I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Isekai Mahou wa Okureteru! ตอนที่ 23 จิตวิญญาณแห่งดาบ(2)

| Isekai Mahou wa Okureteru! | 1180 | 2365 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

“เมื่อมีคนต้องการการรักษาจากผม ผมจะรีบกลับมา ไม่ต้องห่วงว่าผมจะฝืนอะไรหรอก ยังไงซะผมก็ไม่คิดจะทำอะไรเกินความสามารถของตัวเองอยู่แล้ว”

“……….อ่า งั้นก็ระวังตัวด้วยนะครับ”

‘เกลน’ กล่าวย้ำอย่างจริงจัง ……ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกหัวเสียเล็กน้อย แต่ยังไงซะเขาก็เป็นหัวหน้าคาราวาน การเก็บอารมณ์ถือเป็นความสามารถพิเศษอย่างหนึ่งของพ่อค้า

“เอาละ ได้เวลาแล้ว”

“นั่นสินะคะ”

“……?”

‘ซุยเมย์’ กล่าวขึ้นอย่างคลุมเครือ ขณะที่ ‘เลฟิลเลียต’ อบอย่างไม่ต้องคิด เธอยืนขึ้นอีกครั้ง ขณะที่เกลนพยายามทำความเข้าใจการกระทำของพวกเขา นักเวทสาวก็ตะโกนขึ้น

“ทุกคน!พวกมันมาแล้ว!”

เมื่อสิ้นเสียงตะโกน เสียงหวีดหวิวที่เกิดจากลมกรรโชกต้นไม้ในป่าก็ดังขึ้น ส่งผลให้ทุกคนยิ่งกระวนกระวายกันขึ้นไปอีก นักผจญภัยที่เห็นเกลนกำลังหันมองไปรอบๆก็รีบร้องเตือน

“คุณเกลน รีบไปซ่อนเร็วๆ การต่อสู้กำลังจะเริ่มแล้ว”

“เข้าใจแล้ว ขอให้โชคดีนะทุกคน”

‘เกลน’ ตอบกลับก่อนจะรีบไปซ่อนตัว หลังจากนั้นคนคุ้มกันก็เริ่มเตรียมพร้อม  ‘เลฟิลเลีย’ เองก็เช่นกัน ดูเหมือนว่าครั้งนี้เธอวางแผนไว้ว่าจะจัดการทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวอีกครั้ง

“ ‘เลฟิลเลีย’ …”

“ไม่ต้องห่วงค่ะ ครั้งนี้ฉันจะต่อสู้กับพวกมันตรงนี้  ‘ซุยเมย์คุง’  ช่วยฉันด้วยนะคะ”

“ไม่จะไม่เป็นปัญหาถ้าคุณร่วมต่อสู้กับคนอื่นงั้นเหรอ?”

“หือ?”

ชายคนหนึ่งแสดงความคิดเห็นขึ้น เขาคิดอย่างสับสนขณะที่ ‘เลฟิลเลีย’ เดินออกมาด้านหน้าทุกคน ด้วยท่าทางอันหน้าเกรงขาม เธอปักดาบลงบนพื้นดิน บังเกิดเป็นอันดังเสียงดังและและความกดดันก็พวยพุ่งออกมาจากตัวหญิงสาว และ…..

“…….ฉันจะจักการพวกที่บุกเข้ามาเองค่ะ ส่วนคนอื่นๆคอบป้องกันแล้วกำจัดปีศาจที่ผ่านเข้าไปได้ก็พอ”

‘เลฟิลเลีย’ ประกาศด้วยเสียงอันดัง หมายจะเพิ่มขวัญกำลังใจในกับคนที่กำลังตื่นตระหนกกับจำนวนของศัตรู เสียงของเธอก้องไปทั่วบริเวณ เหมือนกับเสียงของฟ้าร้อง กลิ่นอายความกล้าหาญของเธอก็เป็นที่ประจักษ์ชัด หากไม่ใช่เพราะเห็นผลงานก่อนหน้านี้ พวกเขาคงคิดว่า ‘เลฟิลเลีย’ กำลังดูถูกตนเป็นแน่

แต่ตอนนี้กลับทำให้บรรยากาศดูมีชีวิตชีวาขึ้นมากทีเดียว ราวกับความกล้าหาญของหญิงสาวไปจุดไฟในใจของพวกเขาขึ้นอีกครั้ง พวกเขาเริ่มตะโกน โห่ร้อง เรียกขวัญกำลังใจให้ตัวเอง

……นี่คงเป็นความสามารถพิเศษของเธออย่างหนึ่งสินะ เมื่อ ‘เลฟิลเลีย’ พูดจบ เธอก็หันไปทางทิศตะวันตก และตอนนั้นเองก็มีบางสิ่งออกมาจากป่า ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เป็นปีศาจนั่นเอง เสียงหวีดร้องดังขึ้น

“มันมาแล้ว!”

ใครบางคนร้องไห้ออกมา ปีศาจบินตรงเข้ามาหาพวกเขาทันที เช่นเดียวกับปีศาจ  ‘เลฟิลเลีย’ ทะยานขึ้นไปกลางอากาศ

“ย้า!!!!!!!”

ก่อนจะมีใครตั้งตัวทัน  ‘เลฟิลเลีย’ ก็โจมตีเข้าใส่ศัตรูทันที ด้วยการหวดดาบเล่มใหญ่ของเธอเพียงครั้งเดียวก็ส่งปีศาจลงไปนอนกับพื้นทันที จากนั้นหญิงสาวก็เข้าไปฟาดฟันกับปีศาจตนอื่นต่อ

การต่อสู้นี้เป็นเหมือนกับฝันร้ายของเหล่าปีศาจ เห็นได้ชัดว่าเธอแข็งแกร่งกว่าพวกมัน คนคุ้มกันตะโกนด้วยความสุข พ่อค้าหลายคนที่กำลังแอบดูจากที่ซ่อนก็พากันร้องไห้ด้วยความตื่นเต้น  ‘เลฟิลเลีย’ ได้แสดงสิ่งนี้ให้พวกเขาเห็น

“-?!”

ปีศาจบินลงมาจากบนฟ้า มีหลายคนที่เงยหน้าขึ้นไปมองด้านบน

“มันอยู่ข้างบน”

นักเวทสาวร้องเตือนก่อนจะที่พวกมันจะเริ่มโจมตีจากด้านบน มีปีศาจบางตนที่ลอบเข้ามาเพื่อซุ่มโจมตีจากกลางอากาศ พวกมันชิงโอกาสที่พวกเรากำลังสนใจการต่อสู้อยู่ เพื่อลอบโจมตีอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว เพื่อกำจัดนักเวทและนักธนูและเมื่อต้องต่อสู้ระยะใกล้พวกเขาจะจะเสียเปรียบ ถ้าพวกเขาถูกกำจัดแล้วละก็ พวกคนคุ้มกันก็ไม่มีความหมายอะไร นี่มันไม่ดีเลย

ดังนั้น ‘ซุยเมย์’ จึงเตรียมตัวจะร่ายเวทของเขา แต่…

“ถ้าอย่างนั้น….”

น้ำเสียงเยือกเย็นก็หลุดออกมาจากปากของ ‘เลฟิลเลีย’  จากคำพูดของเธอทำให้มีบางสิ่งเกิดขึ้น

“ห๊ะ?”

เธอทำอะไร? ตัวของ ‘เลฟิลเลีย’ เริ่มส่องสีแดงกระพริบเหมือนกับเปลวเพลิง สดใส ราวกับจะกวาดความมืดมิดให้จากหายไป มันคือสิ่งที่ทุกคนรู้จักกันในนาม ออร่า พลังมหาศาลซึ่งต่างจากมานาพุ่ยพุ่งออมากราวกับเขื่อนแตก ท่วมท้นร่างกายและดาบของเธอ เหมือนกับเธอกำลังเปล่งแสง

“อ๊า!!!!!!”

‘เลฟิลเลีย’ วาดดาบราวกับจะฉีกทึ้งถึงสวรรค์ ไม่ว่าดาบของเธอจะกวาดไปทางไหนศัตรูที่อยู่ทางนั้นก็จะมอดไหม้หายไปทันที ทุกครั้งที่เธอเหวี่ยงดาบแสงที่เปล่งออกมาก็จะตัดปีศาจออกเป็นสองท่อน ไม่แม้แต่จะหยุดพักหายใจ เธอเหวี่ยงดาบเข้าใส่ปีศาจที่อยู่รอบๆราวกับพายุ ไม่มีทางที่จะหนีไปได้ ปีศาจมากมายกลายเป็นซากศพ

“อ๊ะ…..?”

‘ซุยเมย์’ พึมพำอย่างตกตะลึง คำว่า ฆ่าอยู่ฝ่ายเดียว พุ่งผ่านเข้ามาในใจของเขา ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ตระหนักถึงความจริง ว่าทำไมถึงเกิดแสงสีแดงพวกนี้ขึ้น

“เดี๋ยวก่อนสิ…….”

จากที่เขารู้แสงพวกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากโลกทางเนื้อหนัง ปกติแล้วนอกจากมีปัจจัยภายนอกบางอย่างรบกวน มันไม่มีทางปรากฏออกมาได้ ต่างจาก ‘ซุยเมย์’ พวกเขาไม่มีใครเลยที่เข้าใจถึงสิ่งที่ ‘เลฟิลเลีย’ ทำ พวกเขาจึงพูดคุยกันอย่างมีความสุข

“สุดยอด!”

“นี่ นายเห็นนั่นมั้ย!  ‘เลฟิลเลียซัง’ กำลังใช้เทคนิคเดียวกับตอนที่กำจัดครึ่งยักษ์ล่ะ”

“…….?เลฟิลเลียเคยใช้เทคนิคนี้มาก่อนเหรอ”

“เอ๋? ใช่ เธอเคยใช้….มีอะไรเหรอ?”

นักผจญภัยตอบคำถามอย่างแปลกใจ  ‘ซุยเมย์’ ขมวดคิ้ว บางที่อาจจะเป็นเพราะสิ่งอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้เขารู้สึกถึงอะไรบางอย่าง …… มอนสเตอร์กึ่งยักษ์ที่ถูกพูดถึงก่อนหน้านี้ ไม่แปลกที่มันแพ้พลังนี้ ด้วยพลังนี้เธอสามารถฆ่าทุกสิ่งได้อย่างง่ายดาย เช่นเดียวกับที่เธอทำอยู่ในตอนนี้

“……มีอะไรรึป่าว?”

“ไม่ ไม่มีอะไร”

มันก็แค่ว่า ร่างกายและสมองของเขากำลังจมอยู่ในความรู้สึกประหลาดใจ แต่มันก็ไม่ใช่อะไรที่ต้องกังวล จากมุมมองของเขา  ‘ซุยเมย์’ เหมือนจะจมลงไปในโลกส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว เขาจึงหับไปพูดกับเพื่อนๆ

“นี่ เลิกเล่นได้แล้ว ไปช่วยเธอกัน”

“ได้เลย”

เสียงตอบรับไม่ได้มาจากบรรดาพรรคพวกของเขาเท่านั้น แต่มาจากนักผจญภัยคนอื่นๆด้วยเช่นกัน ในตอนนี้ร่างของเลฟิลเลียยังคงอาบไปด้วยแสงสีแดงพร้อมกับฟาดฟันปีศาจด้วยดาบของเธอ

“……..”

ตรงกันข้ามกับซุยเมย์ที่ถูกแช่แข็งอยู่กับที่ แม้ว่า ‘เลฟิลเลีย’ จะขอร้องให้เขาช่วยในตอนที่เธอต้องการ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่จำเป็น ทำไมนะเหรอ

คำตอบก็คือแสงสีแดงที่ห่อหุ้มร่างของเธอในตอนนี้ ในโลกของเขามันถูกเรียกว่า จิตวิญญาณหรือ พลังแห่งจิต ซึ่งแตกต่างจากมานาพลังชนิดนี้พบได้จากสิ่งมีชีวิตประเภทจิตวิญญาณ อย่างนางฟ้า หรือปีศาจ พลังที่ไกลเกินเอื้อมถึงของมนุษย์ พลังที่มาจากมิติที่สูงกว่า

พูดไปแล้วมันอาจจะชวนสับสนอยู่สักหน่อย สูง ที่ว่านี้ไม่ได้หมายถึงแข็งแกร่ง แต่หมายถึงว่ามันสามารถป้องกันการแทรกแซงจากพลังอื่นได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันไม่แข็งแกร่งหรอกนะ อธิบายง่ายๆก็คือมันไม่สามารถดำรงอยู่ที่ในสิ่งมีชีวิตที่มีกายหยาบ ไม่ใช่แค่ไม่เหมาะสมแต่มันผิด พลังนี้มันเป็นสิ่งที่โกงพอๆกับการดำรงอยู่ของมันเลย แตกต่างจากเวทมนตร์ที่ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของผู้ใช้งาน แต่พลังที่ว่านี้มันเหนือชั้นยิ่งกว่านั้นมากมายนัก

“จิตวิญญาณ”

คือพื้นฐานของพลังสิ่งมีชีวิตชั้นสูง ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ แปรสภาพจิตวิญญาณงั้นเหรอ? ไม่สิ เลฟิลเลียเป็นมนุษย์…..ไม่นะ เดี๋ยวก่อน นั่นมันไม่ถูก….มีจิตวิญญาณที่สามารถอาศัยอยู่ในกายหยาบได้ตลอกเวลางั้นเหรอ…?

จากที่เห็น สิ่งที่เธอใช้ไม่ใช่การหยิบยืมพลังจิตวิญญาณ ไม่แน่ว่าเธออาจจะเป็นเจ้าของพลังนั้นเอง นี่คือสิ่งที่ ‘ซุยเมย์’ ประหลาดใจเกินกว่าจะเชื่อ จากความรู้ในโลกเดิมของเขา จิตวิญญาณจะอาศัยอยู่ในสิ่งที่อยู่ในโลกนั้น มันเป็นไปไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่พบเห็นในโลกของเขา ทั้งในตำนานและบันทึกโบราณ ในยุคใหม่ การดำรงอยู่ของ ปีศาจ เทวดา และวิญญาณ (ซึ่งเรียกรวมกันว่าเป็นจิตวิญญาณ) รวมทั้งเทพที่ดีและไม่ดี ถูกควบคุมด้วยการขยายตัวทางวิทยาศาสตร์ สิ่งเหนือธรรมชาติเหล่านี้ก็หายไปหมด คงเหลือไว้เพียง มนุษย์ที่มีอำนาจ

ซึ่งเป็นสิ่งที่คล้ายๆกันอยู่ในโลกของเขา หากต้องการใช้พลังพวกเขาก็จำเป็นต้องสร้างสัญญาณบางอย่างก่อนจึงจะสามารถดึงพลังออกมาใช้ได้ แต่ก็เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น จากที่เห็นเลฟิลเลียใช้พลังได้ทั้งหมด

โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆเลย บางที่เลฟิลเลียอาจจะเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งจิตวิญญาณ ที่สามารถใช้พลังจิตวิญาณได้และมีรูปกายแบบมนุษย์ซึ่งเป็นกรณีที่หายากมาก ……ยังไงก็ตาม มันก็เป็นแค่เพียงการคาดเดา มันอาจจะเป็นไปได้…..ยังไงซะ นี่มันก็คือโลกแฟนตาซี แต่ว่า…..

“ไม่ว่าจะมองยังไง เธอก็ยังโกงอยู่ดี”

ความแปลกใจนี้เกิดกว่าขอบเขตที่จิตใจของเขาจะรับไหว เป้าหมายของเขาคือการเข้าถึงทุกความลับบนโลกใบนี้  สิ่งที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นข้อพิสูจน์ว่ามีคนที่เขาไม่อาจเหนือกว่าได้อยู่

“แค่นี้เองเหรอ”

เลฟิลเลียคำราม เธอกำจัดปีศาจไปมากกว่าครึ่งแล้ว ครั้งนี้เธอต้องการกำจัดพวกมันภายในครั้งเดียว ปีศาจบางตัวมองเห็นความกระหายเลือดนั้นเริ่มลังเล

“เยี่ยม  ‘เลฟิลเลียซัง’  แสดงให้พวกมันเห็นถึงความแข็งแกร่ง ฆ่าพวกมันให้หมดเลย!!”

คนคุ้มกับตะโกนอย่างมีความสุข สำหรับพวกเขาแล้ว ชัยชนะดูเหมือนจะอยู่แค่เอือม ตอนนั้นเอง….

“ดะ เดี๋ยวก่อน มีอะไรบางอย่างกำลังมุ่นหน้ามาทางนี้ อะไรบางอย่างที่ทรงพลังมาก”

ท่ามกลางฝูงชนที่กำลังร้องตะโกน นักเวทสาวร้องเตือนออกมา

“อะไรกันเนี่ย! ทุกคนระวังตัวด้วย! มีพลังมหาศาลบางอย่างกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้”

ในป่าลึกด้านหลังของปีศาจมีเสียงระเบิดดังขั้น เหมือนสิ่งมีชีวิตขนาดให้ที่พร้อมจะทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้ากำลังมา แย่ล่ะ มานาที่แผ่ออกมานี่แตกต่างจากปีศาจพวกนี้ลิบลับเลย ทุกอย่างเกือบจะเรียบร้อยอยู่แล้วเชียว…… บ้าเอ้ย!!!

‘ซุยเมย์’ สาปแช่งอยู่ในใจ ขณะที่มองไปยังป่าทึบ  ‘เลฟิลเลีย’ ซึ่งเต็มไปด้วยออร่าก็หันกลับมา

“ทุกคน รีบถอยไป! มันมาแล้ว!”

ราวกับจะเหยียบย่ำความหวังทั้งหมดของพวกเขา เจ้าของพลังมหาศาลนั่น ทำลายต้นไม้ที่กีดขวางทางต้นสุดท้าย ก่อนจะปรากฏขึ้นมากลางสมรภูมิ ปีศาจนั่นเองที่ปรากฏตัวขึ้นมา เสียงคำรามของมันทำให้พื้นดินถึงกับสั่นสะเทือน

 

 

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments