I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 167 – การมาของ อู๋ จิ่ว

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

” นั้นเขาต้องการท้า อู๋ จิ่ว ขึ้นลานประลอง ชี้เป็นชี้ตายงั้นหรอ “

” คนที่ขึ้นไปตีระฆังบนลานประลอง เหมือนกับเขาได้ลงนามในบัตรมรณะภาพเรียบร้อยแล้ว นี้ชูเฟิงมันคิดจะไปเฝ้ายมบาลงั้นหรอ “

” เขาคงขี้เกียจมีชีวิตแล้วมั่ง แล้ว อู๋ จิ๋ว นี้คือคนก่อตั้งนิกายดาบฯ ใช่หรือเปล่า หากจำไม่ผิด เขาเป็นลูกชายคนโตของ สำนักดาบ ชั้นแนวหน้า และยังเป็น ศิษย์หลัก อันดับ 9 ของกระดานจัดอันดับสำนักมังกรฟ้า พลังวิญญาณอยู่ในอาณาจักรกำเนิดวิญญาณระดับ 5 แต่ไอบ้า ชูเฟิง กับท้าทายเขา “

เมื่อ ‘ชูเฟิง’ ตะโกนออกมา ดังเหมือนเสียงฟ้าร้องทุกคนต่างตกใจ จนทำให้ทุกคนต่างอ้าปากค้าง ตอนแรกพวกเขาคิดว่า ‘ชูเฟิง’ กำลังล้อเล่น แต่เมื่อ’ชูเฟิง’ตะโกน

”  ใครคือ อู๋ จิ่ว ขึ้นมาแล้วยอมรับความตายซะ “

มันทำให้เขารู้ว่า ‘ชูเฟิง’ นั้นเอาจริง

” นั้นมัน ระดับ 1 กำเนิดวิญญาณหนิ เด็กคนนี้เข้าสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณแล้ว !!! “

ในที่สุดก็มีผู้เชี่ยวชาญระดับกำเนิดวิญญาณที่อยู่ใกล้ๆสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณของ’ชูเฟิง’ แม้ว่าเขาจะมีพลังวิญญาณระดับ 1 กำเนิดวิญญาณแต่ก็ไม่น่ากลัวสักเท่าไหร่ แต่เมื่อคนๆนั้นคือ ‘ชูเฟิง’ พวกเขาจึงได้แต่จ้องมองในมุมอื่นๆ เพราะว่า ‘ชูเฟิง’ ยังเป็นแค่เด็กหนุ่ม

ยิ่งไม่ตองพูดถึง การที่เขาเข้าสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณระดับ 1 ด้วยวัยเพียงเท่านี้ สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือการที่ ‘ชูเฟิง’ เพื่งเข้ามาพื้นที่หลัก ตอนนั้น เขามีพลังวิญญาณแค่ ระดับ 7 ห้วงวิญญาณ ผ่านไปสองเดือน เขาสามารถทะลวงเข้าสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณได้

ซึ่งเป็นการก้าวข้ามช่องว่างขนาดใหญ่ ที่แสนจะรวดเร็วทำให้พวกเขานั้นแสนจะประหลาดใจ

” นี่ ชูเฟิง ไม่ได้เป็นแค่ไอ้บ้างั้นหรอ แต่เขาดูเหมือนเป็นอัจฉริยะซะมากกว่า ถ้าหากเขายังพัฒนาได้แบบนี้ เขาคงกลายเป็นคนที่โดดเด่นเหนือผู้ใด แต่น่าเสียดายเขานั้นเป็นคนที่สมองน้อยไปหน่อย เขาได้กำหนดศึกชี้เป็นชี้ตาย อีกหนึ่งปี ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งขึ้นแค่ไหน เขาก็ไม่อาจเอาชนะอาวุโสกง ลู่หยุนได้ “

บางคนที่เห็นศักยภาพของ ‘ชูเฟิง’ พร้อมกับรู้สึกเสียดาย

” กว่าจะถึงวันนั้นก็อีกตั้งเกือบปี แต่การจะสู้กับ อู๋ จิ่ว ตอนนี้สิ น่าสนุก อีกแล้วอย่าง อู๋ จิ่ว เขาก็ไม่ค่อยชอบหน้า ชูเฟิง ในตอนนี้ ชูเฟิงกล้าขึ้นไปบนลานประลองชี้เป็นชี้ตาย  อู๋ จิ่ว คงไม่ปล่อยเขาไปแน่ๆ “

บางคนก็คิดว่า ‘ชูเฟิง’ คงไม่อาจเลี่ยงภัยพิบัติที่กำลังมาเยือน

” ใครกันที่บังอาจท้าทายข้า !!! “

ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนระเบิดดังขึ้นมา เมื่อมองไปที่ร่างนั้นที่ค่อยๆเดินเข้ามา สุดท้ายเข้าก็โดดขึ้นไปลานต่อสู้เขามีรูปร่างผอมสูง น่าตาน่าเกลียด จมูกแหลมเหมือนกุ้ง ตาโปนเหมือนคางคก โดยเฉพาะความเหลืองของฟันของเขา

เมื่อเขาพูด ก็มีกลิ่นเหม็นแพร่กระจายไปทั่วรัศมีสามสิบเมตร ถ้าหากเขา ‘ฮ้าาา’ ใส่หน้าใคร คนคนนั้นคงยอมคุกเข่าศิโรราบพร้อมกับค่อยๆทรุดลงกับพื้น

*คนแปลไม่ได้แต่งเอง

แต่ยังไงก็ตาม การปรากฏตัวของเขาก็ดูน่ากลัวอยู่ดี เพราะเขาก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงในพื้นที่หลัก และยังเป็นผู้ก่อตั้งนิกายดาบฯ อีกทั้งมีชื่อติดอันดับ 9 ของกระดานจัดอันดับ ของสำนักมังกรฟ้า

” เจ้าคือ อู๋ จิ่ว “

‘ชูเฟิง’ ถึงกับเบิกตากว้างด้วยความแปลกใจ เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา ที่เคยเห็นคนหน้าตาแบบนี้บนโลกรูจมูกของเขาเบิกกว้างขึ้น ปากใหญ่ๆของเขาดึงกลับมา จากนั้นก็ดันลมในท้องของเขาขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนจะไม่เป็นมิตร

” ข้าคือ อู๋ จิ่ว เจ้าใช่ไม๊ที่ท้าทายข้า “

” ข้าไม่ได้มาท้าเจ้า แต่มาเพื่อฆ่าเจ้าต่างหาก “

‘ชูเฟิง’ยิ้มอย่างเย็นชาพร้อมกับกล่าว

” ดี!!! ข้าจะให้เจ้าผิดหวัง นี่อาวุโส นำใบรับรองการตายขึ้นมา วันนี้ ข้าจะทำให้มันจบไปเลย “

‘อู๋ จิ่ว’ ตะโกนออกมา พร้อมกับมองลงไปถ้าเขาพูดกับอาวุโสฝ่ายในแบบนั้น ยังพอน่าให้อภัย แต่นี้เขากล้ามากที่กับพูดกับ อาวุโสหลัก แบบนี้ ศิษย์หลักหลายคนต่างสูดลมหายใจไปในอากาศ พวกคิดว่า ‘ชูเฟิง’ นั้นอวดดี แต่ ‘อู๋ จิ่ว’ อวดดียิ่งกว่าแต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนพูดไม่ออก

จากคำพูดของ ‘อู๋ จิ่ว’ คือการที่อาวุโสหลักค่อยๆเดินขึ้นมาบนลานประลอง มือซ้ายของเขาถือพู่กันและหมึก มือขวาถือใบรับรองการตาย ขณะที่เดินเข้ามาด้านหน้าของ ‘อู๋ จิ่ว’

” บ้าจริง อู๋ จิ่ว มีสถานะยังไงกันแน่ ทั้งๆที่เรียกอาวุโสหลักแบบนั้น เขายังไม่ทำอะไรอีก ? “

บางคนรู้สึกประหลาดใจ อาวุโสคนนี้เข้าสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณระดับ 7 ซึ่งสูงกว่า อู๋ จิ่ว 2 ระดับ แต่เขาสามารถยอมให้ ‘อู๋ จิ่ว’ พูดเช่นนั้นกับเขาได้ นั้นแหละที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจ

” เจ้าคงไม่รู้เรื่องนี้ใช่มั้ย เมื่อไม่กี่วันก่อน อู๋ จิ่ว ยอมจ่ายค่าความเคารพของเขาให้กับอาวุโส จงหลี่ และกลายเป็นศิษย์ของเขาไปแล้ว ในตอนนี้เขาก็เป็นลูกศิษย์ของ จงหลี่ ยี่หู อย่างเป็นทางการ แล้วเขาต้องกลัวใคร “

‘จงหลี่ ยี่หู’ เป็นคนละคนที่ถือแปรงหมึกมานะคับ

” อาวุโส จงหลี่ ยี่หู นี้นะทำแบบนั้น “

” ใช่แล้ว เขาทำ “

” สวรรค์ อู๋ จิ่ว กลายเป็นศิษย์ของเขา “

ทุกคนต่างตกใจอีกครั้ง เพราะว่า ‘จงหลี่ ยี่หู’ ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงในสำนักมังกรฟ้า ในแง่ความแข็งแกร่งของเขาหากเข้ารับการจัดอันของสำนักมังกรฟ้า เขาอาจได้เป็นอันดับ 3 ของเหล่าอาวุโส แม้แต่ หกปราการสู้กับเขาคนเดียว พวกเขาก็ไม่อาจเอาชนะอาวุโส ‘จงหลี่’ ได้ง่ายๆ

‘จงหลี่ ยี่หู’ มีสถานะเหมือนกับ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ เขาเป็นแขกอาวุโสของสำนักมังกรฟ้านอกจากนั้นเขาก็ไม่สนอะไรทั้งสิ้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการถ่ายทอดทักษะให้กับเหล่าสาวก

แต่ตอนนี้ ‘อู๋ จิ่ว’ กับกลายเป็น ลูกศิษย์ของเขา ผู้คนต่างอิจฉาและชื่นชม

” ลานประลองชี้เป็นชี้ตายเพื่อชำระความแค้น แน่นอนว่าต้องมีฝ่ายที่ตาย หากมีความแค้นใดๆพวกเจ้าทั้งสองจงพูดมา ? “

อาวุโสคนนั้นพูดพร้อมกับถาม

” เขาทำร้ายครอบครัวของข้า นั้นถือว่าเป็นความแค้นได้มั๊ย “

‘ชูเฟิง’ ตอบ

” ไอ้เด็กบ้านี้ทำลายพลังวิญญาณศิษย์น้องของข้าหลายร้อยคน หรือว่าไม่ให้ข้าแค้น ? “

‘อู๋ จิ่ว’กล่าว

” ลงนามของเจ้าและหยดเลือดพร้อมกับประทับนิ้ว “

อาวุโสกล่าวเมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ทุกคนต่างจ้องมองบนลานประลอง แต่ ‘อู๋ จิ่ว’ และ ‘ชูเฟิง’ ยังคงยืนอยู่บนลานประลองที่เหมือนถูกย้อมไปด้วยเลือด

” ดี!!! ข้าอยากจะฆ่าเจ้ามาตั้งนานแล้ว แต่ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะมารนหาที่ เจ้ากล้าท้าทายข้าอย่างเปิดเผย วันนี้ ข้าจะทำให้เจ้าต้องผิดหวังที่ต้องมาตาย ข้าล่ะสงสารความโง่เง่าของเจ้าจริงๆ !!! “

‘อู๋ จิ่ว’ยื่นมือออกไปข้างหนึ่ง และพลังของเขาก็เพิ่มขึ้นเลื่อยๆ จากนั้นก็มีดาบยาวออกมาดาบนั้นงดงามอย่างมาก มันสวยเกินกว่าที่คนอย่างเขาจะมี แต่ยังไงมันก็ไม่ใช่ดาบจริงๆ มันเป็นแค่พลังที่ถูกสร้างขึ้นจากพลังวิญญาณที่ก่อตัวเป็นสายฟ้า มันเทียบได้กับทักษะระดับ 5 ที่ไม่ด้อยไปกว่า ทักษะ ธนูร้อยแปลง

” ลงมือสักที แล้วจะได้รู้กัน ว่าจะเป็นเหมือนปากเจ้าว่ามั๊ย “

‘ชูเฟิง’มีสีหน้าเมินเฉย เหมือนกับไม่เห็น อู๋ จิ่ว อยู่ในสายตา

” ข้าคงไม่ต้องลงมือมากนักหรอก กับคนแบบเจ้า “

‘อู๋ จิ่ว’ ตะโกนอย่างเย็นชา และ ดึงดาบยาวใรมือของเขา แทงเข้าไปในอากาศขณะที่พุ่งหา ‘ชูเฟิง’

* ฟู่ววววววววว *

หลังจากที่เขาแทงเข้ามา เสียงดังก็กระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง ความรุนแรงที่แซกผ่านอ่านอากาศ เหมือนกับไร้สิ่งที่จะต้านทานมันได้ กำลังพุ่งเข้าใส่’ชูเฟิง’

 

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments