ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปกลางคืน แสงสลัวของดวงจันทร์และดวงดาวทอดลงบนส่วนที่เงียบสงบที่สุดของเมืองหลวงในจักรวรรดิที่พื้นปูด้วยหินที่ดูแข็งแรงและผนังอิฐสีแดงก็ดูสวยงาม ส่วนบนของสถานที่นั้นถูกแสงจันส่องสว่างเป็นสีซีดจาด
ความมืดที่ทาบทับบนผนังก็ทำให้มันเป็นสีแดงก่ำราวกับสีของเลือด แต่ละอาคารมีขนาดใหญ่และถูกสร้างไว้ใกล้กัน ก็ไม่อาจปกปิดความจริงที่ว่าพวกมันถูกทิ้งร้างมานานแล้ว
มันแตกต่างจากบ้านของประชาชนธรรมดาที่ถูกสร้างด้วยไม้หรือหิน มีชายคนหนึ่งกำลังวิ่งไล่ตามเงาสองเงามาตามทาง
“ไอ้พวกสารเลว! แกคิดว่าจะได้รับมันหลังจากทำกับฉันแบบนี้งั้นเหรอ?”
ฟองน้ำลายฟอดออกมากจากปากของเขา ชายคนนี้ตะโกนหลังจากที่พวกอันธพาล สวมเสื้อที่ผลิตโดยช่างตัดเสื้อที่รู้จักกันดีแม้กระทั้งในเมืองหลวงแล้ววิ่งหนีออกมา
แต่ในตอนนี้ท่าทางของเขากลับไม่ใช่อย่างนั้น ขณะที่เขาร้องตะโกน ทหารคนหนึ่งที่วิ่งอยู่ด้านหลังของเขาก็ทรุดลงไป นั่นก็เป็นที่คาดหวัง
ที่อยู่เบื้องหลังคนอารมณ์ร้อนที่ถูกตะโกนยามของเขาถูกบรรจุอยู่ด้านบนของเส้นทางอิฐฝังร่างของเขาขณะที่พวกเขาทรุดตัวลงกว่าอีกคนหนึ่ง
“ห่ะ…ใครนะ! ใคร! ช่วยด้วย…..”
เสียงชายที่เย่อหยิ่งคนนั้นตะโกน แต่ไม่มีใครตอบกลับมา มีเพียงเสียงเย็นชาจากหนึ่งในสองคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าเขาเท่านั้น ก่อนที่จะได้พูดอะไร ชานร่างสูงในชุดสีดำก็ปฏิเสธการขอความช่วยเหลือของเขา
“ไม่มีใครมาหรอก ไม่ว่าแกจะตะโกนดังแค่ไหน ก็ไม่มีใครมาช่วยหรอก”
“ไม่ เป็นไปไม่ได้….ทั้งทั้งที่เราวิ่งผ่านกลางเมืองหลวงมาแท้ๆทำไมถึงไม่มีใครมองเห็น”
คำพูดที่ฟังดูอันตรายนั้นทำให้เขาตื่นตระหนก ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าคำพูดของชายชุดดำจะไม่มีทางเป็นจริงไปได้ แต่เขาก็ยังคงรู้สึกไม่ดี และคนพูดของชายชุดดำที่ว่าก็เป็นจริง ไม่ว่าเขาจะร้องตะโกนสักแค่ไหนทั้งทหาร ยามประจำเมือง หรือแม้แต่ประชาชนที่อาศัยอยู่ที่นี่ก็ไม่มีใครได้ยินเขา
เหมือนกับเขาถูกแยกออกมาจากโลกปกติอย่างนั้นแหละ กับสถานการณ์ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้นี้ ชายคนนี้พูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
“ทำไม ทำไมถึงต้องทำแบบนี้ด้วย?”
“อืม ไม่จำเป็นต้องรู้หรอก”
คำพูดนี้ถูกเอ่ยออกมาจากคนชุดดำคนที่สอง
“ดะ-เดี๋ยวก่อน ฉันจะจ้างพวกแก ฉันจะจ่ายเงินให้เลยเนี่ย”
“….หือ?”
“ฉันมีคนที่อยากจะกำจัดอยู่ ฉันจะจ่ายให้ 100 เหรียญทองเลยนะ ไม่พอเหรอ? งั้นถ้าเพิ่มให้อีก 100 ล่ะ?????”
เพื่อประโยชน์ของเขาเอง เขาได้ยื่นข้อเสนอออกมา ร่างเล็กสั้นน้อยๆก่อนจะหัวเราะคิกคักออกมา ขณะที่ร่างสูงเป็นคนตอบออกมา
“100 เหรียญเหรอ อืม เยอะอยู่นะ”
“สำหรับพวกแกแล้วมันเป็นงานง่ายๆเลยนะ ขนาดคนคุ้มกันฉันพวกแกยังล้มได้ง่ายๆเลย”
“ก็พวกนั้นมันอ่อนแอนี่”
“ใช่ๆ ฉันเห็นด้วย ทั้งๆที่ฉันจ่ายเงินไปทั้งเยอะแท้ๆ แถมยังไม่มีประโยชน์อะไรในสถานการณ์แบบนี้อีก ตะ-แต่พวกแกแตกต่างนะ ขนาดอยู่ในเมืองหลวงแท้ๆยังทำให้ฉันจนมุมได้เลย”
ชายร่างสูงผิวปากขณะที่ฟังเรื่องราวเหล่านี้ เขาถามอีกครั้งเพื่อยืนยันข้อตกลง
“ว่ายังไง? มันไม่เลวนะ ไม่คิดแบบนั้นเหรอ?”
เขาคิดว่าพวกนั้นจะต้องตอบตกลงแน่ๆ รอยยิ้มน่าเกลียดปรากฏบนใบหน้าของเขา แต่เขาคิดผิด เงาเล็กๆนั้นค่อยๆเดินเข้ามาใกล้
“ทะ-ทำไมล่ะ 100 เหรียญทองนี่เยอะมากเลยนะ”
“มันก็จริง แต่ว่า…….”
เงาเล็กๆนั้นพูดเป็นครั้งแรก เสียงเหมือนกับเด็กนั้นไม่สามารถระบุเพศได้ สิ่งที่มันพูดทำให้เขากลืนน้ำลายอย่างหงุดหงิด
“…………..ทะ-ทำไมล่ะ?”
“ก็อย่างที่เธอพูด”
“…..?”
“มีคนที่เราต้องการกำจัด”
“อะ-อะไรกัน? อาจจะมีหนึ่งหรือสองคน แต่ใครกันที่ต้องการชีวิตของฉัน นี่ๆ แกจะไม่ทำร้ายฉันใช่มั้ย? ถ้าหากไม่พอใจแค่นั้นฉันเพิ่มให้อีกได้นะและ…”
สองคนนั้นไม่ได้สนใจฟังสิ่งที่เขากำลังพุด ร่างเล็กนั้นปล่อยกลิ่นอายแห่งความเกลียดชังออกมา ชายหนุ่มชะงักทันที
“………นี่ ฉันฆ่าเขาได้มั้ย”
“…….?! นี่ แกทำแบบนั้นไม่ได้นะ อยากบอกนะ ว่า…….”
“อยากทำก็ทำสิ”
ตรงข้ามกับที่เขาคิด เงาร่างสูงบอกกับเงาร่างเล็กให้เอาชีวิตเขา และร่างเล็กก็เริ่มท่องคาถา
“ความมืดเอ๋ย จงมอบความวิบัติแต่ชีวิตที่ไร้ค่า และกักขังคนโลภนี้ให้อยู่ใต้พันธนาการชั่วนิรันดร์ด้วยเถิด ออร์โก เลกูลา รากัว ซาคุต ลาบิลัล เพียบาลอน…….”
เวทมนตร์ที่ถูกร่ายออกมาจากปากขนาดเล็กนั้น หากใครมาได้ยินเข้าคงจะต้องรู้สึกกลัวเป็นแน่ แม้ว่ามันจะไม่เหมือนกับการร่ายเวทจริงๆ เหมือนกับคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน แต่มันก็ยังดูชั่วร้ายและน่าสะพรึงกลัว
“ขอความมืดโปรดลงโทษคนชั่วนี้ด้วย”
หลังจากคำพูดเหล่านั้นจบลง หลังจากคำพูดเหล่านั้นจบลง เงามืดที่เหมือนกับม่านขนาดเล็กนั้นก็เริ่มกระเพื่อม ภาพลึกลับปรากฏขึ้นท่ามกลางความมืด เวทมนตร์นั้นขยายอำนาจขึ้น และยื่นแขนเข้ามาทีละน้อย
จากนั้นร่างของคนทั้งสอง ดวงจันทร์และดวงดาว ทุกอย่างก็มลายหายไป
“หยุ——ดดดดดดดดดด!”
เสียงร้องอันน่าสงสารของชายคนนี้ถูกกลืนหายไปกับความมืด ไม่นานนัก ร่างของชายคนนี้ก็ถูกพ่นออกมากองบนทางเดิน หลังจากตรวจสอบจนแน่ใจแล้ว เงาร่างสูงก็กล่าวขึ้นเบาๆ
“ไปกันเถอะ”
“….อืม”
เงาทั้งสองจากไปในความมืด ทั่วทั้งบริเวณก็กลับคืนสู่ความเงียบอีกครั้ง สิ่งที่คงเหลืออยู่ที่นี่มีเพียงร่างมนุษย์คนหนึ่งและองครักษ์ของเขา แสงของดวงจันทร์และดวงดาวลอดผ่านช่องว่างนั้นเข้ามา สะท้อนให้เห็นใบหน้าของคนคนหนึ่ง
ปล.ตอนนี้ก็ทันอิ้งแล้วครับ อืม ไม่รู้จะพูดอะไรดี เพราะงั้นแล้วพบกันใหม่เน้อ
ที่มา: