ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปเมื่อแสงแดดยามเช้าส่องกระทบ หยางเฉินลุกขึ้นจากเตียงด้วยจิตวิณญาณอันเต็มเปี่ยม เขาหยิบเสื้อขึ้นมาสวมเตรียมจากไปหญิงสาวลืมตาสะลึมสะลือตื่นขึ้นด้วยความไม่พอใจ ปราศจากมาดหัวหน้ากลุ่มใต้ดินผู้หน้าเกรงขามโดยสิ้นเชิงเธอเหมือนหญิงสาวธรรมดาทั่วไป
“ฉันบอกคุณแล้วไงว่าอย่าทำในน้ำ แล้วเป็นไงล่ะ ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนน้ำยังอยู่ข้างในอยู่เลย”
“เจียงเว่ยที่รัก คุณไม่มีความรู้เรื่องการแพทย์พื้นฐานเลยนะ ที่เขาเรียกว่าอาการบวมน้ำ ฮ่าฮ่า”
“ฉันไม่สน คุณมันไร้มโนธรรม”
หยางเฉินหัวเราะกล่าวว่า
“มันจะดีขึ้นเองหากคุณฝึกฝนมากๆ ในครั้งหน้า เรามาทำให้สมบูรณ์แบบกันเถอะ”
“เฮ้อ ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าตกหลุมรักอันธพาลปากไม่มีหูรูดอย่างคุณได้อย่างไร”
หลังจากยอกล้อกันสั้นๆ หยางเฉินจำได้ว่าต้องบ้านไปเปลี่ยนชุดไปทำงาน เขาตบก้นเธอแล้วรีบออกจากบาร์ไปอย่างรวดเร็วเมื่อกลับมาถึงหมู่บ้านสวนมังกร ก็เป็นช่วงเวลาอาหารเช้าพอดี ป้าหวังที่กำลังจัดอาหารเห็นหยางเฉินเข้ามาพอดี เธอมึนงงไปชั่วขณะ ก่อนถามว่า
“คุณชายไปไหนมาคะ คุณหนูและฉันเป็นห่วงคุณแทบแย่”
ทันทีที่ป้าหวังพูด หลินรั่วซีที่กำลังกินโจ๊กอยู่สะอึกขึ้นมาทันที เธอขมวดคิ้วกล่าวว่า
“หนูไม่ได้เป็นห่วงเขาค่ะ”
เมื่อเห็นท่าทางเย็นชานั้น หยางเฉินไม่สนใจ เขานั่งลงที่โต๊ะ หยิบทัพพีขึ้นมา ตักโจ๊กใส่ชาม เริ่มต้นทานอย่างมีความสุข
“ป้าหวังครับ ขนาดโจ๊กยังอร่อยขนาดนี้ ป้าทำได้ยังไงกันครับ”
ป้าหวังหัวเราะอย่างมีความสุข ตอบว่า
“ถ้าคุณชายชอบก็กินเยอะ ๆ นะคะ “
เธอกลับไปที่ครัวเพื่อทำอะไรบางอย่างหลังจากจัดการโจ๊กไปสองถ้วยใหญ่ หยางเฉินก็เดินไปหยิบทัพพีเตรียมตัวจะตักโจ๊ะในหม้ออีกครั้ง หลินรั่วซีเห็นดังนั้นก็เลื่อนหม้อโจ๊กมาข้างๆตัวเอง ไม่ให้หยางเฉินมีโอกาศได้ตักหยางเฉินเห็นดังนั้นเหมือนได้รับดาเมจอย่างรุนแรง ก่อนหัวเราะว่า
“ภรรยาที่รัก คุณไม่แม้แต่จะให้สามีได้ทานโจ๊กยามเช้าเชียวหรือ”
“นายกินไปตั้งสองถ้วยแล้ว อ๊ะ ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าเรียกฉันแบบนั้น”
หลินรั่วซีเลื่อนหม้อไปใกล้ตัวมากขึ้นพร้อมก้มหน้าทานโจ๊ะต่อ
“โจ๊กแค่นั้นไม่พอยาใส้หรอกนะ เอ๋หรือว่ารั้วซีจะโกรธที่ผมไม่กลับมาเมื่อคืน?”
“ฉันไม่สนว่านายจะไปที่ไหน”
“แล้วทำไมคุณไม่ให้ผมกินโจ๊ะล่ะ”
หยางเฉินรู้สึกสับสน
“ป้าหวังทำให้ฉัน ไม่ใช่นาย”
หยางเฉินลังเลชั่วครู่ ถึงโจ๊กจะอร่อยแค่ไหน แต่ด้วยคำมั่นสัญญากับสาว ๆ ในออฟฟิต หยางเฉินจำต้องปล่อยโจ๊กไป เขาขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรึยมตัวออกจากบ้านป้าหวังที่ออกจากลัวพร้อมโจ๊กหม้อใหญ่เห็นหยาวเฉินกำลังจะออกไป เธอรีบเอ่ยถามทันที
“ไม่ทานอีกหน่อยเหรอคะ ยังร้อนๆอยู่เลย”
“ผมมีบางอย่างต้องไปทำตอนเข้าครับป้า เดี๋ยวผมจะหาอะไรทานข้าวนอก “
หยางเฉินเห็นโจ๊กในหม้อก็น้ำลายไหล จำต้องตัดใจเดินออกจากบ้านไปป้าหวังถอนหายใจเดินไปข้างๆ หลินรั่วซี ก่อนกล่าวว่า
“คุณหนู คุณชายเป็นคนดีนะคะ คุณควรคุยกับเขาดีๆ อย่าต่อต้านกันอีกเลย”
หลินรั้วซีหยุดค้างไปชั่วขณะกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า
“ไม่ต้องสนใจเขาหรอกค่ะ”
“ถ้าหากเขาจะไปกินข้าวข้างนอกก็ปล่อยเขาไปเถอะ”
“ผู้ชายน่ะ เมื่อยังหนุ่มยังแน่นก็มักจะเที่ยวเล่น ถ้าคุณหนูดูแลเขาอย่างดีล่ะก็ ผู้หญิงข้างนอกนั่นจะเทียบกับคุณหนูได้อย่างไร คุณชายก็คงไม่ออกไปข้างนอกทั้งคืนอีก”
หลินรั่วซียืนขึ้นวางช้อนลงดูเหมือนว่าเธอไม่ต้องการฟังไปมากกว่านี้
“ป้าคะหนูอิ่มแล้ว ขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”
ป้าหวังเห็นหลินรั่วซีไม่อยากพูดเรื่องนี้เธอไม่อาจทำอย่างไรได้ ทำได้เพียงถอนหายใจ และเก็บโต๊ะเหตุการณ์ในตอนเข้าไม่สามารถกระทบอารมณ์หยางเฉินได้ เขาฟังข่าวในตอนเช้า ขณะขับรถไปตลาดที่ซึ่งเขาเคยขายแพะทอด เขาเดินไปซื้ออาหารเช้าที่มีอย่างหลากหลายพ่อค้าแม้ค้าที่นี่ต่างรู้จักหยางเฉินเป็นอย่างดี ต่างเอ่ยทักทายเขาเป็นการใหญ่
ยังแถมอาหารให้เขามากมายหยางเฉินเก็บกล่องใส่อาหารเข้าท้ายรถ วันนี้เขาไม่เห็นลุงหลี่มาขายของ เป็นไปได้ว่าเขาไม่ทราบเหตุการณ์เมื่อคืนเมื่อคิดถึงลุงหลี่หยางเฉินอยากให้จางหู่เขียนจดหมายไปบอก คนแถวนี้เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นหยางเฉินมาถึงบริษัททันเวลา
เขาขึ่นลิฟท์มาก็พบกับสองสาวยืนอยู่พวกเธอหัวเราะ พูดขึ้นว่า
“ทำไมพี่หยางมาถึงเอาป่านนี้พวกเราหิวกันแทบแย่แล้วรู้มั้ย”
หยางเฉินยกกล่องขนาดใหญ่ขึ้นมา
“อาหารมันค่อนข้างมากน่ะะครับ ต่อไปผมจะมาให้เร็วกว่าเดิม”
ขณะพูดหยาบเฉินเดินตรงไปที่โต๊ะของเขา ซึ่งไม่มีอะไรเลยนอกจากคอมพิวเตอร์ มันเหมาะที่จะเป็นที่วางอาหารอย่างมากสาว ๆ ในแผนกต่างส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวเมื่อเห็นโต๊ะของหยางเฉินเต็มไปด้วยอาหารหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ซาลาเปา ขนมปังโรลใส้แมนดาริน ปาท่องโก๋ ข้าวเหนียว เค้กแป้ง เกี๊ยวทอดและขนมปังแม้ แต่น้ำซุปที่เต็มไปถั่ว
พวกเธอมองไปที่หยางเฉินพร้อมนัยตาพร่างพราวระยิบระยับ
“หยางเฉิน โอ้วมายก๊อด คุณช่างยอดเยี่ยมจริงๆ เอาอาหารมากมายเหล่านี้มาจากไหน และยังหลีกเลี่ยงอาหารมื้อหนักอีกด้วย โอ้ววว”
ตาของจางไช่เปร่งประกาย รีบคว้าขนมปังใส่ถั่ว กัดไปหนึ่งคำในทันที
“ไม่น่าเชื่อว่านายจะเป็นปรมาจาร์การซื้ออาหารเช้า มีทั้งนมวัวแถะนมถั่วเหลือง มีทั้งหวานและไม่หวาน”
จ้าวฮงหยานไม่คิดว่าหยางเฉินจะเป็นผู้เชียวชาญด้านซื้ออาหารเช้าโดยแท้จริงเมื่อเห็นเพื่อนร่วมงานสาวมีความสุข หยางเฉินรู้สึกปราบปลื้มและภูมิใจในเวลาเดียวกัน
“ทุกคนทานได้เต็มที่เลยนะครับ ถ้าหากต้องการอะไรโปรดบอกผมมาได้เลย ครั้งหน้าผมจะซื้อมันให้มาเอง”
หยางเฉินไม่ลืมที่จะโม้และประจบประแจง เพื่อเพิ่มโอกาศมีชีวิตรอดในสมรภูมิแห่งนี้
ที่มา: