I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

My Wife is a Beautiful CEO ตอนที่ 73 กอดได้ไหม

| My Wife is a Beautiful CEO | 879 | 2360 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

“อะไร ฉันพูดไม่ได้หรือไงกัน นายไม่รู้หรือไงว่ามันบ้าแค่ไหน”

“ผมไม่เถียงกับคุณแล้ว คุณจะคิดยังไงก็เรื่องของคุณ การแต่งงานครั้งนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ บางสิ่งบางอย่างก็ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยคำพูด”

หยางเฉินหัวเราะอย่างสบายๆ

โมเชี่ยนหนี่หันหัวไปด้วยความโกรธ

“ฉันแต่ต้องการช่วยนายนะ นายไม่ใช่คนโง่ นายยังฉลาดกว่าหลายๆ คนด้วยซ้ำ นายสามารถพูดได้หลายภาษา แต่ทำไมนายไม่ทำงานเหมือนคนอื่นๆ เขา นายไม่มีความมุ่นมั่น ไม่ทำงานหนักเช่นชายคนอื่นๆ นายต้องการเกาะผู้หญิงกินไปตลอดชีวิตหรือยังไง แม้ว่ารั่วซีจะใช้นายเป็นไม้กันหมา จากชายคนอื่นๆ แต่ต้องมีสักวันที่เธอไม่ต้องการนายอีก แล้วหลังจากนั้นนายจะทำอะไร”

“เกาะผู้หญิงกินก็ไม่เลวนะ”

หยางเฉินพยักหน้า

“ตอนนี้ผมขับรถภรรยา อยู่บ้านภรรยา ผมคิดว่าภรรยาผมก็ไม่เลวนะ หากวันใดเธอไม่ต้องการผมแล้ว ผมก็แค่กลับไปขายแพะเหมือนเดิม”

“นาย….. “

โมเชี่ยนหนี่อัดอั้นไปด้วยความโกรธ เธอพยายามช่วยเหลือ ทั้งยังแนะนำต่างๆ นาๆ แต่ชายคนนี้ก็ยังเฉยเมย

แต่จากสูดหายใจลึกโมเชี่ยนหนี่ก็บรรเทาความโกรธไปได้บ้าง แต่เมื่อมองไปยังคนตรงหน้า ความโกรธก็ยิ่งพุ่งทะยานดุจเดิน ดังนั้นเธอจึงหันไปทางพี่เซียง

“พี่เซียง ขอเหล้าขาวสองขวดค่ะ เอาแบบแรงที่สุด!”

พี่เซียงที่กำลังทำอาหารเมื่อได้ยินดังนั้นเธอก็มองมาด้วยรอยยิ้ม

“เหล้าขาว? มันคือเกาเหลียงใช่มั้ย? “

หยางเฉินยังคงไม่คุ้นเคยกับเครื่องดื่มท้องถิ่น

“ใช่……ถ้าฉันไม่ดื่มซักหน่อย ฉันได้บ้าตายเพราะนายแน่ๆ !”

โมเชี่ยนหนี่กล่าวพลางจ้องมองหยางเฉิน

พี่เจียงดูเหมือนจะรู้ว่าโมเชี่ยนหนี่สามารถกินอาหารรสเผ็ด และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เธอจึงจัดเต็มอาการรสจัด ทั้งอาหารทะเล ทั้งผัดผัก ทั้งหมดใส่พริกในปริมาณมาก และยังมีขวดสุราเห่าดงสุดแกร่ง

“นายดื่มเป็นหรือเปล่า?”

โมเชี่ยนหนี่เปิดขวดและหันไปถามหยางเฉิน

หยางเฉินรู้สึกหวิวเล็กน้อย เมื่ออยู่ในต่างประเทศเขาดื่มสุราตะวันตกและมักจะดื่มไวน์ แต่สุราที่มีความแรงเช่นนี้นั้นเขาไม่ค่อยสันทัดนัก แต่เมื่อเห็นโมเชี่ยนหนี่ ‘ผู้หญิงดื่มเก่งมาก’ เขายิ้มอย่างขมขื่นกล่าวตอบว่า

“ผมดื่มไม่เก่ง ผมไม่เคยดื่มเหล้าอย่างนี้”

“ตุ๊ดจริงๆ”

โมเชี่ยหนี่กล่าวพลางเทเหล่าลงแก้วหยางเฉิน

พี่เซียงดูแลลูกค้ารายอื่น ๆ อยู่ เธอจึงคุยกับโมเชี่ยนหนี่สองสามประโยค และทำงานของเธอต่อไป ปล่อยให้ชายหญิง กับเหล้าแรงๆ พร้อมกับแก้มเสฉวนรสจัด อยู่ในมุมหนึ่ง

ค่ำคืนผ่านไป แต่แสงไฟริมแม่น้ำนั้นไม่เคยมอดดับ

แสงจันทร์สีขาวส่องสว่างอยู่ในท้องฟ้า บนแผ่นน้ำเต็มไปด้วยดวงดาวนับไม่ถ้วน ดังเช่นการเคลื่อนไหวของทางช้างเผือก

ลมเย็นที่พัดผ่านใบหูไปทั้งๆ ที่ไม่ได้เจาะหู

หยางเฉินกินอาหารแม่ลาจิบสุราเล็กน้อย และค่อย ๆ รับรู้สภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยความอบอุ่นความรู้สึกผ่อนคลายทำให้เขาค่อนข้างประหลาดใจ

นี่ไม่ใช่ชีวิตที่เขาปรารถนาหรืออย่างไร?

มีสุรา มีเนื้อ มีผู้คนผ่านไปมาเข้ามาดังที่แห่งนี้ รู้สึกได้ถึงลมพัดโชยของต้นไม้ เสียงของแม่น้ำที่ไหลและเสียงรบกวนจากแมลง ทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะงดงามยิ่ง และก็คุ้มค่าที่จะมองไปข้างหน้า

ไปนานหยางเฉินก็กลับมาสู่ความเป็นจริงๆ เขามองไปยังโมเชี่ยนหนี่อย่างตกตะลึง

โมเชี่ยนหนี่เมาไปเป็นที่เรียบร้อย ด้วยเหล้าขาว ใบหน้าของเธอแดงด้วยฤทธิ์จากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ผิวยิ่งดูเหมือนเป็นสีดอกกุหลาบอันเสน่หาภายใต้แสงไฟ

ดวงตาของเธอนั้นใสดั่งน้ำในฤดูใบไม้ผลิขณะที่เธอจ้องมองจานบนโต๊ะ โดยไม่ขยับเขยื้อนเหมือนกับอยู่ในอาการงุนงง

“พอแล้วล่ะ คุณดื่มไปมากแล้ว”

โมเชี่ยนหนี่เหลือบมองหยางเฉินเล็กน้อยพลางส่ายหัว กล่าวด้วยเสียงคลุมเครือว่า

“เมื่อก่อนไม่มีใครยอมมาที่นี่กับฉัน ฉันจึงไม่สามารถดื่มมันมากเช่นนี้เพียงลำพัง”

“คุณไม่มีเพื่อนหรือยังไง?”

หยางเฉินถามอย่างอยากรู้อยากเห็น

โมเชี่ยนหนี่หัวเราะร่วนกล่าว่า

“มีใครในบริษัทที่นายคิดว่าจะมายังที่สกปรกเช่นนี้หรือยังไง ?”

หยางเฉินพูดไม่ออก จริงที่ว่าสถานะของโมเชี่ยนหนี่ นั้นการหาเพื่อนนั้นไม่ยาก แต่จะมีเพื่อนคนไหนที่จะมาในสถานทีเช่นนี้โดยไม่มีเหตุผล การมาในสถานที่เช่นนี้นั้นเปรียบเหมือนการลดถานะทางสังคมนั่นทำให้พวกเขาเสียหน้า

“หมายความว่าผมเป็นคนแรกที่มาทานอาหารกับคุณที่นี่”

หยางเฉินเอ่ยขึ้นด้วยความเหลิง

“และยังเป็นผู้ชายคนแรกที่ฉันชวนมา”

โมเชี่ยนหนี่

“เมื่อชายคนอื่น ๆ ชวนฉันมาทานข้าว ฉันไม่เคยสร้างความยินดีให้แก่พวกเขาเลยนายรู้หรือเปล่า?”

“โชคดีที่มันเป็นแผงขายอาหารถ้ามันเป็นที่อื่นล่ะก็ ผมได้กลายเป็นศัตรูของชายทุกคนกันพอดี”

หยางเฉินพูดติดตลก

“ไม่ดีหรือไง? ฉันคิดว่าอาหารที่นี่อร่อยกว่าภัตราคารในโรงแรมห้าดาวเสียอีก”

โมเชี่ยนหนี่กล่าวอย่างยิ้มแย้ม

หยางเฉินพยักหน้า แม้จะเผ็ดไปบ้าง แต่อาหารที่นี่นั้นเต็มไปด้วยจิตวิญญาณ เป็นสิ่งหนึ่งที่เขารู้สึกรัก

ขณะที่ทั้งสองพูดคุยกัน โทรศัพท์ของโมเชี่ยนหนี่ก็ดังขึ้น โมเชี่ยนหนี่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เธอหยุดเล็กน้อย จากนั้นจึงกดรับ

“แม่คะ……….เข้าใจแล้วค่ะ………..รักษาสุขภาพด้วยนะคะ…… “

หลังจากวางสาย เธอวางมือถือไว้ข้างๆ จากนั้นยกแก้วขึ้นมากระดกจนหมดแก้ว

หยางเฉินเห็นดังนั้น ก็เอ่ยถาม

“แม่ของคุณโทรมางั้นเหรอ?”

โมเชี่ยนหนี่มองไปที่หยางเฉิน และพยักหน้า

“นายได้ยินหรือเปล่า”

“มีปัญหาหรือไง?”

“ไม่”

“ให้ช่วยไหม?”

“ไม่”

“คุณดูเหมือนคุณจะอารมณ์ไม่ดีนะ”

“นายนี่น่ารำคาญจริงๆ!”

โมเชี่ยนกนี่ขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด

หยางเฉินยิ้มอย่างเชื่องช้า

“ผมอิ่มแล้ว คุณล่ะ?”

“งั้นไปกันเถอะ”

โมเชี่ยนหนี่หยิบข้าวของและลุกออกไป

แม้ว่าพี่เซียงจะปฏิเสธแล้วหลายครั้ง แต่โมเชี่ยนหนี่ยังยืนกรานที่จะจ่าย และยังให้มากกว่าค่าอาหาร เธอบอกว่าเอาไว้ให้ เด็กๆ พี่เซียงดูเหมือนจะเข้าใจอารมณ์ สุดท้ายเธอได้แต่ยอมรับ

เมื่อทั้งสองเดินกลับไปยังที่จอดรถ โมเชี่ยนหนี่เล็กน้อย เธอเดินไปอย่างเงียบๆ

เมื่อพวกเขามาถึงรถ รอบข้างเต็มไปด้วยแสงไฟสลัว

ทันใดนั้นโมเชี่ยนหนี่ก็หันมา จ้องหยางเฉิน ๆ ด้วยดวงตาใสแป๋ว ภายใต้แสงไฟ ใบหน้าของเธอดูเหน็ดเหนื่อยมากกว่าเดิม

“มีอะไรหรือเปล่า”

หยางเฉินรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับโมเชี่ยนหนี่ แต่เขาไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้คิดได้ เขาจึงไม่มีทางเลือก ได้แต่นิ่งเงียบรอฟังอย่างเดียว

“ขอฉันกอดหน่อยได้ไหม…… “

“อะไรนะ?”

โมเชี่ยนหนี่ตอบด้วยการอ้าแขนและสวมกอดหยางเฉิน

หยางเฉินไม่ได้ปฏิเสธหรือหลบหลีก แขนเย็นและเรียบเนียนขึ้นโอบรอบคอของเขา นั้นหอมอย่างยิ่ง พร้อมๆ กับกลิ่นแอลกอฮอล์โชยเข้าจมูก หยางเฉินรู้สึกถึงก้อนกลมขนาดใหญ่นุ่มๆ หยืดหยุ่นได้อย่างชัดเจน

หยางเฉินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนถอนหายใจ ก่อนยกแขนกอดโมเชี่ยนหนี่แน่น

ค่ำคืนนี้ทั้งสองเป็นเหมือนคู่รัก ที่กอดกันดินแดนรกร้าง เพลิดเพลินกับช่วงเวลาที่ยากจะมี

“อันที่จริงคุณสามารถผมได้ บางทีผมอาจจะช่วยคุณได้อย่างในวันนี้”

หยางเฉินพึมพำออกมา

โมเชี่ยนหนี่มุดหน้าอยู่ที่อก ลูบมันเล็กน้อย ตอบอย่างมีเลศนัยว่า

“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ให้ฉันกอดซักครู่ก็พอ…… “

การกอดอย่างงงๆ นี้ดูเหมือนจะนานมาก แต่เมื่อทั้งสองแยกออกจากกันพวกเขารู้สึกว่าเวลานั้นผ่านไปเพียงครู่เดียว

โมเชี่ยหนี่ลูบผมด้วยใบหน้าแดงเล็กน้อย ในขณะที่มองหยางเฉินอย่างเอียงอาย

“ขอบคุณนะ กลับกันเถอะ”

“สำหรับสาวงามที่กระโจนเข้าหาอ้อมกอดของผม ผมคิดว่ามันเป็นกำไรล่ะกัน”

“ฉันรู้ว่านายไม่ได้คิดเช่นนั้น”

โมเชี่ยนหนี่พูดพลางมองไปยังช่วงล่างของหยางเฉิน

“เว้นแต่ นายจะหมดสมรรถภาพ”

หยางเฉินหน้าขาวซีด วันนี้การพยายามเป็นคนดีและซื่อสัตย์เป็นเรื่องยาก ผู้หญิงคนนี้ซุกซนเกินไป เธอสังเกตุเห็นถึงความเปลี่ยแปลงทางร่างกายของหยางเฉิน!

หลังจากกลับไปที่บริษัท หยางเฉินกล่าวคำอำลากับเธอแล้วรีบขับรถกลับไปที่โรงพยาบาล แม้ว่าหลินรั่วซี จะบอกว่ายอมแพ้ในเรื่องพ่อแล้ว แต่มันคงเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับว่าหลินคุนกลายเป็นคนสติฟั่นเฟืองไปแล้ว

เมื่อมาถึงโรงพยาบาลหยางฌแนก็เห็นพยาบาลต่างทำหน้าที่อย่างขมักเขม้น และเมื่อเขาเดินเข้ามาในบริเวณห้องของหลินรั่วซี เขาเห็นแรงไฟส่องสว่างอยู่ แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปเขาก็พบว่าเขาคาดเดาผิดไป

โคมไฟบนโต๊ะยังสว่างอยู่ แต่หลินรั่วซีนั้นหลับไปแล้ว ข้างๆหมอนของเธอเป็นหนังสือเกี่ยวกับเศรษฐกิจการตลาดฯ เธอสวมชุดนอนสีฟ้าลายขาว ผมยุ่งปกคลุมครึ่งใบหน้า เผยให้เห็นด้านที่ละเอียดอ่อนกับที่ไม่สามารถเห็นได้ในช่วงเวลาปกติ

มันเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการได้ว่าหญิงสาวนางนี้จะเป็นซีอีโอของ บริษัท ที่มีพนักงานหลายพันคนทั่วโลก

คิดได้ดังนี้หยางเฉินก็รู้สึกชื่นชมในตัวภรรยาของเขา

หยางเฉินรู้สึกว่าเครื่องปรับอากาศในห้องเย็นเล็กน้อย เขาสังเกตเห็นหลินรั่วซีผล็อยหลับไปในขณะที่อ่านหนังสืออยู่ ครึ่งท่อนบนของเธอจึงไม่มีผ้าห่มอยู่

หยางเฉินกังวลว่าเธออาจจะเป็นหวัดได้ จึงลอบเดินไปด้านข้าง ปรับเตียงให้นอนลง ค่อยๆ ย้ายหัวของเธอลงมาที่หมอน

จากนั้นค่อย ๆ ดึงผ้าห่มขึ้นมาจนปกคลุมไหล่หลินรั่วซีแล้วตบผ้าห่มด้านข้างของเตียงเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีอากาศเย็นเข้าไป

ในขณะนั้นเองดวงตาของเธอพลันลืมขึ้นมามองหยางเฉินด้วยสายตาสับสนเล็กน้อย

แม้จะเป็นเพียงการจ้องมองเงียบๆ แต่หยางเฉินก็รู้สึกได้ถึงความล้ำลึก และชัดเจนในดวงตาคู่นั้น เขาไม่สามารถทำอะไรได้อีก เพียงจ้องกลับไปสบตากับแววตาคู่นั้น

By Maddox

ที่มา : 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments