I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Isekai Mahou wa Okureteru! ตอนที่ 45 ไปช่วยโลลิกันเถอะ

| Isekai Mahou wa Okureteru! | 1198 | 2361 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

หอสมุดนี่มันอยู่ที่ไหนกัน เมืองหลวงฟีรัส เฟเรียถูกสร้างขึ้นตามคำสั่งของจักรพรรดิเพื่อให้เป็นเมืองทางการทหาร กองทัพที่ประจำการอยู่ในเมืองแห่งนี้เป็นที่กล่าวขวัญและยำเกรงไปทุกประเทศ พูดได้เลยว่าแสนยานุภาพของกองทัพของเนลเฟเรียน ไม่มีประเทศไหนที่ไม่เกรงกลัว

นอกจากนั้นเมืองหลวงแห่งนี้ยังมีหอสมุดที่เก็บรวบรวมหนังสือทุกประเภทที่ถูกเขียนขึ้นมาในโลกนี้ไว้อีกด้วย  ‘ซุยเมย์’ ผู้ออกมาจากบ้านแต่เช้าเพื่อตามหาหอสมุดที่ว่านั้น หลังจากเดินไปจนทั่ว จนป่านนี้เขาก็ยังคงหามันไม่เจอ

“โอ้โห…..?”

และตอนนี้ ‘ซุยเมย์’เองก็เริ่มจะแยกทิศทางไม่ออกแล้ว ที่นี่ต่างจากเมเทอร์นัก ที่เมืองหลวงแห่งนั้นไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนก็จะสามารถมองเห็นปราสาทคัลเมเลียได้ แต่ที่ฟีรัส เฟเรีย นอกจากถนนสายหลักแล้วยังมีถนนสายรองแยกย่อยออกมาอีก ยิ่งเดินไปมากแค่ไหน ก็ยิ่งหลงทางไปมากเท่านั้น

เพราะแบบนั้นมันจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันหลังออกจากถนนที่เหมือนกับเขาวงกตนี้ เขาชะงักก่อนจะหันมองรอบๆตัว ไม่ว่าจะเป็นด้านซ้าย ขวา หน้า หลัง ล้วนแล้วแต่เป็นกำแพงสีแดงทั้งนั้น แล้วทีนี้จะวิเคราะห์ทางออกได้จากอะไร? หรือว่าเขาควรจะใช้เวทมนตร์เพื่อนำทางออกไปจากที่นี่ดี?

“อย่าเข้ามาใกล้นะ!”

เสียงน่ารักที่ฟังดูคุ้นหู จังหวะจะโคนที่ใช้เองก็ดูคุ้นเคย ดังมาจากทางด้านหลัง  ‘ซุยเมย์’ จึงอดที่จะหันไปมองไม่ได้ และที่อยู่ตรงนั้นก็คือเด็กสาวที่เขารู้จัก ผมสีม่วงแดง และชุดโกธิคโลลิต้าฉบับต่างโลกนั้น แน่นอนล่ะว่าเขาจำได้

เด็กสาวที่เขาเจอที่สถานีตรวจคนเข้าเมือง  ‘ลิเลียน่า แซนดาร์ค’  นั่นเอง แต่ว่าเธอไม่ได้อยู่เพียงลำพัง มีชายในชุดคลุมสีน้ำตาล และสีแดงยืนอยู่กับเธอด้วย เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่แค่การพูดคุยกันธรรมดา หนึ่งในชุดคลุมนั้นพูดจาข่มขู่ไปยัง ‘ลิเลียน่า’

“ก่อนหน้านี้ฉันคุยกับพ่อของเธอมาแล้ว เขาบอกว่าให้มาคุยกับเธอ”

“ไม่มีทางที่พันเอกจะพูดอะไรแบบนั้นออกมาหรอก”

“ยังไงก็ช่าง บอกมาเดี๋ยวนี้”

“เอาแต่ถามซ้ำไปซ้ำมาอยู่นั่นแหละ ก็บอกแล้วไง”

ชายคนนั้นถาม ‘ลิเลียน่า’ ด้วยน้ำเสียงสุภาพ แค่คนในชุดคลุมอีกคนส่งเสียงเร่งเร้า

“ตอบออกมาเร็วๆสิ!”

“ก็บอกแล้วไงว่า…..”

“ถ้าไม่อยากเจ็บตัว ก็รีบตอบออกมาซะ”

ชายในชุดคลุมสีแดงเปล่งพลังเวทออกมาเพื่อข่มขวัญ แต่เมื่อเห็นว่า ‘ลิเลียน่า’ ไม่แสดงท่าทางหวาดกลัว เขาก็หรี่ตาลง

“อยากจะขึ้นเป็นเป็นหนึ่งในจักรพรรดิเวทงั้นเหรอ? ก็รู้อยู่นี่ว่ามันเป็นไปไม่ได้”

“อาวุธมนุษย์ของจักรวรรดิ เมื่อฉันต้องการมัน! เธอต้องต้องทำมันให้ฉัน”

“ไม่มีทาง ถ้าอยากได้ก็ลองไปขอกับพันเอกดูสิ”

……..หลังจากที่เขายืนฟังอยู่นาน เท่าที่เห็นแล้วมันไม่ต่างกับผู้ใหญ่รังแกเด็กสักนิด พวกนั้นดูใจไม่ใส่ใจยศทหารของ ‘ลิเลียน่า’ เลย (แต่นั่นมัน……เด็กนะ) ในสถานการณ์แบบนี้ ถ้าไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยอะไรเลย เขาคงรู้สึกแย่แน่ๆ หลังจากที่คิดแบบนั้นแล้ว เขาจึงเดินเข้าไป

“โอ้ ทำอะไรกันอยู่เหรอ”

“อะไรของแก”

“คุณ……”

ทั้งสามหันมามองซุยเมย์ด้วยสายตาบิดเบี้ยว ส่วนเด็กสวมมองเขาด้วยความประหลาดใจ

“นี่ ฉันไม่คิดว่ากระรังแกเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งเป็นงานอดิเรกที่ดีหรอกนะ”

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแก”

“ช่ายๆ มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันหรอก”

“แล้วมายุ่งอะไรด้วย?”

“แต่ว่าพอดีเห็นฉากที่ผู้ใหญ่กำลังรังแกเด็กไง”

“หน่อย แกเห็นเสื้อคลุมนี่มัน ถ้าเข้าใจแล้วก็ไปไกลๆซะ”

“เสื้อคลุมอะไรเหรอ?”

ชายในชุดคลุมที่ไล่ ‘ซุยเมย์’ ให้ไปที่อื่น เมื่อได้ยินคำตอบของเขาสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

“บัดซบ ไม่รู้รึไงว่าที่คือเสื้อคลุมพิเศษที่มอบให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในสมาคม…..”

ขณะเดียวกัย ‘ลิเลียน่า’ ก็ถามขึ้น

“นี่ กำลังจะไปไหนเหรอ?”

“อ่อ กำลังหลงทางอยู่น่ะ”

“หลงทาง ไม่มีแผนที่เหรอ”

‘ลิเลียน่า’ พูดอย่างไม่อยากเชื่อ ให้ตายเถอะ รู้สึกไม่ชอบใจเลยจริงๆ หลังจากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงบูดบึ้ง

“คุณรู้เรื่องอะไรบ้างรึเปล่าเนี่ย”

“ไม่รู้อะไรเลย”

“พอเห็นฉันแล้วก็กะว่าจะเดินมาถามล่ะสิ”

“…….ก็คงจะเป็นแบบนั้นล่ะมั้ง”

อืม ดูเหมือนว่าเขาหนีไปไหนไม่ได้ซะแล้วสิ  ‘ลิเลียน่า แลบลิ้นออกมาอย่างกวนประสาท แม้เขาจะไม่เกี่ยวข้องก็ตาม ไม่ว่ายังไงก็คงหนีปัญหาไม่พ้นแล้ว

“อิอิ แค่นี้คุณก็หนีไปไหนไม่ได้แล้ว”

“แสบจริงๆนะ”

จากนั้นชายในชุดคลุมที่บอกว่าตอนเป็นคนสำคัญของสมาคมนั้นก็ร้องขึ้น ก่อนจะมองพวกเราด้วยสายตาไม่พอใจ อืม  ‘ลิเลียน่า’ นี่น่ากลัวจริงๆ

“……แต่ว่าโง่จริงๆ แทนที่จะมองดูอยู่เฉยๆดันสอดมือเข้ามายุ่งซะได้ นี่มันโง่จริงๆเลย”

“ครับๆ โง่ก็โง่ พบเจอสาวน้อยน่ารักกำลังถูกข่มขู่คุณจะไม่เข้ามาช่วยได้เหรอ?”

“จริงๆแล้วเราก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันสักหน่อย อีกอย่างฝ่ายตรงข้ามยังเป็นคนสำคัญของสมาคมด้วยนะ”

“เรื่องนั้นช่างมันเถอะน่า”

‘ซุยเมย์’ ปฏิเสธคำเตือนของ ‘ลิเลียน่า’

“มั่นใจจริงนะ”

ชายคนนั้นหัวเราะก่อนจะร่ายเวทขึ้นทันที ดูเหมือนว่าชายคนนี้จะไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะเวทมนตร์ที่เขาใช้นั้นเป็นบทย่อ

“เปลวไฟเอ๋ยจงลุกโชน”

หลังจากที่ร่ายเวทแค่นั้นเปลวไฟก็ปรากฏขึ้นบนมือของชายคนนั้น ก่อนที่เขาจะสะบัดมันเหมือนกับแส้ เข้าโจมตีที่ด้านซ้ายของ ‘ลิเลียน่า’  ซึ่งเป็นด้านที่ใส่ผ้าปิดตาอยู่ แต่ ‘ลิเลียน่า’ สามารถหลบมันได้ก่อนที่เปลวเพลิงนั้นจะกระทบตัว

ชายคนนั้นยังคงโจมตีเข้ามาซ้ำๆ ทั่วทั้งอากาศก็เต็มไปด้วยกลิ่นเผาไหม้ แม้ว่าจะหลบได้ แต่เสื้อผ้าของ ‘ลิเลียน่า’ บางส่วนก็ถูกไฟไหม้ไปแล้ว

“เป็นอาวุธมนุษย์ไม่ใช่รึไง ทำไมแค่นี้ถึงป้องกันไม่ได้ล่ะ ที่บอกว่ารอดจากนรกมาได้นะโกหกสินะ?”

“ถ้าอย่างนั้นจะบอกว่าที่รอดจากสนามรบมาได้น่ะก็เป็นแค่เรื่องแต่งสินะ ตำแหน่งที่เป็นอยู่นี่ก็เพราะพันเอกใช้อำนาจให้ได้มางั้นสิ”

คำพูดเหน็บแนมที่ออกมาจากปากของลิเลียน่า ฟังดูแปลกแฮะ น้ำเสียงที่ใช้พูดเอาก็แปลก กำลังยัวะอยู่งั้นเหรอ?

“ดวงตาที่มืดบอดไม่มีวันมองเห็นความจริงได้หรอก”

ทันทีที่เธอพูดสิ่งนั้นออกมา แรงดันเวทก็พุ่งทะยานขึ้น มันไม่ใช่ของใคร มันคือของลิเลียน่านั่นเอง  ‘ซุยเมย์’ รู้ดีว่าเธอกำลังใช้เวทมนตร์ควบคุมถานที่นี้ไว้อยู่ แม้ว่ามันจะต้องใช้พลังเวทมหาศาลและต้องใช้เวลาเตรียมการสักหน่อย แต่เมื่อมันสำเร็จแล้ว ไม่ว่าใครก็ไม่อาจจะต่อต้านมันได้

“หน่อย……”

ชายคนนั้นสบถก่อนจะเริ่มต้นร่ายคาถาอีกครั้ง

“ลมเอ๋ย….นี่มันเกิดอะไรขึ้น!!!”

เวทลมที่ว่านั้นไม่อาจกล้ำกราย ‘ลิเลียน่า’ ได้เลย  ‘ซุยเมย์’ ได้แต่มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ ………

“เปลวไฟเอ๋ย…..เฮ้ย”

เปลวไฟที่ควรจะพวยพุ่งออกมาน้ำย้อนกลับเข้าไปที่ปลายนิ้วอีกครั้ง  ‘ซุยเมย์’ เองก็ไม่ต่างกันนัก ดีกว่าตรงที่ว่าที่ปลายนิ้วของเขามีแสงเรื่อของเปลวไฟอยู่

“…..อ๊า? ไฟของฉัน!?”

ชายคนนั้นร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะมองมาที่ ‘ซุยเมย์’ ด้วยความตกใจ

“อะไร?”

“นั่นมัน ขอยืมหน่อยสิ”

“ไม่อ่ะ”

ชายตรงหน้ามอง ‘ซุยเมย์’ อย่างประหลาดใจ

“นี่ ถ้าแกเป็นประชาชนของที่นี่ ก็ควรจะรู้ไว้นะว่าการปฏิเสธฉันมันจะเกิดอะไรขึ้น”

“โฮ่ พูดว่าอะไรนะ?”

“ถ้าขัดใจฉันล่ะก็อย่าหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตในเมืองนี้อย่างมีความสุขเลย เข้าใจแล้วใช่มั้ย?”

‘ซุยเมย์’ ถ่มน้ำลายออกมาอีกครั้ง ก่อนที่ชายคนนั้นจะร่ายเวท

“ลมเอ๋ย-”

“ลม”

‘ซุยเมย์’ ขยับเพื่อหลับเปลวไฟที่พวยพุ่งมา ก่อนจะใช้สายลมพัดพามันให้ห่างออกไป จากนั้นเขาก็เตะนิ้วโป้งและนิ้วกลางเข้าด้วยกัน ก่อนจะดีดมัน ไม่กายสิทธิ์ของชายคนนั้นก็ระเบิดหายไปก่อนที่ชายคนนั้นจะล้มลงไป

“หายไปซะ-”

จากนั้นก็มีกลุ่มก๊าซและควันเกิดขึ้นด้านหลังของเขาพร้อมๆกับมีเสียงระเบิดเกิดขึ้น ผลของเวทมนตร์เวทมนตร์ในโลกนี้ ดูท่าจะประมาทไม่ได้ซะแล้วสิ ชายคนนั้นส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะตาเหลือกค้างและหมดสติไป คนที่ทำเรื่องเหล่านี้ทั้งหมดคือ ‘ลิเลียน่า’  หลังจากที่เสร็จสิ้นธุระแล้ว  ‘ลิเลียน่า’ ก็พูดกับเขาว่า

“เปลี่ยนที่กันเถอะ”

‘ซุยเมย์’ และลิเลียน่าทิ้งชายกลุ่มนั้นไว้ด้านหลังก่อนจะเดินออกห่างจากที่นี่ ทำราวกับว่าพวกเข้าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องราวเหล่านี้ บนถนนที่ปูด้วยอิฐสีเทาที่ทอดยาวออกไปนั้น ทั้งคู่ก็หยุดเดิน หลังจากปัดฝุ่นบนกระโปรง  ‘ลิเลียน่า’ พูดอย่างไม่เด็มใจ

“จริงๆแล้วคุณไม่ต้องเข้ามายุ่งกับเรื่องพวกนี้ก็ได้นะ”

‘ซุยเมย์’ ถามอย่างไม่ใส่ใจ

“พวกเขาต้องการอะไรงั้นเหรอ?”

“ไม่เกี่ยวกับคุณหรอก”

“เข้าใจล่ะ”

“ว่าแต่ว่าคุณมาทำอะไรที่นี่?”

“ก็แค่เดินผ่านมาเฉยๆ ว่าแต่ จำฉันไม่ได้เหรอลิเลียน่า”

“จำเหรอ?…..ว่าแต่ ทำไมคุณถึงรู้ชื่อฉันล่ะ”

“ความลับ…”

“งั้นเหรอ? มันน่าจะมีตำรวจอยู่แถวนี้สักคนนะ ฉันจะได้แจ้งความว่าคุณสะกดรอยตาม”

“โฮ่ ฉันแค่เดินผ่านมาเฉยๆ ทำไมกลายเป็นว่าฉันไปสะกดรอบตามเธอซะล่ะ”

“ฉันรู้ๆ แค่ล้อเล่นเฉยๆเอง”

“เธอนี่มัน……”

ด้วยสีหน้าท่าทางที่เย็นชาโดยธรรมชาติ ของ ‘ลิเลียน่า’  ทำให้ ‘ซุยเมย์ ยากจะมองออกว่าเธอกำลังล้อเล่นอยู่ ไม่นานนัก ‘ซุยเมย์’ ก็สังเกตเห็นว่าลมหายใจของ ‘ลิเลียน่า’ ติดขัด สารพิษและกรดที่มีผลต่อผิวหน้าถูกกระจายไปทั่วบริเวณ

“คุณมาที่นี่เพื่อทำอะไร?”

‘ลิเลียน่า’ ที่แววตาเปลี่ยนไปถามขึ้นอีกครั้ง พื้นด้านหลังเต็มไปด้วยหมอกควันที่เกิดจากความร้อน พื้นดินก็เป็นเหมือนยางมะตอยเดือดๆอันเกิดจากความผันผวนของเวทมนตร์ของลิเลียน่า หมอกควันทำให้มองเห็นทุกสิ่งได้อย่างคลุมเครือ มันคือแรงกดดัน หลังจากตระหนักได้ถึงสิ่งนั้น ‘ซุยเมย์’ ยิ้มพร้อมกับยักไหล่

“ทำไม่ล่ะ? คนต่างอาณาจักรไม่สามารถเดินเล่นในประเทศนี้ได้งั้นเหรอ?”

“เดินเข้าไปท่ามกลางเหตุการณ์เลวร้ายได้อย่างน่าตาเฉย ยังไงมันก็น่าสงสัย เพราะงั้นตอบมา”

“มันก็แค่ฉุกละหุกจนไม่ทันตั้งตัวเท่านั้นเอง”

‘ลิเลียน่า’ สวบสวนเข้ายังกับว่ายศร้อยตรีของเธอนั้นไม่ใช่ของทหาร แต่เป็นของตำรวจอย่างนั้นแหละ แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะเข้ากับเธอดี  ‘ซุยเมย์’ เลิกพูดเล่น ก่อนจะบอกจุดประสงค์จริงๆของเขาออกมา

“ได้ยินมาว่าจักรวรรดิมีหอสมุดที่ขึ้นชื่ออยู่”

“หมายถึงหอสมุดจักรพรรดิเหรอ?”

“ฉันกำลังจะไปที่นั่น แต่…..”

‘ซุยเมย์’ สงแผนที่ฉบับลายมือของ ‘กิลเบิร์ต’ ให้ ‘ลิเลียน่า’ ดู

“…….ทำไมถึงไม่บอกมาตั้งแต่แรกล่ะ ปล่อยให้ฉันถามอยู่ได้”

“เพราะมันสนุกดี ถ้าโกรธละก็จะซื้อขนมให้ก็ได้นะ”

“ฉันไม่ต้องการซะหน่อย ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ แต่ว่าแผนที่นี่มันไม่ถูกนี่”

“ไม่ถูกเหรอ……”

อืม ที่ตอนแรกทำท่าเหมือนจะเป็นคนดี แต่กลับมอบของที่ผิดพลาดให้อย่างนั้นเหรอ  ‘ซุยเมย์’ ขมวดคิ้วทันที่ที่ ‘ลิเลียน่า’ พูว่ามันเป็นแผนที่ที่ผิดพลาด

“……ทั้งๆที่ทำงานของราชการแท้ๆ แต่กลับมาโกหกกันอย่านั้นเหรอ”

เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดิน  ‘กิลเบิร์ต’   ‘กูลิก้า’ ที่มาเล่นกับ ‘เลฟิลเลีย’ เมื่อตอนที่เขากำลังจะออกจากบ้านพอดี…….และบอกว่าจะวาดแผนที่สำหรับไปหอสมุดให้ ที่แท้ก็เพื่อแกล้งเขานี่เอง น่าหงุดหงิดชะมัด จากคำพูดที่ว่า

“บางทีอาจจะเป็นการเข้าใจผิดก็ได้”

ของ ‘ลิเลียน่า’  ทำให้ซุยเมย์ถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ ก่อนจะคิดว่าจะไปจัดการกูลิก้าในภายหลัง

“อืม งั้นเดี๋ยวฉันพาไปเอามั้ง?”

“จะช่วยงั้นเหรอ….”

“แต่ต้องเพิ่มขนมเป็น 3 ชิ้นนะ”

“ไหนว่าไม่กินขนมไง”

“ไม่เอาขนมเหรอ? งั้นเอาของเล่นมั้ย?”

“เธอนี่มัน………”

‘ลิเลียน่า’ หัวเราะคิกคัก และหันหลังไปโดยไม่ฟังที่ ‘ซุยเมย์’  พูดสักนิด เมื่อตระหนักว่าไม่สามารถเอาชนะได้เขาก็ยอมรับแต่โดยดี เธอได้ยินเสียงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“…..ตกลงมั้ย ถ้าไม่ตกลงไม่ต้องตามมาก็ได้นะ”

“ก็ได้ๆ ฉันจะซื้อให้หลังจากที่ไปถึงแล้ว”

“สัญญาแล้วนะ ถ้าไปถึงแล้วอย่าชิ่งล่ะ”

โผ่งผ่างซะไม่มี

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments