“ซู ~ ~ “
 
ด้วยพลังงานจากดาบได้ทะลุผ่านอากาศโดยรอบ แต่ตัวดาบนั้นกลับไม่มีกลิ่นอายพลังกำเนิดวิญญาณปกคลุมอยู่เลย แสดงว่านี่ไม่ใช่ทักษะการต่อสู้อย่างแน่นอน แต่อานุภาพของมันนั้นก็ไม่ได้ด่อยไปกว่าทักษะการต่อสู้ธรรมดาสามัญเท่าใดนัก
 

 
 “แข็งแกร่ง, สมแล้วที่เป็นถึงผู้ก่อตั้งนิกายดาบทมิฬ ความชำนาญในการใช้เพลงดาบของเขาชั่งแข็งแกร่งจริงๆ”
 
การโจมตีของ ‘อู๋ จิ่ว’ ได้สร้างความประหลาดใจให้กลับใครหลายๆคนที่ได้เห็น แม้แต่ผู้อาวุโสหลักจำนวนมากก็ยังได้แต่พยักหน้าตามคำกล่าวของผู้อาวุโสท่านหนึ่ง แต่เมื่อเทียบกลับเพลงดาบอันแข็งแกร่งของ ‘อู๋ จิ่ว’ แล้วผู้คนจำนวนมากได้จับตามองไปที่’ชูเฟิง’อย่างรวดเร็ว
 
เพราะพวกเขาต้องการที่จะเห็น’ชูเฟิง’ตายในขณะนี้
 

 
“ชูววว”
 
แต่เห็นได้ชัดว่า’ชูเฟิง’จะต้องทำให้พวกเขาผิดหวังเช่นเดียวกับพลังงานที่กำลังพุ่งเข้ามาใกล้ ‘ชูเฟิง’ได้โบกแขนขนาดใหญ่ของตนเองออกไปพร้อมกับพลังงานจากแหล่งกำเนิดวิญญาณ พุ่งเข้าใส่อำนาจเพลงดาบของ ‘อู๋ จิ่ว’ สลายหายไปอย่างสมบูรณ์
 

 
 “นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ชูเฟิงได้สลายการโจมตีของ อู๋ จิ่ว? “
 
ฉากนี้ผู้ที่อยู่แดนห้วงวิญญาณนั้นไม่อาจที่จะเข้าใจได้ แต่สำหรับผู้ที่อยู่ในแดนกำเนิดวิญญาณแล้วนั้นได้เห็นทุกอย่างชัดเจน ว่า’ชูเฟิง’ได้ใช้พลังอำนาจของระดับ 1 แดนวิญญาณ ได้สลายพลังงานดาบของ ‘อู๋ จิ่ว’ ผู้ที่อยู่ในแดนกำเนิดวิญญาณระดับ 5 ได้อย่างสมบูรณ์
 

 
“เด็กคนนี้เป็นที่วิเศษมากสามารถใช้พลังงานจากแดนกำเนิดวิญญาณระดับ 1 สลายการโจมตีของแดนกำเนิดวิญญาณระดับ 5 ได้ นี่มันได้เกินสามันสำนึกของระดับอาณาจักรลพลังวิญญาณไปแล้ว.”
 
ผู้อาวุโสไม่สามารถที่กลั้นความประหลาดใจในความแข็งแกร่งของ’ชูเฟิง’ได้
 

 
“อย่าเอะอะมากเกินไปนี่เป็นเพียงแค่เรื่องเล็กๆเท่านั้น ตามตำนานของสำนักมังกรฟ้าเรื่องแบบนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงที่ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าอยู่ในช่วงของวัยหนุ่มท่านได้เอาชนะผู้ที่อยู่ในแดนแก่นแท้ทั้งที่ตนเองนั้นอยู่ในแดนกำเนิดวิญญาณ นี่ซิถึงจะกล่าวได้ว่า “ผู้อ่อนแอชนะผู้แข็งแกร่ง”.”
 
ผู้อาวุโสฝ่ายหลักท่านหนึ่งได้กล่าวอย่างดูหมิ่น
 

 
“ไรสาระ แน่นอนว่าผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้านั้นแข็งแกร่ง หลังจากที่เค้าได้กลายเป็นอันดับ 1 ใน ดินแดน 9 อาณาจักรแต่อย่างใดก็ตามชูเฟิงสามารถทำได้ถึงขั้นนี้ในขนาดที่อายุเค้ายังอยู่แค่นี้นี่เป็นที่แน่นอนแล้วว่าเขาเป็นอัจฉริยะ? ”
 
 
“….จริงๆมันอาจเป็นดั่งที่ท่านพูดความสามารถของเด็กคนนี้ควรได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะ แต่ข้าเห็นว่า อู๋ จิ่ว นั้นยังไม่ได้ใช้พลังเต็มแรงของเขาเพราะงั้นท่านอย่าพึ่งด่วนสรุปจนเกินไป”
 
หลังจากได้ยินคำกล่าวเช่นนี้เหล่าผู้อาวุโสก็ได้มองไปที่’ชูเฟิง’อีกครั้ง
 

 
“เพลงดาบของเจ้ามันชั่งอ่อนเกินไป หวังว่ายังคงมีลูกเล่นอื่นๆเหลืออยู่อีกนะ? ”
 
‘ชูเฟิง’ได้หัวเราะและกล่าวหลังจากที่ได้สลายการโจมตีของ ‘อู๋ จิ่ว’
 

 
“ดี! เดี้ยวข้าจะสอนเจ้าให้รู้จักถึงความน่ากลัวที่แท้จริง”
 
‘อู๋ จิ๋ว’ ได้ยกดาบขึ้นพร้อมตัดลงปรากฏดวงจันทร์ครึ่งเสี่ยวขนาดใหญ่พุ่งเข้าใส่’ชูเฟิง’ในทันที
 

 
“ทักษะต่อสู้ระดับ 5 พระจันทร์ครึ่งเสี่ยว”
 
 
“ไม่! นี่มันไม่ใช่จันทร์ครึ่งเสี่ยวธรรมดา มันเป็นทักษะต่อสู้ระดับ 5 แต่ยังมีการปล่อยพลังงานออกจากดาบออกมาซึ่งมีพลังเทียบเคียงกับทักษะระดับ 5 นี่เป็นทักษะต่อสู้ซ้อน 2 ชั้น ทักษะ+เพลงดาบ ”
 
เมื่อพระจันทร์ครึ่งเสี่ยวปรากฏออกมาบางคนถึงกับตกใจเป็นอย่างมาก เพราะต้องยอมรับว่าทักษะนี้เป็นทักษะหนึ่งที่แข็งแกร่งในสำนักมังกรฟ้า ซึ่งทักษะชนิดนี้จะต้องใช้ดาบเท่านั้นจึงจะสำเร็จ
 
‘อู๋ จิ่ว’ไม่เพียงแต่แสดงเพลงดาบดวงจันทร์ครึ่งเสี่ยวธรรมดาๆ แต่ยังใช้ทักษะต่อสู้ระดับ 5 พระจันทร์ครึ่งเสี่ยวผสมไปด้วยซึ่งเป็นพลังอำนาจที่น่ากลัวดั่งพลังงานที่พร้อมจะตัดทุกสิ่งทุกอย่างที่ขว้างทางของมัน ผู้คนสามัญธรรมดานั้นไม่อาจที่จะต้านทานการโจมตีนี้ได้
 
ในทันที่ทุกคนได้ขยายการจับจ้องไปที่’ชูเฟิง’ในทันที พระจันทร์ครึ่งเสี่ยวเปลี่ยมไปด้วยความเร็วและพลังอำนาจ ไม่มีใครที่สามารถจะหลบมันได้ ในขณะที่ต้องเผชิญกับสายตาของผู้คนโดยรอบ’ชูเฟิง’ได้เพียงแต่แสดงร้อยยิ้มออกมาบนใบหน้า
 
และค่อยๆยกมือข้างขวาของเขาขึ้นมาอย่างช้าๆและปล่อยหมัดออกไปตรงๆกระแทกเข้ากับคลื่นพลังเต็มๆ
 

 
“ตูมมมมมมม”
 
พลังงานจากแดนกำเนิดวิญญาณได้เพิ่มขึ้นอย่างท้วมท้นจากหมัดของ’ชูเฟิง’ที่ได้เหวี่ยงออกมาทำให้เกิดคลื่นพลังกระจายไปรอบเวที และหมุนเป็นเกลียวดั่งพายุทำให้ทักษะพระจันทร์ได้ถูกทำลายลงในทันที
 

 
“อื้ม”
 
หลังจากที่ทักษะพระจันทร์ครึ่งเสี่ยวได้ถูกทำลายลง ‘ชูเฟิง’ก็ได้กำมือแน่นแล้วปรากฏแสงสีทองสาดส่องไปทั่วทิศทางแล้วกลายเป็นดาบสีทองสดใสอยู่ในมือของ’ชูเฟิง’
 

 
“การโจมตีของเจ้ามันอ่อนแอเกินไปเดี๋ยวข้าจะให้เจ้าได้สัมผัสถึงความห่างชั้น!!!”
 
ในขณะที่’ชูเฟิง’ได้ถือดาบยาวอยู่ในมือก็ปรากฏสายฟ้าอยู่ใต้ท้าวของเขาและแทบทันที่เขาก็ได้มาปรากฏอยู่ตรงหน้าของ ‘อู๋ จิ่ว’ และแสงสีทองได้กวาดพุ่งตรงเข้าสู่หัวใน ‘อู๋ จิ่ว’ ในทันที
 

 
“เจ้าเด็กคนนี้ !!!”
 
ตอนนี้ทั่วใบหน้าของ ‘อู๋ จิ่ว’ ได้แสดงถึงอาการตื่นตระหนกอย่างท่วมท้น เพราะในขณะนี้เขาเริ่มที่จะบรรลุได้แล้วว่าความสมารถของ’ชูเฟิง’นั้น แม้’ชูเฟิง’จะอยู่แค่ระดับ 1 ของแดนกำเนิดวิญญาณแต่แรงกดดันที่เขาสัมผัสได้จาก’ชูเฟิง’นั้นไม่ได้ด่อยไปกว่าเขาเลย
 
แต่หลังจากที่ ‘อู๋ จิ่ว’ เป็นอัจฉริยะในตะกูลดาบ และได้ก่อตั้งนิกายดาบทมิฬ และก็ได้รับการยอมรับการเป็นศิษของผู้อาวุโส ‘จางหลี่ ยี่หู’ จึงกล่าวได้ว่าความสามารถของเขานั้นเป็นที่สูงส่งสำหรับเหล่าศิษฝ่ายหลัก ดาบในมือของเขาสั่นพร้อมปรากฏเป็นคลื่นพลังรูปร่างของงูพุ่งเข้าชนกับดาบสีทองของชูเฟิงในทันทีก็ได้ตวัดดาบพุ่งเขาหาลำคอของ’ชูเฟิง’ในทันที
 

 
“เฮ้!!! เป็นการโจมตีสวนกลับที่น่าสนใจดีนี่!.”
 
‘ชูเฟิง’ยิ้มหัวเราะชอบใจและความปรารถนาในการต่อสู้ของเขาก็เพิ่มมากขึ้น เขาไม่ได้หนีไม่ได้หลบและก็ไม่ได้ใช้อำนาจของเทคนิคโลกวิญญาณและก็ไม่ได้ใช้เทคนิค สายฟ้า สามผสาน ของเขา แต่ได้กำแน่นดาบสีทองที่อยู่ในมือของเขาและตวัดขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับ ‘อู๋ จิ่ว’
 
“เช๊ง! เช๊ง! เช๊ง!”
 
หลังจากดาบปะทะกันทำให้เกิดประกายแสงส่องไปทั่วทิศทาง และทุกครั้งที่ดาบปะทะกันจะมีระลอกคลืนพลังงานกวาดไปทั่วเวที แต่ทั้งสองคนก็แสดงสีหน้าออกมาดังเหมือนกับว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น พวกเค้าทั้งสองคนได้แสดงเทคนิคของเพลงดาบได้แพรวพราวทั้งมีการโจมตีและป้องกัน ไร้ซึ่งการพูดคุยและต่อสู้กันอย่างดุเดือนดั่งคนที่กระหายเลือด
 

 
“เพลงดาบชั่งยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้ สำหรับ อู๋ จิ่ว นี้ไม่ต้องพูดถึง แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าชูเฟิงจะมีทักษะขั้นสูงในแง่ของเพลงดาบเช่นนี้”
 
 
“เจ้าเด็กคนนี้ชั่งน่าประทับใจจริงๆ นอกจากจะใช้พลังอำนาจระดับ 1 ของแดนกำเนิดวิญญาณ ต่อสู้กับ อู๋ จิ่ว ที่อยู่ในระดับ 5 แดนกำเนิดวิญญาณได้ถึงระดับนี้”
 
ทุกคนที่ได้เห็นการต่อสู้ของ’ชูเฟิง’ก็ต้องตกตะลึงและหลงใหลไปกับความเลื่อมล้ำของ’ชูเฟิง’
 

 
“ใครกันที่กล้าเรียกเขาว่าขยะก่อนหน้านี้ นี่มันอัจฉริยะในประวัติการชัด เขาใช้ พลังวิญญาณ จากระดับ 1 แดนกำเนิดวิญญาณ ต่อสู้กับ ระดับ 5 แดนกำเนิดวิญญาณ โอ้พระเจ้าเขาโจมตีข้าม 4 ระดับของ พลังวิญญาณ ความสามารถเช่นนี้ควรจะได้รับการชื่นชม”
 
 
“เจ้าเด็กคนนี้สามารถทำให้ อู๋ จิ่ว ตกอยู่ในสถานการณ์นี้เลยรึ ทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงได้แข็งแกร่งขึ้นขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ที่ข้าเห็นเจ้าเด็กนี่มันไม่แข็งแกร่งถึงขนาดนี้นิ! หรือว่าเจ้าเด็กนี่จะมีวิธีการฝึกทักษะที่รวดเร็วดังกล่าวหรือไม่”
 
แต่เมื่อเทียบกับคนอื่นหน้าของ’ซูเหม่ย’นั้นเหว๋อมาก ณ ในขณะนั้นเธอได้ค้นพบแล้วว่าระยะห่างระหว่างเธอกับ’ชูเฟิง’นั้นชั่งไกลแสนไกล ไกลเกินกว่าที่เธอจะสามารถเอื้อมไปถึง’ชูเฟิง’ได้อีกต่อไป
 

 
“ ดูเหมือนว่าทุกคนจะเริ่มคาดหวังกลับชูเฟิงมากเลยซินะ พวกเจ้าไม่เห็นหรอว่า อู๋ จิ่ว กำลังหลอกล่อชูเฟิงอยู่ ? หรือว่าเจ้าไม่เห็นว่าตอนนี้ อู๋ จิ่ว ยังไม่ได้ใส่เต็มแรง ถ้าเกิด อู๋ จิ่ว ใส่เต็มแรงขึ้นมาล่ะก็ข้าฟันธงได้เลยว่าชูเฟิงจะต้องตายอย่างแน่นอน หึ!”
 
ณ ตอนนี้คนอื่นๆเริ่มที่จะคิดถึงเหตุผลในแง่ที่สองกันมากขึ้นว่า ‘อู๋ จิ่ว’ ยังไม่ใส่เต็มแรงก็ได้อาจกั๊กพลังเอาไว้เพื่อหลอกหล่อ’ชูเฟิง’และรอคอยที่จะทำลาย’ชูเฟิง’อย่างสมบูรณ์
 
ส่วนใหญ่แล้วคนเหล่านั้นต้องการให้’ชูเฟิง’ตายอนาถมากที่สุด เพราะในหัวใจของพวกมันไม่สามารถที่จะยอมลับความเลื่อมล้ำของ’ชูเฟิง’ได้
 

 
“พอกันทีข้าเล่นมามากพอแล้วมันถึงเวลาที่จะต้องจบสักที่ข้าจะทำให้เจ้าได้สัมผัสกับทักษะ สุดยอดเพลงดาบของข้า”
 
หลังจากที่ ‘อู๋ จิ่ว’ เปล่งเสียงพูดออกมาดังกังวัล ดาบที่อยู่ในมือของเขาก็หายไป เมื่อมันปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง มันก็เข้ามาล้อมรอบ ‘ชูเฟิง’ จนทำให้เวทีประลองมืดฟ้ามัวดิน
 
 
 
ผู้แปล โดย#นายกะทิข้น
 
ที่มา: