ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป” เจ้าไม่อยากมีชีวิตแล้วงั้นหรอคิดสู้กับข้า ? “
‘กง ลู่หยุน’ ยิ้มอย่างเย็นชาพร้อมกับถาม
” เจ้าไม่กลัวงั้นหรอที่คิดจะสู้กับข้า ? “
‘ชูเฟิง’ถามกลับ
” กลัวหรอ ? ทำไมข้าต้องกลัวเจ้า ? ฮ่าฮ่า. . . . . .น่าขันชะมัด “
‘กง ลู่หยุน’หัวเราะด้วยเสียงดังที่ฟังดูผิดปกติ มันคงเป็นสิ่งที่ตลกที่สุดในโลกที่เขาเคยได้ยิน หลังจากนั้นเขาก็กล่าวบางอย่างต่อหน้าทุกคน
” วันนี้ หลังจากอีก 1 ปี เราจะมาติดสินศึกชี้เป็นชี้ตายกัน พบกันที่นี้ การต่อสู้นั้นจะตัดสินหาผู้แพ้ผู้ชนะ ถ้าหากเจ้าสามารถรับข้าได้ 3 กระบวนท่า ข้า กง ลู่หยุน ยินดีจะตาย โดยที่ไม่ปริปากใดๆทั้งสิ้น”
คำพูดของ กง ลู่หยุน นั้นเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส หรือบอกได้ว่าเขานั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจ แต่สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือ ‘ชูเฟิง’ ที่ยอมรับเงื่อนไขของเขา ในตอนนั้นทุกคนต่างคิดว่า หลังจาก 1 ปี ‘ชูเฟิง’ คงเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่
1 ปี งั้นหรอเขาจะทำอะไรได้ ไม่ต้องพูดถึง เขาที่ยังอยู่แค่ระดับอาณาจักรห้วงวิญญาณ ต่อให้เขาเข้าสู่ระดับอาณาจักรกำเนิดวิญญาณได้ แต่การที่จะเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้วิญญาณใน 1 ปี มันแทบจะเป็นไปไม่ได้
นอกจากนี้ ‘กง ลู่หยุน’ ยังเป็นที่ยอมรับในฐานะ ศิษย์ # 1 อัจฉริยะของโรงเรียนมังกรฟ้า เวลาหนึ่งปี ก็ทำให้เขานั้นแข็งแกร่งไปถึงไหนต่อไหน ดังนั้น ทุกคนต่างคิดว่าโอกาสชนะของ ‘ชูเฟิง’ นั้นเป็นศูนย์
” แต่หากหนึ่งปีให้หลัง เจ้าไม่สามารถทนรับข้า 3 กระบวนท่าได้ ข้าจะตีเจ้าให้ตาย โดยที่ไม่มีใครสามารถช่วยเจ้าได้ “
‘กง ลู่หยุน’ ชี้หน้าของ ‘ชูเฟิง’ พร้อมกับทิ้งท้ายคำพูด หลังจากนั้นเขาก็สูดหายใจในอากาศ พร้อมกลับเดินจากไป ขณะที่ผู้ติดตามของเขายิ้มให้’ชูเฟิง’อย่างเย็นชา ก่อนที่จะเดินตามเขาไป
” ชูเฟิง ข้าขอโทษ ทั้งหมดมันเป็นความผิดของข้า . . . . . . “
ซูเหม่ยเดินไปข้างๆ ของชูเฟิง พร้อมกับร้องไห้ออกมา ด้วยความคับแค้นใจ เมื่อเห็นใบหน้าของ ชูเฟิง ที่อาบไปด้วยเลือด
” ไม่เป็นไรหรอก แผลเล็กน้อยแค่นี้เหตุใดเจ้าถึงร้องไห้ “
‘ชูเฟิง’ เช็ดน้ำตาของ’ซูเหม่ย’ที่ไหลอาบบนแก้มของนาง หลังจากนั้น เขาหันหน้าไปมอง ‘ซือตูยู๋’ และ คนอื่นๆ ที่ยืนอยู่บริเวณใกล้เคียง พร้อมกับรอยยิ้ม และกล่าว
” ไม่ต้องห่วง พวกเราไม่ใช่สมาชิกพันธมิตรปีกฯ อีกต่อไป จากนี้พวกเจ้าและข้าไม่เกี่ยวข้องกัน พวกเจ้าจะได้ไม่เดือดร้อนเพราะข้า “
” ชู เฟิง พวกเรา . . . . . . . “
ได้ยินคำพูดของ ‘ชูเฟิง’ ‘ซือตู่ยู๋’และคนอื่นๆ ต่างสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก แน่นอนว่าพวกเขาไม่กล้าเข้ามาใกล้ พวกเขาเกรงว่า’ชูเฟิง’จะสร้างปัญหาให้กับพวกเขา ใครใช้ให้เขาไปหาเรื่อง ศิษย์ #1 ‘กง ลู่หยุน ?’
” หึๆ เจ้าไม่ต้องมองหน้าข้าด้วยสีหน้าเช่นนั้น ข้าไม่เคยติดค้างอะไรพวกเจ้า และพวกเจ้าก็ไม่เคยติดค้างอะไรข้า ตอนนี้เราเป็นแค่คนแปลกหน้า “
ชูเฟิง โบกมือไล่ ‘ซือตู่ยู๋’ และคนอื่นๆ ถึงแม้ว่าเขาจะมีรอยยิ้มที่มุมปาก แต่สายตาของเขากับเยือกเย็น เขาไม่ได้ต้องการมิตรภาพที่จอมปลอมเหล่านี้เห็น ‘ชูเฟิง’ ทำเช่นนั้น ‘ซือตู่ยู๋’ ไม่สนใจใดๆเขาเต็มใจที่ตัดความสัมพันธ์กับ’ชูเฟิง’ หากเขาและ’ชูเฟิง’ ยังมีความสัมพันธ์ฉันมิตร หายนะ คงจะตกมาอยู่ที่พวกเขา
” สหายน้อย เจ้าแน่ใจนะว่าเวลาแค่ปีเดียวจะสามารถเอาชนะ กง ลู่หยุน ได้ ? “
จู่ๆ ‘ผู้เฒ่าหลี่’ ก็ถามขึ้น
” หึหึ ตอนนี้ข้าบอกท่านได้ว่า โอกาสเอาชนะมีไม่ถึง 10 ส่วน “
‘ชูเฟิง’ตอบอย่างจริงจัง
” อะไรนะ เจ้ามั่นใจเพียงแค่ 10 ส่วน แต่กลับเอาชีวิตไปเสี่ยงในการต่อสู้ ? เจ้าคิดอะไรอยู่กันแน่ “
‘ผู้เฒ่าหลี่’ พูดพร้อมรีบเอามือลูบเครา
” เอ๋ ขอบคุณท่านที่ช่วยข้า!!! ถึงแม้ว่าตอนนี้ข้าจะมั่นใจเพียงแค่ 10 ส่วน แต่หลังจาก 1 ปี ข้ามีความมั่นใจถึง 100 ส่วน “
‘ชูเฟิง’ยิ้มและกล่าว
” สหายน้อย เจ้าไปเอาความมั่นใจมาจากไหน “
‘ผู้เฒ่าหลี่’ พูดพร้อมกับสบตาของ ‘ชูเฟิง’
” ความมั่นใจของข้าได้มาจากความกดดันต่อจากนี้ 1 ปี หากข้าไม่ชนะ ข้าก็ตาย ดังนั้นข้าจะแพ้ไม่ได้ “
‘ชูเฟิง’ยิ้มอีกครั้ง
” โอ้ว หนุ่มสาวสมัยนี้!!! “
‘ผู้เฒ่าหลี่’หมดคำจะกล่าว ขณะนั้นเขาหยิบม้วนกระดาษจากถุงจักรวาล พร่้อมกับเดินเอากระดาษไปติดกระดานประกาศหน้าตำหนักตอนนั้น ศิษย์หลักมากมายลุมล้อมหน้ากระดาน เขาต้องการรู้ผลการทดสอบของ’ชูเฟิง’และอื่นๆ ว่าจะออกมาเป็นเช่นไร
แต่คนที่เขาอยากรู้มากที่สุดก็คือ’ชูเฟิง’ คนที่กล้าท้าทาย ‘กง ลู่หยุน’เมื่อพวกเขา มองดูผลลัพธ์ของชูเฟิงที่กระดาน ทุกคนต่างตกตะลึง
” ความสามารถพิเศษไม่ชัดเจน มันหมายความว่าไง ตั้งแต่อยู่พื้นที่หลักมา นี้เป็นครั้งแรกที่มีคนมีพรสวรรค์ไม่ชัดเจน “
” โฮ เขาไม่สามารถเปิดศิลาทดสอบได้ ดังนั้นจึงประกาศว่าความสามารถของเขาไม่ชัดเจน “
ด้วยความสงสัยของผู้คน ผู้เฒ่าหลี่จึงอธิบาย
” อะไรกัน ที่แท้ก็เปิดศิลาทดสอบไม่ได้ แสดงว่าแม้แต่ระดับต่ำก็ยังทำไม่ได้ บ้าจริง ปล่อยให่พวกเราตกใจแทบตาย ที่แท้ก็แค่ขยะดีๆนี้เอง “
ทีแรกผู้คนตกใจอย่างมาก เมื่อได้ยินคำพูดของ’ผู้เฒ่าหลี่’ ผู้คนต่างพากันดูถูก ‘ชูเฟิง’ แต่’ผู้เฒ่าหลี่’กลับไม่พูดอะไร เกี่ยวกับคำพูดของคนพวกนั้น หลังจากที่เขาติดประกาศ ครบ 12 แผ่น เขาก็สะบัดแขนและเดิน เข้าตำหนักเก่า
” ตาแก่นี้หาตัวไม่ง่ายเลย “
‘ชูเฟิง’ ตั้งใจว่าจะเข้าไปขอบคุณเขาอีกครั้ง แต่พอเห็น’ผู้เฒ่าหลี่’เขาไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง เขาไม่รู้ว่าเหตุใด ‘ผู้เฒ่าหลี่’ถึงได้ช่วยเขา และต้องการอะไรแม้ว่าเขาจะมีเหตุผลอะไรก็ตาม แต่เนื่องจากเขาเป็นผู้มีพระคุณ สักวันเขาต้องได้รับการตอบแทนอย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้’ชูเฟิง’ต้องรีบหาวิธีฝึกที่สามารถเอาชนะ ‘กง ลู่หยุน’ ได้ภายใน 1 ปี นั้นเป็นสิ่งเดียวที่เขานึกได้ในตอนนี้ อย่างน้อย การที่’ผู้เฒ่าหลี่’มาช่วยจะได้ไม่สูญเปล่า
ภายในคำพูดต่างๆนาๆและสายตาของคนนับไม่ถ้วน ‘ชูเฟิง’ กลายเป็นศิษย์หลักผู้โด่งดังขณะที่กำลังมุ่งหน้ากลับที่พักของเขาในพื้นที่หลักตั้งแต่แรก จนถึงตอนจบ ‘ซูเหม่ย’ เป็นคนเดียวที่คอยอยู่เคียงข้างเขา นางไม่สนใจคำพูดใดๆของคนอื่น แต่นางเลือกอยู่กับ ‘ชูเฟิง’ ด้วยความเต็มใจ
” ชูเฟิง มันเป็นความผิดของข้าที่ทำให้เจ้าต้องเจอเรื่องเช่นนี้ “
” ออกไปจากโรงเรียนมังกรฟ้าและมุ่งหน้าไปยังตะกูลของข้า ให้ตะกูลข้าคอยปกป้องเจ้า อย่าได้ไปสู้กับ กง ลู่หยุน เลย “
หลังจากที่ใกล้จะถึงที่พัก ‘ซูเหม่ย’รีบพูด
” เจ้าหมายความว่าไง ? เจ้าต้องการให้ข้ากลายเป็นเต่าหดหัวหนีหัวซุกหัวซุนอยู่ในกระดองงั้นหรอ ? “
‘ชูเฟิง’ ค่อนข้างที่จะไม่พอใจ แม้เขาจะรู้ว่า ‘ซูเหม่ย’ นั้นหวังดี แต่ยิ่งนางพูดเช่นนี้เขาก็ยิ่งรู้สึกอึดอัด
” เจ้ายังไม่รู้ถึงความน่ากลัวของ กง ลู่หยุน และตะกูลของเขา มันไม่ได้ด้อยไปกว่าโรงเรียนมังกรฟ้าเลย เหตุผลที่เขาเข้ามาที่โรงเรียนมังกรฟ้าก็เพื่อเป็นผู้นำของโรงเรียนเพื่อที่จะครอบครองพื้นที่ทั้งหมด “
” ยิ่งเรื่องที่จะเอาชนะเขา ด้วยเวลาแค่ ปี เดียว ยิ่งแล้วใหญ่ ต่อให้เจ้าเอาชนะ เจ้าก็ไม่สามารถฆ่าเขาได้ มิเช่นนั้นตะกูลเจ้าอาจต้องพบกับภัยพิบัติ “
” ข้านั้นไม่ได้หวังให้เจ้าเอาชนะเขา ข้าเพียงต้องการ ให้เจ้าและครอบครัวของเจ้านั้นปลอดภัย “
ซูเหม่ยพูดอย่างจริงจัง
” โห ถ้าเป็นเช้นนั้น ข้าไม่เพียงแต่จะฆ่าเขา ข้าจะทำลายตะกูลของเขาแถมไปด้วย “
” ซูเหม่ย ข้ารู้ว่าเจ้านั้นเป็นห่วงข้า แต่ข้า ชูเฟิง มิเคยกลัวผู้ใด ข้านั้นยอมเผชิญหน้ากับศัตรูดีกว่าให้ข้าอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรี ต่อให้ฆ่าจะตายในการต่อสู้ ข้าก็จะยอมรับมัน “
” ข้าไม่เคยกลัวความตาย แต่ข้ากลัวอยู่อย่างคนขี้ขลาด ตั้งแต่ กง ลู่หยุน ทำกับข้าเช่นนั้น ทำให้ข้าได้รับความอับอาย หากข้าไม่ล้างแค้นจะให้ข้าอยู่ต่อไปได้ยังไง ? ข้าไม่สามารถใช้ชีวิตด้วยคำดูถูกตลอดไปได้หรอกน่ะ “
” ข้า ชูเฟิง ไม่ว่าใครที่มันรังแกข้า ไม่ว่ามันจะทำล้ายข้าจนบาดเจ็บมากแค่ไหน ข้าก็สามารถอดทนกับความอัปยศอดสูเหล่านั้นได้ แต่ข้าจะไม่ยอมทนไปตลอดชีวิตหรอกนะ คนที่มันรังแกข้า คนที่มันทำร้ายข้า มันจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต “
” ตั้งแต่ กง ลู่หยุน กล้าชกข้า ข้าก็สาบานว่าข้าจะฆ่าเขา ถ้าหากครอบครัวของเขารังแกข้า ข้าก็จะฆ่าครอบครัวของเขา ถ้าหากคนทั้งโลกนี้กล้าทำร้ายข้า ข้าก็จะฆ่าทุกคนบนโลก ต่อให้ข้าตายข้าก็ไม่ยอมให้ใครรังแกข้า ชูเฟิง!!! “
โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . .
ที่มา: