ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปลูกน้องเฉินต้าไห่ทั้งเจ็ดต่างยื้อแย่งกันให้ข้อมูลหยางเฉิน หยางเฉินจดจำที่อยู่ของเฉินต้าไห่และลูกชายอย่างรวดเร็ว และจัดการชายทั้งเจ็ดจนหมดนอนหมดสติแหมะเรียงรายอยู่บนพื้นหยางเฉินคุ้นเคยกับการลอบจู่โจมโดยไร้เสียง ด้วยประสาทสัมผัสอันแหลมคม เขาสามารถรับรู้การเคลื่อนไหวรอบๆ ได้อย่างแม่นยำ
เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วดั่งคล้ายภาพเบลอยามค่ำคืน ที่เลือนหายไปในความมืดตามคำบอกกล่าวของลูกน้องทั้งเจ็ด เฉินเฟิงสมควรอยู่ในห้องนี้ ขณะที่เฉินต้าไห่ยังไม่รู้ที่อยู่แน่ชัด ถ้าหากมันไม่ได้ทบทวนบทเรียนอยู่ล่ะก็ เช่นนั้นมันสมควรอยู่ในห้องนั่งเล่นหยางเฉินกระโดดข้ามระเบียงเข้าแล้วนวดบอดี้การ์ดสี่คนอย่างเงียบเชียบ
ร่างกายเดี๋ยวผุดเดี๋ยวโผล่พร่างพราวอย่างปีศาจ ขึ้นไปที่ชั้นสาม เวลานี้เป็นเวลาราวสี่ทุม แต่ละห้องยังคงส่องสว่างเงาของต้นไม้ส่งเสริมให้หยางเฉินดูเหมือนภาพเบลอใต้แสงจันทร์ เมื่อลมหนาวพัดกระทบเพดานหน้าต่าง ผ้าม่านถูกยกขึ้นเล็กน้อย และภาพตรงหน้าก็สะท้อนเข้าครองจักษุหยางเฉินภายในห้องนอนขนาดใหญ่
มีของตกแต่งฟุ่มเฟือยมากมาย มีเงาร่างที่คุ้นเคยอยู่เงาหนึ่ง มันคือเฉินเฟิง !
อย่างไรก็ตามเฉินเฟิงไม่ได้สังเหตุแขกไม่ได้รับเชิญผู้หนึ่งซึ่งอยู่อยู่ทางระเบียง เฉินเฟิงมีใบหน้าดั่งปีศาจน่าขยะแขยง มันกำลังทำบางสิ่งอย่างที่คนธรรมดาเห็นแล้วต้องอดรนทนไม่ได้เข้าขยำคอด้วยความเดือดดาลด้านบนของเตียงขนาดใหญ่เป็นร่างของหญิงสาวผิดขาวซีด ถูกตรึงไว้ดั่งพระเยซู แขนขาทั้งสองข้างถูกมัดไว้ด้วยถุงน่องสีดำ
วัสดุของถุงน่องเหนียวอย่างไม่น่าเชื่อ รอยเลือดซึมออกมาเนื่องจากการมัดอย่างแน่นหนาเกินไป ผิวที่ขาวของหญิงสาวมีรอยสีม่วงเต็มไปหมด ดูเหมือนว่าเธอจะผ่านการทารุณมาอย่างโหดร้ายผมของเธอกระเซอะกระเซิงจากการดื้นรนและเหงื่อ ใบหน้าสีแดงและปากถูกยัดด้วยกางเกงในสองตัว
ณ ตำแหน่งนั้นหญิงสาวทำได้เพียงส่งเสียงอู้อี้มองดูหญิงสาวถูกทารุณ สิ่งแรกที่หยางเฉินรู้สึกคือความคุ้นเคย หลังจากทบทวนดูสักพัก เขาก็นึกออก เมื่อครั้งแรกที่เขาพบหลินรั่วซีที่บาร์ เธอเข้ามาคุยกับเขา และเธอนี่เองที่เรียกเหล่าพลพักล้านเลี่ยนเตียนโล่งมาจัดหารเขา
และหลังจากจบการต่อสู้ ปรากฏว่า เธอเป็นน้องสาวของหัวหน้าโล้น หยางเฉินไม่คาดคิดว่าจะได้เจอเธอที่นี่อีกเห็นได้ชัดว่าเฉินเฟิงดูแลหญิงสาวน่ารักนี่เป็นอย่างดี ในตอนนี้มันไร้ซึ่งเสื้อผ้า มันยืนอยู่บนเตียง ที่เต็มไปด้วยของเล่นลามก และผลิตพันธ์ยาง
ลูกปัด ชามใส่สารหล่อลื่นใบหนึ่ง ทั้งเตียงและของเหล่านั้นเปียกไปด้วยสารหล่อลื่นเฉินเฟิงรูปร่างค่อนข้างผอม จากการเสพสิ่งมึนเมามากเกินไป ช่วงล่างเปลือยเปล่าเผยให้เห็นน้องชายที่ชี้ลงดั่งไร้ซึ่งจิตวิญญาณ และหดเหมือนหนอนน้อย
“ฮ่าๆ ฮ่าๆ….. นังหมูตัวเมีย….. ร้องออกมา ! กล้ามีชู้ลับหลังฉันเรอะ….. ดูซิว่าแกจะโดนทรมานจนตาย หรือว่าจะโดนเอาจนตาย”
เฉินเฟิงตะโกนออกมาด้วยความบ้าคลั่ง พร้อมกับเตะเข้าที่ใบหน้า หน้าอก และจุดเปียกตรงหว่างขาของเธอเป็นคอมโบที่สะเปะสะปะ
“ที่ฉันเล่นกับแก สมควรเป็นเกียติของแก รอให้ฉันได้สาวแซ่หลี่มาครองก่อนเถอะ ฉันจะให้พวกพี่ๆมาเล่นสนุกกับแก แกอยากได้ผู้ชายไม่ใช่เหรอ? ฉันคนเดียวคงไม่พอสำหรับแก แกคิดว่าน้ำหน้าอย่างแกจะมาเป็นแฟนของฉันอย่างงั้นหรือ? ทำไมไม่ดูหนังหน้าตัวเองบ้าง? ฉันเบื่อแกเต็มทนแล้ว ใครจะอยากเล่นกับแกอีก”
เฉินเฟิงพูดน้ำไหลไฟแลบจนหอบ เขาเหมือนถูกครอบงำโดยปีศาจกระหายเลือดหญิงสาวดูเหมือนต้องการจะตายเพราะความเจ็บปวด และอับอาย แต่ปากของเธอนั้นถูกปิดไว้ด้วยกางเกงในเหม็นหึ่ง เธออยากจะตะโกนกรีดร้องออกมา แต่ก็ไม่อาจทำได้ และแน่นอนด้วยกลิ่นสาปต่างๆนาๆ มันทำให้เธออยากจะอาเจียนอย่างแรงกล้า น้ำตาที่ไหลอาบแก้ม
เธอร้องไห้จนตัวสั่นไปถึงสวรรค์ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะกระทำผิด หยางเฉินคิดว่าการทำแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แม้การกระทำของเธอจะไม่สมควรเห็นใจ แต่คนอย่างเฉินเฟิงต่างหากที่สมควรจะโดนแบบนี้เฉินเฟิงหยิบแส้ขึ้นจางเตียง แกว่งไปมาอย่างรุนแรง ทันใดนั้นกระจกด้านหลังพลันถูดดึงขึ้นจนเกิดเสียง ‘ปึก’
“ใคร?”
เฉินเฟิงเปลี่ยนเป็นหวาดกลัว เมื่อเขาเห็นเงามนุษย์ผู้หนึ่งเข้ามาทางหน้าต่าง มันพลันเกิดหวาดกลัวต่อสิ่งที่เข้ามาอย่างมาก
“อะไรกัน เราเพิ่งจะเจอกับเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง แกจำฉันไม่ได้แล้วงั้นหรือ?”
ริมฝีปากหยางเฉินโค้งขึ้น เขาล้วงบุหรี่ในกระเป๋าเสื้อออกมาจุดอย่างใจเย็นภายในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นเฟอร์นิเจอร์ น้ำหอม กลิ่นสาบชายหญิงปนกันไปมั่ว หยางเฉินรู้สึกว่าสูดกลิ่นบุหรี่ยังรู้สึกดีกว่าหัวสมองของเฉินเฟิงหยุดชะงักไปชั่วครู่ มันรีบยกแซ่มาป้องกันตัว และพูดขึ้นอย่างกลัวๆ
“ว่าหยาง…..หยางเฉิน?”
เมื่อหญิงสาวที่โดนแขวนไว้เห็นหยางเฉิน เธอหยุดร้องไห้ และจำเขาได้ทันที วันนั้นเธอโกรธมาก และในตอนสุดท้าย เธอไม่สามารถให้พี่ชายแก้แค้นให้เธอได้ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงมองหยางเฉินด้วยความขยะแขยง แต่ฉากที่ปรากฏในตอนนี้เปรียบหยางเฉินเหมือนพระมาโปรดหยางเฉินมองไปที่หนอนน้อยของเฉนเฟิง
แล้วก็หัวเราะขึ้นพลางกล่าวว่า
“เด็กสารเลว ตอนอยุ่ที่ตลาดฉันเตือนแกอย่างชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือไงว่า ฉันเปนคนประเภทไม่ชอบการข่มขู่”
“ฉัน….. ฉันไม่ได้ขู่”
“แกข่มขู่ครอบครัวลุงหลี่ และพวกเขาเป็นสหายของฉัน นั่นเหมือนกับแกขู่ฉันด้วย”
เฉินเฟิงได้ฟังพลันยิ้มอย่างเย็นเหยียบกล่าวตอบว่า
“แกคิดว่าแกจะออกไปได้ง่ายๆเหรอ ฉันแค่ตะโกนออกไป พ่อฉันและลูกน้องของฉันสามารถมาที่นี่และยิงแกจนตาย”
“แกจะลองดูก็ได้นะ”
หยางเฉินกล่าวขณะที่ยังคาบบุหรี่อยู่ในปาก และเดินไปหาเฉินเฟิงอย่างช้าๆ
“เฮ้ แกชอบหลี่จิงจิงอย่างนั้นหรือ แกจะเป็นฮี่โร่ปกป้องสาวหรือไง ฝันไปเถอะ ฉันจะจัดการหลี่จิงจิง ทำให้เทอท้อง และส่งต่อให้บอดี้การ์ดจัดการต่อ”
เฉินเฟิงตะโกนออกมา มันเปิดประตูออกเตรียมจะหลบหนีออกไปข้างนอกทันใดนั้นหยางเฉินพลันคล้ายกลายเป็น the flash พุ่งเข้าไปตบหน้าเฉินเฟิงดัง ‘แป๊ะ’เฉินเฟิงกลายเป็นโง่งม หยางเฉินเข้ามาถึงตัวเขาได้อย่างไร? ครึ่งหน้าพลันเปลี่ยนเปนแดงแจ๋? มันเจ็บปวดอย่างมาก ขนะที่กำลังตื่นตกใจอยู่นั้น มันรีบกระโดดหลบไปตรงมุมห้อง กะโกนใส่หยางเฉินว่า
“อย่าเข้ามานะ! ถ้าพ่อฉันมาถึงเมื่อไหร่ แกจะโดนสับเปนชิ้นๆแน่”
หยางเฉิน ถ่มน้ำลายและก้นบุหรี่ใส่หน้าเฉินเฟิง เดินไปใกล้ ๆ พร้อมมองต่ำไปยังเฉินเฟิง มันไม่กล้าแม้แต่จะมองบน
“อันที่จริง ฉันตั้งใจจะให้แกได้ตายอย่างสบายๆ แต่คำพูดแกทำให้ฉันเปลี่ยนใจ ดูเหมือนแกจะชอบเล่นสนุกกับผู้หญิงสินะ งั้นฉันจะทำให้แกไม่อาจทำอะไรได้อีก”
เมื่อคำพูดเหล่านั้นหลุดออกจากปาก ลูกเตะทรงพลังถูกส่งออกจากแหล่ง ตรงเข้าสู่ชิ้นนเนื้อตรงหว่างขาของเฉินเฟิง
“อรู๋ววววววววกกกกก !!”
เฉินเฟิงร้องออกมาอย่างโหยหวน ดั่งหมาหอนสั่นสะเทือนทั่วทั้งอาคาร
ที่มา: