ … “

(ราชา)

เมื่อเร็วๆนี้’เฟลเมเนีย’ดูเหมือนจะทะนงตัวมากขึ้น ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะพลังของเธอหรือว่าเพราะหน้าที่กันแน่ แต่มันเป็นความจริงที่ว่าเธอแข็งแกร่งมากเกินไป ราชาถอนหายใจอีกครั้ง

ปล.ตอนนี้ผมเผลอตะโกนออกไปว่า ซุยเมอิผิดอะไรหลายครั้งมากเลย

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments