ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปหลิวมิ่งหยูนึกย้อนไปในอดีตพลางยิ้มอย่างขมขื่นกล่าวว่า
“ฉันมีแฟนแล้ว แต่เขาต้องไปเกณฑ์ทหาร และจนป่านนี้เขาก็ยังไม่กลับมา”
“เกณฑ์ทหารใช้เวลาสองปี หรือว่าเขาจะสมัครต่อ”
หยางเฉินถามอย่างสงสัย
“ฉันไม่รู้ครอบครัวเขาก็ย้ายไปด้วย”
หลิวมิ่งหยู ยิ้มอย่างเหนื่อยอ่อน
“บางทีอาจเป็ยอย่างที่คนอื่นบอก เขาอาจติดปัญหาบางอย่าง”
“รอต่อไปแบบนี้ไม่เป็นผลดีนะพี่ พี่เป็นผู้หญิงอนาคตนั้นสำคัญ”
หยางเฉินสาบแช่งชายผู้นั้นเงียบๆหลิวมิ่งหยูพยักหน้า
“แล้วไงล่ะ ฉันยังคิดถึงเขาอยู่เสมอ ยังลืมเขาไม่ได้ แล้วฉันจะยอมรับชายอื่นได้ยังไง .
เงียบไปซักพักเธอก็ยิ้มกล่าวว่า
“เอาล่ะ อย่าพูดถึงอีกเลย นี่ก็ใกล้จะเลิกงานแล้ว กลับออฟฟิตกันเถอะ”
เมื่อเจ้าตัวตัดสินใจอย่างนี้หยางเฉินจึงได้แต่คล้อยตามหยางเฉินถือเชคที่ได้จากกัวซิเหิงอย่างกระหยิมใจ เตรียมนำไปคืน หัวหน้าสาวสวยใจร้ายน่าเบื่อเมื่อเข้ามาในออฟฟิต สาวทั้งหลายต่างแต่งตัวเติมเครื่องสำอาง เตรียมพร้อมไปผจญภัยข้างนอกจ้าวฮงหยานและจางไช่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มพวกนั้น พวกเธอเห็นหยางเฉินเดินเข้ามาก็กล่าวทักทายเขา
“งานเป็นยังไงบ้าง ไปซะนานเลยนะ”
จ้าวฮงหยานเอ่ยถามหนาวเฉินพยักหน้าตอบ กล่าวว่า
“ทำไมคุณกับจางไช่ ไม่เตรียมตัวออกผจญภัยเหมือนคนอื่นๆล่ะ”
“เหมือนอย่างนายนั่นแหละ จางไช่และฉันแต่งงานแล้วเหมือนกัน เราทั้งคู่เพิ่งแต่งไปปีที่แล้ว”
“แต่งงานแล้ว !”
หยาวเฉินตกตะลึงจางไช่หัวเราะกล่าวว่า
“หยางเฉิน ทำไมนายทำท่าอย่างนั้นล่ะ ไม่ใช่ว่าคิดอะไรกับพวกเราอยู่ใช่มั้ย พวกเรามีสามีแล้วอย่าสู้กับพวกเขาเพื่อพวกเราเลย”
“หยางเฉินก็แต่งงานแล้วเหมือนกันนะ เท่ากับว่าเราเสมอกัน 1-1”
จ้าวฮงหยานกล่าวแทรกขึ้นมาหยางเฉินคิดว่าความสัมพันของเขากับหลินรั่วซียังสมควรเรียกว่าเป็นสามีภรรยากันอยู่อีกเหรอ? แต่เขาก็ไม่ได้พูดออกไป ได้แต่ยิ้มเจื่อน รีบวิ่งตรงไปออฟฟิตของโมเชี่ยนหนี่ทันทีโคมไฟยังคงส่องสว่างอยู่ภายในห้อง โมเชี่ยนหนี่ถอดเสื้อนอกของเธอออก
เหลือแค่เสื้อแขนสั้นสีขาว กำลังคร่ำเคร่งเขียนอะไรบางอย่างอยู่เธอสวมแว่นตาไว้ผมหางม้า มีไรผมเบาบางปรกหน้า เธอไม่ได้สังเกตุว่าหยางเฉินพลักประตูเข้ามาเลยแม้แต่น้อย
“ทำไมไม่รู้จักเคาะประตูก่อน”
โอเชี่ยนหนี่รู้ตัวอีกทีเมื่อหยางเฉินเดินมาถึงโต๊ะแล้วหยางเฉินดึงเก้าอี้แล้วนั่งลง ยื่นเชคให้สาวสวยตรงหน้าอย่างช้าๆ
“ผมไม่รู้ว่าก่อนนี่ครับ ครั้งหน้าผมจะเคาะละกัน”
“นี่คืออะไร”
โมเชี่ยนหนี่ยางปางกาลง จ้องมองไปยังกระดาษตรงหน้า
“เชคจำนวน 400,000 หยวน !!”
หยางเฉินหัวเราะกล่าวว่า
“คุณโมส่งผมไปทวงหนี้ไม่ใช่เหรอครับ นี่เชคจำนวนสี่แสนไม่ขาดไม่เกิน”
โมเบี่ยนหนี่หยิบเชคขึ้นมา มันเป็นเชคจากบริษัทบัดซบนั่นจริงๆ อนุมัติโดย กัวซิเหิงผู้นั้น?เธอมองไปยังหยางเฉินอย่างประหลาดใจ เขาทำได้ยังไงกัน
“นายไม่ได้ทำอะไรรุนแรงใช่ไหม”
โมเชี่ยนหนี่ตัดสินใจถามตรงๆ เพราะคนก่อนหน้านี้ต่างถูกหามเข้าโรงพยาบาลกันถ้วนหน้า แต่ชายตรงหน้ากลับนั่งคุยกับเธออย่างสบายใจเฉิบไร้รอยขีดข่วนหยางเฉินแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง เขาโบกมือไปมากล่าวว่า
“รุนแรงอะไรครับ มันแค่เป็นสอบถามถึงเงินค้างชำระไม่ใช่หรือไงครับ พวกเขาต้อนรับผมดีมาก ผู้จัดการกัวเองยังส่งคนมาส่งผมถึงบริษัทเลย”
โมเชี่ยนหนี่ไม่อยากนะเชื่อ แต่มองคนตรงหน้าที่ไร้ซึ่งบาดแผลใด และสีหน้าสบายๆแล้ว เธอรู้สึกสับสนอย่างสมบูรน์โมเชี่ยนหนี่ไม่ได้แสดงออกทางสีหน้าแต่อย่างใด เธอสูดหายใจลึกกล่าวว่า
“ขอบคุณมาก นายจะได้รับโบนัสแน่นอน ตอนนี้นายเลิกงานได้แล้ว”
“ผมต้องขอบคุณคุณด้วย”
หยางเฉินลุกขึ้นพร้อมเดินออกไปทีประตู แต่ก่อนที่เขาจะออกจากห้องไปนั้น หยางเฉินก็หันกลับมายิ้มน้อยๆ กล่าวว่า
“หัวหน้าครับเสื้อสีดำของหัวหน้าน่ารักมาเลยนะครับ”
เมื่อหยางเฉินออกไป โมเชี่ยนก้มหน้ามองเสื้อผ้าตัวเอง เธอใส่เสื้อขาวอยู่แท้ๆ เสื้อดำอะไรกันแต่เมื่อสังเกตุ ดีๆแล้ว เธอก็เห็นรอยดำบริเวณหน้าอกของเธอ มันคือขุดชั้นในสีดำของเธอนั่นเอง
“หยางเฉินนน…..”
อีกครั้งอีกเธอกัดฟันแน่นไปด้วยความโกรธ ทุบโต๊ะเสียงดัง ตามองไปที่ประตู ตะโกนออกมาว่า
“ประเสริฐ ! รอก่อนเถอะ”
หลังจากบอกลาสาวๆ ในออฟฟิตแล้ว หนางเฉินก็เข้าใจสภาพงานที่นี่บ้าง งานที่นี่ค่อนข้างหน้าเบื่อเมื่อเทียบกับการขายแพะ แต่ สภาพแวดล้อมนั่นค่อนข้างเยี่ยมยอด กลิ่นน้ำหอมของหญิงสาวที่อบอวนไปทั่วห้องนั้น น้ำเน่าในตลาดไม่อาจเทียยได้เลยแม้แต่น้อยเมื่อหยางเฉินกลับมาถึงรถ
ในขณะที่กำลังจะสตาทเครื่องนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเป็นหลี่จิงจิง
“ฮัลโหล?”
“พี่หยาง …… “
เธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริง
“ขอบคุณนะคะ”
“ขอบคุณเรื่องอะไร”
หยางเฉินยังคงไม่ยอมรับว่าเขาเป็นหนึ่งในการจัดการเฉินต้าไห่
“สำหรับเรื่องเฉินต้าไห่…….. .
หลี่จิงจิงพูดเสียงเบาลง เหมือนมีอะไรบาวอย่าง แต่เธอก็รีบเปลี่ยนในทันที
“ชอบคุณมาก คุณพ่อ คุณแม่และฉันมีความสุขมากๆๆ”
ได้ยินดังนั้นหยางเฉินก็หมดข้อแก้ตัว
“ดีแล้วล่ะ บอกพ่อของเธอให้ไปขายของที่ตลาดได้แล้ว พี่จะแวะไปคุยกับเขาพรุ่งนี้ซะหน่อย”
“รับทราบค่ะ”
“มีอะไรอีกหรือเปล่า”
หยางเฉินรู้สึกว่าถ้าคุยนานกว่านี้รถอาจจะติดได้
“เอ่อ เรื่องนี้ ไม่มีอะไรค่ะ “
เธอลังเลชั่วครุ่ก่อนพูดขึ้นว่า
“ฉันอยากรู้ว่าพี่จะมาหาฉันที่โรงเรียนหรือเปล่า”
ได้ยินดังนั้นหยางเฉินก็นึกขึ้นได้ว่าเคยรับปากเธอเอาไว้ เขาตอบว่า
“พี่เพิ่งจะเริ่มงานเอาทิตย์นี้ เลยค่อนข้างยุ่งนิดหน่อย พี่จะไปหาเธอสัปดาห์หน้า ไม่ต้องห่วงหรอก มีไปแน่”
หลี่จิงจิงได้ยินดังนั้นก็นัดสายด้วยความดีใจหยาวเฉินงุนงงเล้กน้อยที่สายอยู่ดีๆก็ตัดไป โทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้งคราวนี้เป็นป้าหวัง บางครั้งป้าหวังก็โทรมาถามอยู่บ่อย ๆ ว่าจะกลับมากินข้าวเย็นหรือเปล่า ทันที่ที่กดรับสายเสียงตะโกนก็ดังขึ้น
“คุณชาย ! รีบกลับมาเถอะค่ะ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”
ที่มา: