ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“ไม่ ข้าทำไม่ได้.”
เหมือนกับว่า’ชูเฟิง’นั้นกำลังจมดิ่งลงไปในความสับสน แม้ว่า ‘ต้านต้าน’จะเตือนแล้วว่าเป็นภาพลวงตา ในสายตาของ’ชูเฟิง’ก็รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตา แต่เขาไม่อาจโจมตีหรือทำร้ายครอบครัวของเขาได้
“เจ้าโง่ มันเป็นภาพลวงตา มันไม่ใช่ครอบครัวของเจ้าสักหน่อย ถ้าเจ้าไม่ฆ่าพวกมัน เจ้าก็ต้องตายที่นี่เหมือนคนเหล่านั้นที่ติดกับดักภาพลวงตาพวกนี้ เจ้าก็เห็นแล้วไม่ใช่หรือไง “
‘ต้านต้าน’ พูดเตือนสติ’ชูเฟิง’ เพราะรู้ว่าเขากำลังจมกับภาพลวงตา
“ข้า … “
หลังจากได้ยินการตักเตือนของ’ต้านต้าน’ ในตอนแรก’ชูเฟิง’นั้นลังเลเล็กน้อย แต่ต่อมาเขาก็รู้สึกตัวเขากัดฟันตัวเอง แล้วตะโกนดังลั่น
“ไม่! ข้าไม่ต้องการตายที่นี่ หายไปให้หมดซะเจ้าภาพลวงตาบัดซบ!”
หลังจากพูดจบ ‘ชูเฟิง’ก็ไม่คิดจะหนีอีกต่อไป เขาหลับตาลงและเรียกใช้เพลงดาบมังกรคลั่งไร้ตัวจน และสร้างแรงกดดันอันแข็งแกร่งใส่ภาพลวงตาทั้งหมดนั้น เพราะพวกมันไม่สามารถขยับได้จึงถูกแรงกดดันจากเพลงดาบมังกรคลั่งไร้ตัวตนเต็มๆ
“เฟิงเอ๋อ ไม่! หยุดก่อน ข้าคือพ่อของเจ้านะ!”
“เฟิงเอ๋อ นี่ข้าเอง ปู่ของเจ้ายังไงล่ะ ทำไมเจ้าถึงทำกับข้าอย่างนี้!”
ภาพลวงตาที่ถูกแรงกดดันคุกคามหนัก ก็เริ่มจะร้องเรียกชื่อ’ชูเฟิง’เพื่อให้เขาหยุดแรงกดดันนี้ อย่างไรก็ตาม’ชูเฟิง’นั้นไม่เพียงไม่หยุดแรงกดดันแต่ยังเพิ่มแรงกดดันของเพลงดาบมังกรคลั่งไร้ตัวตนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น สุดท้ายภาพลวงตาทั้งหมดก็ถูกแรงกดดันกระหน่ำจนตาย
“มันจบแล้วหรือ”
เมื่อไม่ได้ยินเสียงกรีดร้อง’ชูเฟิง’จึงเปิดตาขึ้น แต่เมื่อเขามองไปรอบ’ชูเฟิง’ที่’ชูเฟิง’นั้นแทบกลายเป็นหินดวงตาของเขามีความร็สึกบางอย่างเกิดขึ้นทันที เขาพบว่า ภาพลวงตาเหล่านั้นไม่ได้หายไป แต่มันกลับกลายเป็นศพรอบๆตัวเขา มันเป็นศพของพ่อของเขาและสมาชิกคนอื่นๆ ในตระกูลชู
การตายของพวกเขานั้นเหมือนถูกบางอย่างกดทับจนตาย บางคนสามารถรู้ได้ว่าเป็นศพของใคร แต่บางคนนั้นถูกอัดอย่างรุนแรงจนไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นใคร
* * * * * * * * ตู้บ
‘ชูเฟิง’ที่กำลังตกใจนั้นก็เข่าอ่อนหมดแรงคุกเข่าลงบนพื้น เขาใช้พลังวิญญาณตรวจสอบศพเหล่านั้นก็พบว่ามันเป็นศพของจริง แม้กระทั่งออร่าของคนในตระกูลของเขาก็ยังเหลืออยู่ในศพนั้นเขาทำมันลงไปแล้ว เขาฆ่าครอบครัวของตัวเอง
“นี่ข้าทำอะไรลงไป ข้าฆ่าพ่อข้าปู่และฆ่าลุงของตัวเอง … “
‘ชูเฟิง’กุมหัวตัวเองด้วยมือทั้ง2ข้าง ในตอนนั้นเขาจิตตกเป็นอย่างมาก ใจของเขาแทบสลายเมื่อเห็นศพเหล่านี้ ใบหน้าของเขาบอกได้ว่าเขานั้นรู้สึกเสียใจอย่างมาก
“ชูเฟิง เจ้าเป็นอะไร พวกมันเป็นภาพลวงตา ภาพลวงตาได้ยินไหมชูเฟิง “
‘ต้านต้าน’รีบเตือน’ชุเฟิง’อย่างรวดเร็ว
“ไม่พวกเขาไม่ใช่ภาพลวงตา เขาคือพ่อของข้า คือครอบครัวของข้า ข้าจำออร่าพวกเขาได้ พวกเขายังไม่ตาย แต่เป็นข้าที่ฆ่าพวกเขา!”
” ชูเฟิงเจ้าโง่ มันคือภาพลวงตา เนื่องจากเจ้ายังไม่สามารถต่อต้านพลังของมันได้เจ้าถึงแยกไม่ออกว่าเป็นของจริงหรือของปลอม พลังอำนาจวิญญาณของเจ้ามันไม่ทำงานในที่แห่งนี้ “
” ชูเฟิงเจ้าแข็งแกร่ง แต่นี่คือมารผจญในใจเจ้า เป็นภาระที่เจ้าไม่สามารถปล่อยวางลงได้ เพราะงั้นพวกมันถึงใช้จุดอ่อนของเจ้าเล่นงานเจ้ายังไงล่ะ “
” เจ้าต้องเชื่อมันในตัวเอง ว่าสิ่งที่เจ้าทำลงไปนั้นถูกต้องแล้ว พวกเขาเป็นภาพลวงตา ทุกอย่างนั้นไม่ใช่ความจริง จำไว้มันไม่ใช่ความจริงมันเป็นภาพลวงตา เจ้าต้องผ่านมันไปให้ได้ เจ้าต้องปัดเป่ามารร้ายออกจากใจเจ้าให้ได้ เจ้าต้องทำใจให้ว่างเปล่า และละทิ้งมันไปซะ “
เสียงของ ‘ต้านต้าน’นั้นดังก้องอยู่ในหู’ชูเฟิง’ คำพูดของ’ต้านต้าน’เปรียบเสมือนโคมไฟส่องสว่างให้’ชูเฟิง’เดินไปในทางที่ถูกต้อง เพราะ’ต้านต้าน’นั้นคอย เตือนสติ ‘ชูเฟิง’เขาจึงเริ่มคิดได้ เขาเริ่มที่จะเชื่อในคำพูดของ’ต้านๆ’และเชื่อมั่นในตนเอง
เขาไม่ได้หนีออกมา เขามองกลับไปที่ศพ มองกลับไปที่ศพพ่อของเขา เมื่อ’ชูเฟิง’มองกลับไปที่ศพได้สักพัก เลือดของศพก็หยุดไหลและค่อยๆหายไปจากนั้นศพเหล่านั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ในตอนนั้น’ชูเฟิง’ก็ได้มองรอบๆตัวเขาและพบว่าเขาอยู่ในหมอกความรู้สึกของตอนนี้กับเมื่อก่อนนั้นต่างกันลิบลับ เพราะตอนนี้เขารู้ถึงวิธีการกำจัดภาพลวงตาแล้ว
“ต้านต้าน ขอบใจเจ้ามากจริงๆ ถ้าไม่ได้เจ้า เกรงว่าข้าคนเดียวจะเอาตัวไม่รอด”.
‘ชูเฟิง’เช็ดเหงื่อบนหน้าผากของเขาในขณะที่ในใจยังมีความกลัวอยู่เล็กๆ
“เจ้าจะขอบคุณข้าไปทำไม มันไม่จำเป็นหรอก ข้าไม่ได้โทษเจ้า เจ้าไม่ได้อ่อนเกินไปแต่ภาพลวงตาเหล่านี้นั้นมันแข็งแกร่งเกินไปจริงๆ มันสามารถหลอกลวงได้โดยไม่มีใครสามารถตรวจสอบว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตาได้ “
“มันโจมตีจุดอ่อนจากหัวใจของคน ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกหรือความรักต่อคนในครอบครัว เพื่อให้พวกเขาลืมถึงความปลอดภัยของตนเอง และมันยังเป็นการลดเหตุและผลของพวกเขาด้วย “
“แต่ข้าเชื่อว่า ต่อให้ไม่มีข้า จะก็สามารถผ่านมันไปได้แน่นอน “
‘ต้านต้าน’ ยิ้มและกล่าวด้วยน้ำเสียงมีชีวิตชีวาน่าฟังเป็นอย่างยิ่ง ทำให้’ชูเฟิง’รู้สึกอบอุ่นอย่างมาก
“ไม่เลว. พรสวรรค์ของเจ้านั้นไม่ธรรมดาจริงๆ”
ทันใดนั้นก็มีเสียงชายชรา ดังขึ้นมาจากข้างหลังของ’ชูเฟิง’ หลังจากได้ยินเสียงนั้น ร่ายกายของ’ชูเฟิง’สั่น เพราะเขารู้สึกถึงแรงกดดันที่แข็งแกร่งมากจากข้างหลังของเขา เมื่อเขาหันหัวของเขากลับไปมอง ‘ชูเฟิง’ ก็ตกใจทันทีเขาพบว่า มีสายตาแดงก่ำดั่งเลือด2คู่ อยู่ข้างหลังเขา
ภายในตาที่แดงก่ำทั้ง4นั้น มีคู่นึงเป็นตาขนาดใหญ่เหมือนโคมไฟขนาดยักษ์ แม้ว่าดวงตาเหล่านั้นไม่มีเจตนาที่ต้องการฆ่า
แต่’ชูเฟิง’ก็ไม่สามารถยับยั้งความกลัวของเขาได้ เพราะพลังอำนาจวิญญาณของเขาไม่สามารถใช้ได้ในที่แห่งนี้ เขาจึงไม่สามารถตรวจสอบถึงเจ้าของของดวงตาเหล่านั้นได้ แต่เขาก็รู้สึกได้อย่างนึงคือมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งมาก
“เจ้าหนู เจ้าชื่ออะไร”
เสียงลึกลับดังออกมาอีกครั้ง
“ข้าชื่อชูเฟิง ท่านผู้อาวุโสข้าขอทราบชื่อเสียงเรียงนามของท่านหน่อยจะได้หรือไม่”
‘ชูเฟิง’ตอบพลางถามกลับ
“ข้าคือ เต่าดำ … เจ้าหนู เจ้าโชคดีมาก ไม่เพียงเจ้าจะสามารถหาสถานที่แห่งนี้พบ แต่เจ้ายังสามารถต่อสู้กับภาพลวงตาได้ อย่างน้อยเจ้าก็มีความสามารถอยู่บ้าง “
“ข้ามีคำขอของข้าอย่างนึง เพื่อพิจารณาในการให้ความสามารถของข้าแก่เจ้า เจ้าจะยินดีช่วยหรือไม่”
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ใจของ’ชูเฟิง’ก็ตื่นเต้นและมีความสุขมาก เพราะ เต่าดำ นั้นยอมรับ’ชูเฟิง’แล้ว และยังเป็นไปได้ว่ายังมีทักษะลับอีกมากซ่อนอยู่ในสุสานจักรพรรดิแห่งนี้
เมื่อคิดถึงจุดนั้น มีหรือที่’ชูเฟิง’จะลังเล เขารีบตอบกลับไปว่า
“ท่านอาวุโสโปรดบอกมา ถ้าข้าสามารถทำได้ ข้าจะทำให้ดีที่สุด”
“ฮ่า ๆ เจ้าเด็กน้อยเอ๋ย ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้ว่าข้าเป็นใครสินะ ข้ารู้สึกถึงกลิ่นอายบางอย่างในตัวเจ้า … ข้าไม่คิดว่าเจ้าขาวอวดดีตัวนั้น จะยอมรับเจ้า”
ปล. อวยต้านต้านเข้าฮาเร็มต้านต้านนางเอก นัมเบอร์วัน มีคนเห็นค้านเลิก แปล 55555
แปลโดยคุณ#
ที่มา: