I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 214 – ข่าวร้าย!!!

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

“มีเหตุอันใดกัน? ทำใมท่านเจ้าสำนักถึงได้มาที่นี่?”

แม้ว่าในตอนนี้’ชูเฟิง’จะดูน่าสงสัยแต่เขาก็ยังคงเดินไปอย่างเนียนนิ่งและสงบ เพราะว่าเขานั้นไม่ได้กลัวเจ้าสำนักไร้ตัวตน บางที่อาจกล่าวได้ว่าโดยความแข็งของ’ชูเฟิง’นั้นนอกเหนือจากสัตว์ประหลาดเฒ่าที่ซ่อนอยู่ภายในหอคอยไร้ตัวต้นนั้น ก็ไม่มีใครหน้าไหนในสำนักไร้ตัวตนที่สามารถหยุดเขาได้

“จะดีมากถ้าท่านออกมาในตอนนี้ ข้าได้รับจดหมายเพียงแต่มันบอกว่าควรที่จะนำมาให้ท่านโดยเร็วที่สุด. “

“ข้าจึงเป็นห่วงว่ามันจะเป็นข่าวสำคัญถึงท่านดังนั้นข้าจึงมาที่นี่เพื่อหาท่าน.”

เจ้าสำนักไร้ตัวตนได้ยื่นจดหมายให้แก่’ชูเฟิง’อย่างประหม่า หลังจากที่ได้เห็นจดหมายในใจของ’ชูเฟิง’นั้นรู้สึกแน่นเพราะชนิดของจดหมายนั้นเป็นชนิดที่พิเศษ เพียงผู้ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าสำนักไร้ตัวตนเท่านั้นจึงจะส่งจดหมายถึงกัน แต่จดหมายนี้นั้นได้ส่งผ่านมือของเจ้าสำนักไร้ตัวตนมาให้แก่’ชูเฟิง’

***ในช่วงท่อนจดหมายนี้มันวนไปวนมาผมเลยพยายามนำเนื้อหาบางส่วนออกเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นเพราะฉะนั้นถ้ามีตรงไหนผิดพลาดก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ***

ซึ่งจดหมายที่’ชูเฟิง’ได้รับมาจากเจ้าสำนักไร้ตัวตนนั้นเป็นจนหมายฉบับเดียวกันที่’ชูเฟิง’ได้ให้ไว้กลับ’ซูรู่’ เพราะเขาเป็นห่วงว่าหลังจากที่เขาออกมาแล้ว ‘ซูรู่’และคนอื่นๆ จะได้พบกับปัญหา ดังนั้น’ชูเฟิง’จึงได้บอกกลับ’ซูรู่’ ไว้ว่าถ้าเธอได้พบปัญหาใดให้เขียนจดหมายถึงสำนักไร้ตัวตน และจะให้ดีต้องเขียนจ่าหน้าซองว่า “ถึงนายเสื้อคลุมสีเทา” เท่านั้น

หลังจากนั้น’ชูเฟิง’ได้เปิดจดหมายออกมาซึ่งแน่นอนคำพูดทุกประโยคที่อยู่ในจดหมายนั้นถูกเขียนโดยลายมือของ ‘ซูรู่’

“มันไม่มีอะไรเพียงแค่สหายน่ะ”

‘ชูเฟิง’ยิ้มและอธิบายกลับเจ้าสำนักไร้ตัวตน หลังจากนั้นเขาจึงลาและเขาจึงรีบออกจากสำนักไร้ตัวตนไปยังสถานที่ตั้งในจดหมายที่ ‘ซูรู่’ได้เขียนเอาไว้ เมื่อมาถึงมันเป็นโรงเตี๊ยมเล็กๆ เป็นสถานที่ค่อนข้างดีมีแขกหลายคนที่มามีทั้งข้างในและข้างนอก ‘ซูรู่’นั้นนั่งอยู่ข้างในด้วยความงามและเสน่ห์ที่เป็นจุดเด่นของเธอจึงทำให้เธอเป็นที่สะดุดตาและจึงเห็นเธอได้ไม่ยากนัก

แต่ในความเป็นจริงโต๊ะที่ถัดจาก ‘ซูรู่’นั่งอยู่นั้นพบว่า ได้มีชายหลายคนนั่งอยู่แต่ดวงตานั้นขาวโพลน และมีฟองสีขาวฟูเต็มปากและที่สำคัญพวกเขาได้รับบาทเจ็บอย่างหนักดูจากทรงแล้วคงเป็นเพราะพวกเขาเหล่านั้นได้ไปกวนตีน นางเข้าจึงได้ตกอยู่ในสภาพแบบนั้น แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นด้วยความงามและเสน่ห์อันเย้ายวนใจของ ‘ซูรู่’ก็ได้ดึงดูดเพศตรงข้ามให้มานั่งก่อกวนเธออย่างไม่ขาดสาย

“ข้ามีธุระกับผู้หญิงผู้นี้เพียงสองคน พวกเจ้าทุกคนจงออกไปซะ! “

ทันใดนั้นเสียงระเบิดออกมาเหมือนดั่งฟ้าร้อง แม้แต่ชามและแก้วน้ำที่ตั้งอยู่บนโต๊ะยังสั่นไปทุกที่ ทุกคนในโลงเตี๋ยมได้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากความกลัว พวกเขาไม่กล้าที่พูดแม้แต่เพียงครึ่งคำจึงได้รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะพวกเขาสามารถบอกได้ว่า’ชูเฟิง’นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลังวิญญาณดังนั้นจึงไม่ใช่คนที่พวกเขาสามารถต่อกรได้

“เกิดอะไรขึ้น?”

เมื่อทุกคนได้ย้ายออกไปเขาได้มองไปที่’ซูรู่’และเขาค้นพบว่าใบหน้าของ ‘ซูรู่’นั้นเป็นที่บิดเบี้ยวมากดังนั้นมันจะต้องเป็นเรื่องใหญ่อย่างแน่นอน

“ชูเฟิง เจ้าต้องใจเย็นเข้าไว้นะ”

‘ซูรู่’ ไปด้านหน้าของ’ชูเฟิง’และดวงตาที่สวยงามของเธอนั้นเต็มไปด้วยความกังวล

“มันเกิดอะไรขึ้น?”

‘ชูเฟิง’รู้สึกไม่สบายใจ เขาสามารถรู้ได้ว่าเรื่องนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับเขาเป็นอย่างมาก

“เมืองทอง-ม่วงรายงานมาว่า นอกจากเหล่าหนุ่มสาวที่ออกไปเพื่อปลูกฝังพลังวิญญาณนั้น ในครอบครัวชูของเจ้าได้ถูกฆ่าล้างทั้งหมด”

‘ซูรู่’ กล่าวออกมาอย่างยากลำบาก

* ตึก ตึก ตึก.. *

เมื่อ’ชูเฟิง’ได้ยินคำพูดเหล่านั้นมันทำให้เขาถึงกลับถอยหลังกลับไปถึง 3 ก้าวในทันทีใบหน้าของเขานั้นขาวซีดเหมือนคนที่ตายและการหายใจยังติดขัดเหมือนมีคนมาบีบจมูกของเขาเอาไว้

“ชูเฟิงเจ้าไม่เป็นไรนะ”

เห็นเช่นนั้น’ซูรู่’รีบไปประคอง’ชูเฟิง’ได้อย่างรวดเร็วและเธอก็ยิ่งรู้สึกเป็นห่วงมากขึ้น ในขณะที่ร่างกายของ’ชูเฟิง’นั้นได้เกิดอาการสั่นเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็สงบลง เขาถามด้วยเสียงที่ลึก

“สิ่งที่เกิดขึ้นกับพ่อและพี่ชายของฉัน ชูเยว่และคนอื่นๆ พวกเขายังอยู่ดีใช่ไหม?”

“พี่ชายของคุณยังคงอยู่ที่สำนักหลิง-หยุน ส่วน ชูเยว่และคนอื่นๆ ยังอยู่ที่สำนักมังกรฟ้า พวกเขาทั้งหมดยังอยู่ดี แต่พ่อของคุณ….”

‘ซูรู่’ นั้นทำใจพูดคำทั้งหมดออกมาไม่ได้ แต่’ชูเฟิง’ก็สามารถที่จะเข้าใจความหมายของเธอ เขาปิดตาทั้งสองข้างของเขาและในทันทีดวงตาทั้งสองของเขาก็ได้มีน้ำตาไหลลินเลือนลงใบหน้าของเขา ซึ่งร่างกายของเขาที่สงบก่อนหน้านี้ก็ได้เริ่มที่จะสั่นไหวอีกครั้งและยิ่งรุนแรงมากขึ้น

“ข้าจะกลับไปที่เมืองทอง-ม่วง”

‘ชูเฟิง’รีบเดินออกมาจากร้านเหล้าอย่างรวดเร็วและผิวปากของเขาไปที่ท้องฟ้า หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีเสียงร้องขนาดใหญ่และร่อนลงมาจากฟากฟ้าราวกับดั่งลูกศรธนูนั่นคือนกอินทรีหัวขาว!

หวือ

ก่อนที่นกอินทรีหัวขาวจะล่อนลงถึงพื้นชูเฟิงก็ได้กระโดดขึ้นไปบนหลังของมันก่อน

“เดี้ยวก่อนชูเฟิงข้าจะไปกับเจ้าด้วย!”

‘ซูรู่’ ไม่รอช้าเธอได้รีบกระโดดขึ้นไปและกอดที่เอวของ’ชูเฟิง’ หลังจากนั้นไม่นานเสียงร้องของนกอินทรีหัวขาวก็ได้ปรับตัวสูงขึ้นไปยังท้องฟ้า ภายใต้การมองตาตะลึงของผู้คนที่อยู่เบื่องล่างพวกเขาได้เห็นนกอินทรีหัวขาวหายไปในขอบฟ้าไกลแทบจะในทันที…

เมืองทอง-ม่วง เมืองอันดับ #2 ได้ถูกกวาดล้าง หลังจากที่ได้รับทราบข่าวเจ้าเมืองที่ใกล้เคียง หรือแม้แต่เจ้าเมืองวิหคเพลิงเองก็ยังรีบบึ่งมาที่เมืองทอง-ม่วงในทันที ในทันทีที่เข้ามาถึงเมืองทอง-ม่วง ใบหน้าของพวกเขานั้นทำอะไรไม่ถูกได้แต่เปลี่ยนไปอย่างมากเพราะในช่วงเวลานี้นั้นภายในเมืองทอง-ม่วงไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดใดๆได้

เพราะทุกสิ่งที่ปรากฏในสายตาของพวกเขานั้นมันเป็นสถานการณ์ที่น่ากลัวเกินไป มันเหมือนกลับตอนที่ชูเฟิงนั้นได้ทำการกวาดล้างตะกลูชางกวนในเมืองวิหคเพลิง แต่มันแตกต่างกันกลับเมืองทอง-ม่วงเพราะว่าทั้งเมืองนั้นได้ถูกทำการกวาดล้างทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตระกูลขุนนางหรือแม้กระทั่งขี้ข้าก็ไม่มีเว้นแม้แต่คนเดียว

แม้ว่าเลือดจะแห้งไปแล้วก็ตามแต่มันก็ยังคงมองเห็นสีแดงเข็ม สีของเลือดที่สาดอยู่ทุกที่และหลังจากที่เข้ามาภายในเมืองก็ได้ส่งกลิ่นเหม็นรุนแรงได้ตะหลบอบอวนอยู่ในอากาศ มันเป็นกลิ่นของคาวเลือด

“ใครมันเป็นคนทำเรื่องพวกนี้กัน?”

เจ้าเมืองชั้นสูงที่เพิ่งมาถึงได้พูดด้วยความโกรธแค้นหลังจากที่เขาได้เห็นฉากที่อยู่ตรงหน้าของเขา

“พวกเขาทำมันเพราะเกี่ยวข้องกับตระกูลชู.”

เพียงแค่ในเวลานั้นชายอ้วนเล็กน้อยเดินออกจากเมือง เขายังเป็น เจ้าเมืองจากเมืองใกล้เคียง

“ตระกูลชู?”

เหล่าเจ้าเมืองสูงใหญ่ได้แสดงถึงความสับสน

“มันเป็นเพราะชูเฟิงจากตระกูลชู!.”

เจ้าชายอ้วนเล็กน้อยตอบ

“ชูเฟิง? ที่ว่านี่เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งยังงั้นรึ? แล้วท่านรู้ได้อย่างไรว่าเขามาจากตระกูลชู? “

เจ้าเมืองสูงใหญ่ต่างได้สอบถามอย่างใกล้ชิดใกล้ชิด

“ท่านจะได้รู้ทุกอย่างหลังจากไปที่นั้น.”

เจ้าชายอ้วนเล็กน้อยชี้ไปทางใจกลางของเมือง ในการตอบสนองของเหล่าเจ้าเมืองสูงใหญ่ทั้งหลายได้ลงจากม้าและเดินเข้าไปในเมืองอย่างรวดเร็ว พร้อมองค์ลักษณ์คอยตามมาด้านหลังอย่างใกล้ชิด แต่หลังจากที่เข้ามาในเมืองพวกเขาได้แต่ยืนนิ่งและใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยอาการช็อก

เพราะในใจกลางเมืองทอง-ม่วงภายใต้แสงไฟที่พร่ามัว มีศพแขวนอยู่ที่กำแพง และมีศีรษะถูกแขวนไว้เหนือแสงไฟนั้นพวกเขาทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นคนของตระกูลชูทั้งสิ้น และในใจกลางเมืองยังได้มีตัวอักษรขนาดใหญ่ที่ถูกเขียนด้วยเลือดอีกว่า

” ชูเฟิงเจ้ากล้าที่จะสัมผัสพี่ชายของข้าดังนั้นข้าจะทำลายล้างตะกลูของเจ้า หนี้เลือดมันก็ต้องจ่ายด้วยเลือด!!!”

################################################################################################# เอาล่ะเข้าสู่สาระเร้าใจท้ายบทกับ : นายกระทิข้น ปล.ที่ 1. ไม่มีคำพูดใดๆจริงๆนอกจากกรรมตามสนองพี่เฟิงกูแม่มน่าสงสาร 55555 ปล.ที่ 2. ว่าแต่มีใครสงสัยไหมว่ามันคือใครถ้าอยากรู้ล่ะก็ ก็ต้องติดตามกันต่อไปนะคับรับลองไม่เกิน 218 เดี้ยวรู้เลยว่า เลือดต้องล้างด้วยเลือดมันเป็นยังใงมึงมาสวนกลับผิดคนล่ะมึงเตรียมตัวไว้ได้เลย ปล.ที่ 3. แต่ยังใงก็ตามผมก็ขอแสดงความเสียใจต่อพ่อบุญธรรมของชูเฟิง ชูหยวน ด้วย … ลาก่อนผู้เฒ่าตระกูลชู ปล.ที่ 4. ถ้าในตอนนี้มีความผิดพลาดประการณ์ใดผมต้องขออภัยด้วยนะครับ **รู้สึกมึนๆ** ################################################################################################# …..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ : นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน####…..

ใจ @อยากจะแปลให้ถึงตอนที่คนทำแม่งมีจุดจบที่ไม่ดี ไม่เป็นไร แม่ของไอ้คนที่ทำ โดนชูเฟิง . . . . . . .

มืงจะโหดไปไหน . . . . . .

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments