I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

My Wife is a Beautiful CEO ตอนที่ 72 ด้วยเกียรติของสามี

| My Wife is a Beautiful CEO | 893 | 2337 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

“มันคือเฉินเฟิงงั้นหรือ? “

หยางเฉินนึกออกในที่สุด เขาไม่ว่าชายคนนี้จะเป็นเฉินเฟิง

เทียบกันก่อนหน้านี้เฉินเฟิงเปลี่ยนเป็นคนละคน ใบหน้าซูบตอบลงกว่าเดิม ผมเผ้ายุ่งเหยิง รอยขีดข่วน ฟกช้ำทั่วร่างกาย

รอยยิ้มเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิม เรียกได้ว่ามันกลายเป็นสัตว์ป่าโดยสมบูรณ์

นายน้อยตระกูลเฉิน เปลี่ยนไปเป็นคนก็ไม่ใช่ผีก็ไม่เชิง นี่อาจเป็นสิ่งที่สวรรค์ต้องการ

อย่างไรก็ตามหยางเฉินไม่รู้สึกสงสาร แม้แต่น้อย เฉินเฟิงทำอะไรไว้เวลานี้มันถึงคราวที่ต้องชดใช้กรรม

จางหยิ่งจ้องมองเฉินเฟิงด้วยแววตาที่เหี้ยมโหด เฉินเฟิงเป็นคนทำลายชีวิตเธอ

“ใช่แล้วค่ะ มันคือเฉินเฟิง ตอนนี้มันหลายเป็นหมาที่ฉันฝึกมากับมือ”

จางหยิ่งพูดขึ้นพลางดึงเชือกที่มือ

เฉินเฟิงผู้ซึ่งกระทำชำเราหลินคุนอยู่กับถูกกระชากลงกับพื้น มันคลานต่ำข้างหน้าจางหยิ่งพร้อมกับแลบลิ้นเลียเท้าอย่างสุนัข

หยางเฉินสังเกตเห็นที่คอของเฉินเฟิงมีปลอกคอสวมอยู่คล้ายเป็นปลอกคอสุนัข

“ทุกครั้งที่ผมเห็นไอ้สารเลวนี้ ผมอยากจะเป่ากระบาลมันแทบแย่ แต่น้องสาวกลับไม่อนุญาตให้ผมทำ”

“ทำอย่างนั้นถือว่าช่วยให้มันไปสบายเกินไป ฉันต้องการทรมานมัน มันทำกับฉันเหมือนเป็นขยะ ฉันเลยให้ผู้ชายมาทรมานมันบ้าง ทุกคืนเหล่าพี่น้องทั้งชายและหญิงที่เคยถูกมันกระทำล้วนมาจัดการมันอย่างสมำเสมอ ฆ่ามันนั้นเอาไว้กหลังจากนี้ก็ยังไม่สาย”

จางหยิ่งพูดขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“คุณหยาง คุณจะให้สัตว์เลี้ยงของฉันจัดการกับหลินคุนต่อมั้ยค่ะ”

หยางเฉินเหลือบมองหลินคุนที่สลบไปจากความเจ็บปวด กล่าวว่า

“ตามสบาย……จะทำอะไรกับชายคนนี้ก็ได้ แต่อย่าให้ถึงตายก็พอ”

หยางเฉินพูดจบก็เดินออกจากห้องไป ไม่ว่าจุดจบของหลินคุนและเฉินเฟิง จะเป็นอย่างไรก็ไม่มีความสำคัญใดๆสำหรับเขา

แต่แผนการหรือจะสู้ลิขิตฟ้า

ในขณะที่หยางเฉินกำลังขับรถกลับโรงพยาบาล จางหู่ก็โทรมา บอกสิ่งที่ทำให้หยางเฉินตกตะลึง นั้นคือ หลินคุนกลายเป็นบ้า ไปโดยสมบูรณ์

การแก้แค้นของหลินคุน จบด้วยการถูกโยนลงถังขยะ มันมีความทะเยอทะยานอันสูงส่ง แต่ทุกครั้งก็ต้องประสบกับความล้มเหลว การเสียหุ้นของบริษัทยูเล่ยไปทำให้มันแทบหมดสิ้นความหวัง และสุดท้ายยังถูกพรากศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ไปอีก

ลูกชายเศรษฐีผู้สุขสบายมาตลอดชีวิตมีจุดจบเยี่ยงนี้เอง

บางทีการกลายเป็นคนบ้าอาจปลดปล่อยหลินคุนจากความจริงอันโหดร้าย

หยางเฉินบอกจางหู่ให้ส่งหลินคุนไปโรงพยาบาล จางหู่ได้ยินดังนั้นก็เข้าใจจุดประสงค์ของหยางเฉิน

เมื่อเสร็จธุระของหลินคุนแล้ว โมเชี่ยนหนี่ก็โทรมา หัวหน้าสาวสวยคนนี้ของเขาไม่เคยยิ้มหรือของคุณใด แม้แต่ตอนที่เขาช่วยเธอไว้ก็ตาม เธอยังคงทำตัวเหมือนเขาติดปนี้เธออยู่ นั่นทำให้หยางเฉินรู้สึกปลง

“สวัสดีครับมีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่าครับ คุณโม”

หยางเฉินเอ่ยอย่างเศร้าสร้อย

โมเชี่ยนหนี้ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกรำคาญเล็กน้อย

“น้ำเสียงอะไรของนาย พูดคุยกับฉันมันทำให้นายทรมานมากนักหรือไง?”

“ไม่ใช่หรอกครับ ผมรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย”

หยางเฉินขมวดคิ้ว ผู้หญิงคนนี้พร้อมจะเปิดศึกกับเขาได้ทุกเมื่อจริงๆ

“จะบอกอะไรให้ คุณผู้หญิงท่านนี้เชิญนายไปดินเนอร์ ห้ามปฏิเสธเด็ดขาด”

“คุณโม คุณกำลังจะส่งผมไปทานข้าวแล้วทวงหนี้อีกแล้วใช่ไหม”

หยางเฉินถามอย่างหวาดระแวง

“ไปตายซะหยางเฉิน!! คุณผู้หญิงมีเมตตาที่นายช่วยชีวิตฉันไว้ เลยจะชวนนายไปข้าว นายคิดว่าเป็นผู้หญิงใจร้ายที่เจอหน้าก็ชวนทะเลาะใช่ไหม?”

หยางเฉินถึงกับพูดไม่ออก แต่สุดท้ายก็ตอบตกลง เขาไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธ และเขาก็กำลังหิวอยู่เสียด้วย

“ตกลงตามนี้ มาที่ลานจอดรถของบริษัท ฉันจะรับนายไปเอง”

พูดจบโมเชี่ยนหนี่ก็วางสายทันทีไม่เปิดโอกาศใหหยางเฉินกล่าวคำใดๆ

ท้องหยางเฉินคร้ำครวญอย่างโหยหวน เขาขับรถดั่งจรวด ไม่นานเขาก็มาถึงลานจอดรถบอสัส เวลานี้เป็นเวลาเลิกงาน ลานจอดรถจึงว่างเป็นพิเศษ

รถออดี้สีแดงของโมเชี่ยนหนี่จอดอยู่ที่มุมหนึ่ง และกำลังรอคอยหยางเฉินอย่างใจจดใจจ่อ

เธอเปลี่ยนชุด เป็นชุดเดรทสีดำ ยาวลงมา พร้อมด้วยรอวเท้าคริสตัลแบบส้นสูง ผมดำถูกปล่อยลงมา ใบหน้างามถูกแต่งด้วยเครื่องสำอางเพียงเล็กน้อยให้ความรู้สึกถึงความงามตะวันออกแบบดั่งเดิม

ถ้าไม่รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงโหดร้ายและเลือดเย็นมาก่อน เธอสมควรทำให้ชายทุกคนหลงไหลจนโงหัวไม่ขึ้น

“เข้ามา”

เมื่อเห็นหยางเฉินเดินเข้ามาเธอรีบเปิดประตูเข้าไปในรถตรงที่นั่งคนขับทันที

หลังจากหยางเฉินเดินเข้ามาแล้ว โมเชี่ยนหนี่ก็เปิดเครื่องเสียงในรถ ที่เชื่อมต่อกับ ipod เป็นเพลงเก่งที่ชื่อว่า dream to awakening

เธอไม่ได้คุยอะไรกับหยางเฉินอีกเพียงขับรถไปตามทาง

เมื่อขึ้น ไฮเวย์ หยางเฉินสังเกตุว่าเพลงในไอพอดมีแต่เพลง classic เก่าๆ และยังรวมถึง the beatles และวงเก่าๆ วงอื่น

“เหมือนคุณจะอยู่ในฟิลลิ่งคิดถึงบ้านนะ”

หยางเฉินรู้สึกว่าหญิงชาวเมืองก็มีด้านนี้กับเขาด้วย

โมเชี่ยนหนี่กรอกตามองหยางเฉินพร้อมกล่าวว่า

“สิ่งใหม่นั้นลืมได้โดยง่าย แต่สิ่งที่ลืมได้ยากนั้นคุ้มค่าให้คิดถึง……….คนหยาบคายแบบนายคงไม่เข้าใจหรอก”

“ผมเข้าใจ………สองปีที่แล้วผมรู้สึกว่า เจสสิก้า อัลบา นั้นน่ารักเป็นอย่างยิ่ง เธอทั้งสวยทั้งเซ็กซี่ แต่หลังจากที่เธอตั้งท้องแล้ว ผมรู้สึกว่าความฝันในอดีตที่ผ่านมากลายเป็นรสชาติอันแปลกประหลาด”

โมเชี่ยนหนี่นั้นแทบจะเอาเท้ายันหน้าหยางเฉินถ้าไม่เพราะเธอต้องเหยียบคันเร่งล่ะก็

ความเงียบปกคลุมตลอดการเดินทาง มีเพียงเสียงเพลง ร็อกแอนโรล ดังก้องไปทั่วรถ

และในที่สุดโมเชี่ยนหนี่ก็หยุดรถพลางกล่าวว่า

“เรามาถึงแล้ว “

หยางเฉินมองออกไปนอกหน้าต่างรถ และรู้สึกทะแม่งๆ เขามองไปที่ป้ายไฟนีออนพลางถามว่า

คุณแน่ใจนะว่าที่นี่

“ฉันมาที่นี่ไม่ได้หรือไง”

โมเชี่ยนหนี่ถามเสียงเรียบ

หยางส่ายหัวกล่าวว่า

“ผมแค่สงสัยว่าทำไมคุณอยากจะมากินที่นี่ ผมคิดว่าคุณจะพาไปร้านอาหารตะวันตกหรู ๆ ที่ซึ่งเหมาะสมกับฐานะของคุณ”

“ฉันชอบกินอาหารข้างทางมากกว่า น่าเสียดายที่นายเดาผิด”

โมเชี่ยนหนี่กล่าวพลางมองหยางเฉิน

ลงจากรถได้แล้ว

“อาหารข้างทาง ? เยี่ยม!!”

หยางเฉินไม่ได้กระเป๋าสตางค์มาด้วยพอดี

ตามทางริมแม่น้ำของเมืองจงไห่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ยาวสุดลูกหูลูกตา แผงลอยขนาดและสีต่างๆ เรียงรายเต็มไปด้วยสีสัน ฝูงชนเดินเรียงราย แต่สิ่งที่ทำให้หยางเฉินประหลาดใจคือ พนักงานบริษัทในกลางเมือง หลายคนใส่สูท ถือไทด์อยู่ในมือ พูดคุยกันอย่างสนุนสนาน

สายลมริมแม่น้ำไม่ได้ทำให้บรรยากาศเย็นขึ้นเท่าไหร่ แต่กลิ่นของอาหาร ผลไม้ และพืชผักนั้น เป็นกลิ่นของธรรม บางทีนี่อาจทำให้ผู้คนจากในเมืองมายังที่นี่

แต่ไม่ว่าจะเหตุผลใดก็ตาม โมเชี่ยนหนี่ที่เดินท่ามกลางฝูงชนนั้นก็งามเฉิดฉายอย่างยิ่ง

ถึงเธอจะไม่ได้เปิดเผยสัดส่วนมากนัก แต่เธอก็สง่างามและมีเสน่ห์ยิ่ง

เมื่อเดินข้างๆ หญิงสาวเช่นนี้ หยางเฉินจึงตกเป็นที่อิจฉาของชายหนุ่มทั้งหลาย

“คุณมาที่นี่บ่อยงั้นเหรอ”

หยางเฉินเอ่นถาม เขาไม่รู้มาก่อนว่ามีสถานที่เช่นนี้ภายในเมือง มันแปลกใหม่น่าสนใจอย่างมาก

โมเชี่ยนหนี่พยักหน้า กล่าวว่า

“ฉันเคยมาที่นี่บ่อยๆ แต่หลังๆ ก็ไม่ค่อยได้มาแล้ว”

“มีหลายร้านเต็มไปหมด เราไปร้านไหนดี”

หยางเฉินมองร้านอาหารน้อยใหญหลากหลายจนตาลาย

โมเชี่ยนหนี่เพียงเหลือบมองมาพลางกล่าวว่า

“เดินตามมาก็พอ”

หยางเฉินไม่ได้ถามอะไรอีก เขารู้สึกว่าโมเชี่ยนหนี่ เงียบขรึมขึ้นตั้งแต่เข้ามายังที่นี่ เหมือนมีเรื่องอะไรอยู่ในใจ

เพียงไม่กี่อึดใจ ภายใต้การนำของโมเชี่ยนหนี่ พวกเขาก็มาถึงร้านอาหารที่ชื่อว่า ‘เซียงฉวน’

ภายในร้าน หญิงสาวรูปร่างท้วมผมสีเทาเห็นโมเชี่ยนหนี่เดินเข้ามา เธอแสดงท่าทีดีใจ รีบเดินเข้ามาหาพร้อมกล่าวว่า

“น้องหนี่ เธอไม่ได้มานานเลยนะ พี่สาวคิดถึงเธอเหลือเกิน”

โมเชี่ยนหนี่ เผยรอยยิ้มอันอุ่นพร้อมสวมกอดโดยไม่สนใจคราบสกปรกจากชุดของหญิงสาวร่างท้วมเลยแม้แต่น้อย

“พี่เซียง ฉันยุ่งมากเลย วันนี้ฉันพาเพื่อนมากินข้าวด้วย เลยพามาหาพี่ที่นี่”

พี่เซียงส่งยิ้มประหลาดๆ มายังหยางเฉินเหมือนเธอเข้าใจอะไรบางอย่าง

“นี่เป็นแฟนเธอใช่มั้ยหล้า พาพ่งพาเพื่อนมากินข้าวอะไรกัน ทำไมไม่บอกพี่สาวคนนี้เลยว่ามีแฟนเป็นกะเค้าด้วย”

โมเชี่ยนหนี่รีบส่ายหน้าปัดมือเป็นพันละวัน

“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะพี่ เขาเป็นสามีเพื่อนฉันเอง และเป็นเพื่อนร่วมงานกับฉันอีกด้วย วันนี้เขาช่วยฉันไว้ ฉันเลยจะเลี้ยงอาหารเขาเป็นการตอบแทนค่ะ”

“เพื่อนของน้องหนี่ ไม่ต้องซีเรียส หาที่นั่งก่อนมาที่นี่ครั้งแรกใช่มั้ย พี่เซียงจะทำอาหารอร่อยๆให้ทานเอง กินฟรีไม่ต้องจ่าย”

หยางเฉินขอบคุณเธอ จากนั้นมองหาโต๊ะว่างนั่งลงไป พี่เซียงเสิร์ฟชาจากนั้นกลับเข้าครัวไป

“ดูคุณคุ้นเคยกับพี่เซียงนะ เธอเป็นญาติคุณงั้นเหรอ”

หยางเฉินเอ่ยถาม

โมเชี่ยนหนี่ยกชาซดหนึ่งอึก ตบโต๊ะดังฉาด ตอบว่า

“เรามาจากหมู่บ้านเดียวกัน หลายปีก่อน ฉันมาที่เมืองจงไห่นี้ และเธอก็ช่วยฉันไว้มาก เธอเป็นคนดีคนหนึ่ง”

“งั้นคุณก็มาจากเสฉวน”

หยางเฉินรู้สึกประหลาดใจ

“ตอนที่อยู่โรงพยาบาล คุณบอกว่าคุณรู้จักกับรั่วซีมานาน นั่นหมายความว่าคุณมาที่เมืองจงไห่นี้ตั้งแต่อายุ 13 14 ?”

“ทำไม? มันแปลกนักเหรอ”

โมเชี่ยนหนี่ตอบด้วยคำถาม

หยางเฉินส่ายหัว

“ผมแค่รู้สึกชื่นชม เด็กสาวอายุ 13 14 เข้ามาที่เมืองใหญ่ด้วยเจตจำนงของตนเอง หนำซ้ำยังไต่เต้จนกลายมาเป็นผู้จัดการภายในเวลาไม่กี่ปี แต่ผมสงสัยว่าพ่อแม่คุณอนุญาตให้คุณมาเมืองนี้เพียงลำพังงั้นหรือ”

โมเชี่ยนหนี่สีหน้าอึมครึมตอบว่า

“บ้านเกิดของฉันอยู่ในภูเขา ที่นั้นยากจนค้นแค้น ต้องทำไร่เพื่อความอยู่รอด พ่อฉันเสียด้วยอาการเจ็บป่วยเมื่อฉันอายุ 13 ตอนนั้นฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าท่านเป็นโรคอะไร หลังจากนั้นแม่ของฉันก็ลำบากมากยิ่งขึ้น สุดท้ายเธอก็แต่งงานกับชายคนอื่นในหมู่บ้าน”

หยางเฉินไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาพูด เขาไม่คิดว่าเบื้องหลังความงาม นั้นเธอมีอดีตที่ดำมืดมาก่อน

“งั้น คุณคงไม่ยอมรับการแต่งงานของแม่ และออกจากหมู่บ้านมาใช่ไหม?”

“ไม่ใช่”

โมเชี่ยนหนี่หันหน้าหนี เอามือข้างหนึ่งกดที่ขอบตาพลางกล่าวว่า

“ฉันมีเหตุผลที่ออกมาจากที่นั่น ที่แห่งนั้นไม่มีโรงเรียนมัธยม มหาลัยยิ่งไม่ต้องพูดถึง ฉันเลยไม่ต้องการเสียเวลาที่นั่น”

หยางเฉินสังเหตุขอบตาของโมเชี่ยนหนี่เปลี่ยนเป็นสีแดง และรู้ว่าเธอไม่ต้องการพูดถึงเรื่องในอดีต

“ในเมื่อคุณพาผมมาที่นี่ แน่นอนว่าไม่ใช่เพื่อรำลึกถึงบ้านเกิดใช่มั้ย”

โมเชี่ยนหนี่จ้องมองหยางเฉิน

“อาหารที่พี่เซียงทำนั้นอร่อยมาก ถึงแม้ว่าการพานายมาที่นี่ก็เพื่อที่ฉันจะได้มาเจอเธออีกครั้ง แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณนายที่ช่วยฉันเอาไว้”

“ผมแค่ทำให้สิ่งที่ต้องทำ ท่ามกลางคุณทั้งสอง หนึ่งเป็นภรรยา หนึ่งเป็นหัวหน้าอีกคน ผมไม่สามารถปล่อยพวกคุณให้ตกอยู่ในอันตรายได้”

“หน้าที่ของฉันคือต้องขอบคุณนาย สำหรับรั่วซีนั้น เธอโชคร้ายพอแล้วที่เป็นภรรยาของนาย แน่นอนว่าเธอไม่จำเป็นต้องขอบคุณนายด้วยการเลี้ยงข้าวแบบฉัน”

“เฮ้ หมายความว่าไงที่รั่วซีโชคร้ายที่มีสามีแบบผม”

หยางเฉินเอ่ยท้วง

“แต่งกับผมเลวร้ายมากหรือยังไง ? ผมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเธอนะ ด้วยเกียรติของสามีเลยเอา”

“เรื่องนี้เป็นสิ่งที่นายต้องทำอยู่แล้ว แต่เรื่องอื่นๆ นั้นไม่อาจเอามาเปรียบเทียบกันได้ นายเอาแต่เล่นเกมไปวัน ๆ ทำตัวเหมือนโจร แล้วนายทำอะไรอย่างอื่นอีก นายไม่มีแรงจูงใจ หรือความทะเยอทะยานใดๆ และไม่มีคุณค่าใดๆ จบจากฮาร์วาร์ด พูดได้หลายภาษาแล้วยังไง ไร้สาระสิ้นดี ในโลกนี้นั้นคนที่ไม่มีความสามารถนั้นไม่น่าอับอาย เท่ากับคนที่มีความสามารถ แต่ไม่เคยใช้ให้เกิดประโยชน์ใดๆ”

หยางเฉินตกตะลึงโดยสมบูรณ์ เธอสามารถทำให้เขากลายเป็นคนที่น่าอับอายได้อย่างง่ายดาย ไม่แปลกใจเลยว่า เธอกลายมาเป็นผู้จัดการในแผนกพีอาร์ได้อย่างไร เธอมีฝีปากที่ยอดเยี่ยมยิ่งนัก

By Maddox

ที่มา : 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments