I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

My Wife is a Beautiful CEO ตอนที่ 67 เหตุผลที่ไม่ตระหนักถึง

| My Wife is a Beautiful CEO | 891 | 2365 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

หลิวมิ่งหยูรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อเธอเห็นรถของหยางเฉิน

“ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่านายขับ BMW ไปซื้ออาหารเช้าให้พวกเรา มันคงเป็นงานที่ยากลำบากสำหรับคนร่ำรวยอย่างนาย”

“ผมไม่ได้ร่ำรวยอะไรหรอก รถคันนี้เป็นของภรรยาผมเอง”

หยางเฉินกล่าวออกมาอย่างไม่หยี่ระ

“พี่มิ่งหยู พี่คิดว่าผมเป็นแมงดาใช่มั้ยล่ะ”

“หน้านายไม่ได้ขาวซะหน่อย”

หลิวมิ่งหยูหัวเราะร่า

“พี่มิ่งจะทำอย่างไรกับวิดีโอนั้น”

หลินยิ่งหยูเงียบไปชั่วครู่ก่อนเอ่ยขึ้นว่า

“นายจะเก็บไว้หรือจะโยนทิ้งไปก็ได้ แล้วแต่นาย”

“พี่ไม่ต้องการมันเหรอครับ ?”

“ฉันเชื่อว่าหลังจากนี้ หัวหน้าหม่าคงไม่มาตอแยกับพวกเราอีก ฉันเป็นพนังงานบริษัทธรรมดา ไม่อยากจะไปมีปัญหากับใคร “

คำพูดที่ออกมาจากปากเธอนั้นใสซื่อบริสุทธิหยางเฉินพยักหน้า เขาไม่ได้เอ่ยถึงมันอีก แต่กล่าวถามว่า

“งั้น คุณผู้หญิงจะพาผมไปทานอาหารที่ไหนครับ”

หลิวมิ่งหยูเอามือก่ายหน้าผากกล่าวว่า

“ตรงไปถนนสุขุมวิท มีร้านอร่อยๆ อยู่แถวนั้นหลายร้าน”

“คุณดูเหนื่อยนะ นอนไม่พอมาหรือเปล่า”

หยางเฉินสังเกตุเห็น

“ใช่ ดูเหมือนฤทธิ์ยาจะยังไม่หมดไป”

เธอรู้สึกง่วงนอนอย่างมากหยางเฉินขมวดคิ้ว

“งั้นไม่ต้องไปกินข้าวแล้ว ผมจะพาคุณไปส่งบ้านเอง”

“ขอบคุณนะ………..”

หลิวมิ่งหยูรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ เธอเพิ่งรู้ว่าชายข้างๆเธอรู้จักดูแลเอาใจใส่คนอื่นด้วย

“แต่เราไปทานข้าวต่อเถอะ ฉันเองก็รู้สึกหิวด้วย งีบซักหน่อยก็คงดีขึ้น”

ไม่นานพวกเขาก็มาถึงร้านอาหารจีนกวางตุ้งร้านหนึ่งที่ค่อนข้างสะอาด มันไม่ได้เป็นร้านอาหารระดับสูง แต่มันเหมาะกับพนักงานวัยทำงานที่เร่งรีบหยางเฉินมาถึงก็สั่งอาหารอย่างรวดเร็ว เขากินมื้อเช้ามาไม่เต็มอิ่มนัก เวลานี้จึงหิวเป็นอย่างมาก

เมื่ออาหารมาเสิร์ฟ หยางเฉินจึงบรรจงจัดการอาหารอย่างตะกละตะกาม

“นายรักษาภาพลักษณ์หน่อยได้ไหม นายดูเหมือนคนไม่ได้กินอาหารมาสี่หมื่นแปดพันปี”

เธอกล่าวพลางหัวเราะ

“สร้างภาพนั้นเอาไว้ใช้กับคนโสด แต่ผมแต่งงานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนั้น”

หยางเฉินพูดพลางก็ตักอาหารใส่ปากคำใหญ่ขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนากันอยู่นั้น หญิงสาวนางหนึ่งก็เดินเข้ามาในร้าน เธอสวมชุดที่มีเสน่ห์น่าดึงดูด ตามติดมาด้วยชายหนุ่มสองคน

“บังเอิญจัง ไม่นึกว่าคุณมิ่งหยู จะนัดพบกับหนุ่มที่นี่”

หญิงสาวมองมาทางทั้งสองพร้อมรอยยิ้มหลิวมิ่งหยูประหลาดใจเล็กน้อย แต่เธอก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว และยืนขึ้นกล่าวว่า

“คุณหวังก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอคะ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีถึงสองคนด้วย”

“พวกเขาเป็นผู้ช่วยของฉันเอง พวกเราเพิ่งกลับมาจากการคุยธุรกิจใกล้ๆ นี้ เลยถือโอกาศแวะมาทานข้าวที่นี่ ไม่ทราบว่าท่านนี้เป็น….. “

หยางเฉินวางตะเกียบอย่างไม่เต็นใจนัก ก่อนยิ้มกล่าวว่า

“หยางเฉินครับ “

“หวังเย่ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก”

หวังเย่ยื่นมือออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มหยางเฉินจับมือเบาๆ ก่อนนั่งลง หยิบตะเกียบขึ้นมากินอาหารต่อหวังเย่เห็นดังนั้นก็มีสีหน้าหยิ่งทะนง ยิ้มอย่างเย็นชากล่าวว่า

“ความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองไปถึงขั้นไหนแล้วเหรอคะ ใช่คนที่มีความสามารถคนนั้นหรือเปล่า”

หลิวมิ่งหยูยิ้มตอบไปว่า

“หยางเฉินคือเพื่อนร่วมงานของฉันเอง เรามาทำงานนอกสถานที่ ถ้าพูดถึงคนมีความสามารถ คงไม่อาจเทียบได้กับผู้ช่วยทั้งสองของคุณ พวกเขาทั้งตัวสูง สามารถตอบสนองต่อคุณหวังได้อย่างดีเยี่ยม”

หญิงสาวทั้งสองเหมือนสายฟ้าพวยพุ่งออกจากตา ต่างคนต่างไม่ยอมอ้อนข้อให้อีกฝ่ายทำให้หยางเฉินรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางสนามรบ

“คุณหลิวไม่ต้องถ่อมตัวไปหรอกค่ะ ฉันเห็นคุณหยางเหมือนเป็นดั่งเครื่องบดอาหาร เขาต้องแร็งแรงมากแน่ๆ เมื่อเขาทำงานให้คุณหลิวเขาคงต้องใช้พลังงานอย่างมหาศาล นั่นเป็นเหตุผลที่เขาหิวโหยใช่มั้ยคะ “

หวังเย่พูดพลางเบิกตากว้าง

“ดูเหมือนว่าคุณหลิวจะใช้งานคุณหยางอย่างหนักแน่ๆ เลย”

“ไม่สำคัญว่าเขาจะหิวโหยมาจากไหน แต่นั้นไม่สามารถเทียบได้กับคนถึงสองคนได้หรอกค่ะ สองย่อมดีกว่าหนึ่ง พวกเขาสามารถทำในสิ่งที่คนคนเดียวไม่สามารถทำได้ คิดว่าไงคะ คุณหวัง !”

หลิวมิ่งหยูยังคงสวนกลับไปอย่างต่อเนื่องทะเลาะกันก็ทะเลาะกันไปสิ ทำไมต้องดึงฉันเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย? ผู้หญิงสองคนทะเลาะกันกลางวันแสกๆ โลกนี้มันเป็นอะไรไปหมด หยางเฉินคิดใจในเงียบๆ เขารู้สึกเสียใจอย่างมากที่ผู้หญิงคนนี้ปรากฏตัว

“คุณหวัง ขอโทษนะครับ แต่คุณเหมือนกับนักแสดงที่ผมชอบคนหนึ่งจริงๆ”

หยางเฉินเงยหน้าขึ้นพูดด้วยสีหน้าจริงจังไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่ชอบเวลาถูกชมว่าตัวเองสวย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เมื่อหวังเย่ ได้ยินคำชมของหยางเฉิน เธอจึงรู้สึกภาคภูมิใจ และแกล้งทำเป็นนิ่งเฉยกล่าวว่า

“ชมเกินไปแล้ว ไม่มีทางที่ฉันจะเทียบได้กับคุณหลิวหรอกค่ะ”

หยางเฉินเหลือบมองหวังเย่เป็นบางครั้งกล่าวชมอีกว่า

“คุณคล้ายกับเธอจริงๆ ผมดูหนังของเธอหลายเรื่องมากครับ เธอชื่อ คาเอเดะ มัตสึชิม่า คุณหวังรู้จักเธอมั้ยครับ”

ได้ยินดังนั้นหวังเย่ก็เปลี่ยนเป็นโทสะ

“คุณหยางนี่ตลกจัง เธอเป็นใครเหรอค่ะ ฉันไม่รู้จักจริงๆ”

“เป็นธรรมดาที่คุณจะไม่รู้ “

หยางเฉินถอนหายใจพลางกล่าวว่า

“ผมค่อนข้างคุ้นเคยกับคุณ มัตสึชิม่า แต่ความคล้ายคลึงนั้นก็เหมือนจะมาจากชุดที่คุณสวมใส่อยู่นี่เอง”

หวังเย่เปลี่ยนเป็นเขียวด้วยความโกรธ เธอกระทึบเท้าจ้องหยางเฉินเขม็ง และเดินออกจากร้านไปอย่างรวดเร็วหลิวมิ่งหยูที่อยู่ข้างๆ ไม่่อาจข่มกลั่นเสียงหัวเราะได้อีกต่อไป

“นายนี่จากแก่นจริงๆ ถึงกับเปรียบเทียบหวังเย่กับดาราเอวี ฉันคิดว่าคืนนี้เธอคงหลับไม่สบายเป็นแน่”

“ใครใช้ให้เธอว่าขัดขวางการกินของผมล่ะ”

หยางเฉินบ่น

“เธอคือพนักงานต้อนรับจากบริษัทคู่แข่ง ฉันแย่งลูกค้าจากเธอมาได้บ่อยๆ เหตุนี้เราจึงมักทะเลาะกันทุกครั้งที่เจอหน้า”

หลิวมิ่งหยูอธิบายหยางเฉินหัวเราะกล่าวว่า

“ไม่แปลกใจเลยที่พี่มิ่ง อยู่ในอันดับหนึ่ง”

หลิวมิ่งหยูไม่ได้ปฏิเสธ เธอลูบผมพลางกล่าวว่า

“โลกก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าพวกเราแผนกพีอาร์จะสามารถทำยอดขายโดยปลาสจากการบริการสุดพิเศษ “

หยางเฉินพยักหน้ายิ้มพลางกล่าวว่า

“พี่มิงหยูเองก็รู้จัก มัตสึชิม่า ด้วยเหรอครับ ?”

“ตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอก เรื่องอย่างนี้จะสำเร็จโดยปราศจากผู้หญิงได้อย่างไร ถ้าหากผู้หญิงเราไม่ศึกษามาบ้าง เราจะทำให้ผู้ชายมีความสุขได้อย่างไร ผู้หญิงเราเรียนรู้จากนักแสดงผู้เชี่ยวชาญไม่ได้บ้างหรือยังไง”

หลิวมิ่งหยูตอบโดยปราศจากความอายใดๆได้ยินดังนั้นหยางเฉินก็เปลี่ยนเป็นแข็งค้าง ยกนิ้วโป้งให้หนึ่งที แล้วลงมือจัดการอาหารตรงหน้าต่อไป

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments