ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปหลายคนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะการต่อสู้แสนจะวุ่นวาย ตระกูลเจี่ย คิดว่าจะหยุดสาวกนิกายโลกวิญญาณไว้ที่ชั้นนี้ แต่ไม่ได้คิดที่จะฆ่ากันให้ตาย ถึงยังไงพวกเขาก็ทำให้สาวกนิกายโลกวิญญาณหลายคนบาดเจ็บสาหัส
แต่เมื่อพวกเขาเห็นคนที่โดนโจมตีเข้าไปอย่างจังใบหน้าของพวกเขาถึงกับถอดสี เพราะคนที่กระเด็นมากองกับพื้น ไม่ใช่สาวกนิกายโลกวิญญาณ แต่คือ คนของตระกูลเจี่ย
“เกิดบ้าอะไรขึ้น?!”
ฉากนี้ทำให้คนจากตระกูลเจี่ย หวาดผวาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แม้แต่ ‘หม่าเชียง’ และคนอื่นๆ จากนิกายโลกวิญญาณยังตกตะลึง พวกเขาไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดกับฉากตรงหน้าได้
” ถูกต้องแล้ว วันนี้พวกเจ้าจะต้องจบลงแต่เพียงเท่านี้ !!! “
ขณะนั้นเสียงหัวเราะอันหนาวเหน็บก็ฝังลึกเข้าไปในจิตใจของพวกเขา
เมื่อพวกเขาหันหน้าไปมอง ทุกคนต่างตกตะลึง เมื่อชูเฟิงยืนอยู่ท่ามของวงล้อมของศัตรู แต่เขาก็ไม่ได้มีท่าทางตื่นตระหนกใดๆ
” น้องชาย การโจมตีเมื่อครู่เป็นฝีมือของเจ้าหรอ ? “
‘หม่าเชียง’ จ้องมอง ‘ชูเฟิง’ ด้วยความประหลาดใจ เพราะสมาชิกของตระกูเจี่ย ที่ล่วงกระแทกพื้นบาดเจ็บปางตาย ในขณะที่ ‘ชูเฟิง’อยู่ในระดับ 1 กำเนิดวิญญาณ แต่คนที่’ชูเฟิง’พึ่งอัดไปนั้น อยู่ในระดับ 5 กำเนิดวิญญาณ!!!
” พี่ชาย ได้โปรดให้ข้าได้ชำระหนี้แค้นกับคนตระกูลเจี่ยด้วย ขอให้ท่านคิดซะว่าเป็นการตอบแทนน้ำใจแก่พวกท่าน “
‘ชูเฟิง’ พูดพร้อมกับยิ้ม
” ท่าน . . . . คิดจะจัดการพวกมันทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวงั้นเหรอ ? “
หญิงสาว ที่อยู่นิกายโลกวิญญาณถึงกับอ้าปากพูด ด้วยความตกใจ
” ความสามารถของพวกเขาก็งั้นๆ ข้า ชูเฟิง ก็เพียงพอที่จะดูแลพวกเขาทั้งหมดได้ พวกท่านเชิญพักผ่อนกันตามสบาย “
‘ชูเฟิง’ ยิ้มและยื่นมือเชิญ ‘หม่าเซียง’
” ปากกล้านักนะ !!! “
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของ’ชูเฟิง’ คนของตระกูลเจี่ยโมโหอย่างมาก หลังจากกล่าวจบเขาก็พุ่งเข้าใส่’ชูเฟิง’ทันที
แต่ก่อนที่เขาจะได้ออกตัวไป ก็มีมือขนาดใหญ่คว้าเขาเอาไว้ นั้นก็คือ ‘เจี่ยฉวน’ แม้ว่า’เจี่ยฉวน’จะไม่ได้เกรงกลัว แต่เขาจำเป็นต้องมีคนคอยกดดัน ‘หม่าเซียง’และคนอื่นๆ แต่เมื่อมองเห็น’ชูเฟิง’ที่มีรอยยิ้มแบบสบายใจ เขาก็รู้สึกหงุดหงิด
” น้อง ชู นี้เป็นความแค้นระหว่าง ตะกูลเจี่ยของข้า กับ นิกายโลกวิญญาณ ดังนั้นอย่าได้ยุ่งเรื่องของพวกเรา ?”
‘เจี่ยชวน’ ยิ้มและกล่าวไปยัง ‘ชูเฟิง’.
” ดี!!! ข้าจะปล่อยเรื่องของพวกเจ้าไปก็ได้ แต่เรายังมีแค้นที่จะต้องชำระ คงได้สินะ ? “
ขณะที่พูด’ชูเฟิง’ สายตาของเขายิงไปที่ ‘เจี่ยเฮง’ และ ชายอีกสองคน
” ความแค้น ความแค้นอะไร ? “
‘เจี่ยฉวน’ งงเป็นอย่างมาก แต่ขณะที่’ชูเฟิง’ส่งสายตาไปที่ ‘เจี่ยเฮง’ และ สองคนนั้น ‘เจี่ยฉวน’ก็พอเข้าใจได้ในทันที เขาจึงกล่าว
” ไอ้เด็กบ้า ไม่ใข่ว่าเจ้าไปหาเรื่องกับ น้อง ชู หรอกนะ ? “
“ขะ ข้า ข้า…”
‘เจี่ยเฮง’ ก้มหน้าลงโดยพูดอะไรไม่ออก เสียงของเขาเหมือนค้างอยู่ที่ลำคอ.ทุกคนสังเกตุได้ว่าเขากลัว’เจี่ยฉวน’เป็นอย่างมาก และคนอื่นๆที่ได้ยิน’เจี่ยฉวน’พูดพวกเขาก็รู้สึกกลัวเช่นเดียวกัน มันอาจเห็นได้ชัดว่า ‘เจี่ยฉวน’มีสถานะตำแหน่ง ในตระกูลเจี่ย ที่ไม่ธรรมดา
” ยังไงก็แล้วแต่ ท่านไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องใดๆ แม้ว่าท่านจะไมได้เห็นข้าเป็นศัตรูนั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะคิดเหมือนกับท่าน ทุกอย่างมันถูกกำหนดไว้หมดแล้ว พวกเราไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ “
‘ชูเฟิง’เห็นได้ชัดว่า ‘เจี่ยฉวน’ไม่อยากเป็นศัตรูกับเขา แต่ท่าทางคนอื่นๆไม่ได้เป็นเช่นนั้น
” เฮ้อออ “
หลังจากได้ยินคำพูดของ ‘ชูเฟิง’ ‘เจี่ยฉวน’ก็พูดอะไรไม่ถูก ได้แต่ถอนหายใจออกมาและกล่าว
” น้อง ชู ข้าเจี่ยฉวน จริงๆข้าไม่ต้องการจะทำร้ายเจ้า แต่ข้าก็มีงานที่ต้องทำ นั่นก็คือการยับยั้งคนจากนิกายโลกวิญญาณในชั้นที่ 2 ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็คงหลีกเลียงไปไม่ได้แล้วสินะ “
หลังจาก ‘เจี่ยฉวน’ พูดจบ ทุกคนก็เตรียมตัวที่จะโจมตี พลังวิญญาณระดับ 6 กำเนิดวิญญาณ ถูกปลดปล่อยพร้อมกัน ในที่แห่งนี้เขานั้นดูแข็งแกร่งมากที่สุดหรืออาจจะมากกว่า ‘หม่าเซียง’ เลยด้วยซ้ำ
“ จัดการ!!!”
เมื่อ’เจี่ยฉวน’โจมตี ในเวลาเดียวกันนั้น ‘เจี่ยเฮง’ ‘เจี่ยกัง’และคนอื่นๆของตระกูลเจี่ยก็เข้าร่วมโจมตีและปลดปล่อยพลังการต่อสู้ล้อมรอบ’ชูเฟิง’
ทักษะการต่อสู้ที่หลากหลายและแข็งแกร่ง ได้คำรามราวกับฉีกอากาศออกเป็นชิ้นๆ และพลังจากแหล่งกำเนิดเต็มไปทั่วทั้ง ห้องโถง ดูจากพลังการโจมตีของทักษะเหล่านี้หากคนธรรมดาโดนเข้าไปก็อาจจะถึงตายได้
“ เยี่ยมมม เข้ามาเลย!!!”
ถึงกระนั้น, ‘ชูเฟิง’ ไม่ได้กลัวแม้แต่น้อย เมื่อเขาเผชิญหน้ากับการโจมตีของหลายคน ภายใต้แรงกดดันของพลังวิญญาณ ‘เจี่ยฉวน’และคนอื่นๆต่างได้รับผลกระทบ และทำให้พวกเขามีปัญหาในการควบคุมพลังวิญญาณของพวกเขา
สำหรับ’ชูเฟิง’ เขาไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย และเขายังสามารถใช้พลังที่แท้จริงของเขาได้อย่างเต็มที่ ภายในตระกูลเจี่ย แม้จะมีถึง 5 คนที่อยู่ในระดับ 6 กำเนิดวิญญาณ อีก 20 คน ที่อยู่ในระดับ 5 กำเนิดวิญญาณ ‘ชูเฟิง’ก็ไม่ได้รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย
*เปรี้ยงงงง พรึบบบ *
‘ชูเฟิง’ ใช้ เทคนิคท่องนภา หายไปเหมือนกับภูติพราย เมื่อเขาโผล่มา เขาก็เข้าไปอยู่ในกลุ่มของตระกูลเจี่ยแล้ว
‘ชูเฟิง’เคลื่อนย้ายเข้ามาอย่างรวดเร็ว จนหลายๆคนไม่สามารถตอบสนองได้ทัน ไม่นานเขาก็มาอยู่ด้านหน้าของ’เจี่ยเฮง’ จากนั้นก็ยืนมือไปคว้าคอเสื้อของเขา และระดมหมัดยัดใส่หน้า ‘เจี่ยเฮง’ หลายต่อหลายครั้ง
“ ปุก ปัก ปุ๊ก ปั๊กกก~~~”
หลังจากที่หมัดระดมเข้าไปที่ใบหน้าของ ‘เจี่ยเฮง’ หลายต่อหลายครั้ง ใบหน้าของ’เจี่ยเฮง’ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก จมูก ฟัน ปาก เบ้าตา เละเทะจนไม่เหลือเค้าโค้งเดิม น้ำตาและเลือดต่างก็ปนกันมั่วซั่วไปหมด เขานั้นรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
” เจ้า อยากตายมากสินะ!!! “
เมื่อเห็นพวกเดียวกับถูกตี เยี่ยงสุนัข อย่างน่อนาถ มันจึงทำให้พวกเขาอยากจะฆ่า’ชูเฟิง’ให้ตาย สายตาของพวกเขาเหมือนกับต้องการสับ’ชูเฟิง’เหมือนหมื่นๆชิ้น
“อยากฆ่าข้างั้นเรอะ? หากพวกเจ้ามีความสามารถก็เข้ามาเลย!”
‘ชูเฟิง’ ขยายมือออกแล้วก็ฟาด ‘เจี่ยเฮง’ลงกับพื้น ทันใดนั้นเสียงร้องโหยหวนก็ดังขึ้นมาพร้อมกันกับเสียงแตกร้าว เห็นได้ชัดว่ากระดูกของเขานั้นป่นปี้ไม่มีชิ้นดี
หลังจากที่ขว้าง’เจี่ยเฮง’ออกไปเหมือนกับลูกขนุน ‘ชูเฟิง’ก็ได้ใช้ทักษะ ท่องนภา อีกครั้ง ในตอนนั้นเขาสามารถหลบการโจมตีของคนตระกูลเจี่ยได้ทั้งหมด จากนั้นเขาพุ่งเข้าไปยังผู้เชี่ยวชาญระดับ 6 กำเนิดวิญญาณ นั้นก็คือ ‘เจี่ยกัง’ คนที่อยากจะสั่งสอน’ชูเฟิง’ในชั้นแรกนั่นเอง
“ สารเลว อย่าได้ผยองนัก!”
หลังจากได้เห็นทักษะของ’ชูเฟิง’ ‘เจี่ยกัง’ ก็สิ้นความมั่นใจแตกต่างจนตอนแรก เมื่อเขาไม่สามารถที่จะตอบสนองความเร็วได้ทัน เขาจึงรีบสร้างการป้องกันด้วยอำนาจพลังวิญญาณห่อหุ่มตัวไว้ทันที เพื่อรับการโจมตีของ’ชูเฟิง’
* บูมมมมม *
มือ’ชูเฟิง’ที่โจมตีนั้นเต็มไปด้วยอำนาจพลังวิญญาณ มันจึงสามารถเจาะการป้องกันของฝ่ายตรงข้ามได้ไม่ยาก เมื่อฝ่ามือของเขาปะทะกับรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณ มันก็เกิดเสียงแตกร้าวกระจุยกระจายไปทั่ว
หลังจากที่ รูปแบบอำนาจฯ พังทลาย ‘ชูเฟิง’ ก็คว้า ‘เจี่ยกัง’ เอาไว้ แม้’เจี่ยกัง’ต้องการจะหนี แต่มันก็สายไปแล้ว เมื่อความกดดันของ’ชูเฟิง’ที่ปล่อยออกมามันหยุดการเคลื่อนไหวของเขา
หลังจากนั้น ‘ชูเฟิง’ก็จับเขาโยนขึ้นไปอย่างไร้ความปราณี จากนั้นเขาก็ตกลงมาอย่างรุนแรง ขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงแตกหักจากด้านหลังของเขา เสียงนั้นเป็นเสียงกระดูกที่แตกยับ
กร๊อบบบบบ
* เฮื้อออออออ *
หลังจาก’เจี่ยกัง’ ตกลงบนพื้นไม่ทันไร ‘ชูเฟิง’ก็ได้ยกเท้าขึ้นมาแล้วกระทืบไปยังหน้าอกของเขา กระดูกซีกโครงของเขาแตกละเอียด จากนั้น’ชูเฟิง’ก็กวาดสายตาที่ดุร้าย ไปรอบๆ แล้วกล่าวว่า,
“ ไอ้พวกก้อนกรวด อยากเป็นแบบนี้ก็เข้ามา ”
” ไอ้สารเลว ข้าจะทำให้เจ้าสำนึกไปตลอดชีวิต !!! “
ผู้เชี่ยวชาญระดับ 6 กำเนิดวิญญาณวิ่งออกมาพร้อมกับใช้ทักษะการต่อสู้ระดับ 5
หลังจากที่เขางัดทักษะนั้นออกมา แหล่งกำเนิดพลังฯที่แน่นหนาเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นพายุสีขาว และก็ตามมาด้วยเสียงคมกริบจนฟังดูน่ากลัว คำรามก้องสะท้านเข้าหา ‘ชูเฟิง’
ในตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ ไม่ได้หลบเลี่ยงแต่อย่างใด เขายกมือขวาเขาขึ้นและปัดทักษะอันดับที่ 5 ของ’เจี่ยกัง’ออกไป จากนั้นก็ใช่ฝ่ามือฟาดลงบนหัว ‘เจี่ยกัง’ จนดิ้นพล่าน
‘ชูเฟิง’ยังคงอัดเขาขณะที่ยังกองอยู่พื้นอย่างโหดเหี้ยม เขาก้าวขาขึ้นไปเหยียบบนร่างกายของ’เจี่ยกัง’ ดั่งผู้มีชัย เลือดของเขาทะลักออกมาเป็น สายน้ำ กระเด็นออกหลายต่อหลายครั้ง เสียงร้องที่แสนจะทรมาณดังขึ้นมาโดยไม่มีท่าทางว่าจะหยุด
เสียงของเขา ทำให้’ชูเฟิง’เมามันส์ยิ่งกว่าตอนจัดการ กับ ‘เจี่ยเฮง’น้องของ’เจี่ยฉวน’ซะอีก
ดีนะยังเป็นแค่พวกรุ่นเล็กของตะกูล เจี่ย หากเป็นอาวุโสคงจะยุ่งน่าดู . . . . . . .
ตอนหน้าอาจจะสนุกขึ้นกว่าเดิม ???
ที่มา: