ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปณ ตอนนี้ภายในหุบเขาร้อยเลี้ยวนั้นได้มีแรงดันที่มองไม่เห็นทำงานอยู่มันเป็นรูปแบบการก่อตัวที่แสนน่ากลัวมันทำงานตั้งแต่พื้นดินจนถึงบนฟ้า คล้ายเช่นมานพลังล้อมรอบอาณาเขตของภูเขาร้อยเลี้ยวทั้งหมด แรงดันเหล่านี้นั้นมีไว้เพื่อปราบปรามมนุษย์โดยเฉพาะ
ด้วยแรงดันที่น่ากลัวเช่นนี้แม้แต่’ชูเฟิง’ก็ไม่อาจที่จะสามารถต้านทานมันได้ แต่อย่างไรก็ตามในสถานทีดั่งกล่าวได้มีคนอยู่ที่นั้น และในตอนนี้เขาได้ปรากฏอยู่ในสายตาของ’ชูเฟิง’
“เฮ้! ท่านเป็นใคร? ท่านพอที่จะสามารถให้ข้าออกจากที่นี่ได้หรือไม่? “
ปัจจุบัน’ชูเฟิง’นั้นได้อยู่ในของเส้นของชีวิตและความสาย แต่เขารู้ว่าเจ้าของของวิหารนี้จะต้องมีวิธีการที่จะถอดรูปแบบการก่อตัวนี้อย่างแน่นอนเพราะเขาเป็นถึงผู้เชื่อมต่อฯเสื้อคลุมสีฟ้า วิธีการสร้างจิตวิญญาณของเขาจะเหนือชั้นกว่า’ชูเฟิง’จน ‘ชูเฟิง’ไม่อาจที่จะเทียบได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ยังได้เห็นกลุ่มควันจริงนั้นแสดงว่าจะต้องมีใครบางคนที่ไม่ได้รับผลกระทบจากแรงดันนี้อยู่อย่างแน่นอน บางทีควันนั้นอาจเป็นควันที่มาจากการปรุงอาหารอยู่ก็เป็นได้หรือไม่?
ดังนั้น’ชูเฟิง’จึงได้ใช้พลังวิญญาณของเขาทั้งหมดวิ่งเข้าไปใกล้กลับพระวิหารมากขึ้น ในขณะนั้นเขาไม่ได้ให้ความสนใจว่าใครคือเจ้าของพระวิหารแห่งนี้แล้วมันจะเป็นอันตรายต่อเขาหรือไม่ เขารู้เพียงแต่ว่าเจ้าของวิหารแห่งนี้สามารถที่จะช่วยให้เขามีชีวิตอยู่ได้ แต่ถ้าเจ้าของพระวิหารเลือกที่จะไม่ช่วยเขาละก็ไม่ต้องสงสัยเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
***หวืบ***
ในเวลาเดียวกันที่’ชูเฟิง’กำลังจะเดินเข้าไปใกล้ ก็ได้มีคนกระโดดออกมาจากพระวิหารและยืนอยู่บนจุดสูงสุดของยอดเขา
มันเป็นชายชราที่มีผมสีขาวและใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยแต่สายตาของเขานั้นเป็นที่สดใสและมีชีวิตชีวา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือชายชราคนนี้ได้สวมเสื้อคลุมสีทอง และตรงส่วนหน้าอกของเสื้อคลุมของเขานั้นได้มีตราสัญญาลักษณ์ของคฤหาสน์องค์ชายกิเลนนั้นก็หมายความว่าเขาคือคนของคฤหาสน์องค์ชายกิเลน
เมื่อชายชราเห็น’ชุเฟิง’สามารถยืนอยู่บนอากาศได้เขาไม่สามารถที่จะช่วยได้แต่ยืนขมวดคิ้วแน่นและปรากฏคำใบ้ของอาการช็อกโผล่ออกมาทั่วใบหน้าของเขา แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้สงบลงและถามอย่างเอาใจใส่
“เจ้าเป็นใคร”
“ผู้อาวุโสข้าเป็นศิษย์จากสำนักมังกรฟ้าและข้าก็ได้เข้าร่วมในการล่าครั้งนี้”
“แต่อย่างไรก็ตามข้าน้อยไม่สามารถที่จะออกไปจากหุบเขาร้อยเลี้ยวได้ในเวลานี้ ข้าน้อยได้ถูกตรึงไว้โดยแรงดันแปลกซึ่งในตอนนี้ข้าน้อยนั้นไม่สามารถที่จะหายใจได้ดันนั้นข้าน้อยหวังว่าท่านผู้อาวุโสจะสามารถช่วยชีวิตของข้าน้อยได้”
‘ชูเฟิง’เลือกที่จะพูดถึงจุดประสงค์หลักของเขาเพราะเขาในตอนนี้จริงๆนั้นไม่มีเวลาพอที่จะพูดคำไร้สาระ
“ข้อโทษด้วยน่ะ,ข้าน่ะไม่ได้เป็นผู้ปกคลองหุบเขาแห่งนี้ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถที่จะตัดสินใจได้ เดี่ยวกับวิธีการเช่นนี้ เพราะงั้นเจ้ารออยู่ตรงนี้ก่อนเดี้ยวข้าจะไปถามเขาให้แต่เขายินดีจะช่วยเจ้าหรือไม่นั้นล้วนขึ้นอยู่แก่โชคของเจ้า”
ชายชราพูดคำเหล่านั้นออกไปหลังจากที่เขาประเมินชูเฟิงแล้วเขาก็ได้รีบวิ่งเข้าไปในพระวิหาร
ในขณะนั้นภายในพระวิหาร, ได้มีชายชราคนหนึ่งที่มีใบหน้าดูมีชีวิตชีวาและสวมเครื่องแต่งกายที่ทำจากผ้าสีเหลืองได้นั่งอยู่ที่หน้าเตาชันขาข้างหนึ่งขึ้นและพึมพำเพลงเบาๆ ในขณะที่เขากำลังปรุงซุปอยู่อย่างสบายใจ ณ ตอนนั้นเขาได้เห็นชายชราผมสีขาวเดินกลับเข้ามาเขาจึงได้ถามไปว่า
“เฟิงหยาง มันเป็นใครกันที่กล้าบุกรุกเข้ามาในดินแดนของข้า”
“เขาเป็นเพียงเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ในระดับ 1 แดนแก่นแท้วิญญาณ”
ชายชราผมสีขาวกล่าว
“เด็กผู้ชายที่อยู่ในระดับที่ 1 ของแดนแก่นแท้วิญญาณ? เฟิงหยาง จะกำลังเล่นตลกกับข้าอย่างงั้นรึ? เห็นได้ชัดว่าคนที่เดินเข้ามานั้นมันอยู่บนอากาศ แล้วจะเป็นไปได้ยังใงกันที่จะมีพลังวิญญาณเพียงแค่ระดับ 1 ของแดนแก่นแท้วิญญาณ เขาควรจะอยู่ในแดนสวรรค์วิญญาณไม่ใช่หรอกรึ?”
ชายชราสวมผ้าเหลืองขดริมฝีปากของเขา
“ท่านเป็นคนบอกให้ข้าออกไปดูและในตอนท้ายข้ากลับมาบอกท่าน แต่ท่านกลับไม่เชื่อ ถ้างั้นท่านไม่ลองตรวจสอบดูซะเองเลยล่ะ ท่านเป็นถึงผู้เชื่อมต่อฯเสื้อคลุมสีฟ้านิ!!”
ชายชราผมสีขาวตอบอย่างช่วยไม่ได้และจ้องหน้าไปที่ชายชราห่มผ้าเหลือง
ในทันทีที่ชายชราห่มผ้าเหลืองได้ปิดตาของเขาและเมื่อเขาเปิดตาขึ้นก็เต็มไปด้วยอาการช็อกปรากฏบนใบหน้าและสายตาของเขาและในขณะนั้นเขาก็กล่าวออกมาว่า
“เป็นที่น่าประทับใจ อยู่เพียงแค่ระดับ 1 แดนแก่นแท้วิญญาณแต่ยังมีความสามารถที่จะเดินบนอากาศได้ ฮ่า! ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับการฝึกที่พิเศษกับร่างกายของเขาและทักษะการต่อสูที่ไม่ธรรมดา เฟิงหยาง ดูเหมือนว่าในอาณาจักมังกรฟ้าของคุณนั้นจะมีต้นกล้าที่ดีนะ”
“แต่มันก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเพราะเขาไม่สามารถที่จะทนแรงดันจากการก่อตัวนี้ได้ ข้ากลัวว่าชีวิตเล็กๆของเขามันจะเป็นเรื่องยากที่จะรอดออกไปได้”
ชายชราห่มผ้าเหลืองก็ยังคงส่ายหัวและพึมพำเพลงของเขาพร้อมกับการปรุงซุปเนื้อต่อไป
“พี่ชาย เฮิงหยวน ในอาณาจักรมังกรฟ้าของข้านั้นไม่ได้มีทักษะการต่อสู้ที่ทำให้สามารถเดินบนอากาศได้มากมายนัก นี้จะต้องเป็นมรดกของจักรพรรดินภาอย่างแน่นอน มันเป็นเรื่องค่อนข้างยากนักที่จะได้เห็นทักษะท่องนภาที่ได้ห่างหายไปเป็นร้อยปีที่ผ่านมาแต่ตอนนี้มันกลับมาแล้วอีกครั้ง”
“ข้าสงสัยว่าพี่เฮิงหยวน จะเห็นแก่ใบหน้าของข้าและไว้ชีวิตชายหนุ่มผู้นี้ได้หรือไม่? “
ชายชราผมขาวอ้อนวอน
“น้องเฟิงหยาง ทักษะการต่อสู้ที่สามารถทำให้เดินบนอากาศได้นั้นอาจเป็นสมบัติที่หายากใน 9 อาณาจักร แต่มันสามารถทำประโยชน์อันใดให้กับข้าได้ไหม”
“ข้ามาอาศัยอย่างสันโดษในสถานที่แบบนี้นั้นเพราะว่าข้าไม่ต้องการให้ใครมารบกวนข้า นับตั้งแต่ที่เขาได้พบสถานที่แห่งนี้ในอนาคตไม่มีใครรับประกันได้ว่าเขาจะไม่รั่วไหลเรื่องนี้ออกไป ไม่ต้องพูดถึงถ้าเขาไม่ได้ตายจากแรงดันการก่อตัวนี้และถึงแม้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ข้าจะเป็นคนที่ไปฆ่าเขาเอง”
ชายชราห่มผ้าเหลืองยิ้มอย่างแผ่วเบา
“นี่หมายความว่า พี่เฮิงหยวน จะไม่ไปช่วยชีวิตเขาจริง?”
ชายชราขมวดคิ้วเล็กน้อย
“มันดูเหมือนว่าเจ้ายังไม่รู้จักข้าดีพอ”
ชายชราห่มผ้าเหลืองยิ้มและเขาก็ไม่ได้เคลื่อนย้ายใดๆ
***หวืบ***
ในทันทีชายชราผมขาวไม่เสียคำพูดใดๆ อีกต่อไปเขาได้กระโดดออกจากพระวิหารและมุ่งหน้าไท่ที่จุดสูงสุดของยอดเขา
ในขณะนั้นเขามองไปที่’ชูเฟิง’ที่ยืนอยู่บนอากาศที่มีใบหน้าขาวซีดเหมือนคนตายที่พร้อมจะล้มลงได้ทุกเมื่อ เขาได้ขมวดคิ้วแน่นซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก
แต่ในท้ายที่สุดเขาก็ได้กัดฟันของเขาและเอาป้ายที่เหมือนกับคริสตัลออกจากกระเป๋าหน้าอกของเขา และโยนมันให้กับ’ชูเฟิง’และกล่าวคำว่า
“รับ”
***ปับ***
พอเห็นเช่นนั้น’ชูเฟิง’ก็ได้ขยายมือของเขาและคว้าเอาไว้อย่างรวดเร็วซึ่งหลังจากที่เขาได้คว้าแผ่นป้ายเอาไว้แรงดันที่มองไม่เห็นโดยรอบของเขาก็ได้หายไปในทันที และบรรยากาศของพลังงานแก่นแท้ก็ได้กลับเข้ามาสู่ร่างกายของ’ชูเฟิง’อีกครั้ง
ในทันที’ชูเฟิง’ก็ได้รู้สึกมีความสุขอย่างเหลือใจ เพราะเขาได้ถูกช่วยเอาไว้ในที่สุด ในครั้งแรกที่เขาปิดตาของเขาและสูดลมหายใจลึกที่สุด นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าการหายใจนั้นชั่งเป็นสิ่งที่ค่อนข้างสะดวกสบายยิ่งนัก
“ขอบคุณ….ผู้อาวุโสท่านเป็นอะไรรึป่าวมีสิ่งใดผิดปกติเกิดขึ้น?”
‘ชูเฟิง’เดิมอยากจะขอบคุณเขา แต่เขาสังเกตเห็นความประหลาดใจได้ว่าใบหน้าของชายชราผมขาวนั้นเป็นผิวซีดสีขาวและบิดเบี้ยว ดูจากลักษณะแล้วมันชั่งเหมือนกับอาการที่เขาเป็นก่อนหน้านี้
“ข้ามีเพียงหนึ่งป้ายเท่านั้น หลังจากที่ข้าให้มันแก่เจ้าข้าก็จะต้องทนรับแรงดันของการก่อตัวนี้แทนเจ้า”
ชายชราผมขาวกล่าวด้วยรอยยิ้มเย็น
“อะไรกัน? นี่….”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้น’ชูเฟิง’ทันทีได้ตกใจเป็นอย่างมาก เขาไม่เคยคิดเลยว่าชายชราที่เขาพึ่งพบเห็นกันเป็นครั้งแรกและเป็นคนแปลกหน้าอย่างสมบูรณ์จะสละชีวิตเพื่อที่จะช่วยเขา
นี่จึงทำให้’ชูเฟิง’ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เพราะเขาเห็นได้ชัดว่าเจ้าของพระวิหารนั้นไม่เต็มใจที่จะช่วยเขาและชายชราผู้นี้ได้ตัดสินใจที่จะให้เครื่องร่างป้องกันตัวของตัวเองให้กับ’ชูเฟิง’ ซึ่งแรกกับเขาจะต้องตกอยู่ในอันตรายแทน
แม้ว่า’ชูเฟิง’นั้นต้องการที่จะมีชีวิตอยู่แต่เขาไม่ต้องการให้ชายชราที่พึ่งได้พบกันในครั้งแรกนั้นต้องมาตายเพื่อช่วยเขา
“ชูเฟิงจำรูปแบบการก่อตัวในป้ายนี้อย่างรวดเร็ว ตราบใดที่เจ้าจำโครงสร้างรูปแบบของมันได้ละก็มันจะสามารถช่วยให้เจ้าสร้างป้ายป้องกันเช่นนี้ขึ้นมาได้อีกอันหนึ่ง และเมื่อเวลานั้นมาถึงมันจะสามารถทำให้เจ้าทนต่อแรงดันการก่อตัวนี้ได้”
ในทันทีที่’ชูเฟิง’รู้ว่าควรทำอย่างไร เขาได้ใส่อำนาจพลังวิญญาณเข้าไปในป้ายคริสตัลและศึกษาการก่อตัวในป้ายในทันทีอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มีความลังเลใดๆ
หลังจากที่เขาได้บรรลุรูปแบบการก่อตัวในป้ายเขาก็ได้ยกศีรษะของเขาขึ้นรวดเร็วราวกับการกระพริบตาแต่เมื่อเขามองไปที่ชายชราเขาก็ได้ค้นพบว่าใบหน้าของชายชรานั้นได้บิดเบี้ยวมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น’ชูเฟิง’จึงได้รีบกล่าว
“ท่านผู้อาวุโส ข้าน้อยมีนามว่าชูเฟิง ท่านได้โปรดบอกชื่อของท่านมา ในอนาคตแน่นอนว่าข้าจะชำระคืนให้แก่ท่านที่ได้โปรดปรานช่วยชีวิตของข้าเอาไว้”
“โอ้วเพื่อน…ตัวน้อย เจ้ามีนามว่าชูเฟิง? ฮ่าๆ เป็นชื่อที่ค่อนข้างดี”
‘ฉี เฟิงหยาง’ บังคับรอยยิ้มของเขาออกมา แต่เขาไม่สามารถที่จะปกปิดความเจ็บปวดที่ไม่สามารถหายใจเอาไว้ได้
“ความมีน้ำใจนี้จะไม่ได้ขอบคุณด้วยคำพูด ในอนาคตข้าน้อยจะต้องตอบแทนความโปรดปรานกับการกระทำในวันนี้อย่างแน่นอน ท่านผู้อาวุโสข้าน้อยหวังว่าเราจะได้พบกันอีก”
หลังจากที่บอกคำพูดเหล่านั้น’ชูเฟิง’ก็ได้โยนป้ายในมือของเขากลับไปที่ ‘ฉี เฟิงหยาง’
***ง้อวววโครตหล่อ***
“ชูเฟิงนี่เจ้า….”
ในขณะเดียวกัน ‘ฉี เฟิงหยาง’ ก็ได้คว้าป้ายเอาไว้และหันไปรอบๆเขาก็พบว่า’ชูเฟิง’ได้หายไปแล้ว เขาต้องการที่จะไล่ตามแต่เขาก็ไม่มีความสามารถที่จะเดินบนอากาศได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ภาวนาและปล่อยวาง
“ฮ่าฮ่า! เด็กคนนี้มีความกล้าหาญพอตัวเลยทีเดียว แต่มันก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะถ้าเมื่อกี้เขาไม่ได้ส่งป้ายกลับมาที่เจ้าข้าก็จะไปเอามันกลับมาเอง และถ้าเขาไม่ยอมให้ผมก็จะฆ่าเขา”
เพียงแค่ในเวลานั้นได้มีเสียงหัวเราะดังออกมากับสายลม นั้นคือชายชราห่มผ้าสีเหลืองที่ดูมีชีวิตชีวาได้ปรากฏตัวถัดจาก ‘ฉี เฟิงหยาง’ โดยที่ไม่ได้ให้ซุ่มให้เสียงใดๆ เพียงแต่เขาไม่ได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของยอดเขา แต่เขายืนอยู่บนอากาศ
################################################################################################# เอาล่ะเข้าสู่สาระเร้าใจท้ายบทกับ : นายกระทิข้น
ปล.ที่ 1. ช่วงเมาส์มอยท้ายบท : ง่ะโครตหล่อถ้ามีปีกหน่อยนี่กูนึกว่าเทพบุตร หลังจากที่เป็นโจรโฉดชั่วมานาน บทพระเอกหล่อๆก็มาสักที
ปล.ที่ 2. ว่ากันด้วยเนื้อหาที่ซ่อนอยู่ในบท ก็มาถึงช่วงสาระในตอนนี้กันนะครับผมในตอนนี้ก็จะมีคีย์เวิร์ดอยู่ 2 อย่าง ย่างแรกคือ ฉี เฟิงหยาง เป็นคนของคฤหาสน์องค์ชายกิเลน อย่างที่สอง ชูเฟิงได้จำรูปแบบการก่อตัวที่อันแน่นอยู่ในป้ายไปเรียบร้อยแล้วแต่จะทำสำเร็จรึป่าวนั้นก็ไม่รู้ แต่พี่สำคัญเลย คือ ฉี เฟิงหยาง เพราะเขาเป็นคนของคฤหาสน์องค์ชายกิเลน ซึงเราก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าคนนี้คือมิตรหรือศัตรูแต่ถ้าคนที่ดูตอนนี้กันไปแล้วก็อาจคิดว่าเขานั้นเป็นมิตร แต่จะมั่นใจได้กี่เปอร์เซ็นต์อ่ะ เพราะยังใงเขาก็ยังขึ้นชื่อว่าเป็นคนของคฤหาสน์องค์ชายกิเลน แถมชูเฟิงยังไปมีเรื่องกับหลินหลานด้วย ถ้าเกิดรู้ความจริงเข้าจะเป็นเช่นไร เพราะตำแหน่งหลินหลานนั้นก็ไม่ใช่น้อยเพราะมันเป็นถึงผู้จัดการคฤหาสน์เลยด้วย ไม่รู้ว่ายศนั้นจะมากหรือน้อยกว่า ฉี เฟิงหยาง กันแน่ ถ้าอยากรู้นักละก็ก็ต้องติดตามกันต่อไปนะ
ปล.ที่ 3. ทิ้งท้าย ปล.2 อ๊ะอ๊ะ อย่าลืมว่าพี่เฟิงเรากำลังทำอะไรอยู่ ระดับพี่เฟิงแล้วคงไม่ต้องบอกเลยว่าผมมันจะออกมาเป็นยังใงและถ้าชูเฟิงสามารถแก้รูปแบบการก่อตัวที่อยู่ในแผ่นป้ายนั้นได้ล่ะก็ 555555 จนสิ้นเผาพันธ์โอสถวิญญาณกันล่ะที่นี้ 555555 ในตอนหน้าจะถึงระดับไหนก็ต้องติดตามกันนะครับ มาลุ้นวิธีในการแก้รูปแบบวิญญาณของพี่เฟิงเราไปพร้อมกันนะครับผม รับลองสนุกแน่
ปล.ที่ 4.ว่ากันด้วยตัวเอกในบทนี้ ตอนนี้นี่ไม่ต้องสืบครับบทพระเอกนี่ยกให้พี่เฟิงไปเลยนะฮ่ะ จริงๆไม่มีคำบรรยายใดใดให้ลึกซึ้งแค่อ่านก็สัมผัสได้ถึงความเป็นพระเอก หล่อจริงๆพระเอกคนนี้
ปล.ที่ 5. อีก 2 ตอนก็จบภาคหุบเขาเลยเว้ยเห้ย 5555 ชูกูยู รอน้องเฟิงก่อนน้องจะไปหาพี่แล้ว ภาคหน้าตอนที่ 237-241 เราจะมาพบกลับพี่ชายของชูเฟิง ชูกูยู!! เราจะมารับรู้ความเทพของชูเฟิงไปด้วยกัน
เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 3 หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิงไปพร้อมกลับคุณ
1 : นี่ 2 ปล.3 ข้างบนเขาแอบสปอยไว้ด้วยแหละว่าตอนหน้าชูเฟิงจะเลื่อนระดับ 555 รู้สึกตื่นเต้นอ่ะอยากรู้เหมือนกันว่าเลื่อนไปถึงระดับไหน
2 : ชั้นก็ตื่นเต้นเหมือนนายเช่นกัน 1 จะเลื่อนจนถึงขนาดไหนกันนะจะถึงขนาดที่เอาชนะ กง ลู่หยุนได้รึป่าวนะ
3 : กูไม่เขาใจพวกมึงจริงๆว่ะ 1 2 คือแบบตื่นเต้นอะไรกันก็อีแค่ระดับพลังไรเนี่ย แค่ชื่อตอนหน้านี่มันก็บงบอกแล้วว่า ถึงระดับไหน และยิ่งพลังมันเพิ่มสูงขึ้นมากแค่ไหนคิดสิว่าทรัพย์กรที่มันต้องใช้อ่ะจะมีมากแค่ไหน คิดดิไม่สงสาร พวกโอสถวิญญาณมันมั่งหรอที่กำลังอยู่ในบ้านกลับครอบครัวอย่างมีความสุขแต่กลับต้องมาโดนล่าโดยไอ้เฟิง มันใช้ได้ที่ไหนอ่ะมีความสุขบนความทุกผู้อื่นแม้งไม่มีความเป็นแบบอย่างพระเอกอะนี่มันโจร โจรชัดๆ กูไม่สรรเสริญโจรจำไว้เลย 1 2 กูไม่สรรเสริญโจร และไอ้กงไรเนี้ยแค่ยื้มพลัง ต้าน ต้าน ตบไปทีเดียวนี่ก็ไม่ต้องสืบล่ะตายแน่นอนไม่ต้องลุ้นไรเลย และทำใมมันต้องโชว์พาวซัดกันตั้ง 20 กว่าบท 242-263 อะไรมันจะเยอะขนาดนั้น มันมีอะไรกันแน่ มันต้องการอะไร
1 : 3 นายมันไม่มีฟิลลิ่งเลยอ่ะ นายไม่เข้าใจถึงอารมคนอ่านที่เขาต้องการที่จะลุ้นอ่ะ 3
2 : ใช่ 3 นายมันไม่อินกับบทบาทของละครในเนื้อเรื่องอะ พวกโอสถวิญญาณมันได้ถูกกำหนดจากคนแต่งเอาไว้แล้วว่า ต้องถูกล่าโดยชูเฟิง ทุกสิ่งที่อย่างมันมีที่มาที่ไปมันถูกกำหนดไว้แล้วนะ 3
3 : กูเข้าข้างความยุติธรรมกูไม่สรรเสริญพวกโจร…กูต้องการความยุติธรรมลูกตำรวจกูไม่เอา!!
1,2 : 3 มึงเงียบปากไปเลยนะถ้าเพจโดนปิดขึ้นมากูจะโทดมึง!!….
3 : ……………………………………
****หลังจากนี้เราจะไม่ได้ทำ ปล.ไปสักพักเนื่องจากต้องทำยอดตอนให้ได้เยอะๆ เพราะงั้นเจอกันอีกทีตอนเล่มที่ 2 นะงับขอบคุณที่ติดตาม ปล. และ 1 2 3 นะครับผม ฮ่า ฮ่า****
#################################################################################################
…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ : นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน####…..
ที่มา: