หลังจากที่ได้ยินคำพูดจากเจ้าสำนักสตรีหยก ใบหน้า ‘ตูกู โอวหยุน’ ก็เปลี่ยนทันที เขากำหมัดแน่นและสายตาเย็นชาและกวาดสายตาไปมองจาก’ชูเฟิง’
 
ในขณะเดียวกัน ‘ชูเฟิง’ก็จ้องที่’ตูกู โอวหยุน’ ด้วยสายตาเย็นชาเท่าเทียมกันและมีเจตนาฆ่าฟันแสดงให้เห็น
 

 
“ชูเฟิงตอนนี้ก็ถึงตาเจ้าแล้ว ตามกฎเจ้ามีสิทธิ์ที่จะท้าประลองกับ เฟิง ฮ่าว หรือเจ้าจะยอมแพ้ล่ะ”
 
เจ้าสำนักหลิงหยุนพูดและยิ้มเย้ยหยัน มองไปยัง’ชูเฟิง’ สายตาทุกคนจับจ้องมาที่’ชูเฟิง’ หลังจาก’หลี่ จางฉิง’ได้รับบทเรียนนองเลือดทุกคนจะเห็นได้ว่าสำนักหลิง หยุน จงใจขยี้สำนักมังกรฟ้า
 
ในเวลานี้ทางเลือกที่ดีที่สุดของ’ชูเฟิง’คือการยอมแพ้ เพราะทุกคนเชื่อว่า’ชูเฟิง’ไม่สามารถชนะ’เฟิง ฮ่าว’ ได้อย่างแน่นอน
 
‘ชูเฟิง’ยิ้มเย้นหยัน ขณะได้ยินคำถามของ ‘หยาน หยางเทียน’ และกล่าวกลับไปว่า
 

 
” ข้าจะแสดงให้ท่านเห็นเอง ว่าข้าเลือกที่จะ”
 
หลังจากพูด ‘ชูเฟิง’ กระโดด ขึ้นไปบนสนามประลองและบทเวทีนั้นมี ‘เฟิง ฮ่าว’อยู่ และบอกกับ’เฟิงฮ่าว’ว่า
 

 
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะหายดีแล้วนะข้าคิดว่าจะพิการไม่สามารถเข้าร่วมการชุมนุมร้อยสำนักได้เสียแล้ว. “
 
 
“เจ้าหมายถึงอะไร”
 
หลังจากเขาได้ยิน’ชูเฟิง’พูด หน้าเขาเปลี่ยนสีอย่างมาก เพราะเขาเข้าใจคำพูด’ชูเฟิง’โดยทันทีประมาณครึ่งปีที่ผ่านมา’เฟิงฮ่าว’พิการและเกือบตายจากคนที่ เรียกตัวเองว่า อสุรา แม้ว่าร่างกายของเขาในปัจจุบันะหายดีแล้วจากทรัพยากรที่มากมายของ สำนักหลิงหยุน
 
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นยังตราตรึงในใจเขาไม่หาย ชายที่ชื่อ อสุรา นั้นสลักอยู่ในเขามาตลอด ‘ชูเฟิง’ไม่ตอบ’เฟิง ฮ่าว’ เขาเพียงยิ้มอย่างเย็นชาแล้วกล่าวว่า
 

 
“ไม่มีอะไรหรอก ข้าแค่บอกให้เจ้าเตรียมตัวพิการเฉยๆ “
 
 
“ไร้สาระ เจ้าคิดว่าพลังของเข้าจะสามารถชนะข้าได้อย่างนั้นหรือ ข้าสามารถทำให้เจ้าตายได้ด้วยมือข้างเดียว “
 
‘เฟิง ฮ่าว’โกรธแค้น’ชูเฟิง’ อย่างมาก เขาแบมือออกและพุ่งเข้าไปโจมตี’ชูเฟิง’ ฝ่ามือที่ไม่ใช้ทักษะการต่อสู้ แต่มันมีพลังระดับ 6 แก่นแท้วิญญาณของเขารวมกับเทคนิคลับทำให้มันมีพลังมากทีเดียว
 

 
“ชูเฟิง ระวังให้ดี เฟิง ฮ่าวไม่เหมือนกง ลู่หยุน เขาเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริงเจ้าไม่ควรประมาทใช้แค่พลังของตัวเองสู้กับเขา “
 
‘ต้านต้าน’ กล่าวเตือน’ชูเฟิง’
 

 
“ฮึ่ม ตอนที่ข้ายืมพลังเจ้าข้าตบตีมันเหมือนสุนัข ตอนนี้แค่พลังข้าก็เพียงพอแล้ว “
 
‘ชูเฟิง’ ถอนหายใจอย่างเย็นชา เขาไม่ได้หลบฝ่ามือของ ‘เฟิง ฮ่าว’ แต่เขาหันมือของเขาและปล่อยหมัดสวนกลับ’เฟิงฮ่าว’
 

 
“ชูเฟิงเป็นบ้าไปแล้วอย่างนั้นหรือ เขาปะทะตรงๆกับเฟิง ฮ่าวที่พลังต่างกันราวฟ้ากับเหว “
 
ในสายตาทุกคนมองว่า’ชูเฟิง’กำลังพุ่งเข้าหาความตาย ในขณะนั้น ไปชี่และคนอื่นๆจากสำนักสตรีหยก และเจ้าสำนักกระบี่ รวมถึง’หนานกง เสี่ยว’ จ้องมอง’ชูเฟิง’ด้วยสายตาซับซ้อน
 
พวกเขาที่ได้เห็นพลังที่แข็งแกร่งของ’ชูเฟิง’อย่างเห็นว่าบทเวทีนี้’ชูเฟิง’จะสามารถทำได้แค่ไหนและสามารถสู้กับอันดับ2จากสำนัก หลิง หยุนได้หรือไม่
 
ภายใต้การมองของสายตาผู้คนนับไม่ถ้วน’ชูเฟิง’ได้แสดงให้เห็นถึงพลังของเขา ที่สามารถรับฝ่ามือของ’เฟิง ฮ่าว’ไว้ หลังจากรับการโจมตี ‘ชูเฟิง’ก็โจมตีทันที แสงปรากฏขึ้นใต้เท้าเขาและดีดตัวเขาพุ่งไปหา’เฟิง ฮ่าว’อย่างกับลูกธนู
 

 
“เจ้ารนหาที่ตายจริงๆ”
 
‘เฟิ่ง ฮ่าว’ ปล่อยพลังออกมาพลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจและพลังเหล่านั้นก็มารวมที่มือกลายเป็นกรงเล็บยื่นออกมาและโจมตีใส่’ชูเฟิง’
 

 
“เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถหยุดพลังของข้าได้ด้วยพลังแค่นี้หรอ”
 
‘ชูเฟิง’พูดและไม่มีท่าทีจะถอยกลับ เขายังคงพุ่งเข้าไปและเรียกใช้เทคนิคลับทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่อจากนั้น ‘ชูเฟิง’ก็กำหมัดแน่นและเกิดดาบใหญ่สีทองบนมือของเขา เขาฟาดดาบสีทองขนาดใหญ่ไปข้างหน้า ปะทะกับมือของ ‘เฟิงฮ่าว’ อย่างต่อเนื่อง
 

 
“พระเจ้า นี่ชูเฟิงสู้กับ เฟิง ฮ่าวทั้งที่พลังของเขาอยู่ในระดับ 9 กำเนิดวิญญาณอย่างนั้นหรือ “
 
 
“ไม่เพียงแค่นั้น ชูเฟิงใช้เพียงทักษะระดับ5 แต่เฟิง ฮ่าวใช้ทักษะระดับ6 จากสำนัก หลิง หยุน แมงมุมหมื่นมือ”
 
 
“ความแตกต่างของพลังระหว่างทักษะทั้ง2นั้นใหญ่หลวงนัก แต่ชูเฟิงสามารถกดดันทักษะระดับ6ของเฟิงฮ่าวด้วยทักษะระดับ5ได้ ชูเฟิงทำได้ยังไงกัน”
 
พลังของ’ชูเฟิง’นั้นทำให้ทุกคนตะลึง ไม่ต้องพูดถึงคนที่มาจากสำนักอื่นๆ 12 ผู้พิทักษ์ของสำนักหลิงหยุน รวมถึง ‘ตูกู โอหยุน’และ ‘หยาน หยางเทียน’ ต่างก็ตะลึงเช่นกัน
 
‘เฟิง ฮ่าว’ ที่กำลังเผชิญหน้ากับ’ชูเฟิง’ ตกใจเล็กน้อยเพราะเขารู้สึกคุ้นเคยจากแรงกดดันของ’ชูเฟิง’ เขารู้สึกเหมือนได้รับแรงกดดันจากครึ่งปีก่อน ที่มาจากบุคคลที่เกือบฆ่าเขา
 

 
“เจ้า เจ้าเป็นใครกันแน่ !!”
 
ในทันทีที่ ‘เฟิง ฮ่าว’ รู้สึกถึงแรงกดดัน เขามองไปที่’ชูเฟิง’ ด้วยความประหลาดใจและสายตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
 

 
 “ก็อย่างที่เจ้าคิดนั่นแหละ”
 
แต่’ชูเฟิง’ไม่ยอมให้เขาพูดจบดาบขนาดใหญ่ที่มือของเขาได้เพิ่มขึ้นเป็น2ข้าง หลังจากนั้นเขาก็ตัดแขนทั้ง2ข้างของ’เฟิ่งฮ่าว’ ทำให้เลือดสาดกระเด็นเต็มพื้นดิน
 

 
“อ๊ากก ~~~”
 
‘เฟิ่ง ฮ่าว’มองแขนที่ถูกตัดของเขาบนพื้นดินด้วยสีหน้าเหมือนนคนตายและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
 

 
“นี่…นี่ชูเฟิง ตัดแขนของเฟิงฮ่าวได้จริงๆหรือนี่!”
 
 
“นี่หมายความว่าข่าวลือที่ชูเฟิงสามารถสู้กับคนที่มีพลังมากกว่าเขาหลายขั้นนั้นเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นหรือ เขาสามารถเอาชนะเฟิง ฮ่าว ด้วยพลังระดับ9กำเนิดวิญญาณ ได้อย่างง่ายดาย นี่มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว”
 
‘ชูเฟิง’นั้น ทำให้ทุกคนตะลึงจากการต่อสู้ของเขาที่น่าเหลือเชื่อ มันทำให้พวกเขารู้สึกว่าทุกอย่างนั้นเป็นความจริงหรืออย่างนั้นหรือ แต่เมื่อเทียบกับคนทั่วไป ความประหลาดใจของสำนัก หลิง หยุน มีบางคนรู้สึกโกรธอย่างมากจึงชี้หน้า’ชูเฟิง’และด่าทอด้วยความโกรธ
 

 
“ชูเฟิงเจ้าช่างอุกอาจยิ่งนัก นี่เป็นแค่เพียงการประลองแต่เจ้ากล้าลงมือถึงขนาดนี้ เจ้าต้องได้รับโทษของจากการกระทำของเจ้าอย่างสาสม. “
 
หลังจากพูดเหล่าศิษย์และผู้อาวุโสจากสำนักหลิงหยุน ก็ล้อมรอบเวทีการประลองที่มี ‘ชูเฟิง’ และ ‘เฟิง ฮ่าว’อยู่ด้านบน เมื่อเห็นว่า คนจากสำนักหลิง หยุน โกรธ
 
คนที่ไม่ได้มาจากสำนักหลิง หยุน พลันตกใจและพวกเขาก็รู้สึกสงสาร’ชูเฟิง’เป็นอย่างมาก เพราะในอาณาจักรมังกรฟ้า นอกจากคฤหาสน์องค์ชายกิเลนแล้วยังมีสำนักหลิง หยุนนี่แหละที่ถือว่า เป็นมหาอำนาจของอาณาจักร
 
และสิ่งที่’ชูเฟิง’ทำนั้น เหมือนเป็นการตบหน้าสำนักหลิง หยุนไม่น้อย และแน่นอนว่าพวกเขาจะไม่ปล่อย’ชูเฟิง’ไปอย่างง่ายๆ แต่ในขณะที่คนอื่นๆกำลังกังวลนั้น ‘ชูเฟิง’ไม่รู้สึกกลัวแม้แต่เล็กน้อย เขายิ้มเย้ยหยันและกล่าวว่า
 

 
“ตาต่อตาฟันต่อฟัน”
 
แปลโดยคุณ#
 
ที่มา: