I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Isekai Mahou wa Okureteru! ตอนที่ 24 ขุนพลปีศาจ(1)

| Isekai Mahou wa Okureteru! | 1213 | 2366 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

เสียงกระแทกพื้นเหมือนสายฟ้าฟาด มันไม่ได้แค่ลงมายืนบนพื้นดินเท่านั้น หากแต่ทำให้บริเวณใกล้เคียงพินาศย่อยยับไปด้วย ปีศาจตนนั้นค่อยๆลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ ปรากฏว่ามันมีความสูงมากกว่าสองเมตรเสียอีก แขนและขาก็หน้าซะยิ่งกว่าโคนไม้ เพียงแค่เห็นก็รู้แล้วว่าต้องไม่อ่อนแอแน่

ทำให้ ‘ซุยเมย์’ ผู้เป็นคนจากโลกอื่นนึกถึงยักษ์ตามตำนานของญี่ปุ่น หรือไททันตามตำนานตะวันตก มันแผ่บรรยากาศของความชั่วร้ายออกมาอย่างเต็มเปี่ยม ความรู้สึกแห่งอันตรายอบอวลไปทั่ว ความกลัวแทรกซึมเข้าสู่จิตใจของมนุษย์ทุกคน นี่สินะ ปีศาจ แม้ว่าจะอยู่ในรูปลักษณ์ของมนุษย์ แต่งกายคล้ายกับมนุษย์ แต่ก็ยังเห็นความแตกต่างอยู่ดี

“…….โฮ่ ดูเหมือนข้าจะเจอสิ่งที่ตามหาแล้ว”

พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งที่ปีศาจตนนี้พูด คำพูดของเขาไม่มีปัจจัยมากพอที่จะให้คาดเดา การมาอย่างกะทันหันของปีศาจ และความรู้สึกกดดันจากมัน ทำให้เหล่านักผจญภัยจมอยู่ในความหวาดกลัว

“……….ไอ้เจ้านั่น แข็งแกร่งกว่าตัวอื่นๆอีก”

“แรงกดดันขนาดนี้ ตัวอื่นเทียบไม่ติดเลย……”

พวกเขาสูญเสียความสงบไปทันที แต่ก็ตำหนิพวกเขาไม่ได้หรอก แม้ว่าจะเคยต่อสู้กับปีศาจมาแล้ว แต่คู่ต่อสู้ระดับนี้ มันก็ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะรู้สึกท้อแท้ แต่ว่า…..

……..ตัวนี้อยู่ในระดับที่แตกต่างจากปีศาจทั้งหมด ตอนนี้ ‘ซุยเมย์’ เริ่มจะรู้สึกท้อแท้ใจขึ้นมาจริงๆแล้ว หลังจากที่เห็นความแข็งแกร่งของผู้มาใหม่นี้ แม้แต่เขายังรู้สึกไม่ค่อยสบายนักเมื่อเห็นความสามารถของศัตรู แม้ว่าเขาจะพยายามบอกให้ตัวเองใจเย็นๆ มันก็ยังยากที่จะควบคุมความหงุดหงิดของเขาไว้ได้

“เจ้าพวกหนอนแมลง……มีฝีมือแค่นี้เองเรอะ”

ปีศาจกำลังเยาะเย้ยมนุษย์ต่อหน้าเขา สายตาของมันก็กวาดมองไปทั่ว เหมือนกับสัตว์ร้ายที่จ้องมองเหยื่อของมัน

“……นี่มันต่างจากที่ข้าได้ยินมา อย่าบอกนะว่าข้อมูลที่ได้รับมามันผิด….?หรือมันจะเป็นแค่การเข้าใจผิด? ”

เสียงปีศาจเห็นได้ชัดว่ากำลังสับสน ปีศาจสูดลมหายใจลึกเพื่อขจัดความกังวล จากนั้น

“ยังไงก็ตามสิ่งที่ข้าจะต้องทำก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง  ฟังนะ มนุษย์ ชื่อของข้าคือ ขุนพลปีศาจราจัส หนึ่งในผู้บัญชาการกองทัพอันรุ่งโรจน์ของราชาปีศาจนัคชาตรา เมื่อพบข้าที่นี่หมายความว่าวันและคืนของเจ้าได้มาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว! จงเตรียมตัวตายกันได้เลย”

เพียงแค่เสียงของมันทำให้อากาศและพื้นดินถึงกับสั่นไหว คนคุ้มกันที่ตัวสั่นอยู่แล้วยิ่งหวาดกลัวยิ่งขึ้นไปอีก

“นะ..นี่มัน….”

เสียงคร่ำครวญดังออกมาจากริมฝีปากของใครบางคน คนอื่นๆก็เช่นกัน  นี่คือช่วงเวลาที่สิ้นหวังที่สุดของพวกเขา

“……..”

ตรงกันข้ามกับ ‘เลฟิลเลีย’ ที่ยังคงยืนขวากระหว่าปีศาจและมนุษย์โดยที่ไม่ขยับออกไปไหน หรือว่าเธอสามารถต่อต้านแรงกดดันจากปีศาจได้กัน? แววตาของหญิงสาวแสดงออกถึงความวิตกกังวลคนละอย่างกับคนอื่นๆ แค่ตอนนี้เท่านั้น  ‘เลฟิลเลีย’ ระเบิดอารมณ์ออกมา

“แก ไอ้เลววววววว”

แผ่นดินสั่นสะเทือนซะยิ่งกว่าเสียงกู้ร้องของ ‘ราจัส’  เสียงคำรามที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว  ‘เลฟิลเลีย’ เปล่งแสงสีแดงอีกครั้งก่อนจะจู่โจม

“โอ้”

ต้องหน้าพายุดาบสีแดงฉาน  ‘ราจัส’ เผยรอยยิ้มไม่หวาดหวั่น ก่อนจะเหวี่ยงหมัดออกมาเพื่อรับการโจมตี แม้ว่า ‘เลฟิลเลีย’ จะใช้พลังออร่าสีแดง แต่เธอก็ไม่สามารถเข้าถึงตัวราจัสได้ เมื่อสองพลังอันแข็งแกร่งมาปะทะกัน ก็เกิดระเบิดขึ้น ใบดาบขนาดใหญ่ของเธอถูกหยุดด้วยพลังจากหมัดของ ‘ราจัส’

ท้ายที่สุดแล้วมันก็ไม่อาจเขาถึงตัวของขุนพลปีศาจได้ แม้ว่าจะโจมตีเข้าไปอย่างเต็มกำลัง ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้ ปีศาจกล่าวเชิงเยาะเย้ย

“ไม่เลวนี่สาวน้อย”

“แน่นอน แกจำดาบเล่มนี้ได้รึเปล่าล่ะ”

“หืม? ดาบของเจ้างั้นเหรอ”

“ชิ  ‘ราจัส’  อย่าบอกนะว่าแกลืมฉันไปแล้ว”

แต่ต่างจากตัวเธอก่อนหน้านี้ ความโกรธไหลบ่าออกมาราวกับเขื่อนแตก จากที่เธอพูด ดูเหมือน ‘ราจัส’ จะเกี่ยวข้องกับเธอในอดีต ขุนพลปีศาจเหวี่ยงแขนเข้ามาที่ดาบของเธอ  ‘เลฟิลเลีย’ ขยับต้องท่าอย่างมั่นคง  ‘ราจัส’ หรี่ตามองอีกครั้งก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมา

“ฮ่าๆๆๆๆ! ข้านึกออกแล้วสาวน้อย เจ้าคือผู้รอดชีวิตจากนอเซียสตอนนั้นใช่มั้ย?”

“เอ๋….?”

ทั้งสองคนรอดจากการโจมตีอย่างหวุดหวิด และหนึ่งในนั้นคือคนที่โจมตีพลาดร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ ช่วงเวลาก่อนที่ผลกระทบจะมาถึง  ‘ซุยเมย์’ ได้พุ่งตัวออกมา เพราะเวทมนตร์ของเขาได้ถูกบัญญัติขึ้นอย่างเร่งด่วน เขาจึงไม่สามารถสร้างระยะห่างระหว่าเธอและราจัสได้มากนัก

นั่นก็หมายความว่า ‘เลฟิลเลีย’ ยังอยู่ในระยะโจมตีของ ‘ราจัส’ อยู่ ดังนั้นเขาจึงกระโดดเข้าไปขวางหน้าและใช้ร่างกายของเขาในการรับการโจมตี

“ ‘ซุยเมย์คุง’ !คุณรับการโจมตีไม่ได้นะ!รีบถอยไปเร็วเข้า!”

“ไม่มีใครทำอะไรผมได้หรอกนะ”

คลื่นพลังที่สร้างโดยราจัสพุ่งเข้าไปในร่างกายของ ‘ซุยเมย์’  ซุยเมย์ทนแรงกดดันนั้นก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปหาขุนพลปีศาจอย่างเต็มกำลัง ในขณะเดียวกันสายตาของเขาไม่เคยละออกจากหมัดของคู่ต่อสู้ ไหล่ของ ‘ราจัส’ เคลื่อนและปล่อยพลังทำลายมาที่เขาอีกครั้ง

ถ้าฉันสามารถทำแบบเมื้อกี้ได้ ฉันก็มีโอกาสที่จะกำจัดมันได้ ไม่ มันอันตรายเกินไปพลังงานมหาศาลจากหมัดนั่นถ้าหากรับติดต่อกันอาจจะเกิดผลร้ายได้

อืม นั่นดูเหมือนจะเป็นความคิดที่แย่จริงๆ  ‘ซุยเมย์’ กระโดดหลบการโจมตีที่พุ่งเข้ามา และวิ่งไปตามแขนของ ‘ราจัส’ โดยที่ความเร็วไม่ตกลงมาแม้แต่น้อย เมื่อแขนเหยียดออกเต็มที่เขาก็มาถึงเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว

“ฟู่…”

‘ซุยเมย์’ ปล่อยลูกถีบที่เขาใช้เวลารวบรวมมานาเพียงชั่วอึดใจไปที่ไหล่ของขุนพลปีศาจ จากความรู้สึกที่เท้าของเขา มันเป็นแรงไม่ใช่น้อยๆ แต่ ‘ราจัส’ ก็ยังคงปลอดภัยดี แต่ ‘ซุยเมย์’ เองก็ประสบผลสำเร็จเพราะตอนนี้ขาของ ‘ราจัส’ ฝังลงไปในดิน

แย่ละ มันแข็งแรงเกินไป ตีเฉยๆดูเหมือนจะไม่พอ ดาบของนักผจญภัยยังมีผลกับปีศาจมากกว่าอีก แต่นี่คือสิ่งที่เขาทำได้ น่าลำคาญจริงๆ เขายังขาดอะไรอยู่ ปกติแล้วการโจมตีขนาดนี้น่าจะทำให้ไหล่หักแล้วนะ มีบางอย่างแปลกๆ ในขณะที่ใช้ความคิดอยู่กลางอากาศ ร่างกายเขาก็เกิดสั่นไหว

“ไอ้เวรเอ้ย…”

เสียงคำรามของ ‘ราจัส’ มาพร้อมกับหมัดขนาดใหญ่ แม้พลังของมันจะไม่สมบูรณ์นัก มันก็ยังมากพอที่จะฆ่าเขาได้ถึงห้าครั้ง  ‘เลฟิลเลีย’ เผชิญกับพลังนี้โดยตรง มันทำให้เขารู้สึกกลัว

“วีอา กราวีตัส” (วิถีโน้มถ่วง เพิ่มระดับ)

วีถีโน้มถ่วงถูกใช้ออกมาเพื่อเผชิญหน้ากับการโจมตี เขาใช้เวทมนตร์เพื่อให่ร่างกายร่วงหล่นสู่พื้นเร็วยิ่งขึ้น เขารีบเตะไปที่ข้อพับเข่าของ ‘ราจัส’ ทันที

“-!?”

ในชั่วพริบตา ‘ซุยเมย์’ ก็ไปยืนอยู่ด้านหลังขุนพลปีศาจ เมื่อเห็นศัตรูคู่แค้นสามารถหลบการโจมตีได้ สีหน้า ‘ราจัส’ เต็มไปด้วยความตกใจ ในชั่วอึกใจต่อมา ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ได้รับผลจากการโจมตีก็ระเบิดออก

ฉันหวังว่าเขาจะควบคุมพลังของเขาสักหน่อย  ‘ซุยเมย์’ ถอนหายใจขณะที่ราจัสหันไปมองรอบๆ ด้วยการเว้นระยะห่างระหว่างพวกเขา  ‘ซุยเมย์’ สังเกตคู่ต่อสู้อย่างละเอียด เขาหรี่ตามองจากด้านหลังของขุนพลปีศาจ ร่างกายที่คล้ายกับมนุษย์ ความแข็งแกร่งที่อยู่ในระดับอันตราย ระดับมานาที่แตกต่างจากปีศาจตนอื่น และพลังงานที่ชั่วร้ายไหลเวียนอยู่รอบๆตัว พลังงานชั่วร้ายที่ไหลออกมาจากร่างกายนี่ไม่ใช่ของที่สิ่งมีชีวิตทั่วไปควรจะมี

ในที่สุด ‘ราจัส’ ก็หันไปมองรอบๆและค้นพบตัว ‘ซุยเมย์’ ในที่สุด

“ชิ”

‘ราจัส’ พึมพำโดยไม่รู้ตัว มันรู้สึกราวกับเป็นของเล่นที่ ‘ซุยเมย์’ เล่นได้ตามใจชอบ อีกครั้งที่แขนขนาดใหญ่นั่นพุ่งตรงมาหาเขา

“-โอมิสซา วีชิสซิม”(สวรรค์และปฐพีพลิกผัน)

“อะไร!?”

เวทมนตร์พลิกผัน เป้าหมายของเขากลับหัวทิ่มลงไปในดิน แน่นอนว่ามันไม่ทำให้มีความเสียหายใดๆเกิดขึ้น เขาเพียงต้องการถ่วงเวลา เพื่อร่ายเวทต่อไปเท่านั้น เขากระโดดไปข้างหลังและตะโกนขึ้น

“อา-อาบราค!”

เวทมนตร์ของเขาถูกขัดจังหวะ นั่นเป็นเพราะก้อนหินและดินที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเขา

“ก้อนดิน มัน……”

เขาพึมพำโดยไม่รู้ตัว น้ำเสียงเฉยเมยของเขาสั่นเล็กน้อย เขาโบกมือออกไป ชั่วพริบตานั้น หินก้อนใหญ่ก็ถูกผ่าออกเป็นสองซีกเหมือนกับที่โมเสสแหวกทะเลแดง หลังจากนั้นเศษเสี้ยวพลังแห่งความมืดก็เข้ามาล้อมเขาไว้

………หายใจไม่ออก ความจริงแล้ว ความชั่วร้าย มันจะเป็นคำอธิบายที่ถูกต้องมากกว่าสำหรับพลังพวกนี้ มันเป็นพลังที่ทำให้สัญชาตญาณของมนุษย์เกิดความขยะแขยง มันเป็นพลังที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเวทมนตร์ที่เขาเพิ่งใช้แน่นอน

……อีกครั้งที่ทั้งคู่เผชิญหน้ากัน แขนด้านหนึ่งของเขาล้วงลงไปในกระเป๋าเพื่อหยิบของบางอย่าง คนอื่นๆยังตกตะลึงกับความเยือกเย็นของชายหนุ่ม คงไม่มีใครทำได้ขนาดนี้ เขาปัดสิ่งสกปรกออกจากตัว ขณะที่ราจัสพูดขึ้น

“ไม่เลวนี่นา แม้ว่าเจ้าจะเป็นนักเวท แต่ก็มีความสามารถน่าดู”

“ขอบใจ”

“แต่มันไม่ได้ผลหรอกนะ”

“แฉลบไปเหรอ? จากที่ฉันยืนอยู่นี่ ฉันเพิ่งเหวี่ยงอากาศออกไปเองนะ คิดว่ายังไงล่ะ”

“หุบปากซะ ยังไงเจ้าก็ไม่มีทางทำอะไรข้าได้หรอก ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าจะไม่พยายามทำอะไรที่ไร้ประโยชน์นะ”

เขาหัวเราะ นี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่จะทำอะไรเขาได้  ‘เลฟิลเลีย’ ได้กลับมายืนพร้อมรบด้านข้างเขา

“ซุยเมย์คุง! ระวังตัวด้วย หมอนี่ไม่ได้มีฝีมือแค่นี้หรอกนะ”

“……..ล้อเล่นใช่มั้ย?นี่เขายังไม่ได้เอาจริงเหรอ โอ้ ให้ตายสิ………..”

‘ซุยเมย์’ พึมพำน้ำเสียงเศร้าสร้อย โดยไม่ได้สนใจว่าความเห็นของเขาจะเหมาะสมกับสถานการณ์หรือไม่ ตอนนี้เขาเริ่มจะรู้สึกหดหู่แล้ว  ‘เลฟิลเลีย’ บอกว่าราจัสยังไม่ได้ใช้พลังที่แท้จริงของเขาเลย เป็นไปได้ว่าเขาจะยังใช้พลังไปไม่ถึง 50%

“ถ้าเขาใช้ออกมาละก็ พื้นที่ทั้งหมดนี่…..”

“หมอนั่นอันตรายมากเหรอ?”

“ใช่ค่ะ แม้แต่ดาบของฉันยังไม่ระคายผิวเขาเลย คุณไม่ควรประมาทนะคะ”

ดูจากข้อนิ้วขาวซีดของเธอที่จับปลอกดาบ ดูเหมือนเธอจะมีความทรงจำที่เลวร้ายบางอย่าง จริงๆแล้วมันก็ควรเป็นแบบนั้นแหละ ไม่มีทางที่เธอจะไม่มีความทรงจำแบบนั้นไปได้หรอก

“ฮ่าๆๆๆ ความจริงเจ้าอาจจะเป็นมนุษย์ที่พิเศษ แต่อย่าได้หลงตัวเองเกินไปนัก”

“…..”

‘เลฟิลเลีย’ ครางอย่างเจ็บปวด ในแววตาของเธอมีร่องรอยแห่งความกลัวปรากฏอยู่ ……..ถ้าศัตรูของเขามีพลังขนาดนี้ เขาก็ไม่สามารถปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปได้ ไม่งั้นมันอาจจะสายเกินแก้ ดังนั้น

“อาร์กาติอุส โอเวอร์-”(เตาปฏิกรณ์ฟิวชั่น เปิด)

เมื่อ ‘ซุยเมย์’ เริ่มร่ายเวท สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป  ‘ราจัส’ ที่เขากำลังจะโจมตี มองไปที่ ‘เลฟิลเลีย’ และหัวเราะ

“คุกๆๆๆๆ…….”

“หัวเราะอะไร!?”

“อ่อ ไม่มีอะไรหรอก ข้าแค่นึกเรื่องสนุกขึ้นมาได้”

“เรื่องสนุก?”

‘ราจัส’ ไม่ตอบ เขาบินขึ้นไปบนฟ้า

“ครั้งนี้ข้าจะถอยไปก่อน”

“ฮ่ะ!?”

“อย่าลืมไปซะละ แม่สาวน้อยจากนอเซียสพลังแค่ไหนก็ไร้ความหมาย เมื่อข้ารวบรวมผู้ใต้บังคับบัญชาในพื้นที่นี้ได้ครบ ข้าจะกลับมาอีก”

“ผู้ใต้บังคับบัญชา…..? นั่น…..”

“อย่าลืมซะว่านี่เป็นแค่พลังเล็กๆน้อยๆของข้าเท่านั้น”

‘ราจัส’ กล่าวกับ ‘เลฟิลเลีย’ ซึ่งตอนนี้พูดไม่ออก

“ไม่ต้องห่วฃ เมื่อข้าไปรวมกับทัพใหญ่และได้รับคำสั่งมาเมื่อไหร่ ข้าจะบดขยี้มนุษย์ทุกคนให้ไม่เหลือแม้แต่เศษซากเลย”

จากนั้นราจัสก็บินออกไปพร้อมกับปีศาจที่รอดตายตนอื่นๆ  ‘เลฟิลเลีย’ ทำท่าเหมือนจะตามไป เมื่อเธอเริ่มวิ่งออกไป

“ดะ เดี๋ยว!”

“เลฟิลเลีย!”

“-?”

‘ซุยเมย์’ จับไหล่ของเธอไว้ ทำให้เธอไม่สามารถไปไหนได้ เธอหันกลับมามองว่าทำไมเขาถึงหยุดเธอไว้ เขาส่ายหน้า และดูเหมือนว่าหญิงสาวจะเข้าใจ เธอจริงพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเอง

“เป็นอะไรรึเปล่า?”

‘ซุยเมย์’ ถามด้วยความห่วงใย

“ขอโทษค่ะ…..ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆ”

เธอตอบอย่างเศร้าสร้อย

ปล.ทีนี้ก็ไม่ค้างแล้วน้อ ราตรีสวัสดิ์ขอรับทุกคน

 

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments