ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“ มันจะมากเกินไปแล้ว ! แม้คิดว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่แกจงใจเลือกไปอยู่บ้านที่ทางทิศใต้ เห้อออ …. พรุ่งนี้ แกต้องย้ายก้นของแกมาซุกไว้ที่บ้านหลังนี้เลยน่ะ ! ”
เขาเพ่งมองอย่างจิงจังไปยังจวินเซี่ย จวินจ้านเทียนรู้สึกปวดหัวกับเขามาก ไม่ว่ามันจะขี้เงี่ยนขนาดใหน หรือว่าทำให้ผิดหวังมากขนาดใหน มันก็ยังก็หลานของเขา นอกจากนี้ เขายังเป็นคนที่จะสืบทอดสายเลือดของตระกูลจวินคนสุดท้ายอีกด้วย ….
แม้ว่าตอนนี้ประเทศจะสงบสุขและมั่นคง แต่เจ้าชายที่กำลังเติบโต ความขัดแย้งภายในก็เป็นสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นได้ ในระหว่างที่เป็นใหญ่ในกองกำลังทหาร จวินจ้านเซี่ยนั้นเป็นราวกับต้นไม้ที่สูงตระหง่า เป็นผู้ที่เชื่อมโยงทุกคนเข้ามาเป็นพัธมิตรกัน ความพยายามทำลายสายเลือดของเขานั้น บางทีอาจจะมาจากคนใน ถ้าจวินเซี่ยไม่ย้ายกลับมา เขากลัวว่าอาจจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นในอนาคต
“ ข้ายังอยู่อย่างสุขสบายดีที่นั่น และจะไม่ย้ายมาที่นี่ แบร่ ! ”
จวินเซี่ยปฏิเศษไปอย่างชัดเจน
‘ล้อกันเล่นหรอ นี่เป็นโอกาศที่หายากเพื่อเรียนรู้วิชามือสังหารของโลกนี้นะเว้ย ถ้าข้าย้ายกลับไปตอนนี้ จะไม่เสียโอกาสดีๆอย่างนี้ไปรึ? ’
เมื่อได้ยินตาแก่จวินจ้านเซี่ยพูดเรื่องนี้ หัวใจของจวินเซี่ยก็เต้นรัวด้วยความตื่นเต้น
การลอบสังหาร …. เรื่องนั้นดูเหมือนจะห่างไกลนัก และแน่นอน มันเป็นสิ่งที่คุ้นเคยในความทรงจำของข้า …
“ แก …. ไอหลานชั่ว ! ”
ปู่จวินพูดออกมาด้วยความโมโห เขาเอื้อมมือไปจะตบจวินเซี่ย แต่ก่อนที่มือของตาแก่จะไปสัมผัสกับหน้าของจวินเซี่ย เขาก็หยุดเป็นเวลานาน ด้วยความสับสนบนใบหน้า เขาพูด
“ แก ….. ไปได้ “
‘นี่เป็นครั้งแรกที่มันปฏิเศษข้าหรือ ? มัน…มันกล้าปฏิเศษข้า? นี่คือการปฏิเศษจริงๆหรือ ! ’
จวินเซี่ยโค้งคำนับ และก็เดินออกไป
“ อ้อ จากวันนี้ไป แกไม่ได้รับอณุญาติให้ไปรบกวนองค์หญิงหลิงเมิงอีกแล้ว สำหรับเรื่องนี้แกห้ามปฏิเศษ เข้าใจไหม ! ”
เสียงของปู่จวินเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อยและเยือกเย็น
…
ไม่กี่ปีมานี้ ตระกูลจวินนั้นมีความแข็งแกร่งมากถึงขั้นสามารถที่จะครอบครองสวรรค์ได้เลย เพราะพวกเขานั้นมีอำนาจสูงสุดในอาณาจักร แต่ตระกูลนี้กลับต้องจมอยู่กับความทุกตรงจากการศูนย์เสียที่ผ่านมา และไม่มีผู้มีฝีมือพอที่จะสืบทอดต่อไปได้ !
ปู่จวินนั้นดูราวกับชายอายุเพียงสี่สิบ ด้วยสมองและร่างกายที่เสื่อมโทรมลงไปตามวันเวลา แต่ภายในใจของเขารู้ว่าถ้าเขาไม่ทำอะไรเลย ตระกูลจวินของเขาก็จะหายไปจากโลกนี้ในไม่ช้า เมื่อมองไปยังความอื้อฉาวของจวินโม่เซี่ยแล้ว นี่เป็นค่าใช้จ่ายที่เลี้ยงไม่ได้ ใความเป็นจริง เขาเห็นว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้
ดังนั้น จวินจ้านเทียนเลยบากหน้าเข้าไปหา ห้องเต้เพื่อเสนอให้จวินโม่เซี่ยได้ดองกับองค์หญิงหลิงเมิ่ง หากเขาทำเรื่องนี้สำเร็จ จวินโม่เซี่ยจะอยู่อยางปลอดภัยหลังจากเขาตายไป การเป็นสวามีขององค์หญิง เขาจะเป็นหน้าเป็นตาของราชวงส์ ตรงใดที่เขาไม่ได้ฝ่าฝืนกฏ ตระกูลจวินจะยังคงสืบทอดต่อไปได้อีก
คู่ครองขององค์ชาย ตำแหน่งนี้ดูเหมือนยิ่งใหญ่และสง่างาม แต่มันเป็นเรื่องน่าอายของอยู่ครองตำแหน่ง สำหรับคณะรัฐมนตรี ด้วยพลังและอำนาจ พวกเขาจะหวางกลัวอย่างยิ่งหากได้รับราชองค์การให้ลูกชายสงรสกับองค์หญิง พวกเขาต้องยอมรับให้ลูกชายพาองค์หญิงเข้าบ้าน
ดังนั้น ปู่และย่า จะสามารถที่จะโค้งคำนับลูกสะใภ้ได้อย่างไรกัน? รวมไปถึง ยังมีกฏที่อนุญาตให้องค์ชายมีสนมได้อีก ถ้าเกิดองค์หญิงผู้นั้นดื้อรันหรือเกิดหึงหวงขึ้นมา ครอบครัวนั้นคงจะอยู่เป็นสุขได้ไม่นาน แม้ว่า นี่จะเป็นแผนการที่เรียนง่ายสำหรับคงขี้เงี่ยนอย่างจวินโม่เซี่ย แผนนี้ยังเป็นแผนการที่จะทำให้ตระกูลจวินยังคงมีอยู่ต่อไปได้อีกด้วย
ดังนั้นจวินจ้านเทียน จึงเสนอการแต่งงานนี้โดยที่ไม่มีความรู้สึกถึงความไม่พอใจหรือการบังคับเลย
ฮ่องเต้เข้าใจเป็นอย่างดีถึงความต้องการของสหายชราผู้ที่เป็นราวกับพี่ชายของเขา ในระหว่างที่ห้องแต่เข้าใจถึงสถานการของ จวินจ้านเทียน หลังจากตรวจสอบประวัติของจวินโม่เซี่ยและวีรกรรมอื่นๆที่เขาได้ทำไว้ รวมถึง การไม่ยินยอมขององค์หญิง หลิงเมิ่ง เขาได้ตอบปฏิเศษไปหลังจากที่พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว
“ พี่จวิน ไม่ใช่ว่าน้องจะหักหน้าพี่หรอกน่ะ แต่ข้าเป็นพ่อคน หลิงเมิง่เปรียบเสมือนดวงใจของข้า ข้าจะให้ลูกสาวข้าแต่งกับ ….. เฮ้อออออ … ได้อย่างไร ”
ฮ่องเต้ก้มหัวลงก่อนที่จะพูดจบ เป็นเหตุให้ จวินจ้านเทียนเกือบจะเป็นลม
‘พ่อคนหรือ ? คิดถึงลูกสาว ? ถ้าสิบปีที่แล้วตอนที่ตระกูลจวินของข้ายังมีผลงาน เจ้าจะยังคิดอะไรมากมายอย่างนี้ไหมหากข้ายื่นข้อเสนอนี้ ? *คนเรานี่ เปลี่ยนไปดั่งสายน้ำที่เปลี่ยนแปลง* ! ’
หัวใจของปู่จวินนั้นเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
[ * “人情冷暖,如人饮水.” * น่าจะแปลประมาณนี้น่ะ ลองแปลจากอิ้งแล้ว งง เลยลองแปลจากจีนดูน่าจะตีความได้ประมาณนี้ ]
…..
“ ข้าเข้าใจท่าน ”
จวินเซี่ยตอบไปอย่างนุ่มนวล ในระหว่างที่เขายื่นอยู่หน้าประตู โทนเสียงของเขานั้นนิ่งราวกับน้ำในเหยือก แล้วเขาก็เดินจากไปทันที
ตั้งแต่ปู่จวินบอกเรื่องการแต่งงานของเขา จวินโม่เซี่ยวคิดว่าเขาจะได้เป็นสวามีขององค์หญิงหลิงเมิ่ง และย่องเข้าไปหานางตลอด ทำให้นางรำคานใจ แต่ตอนนี้จวินเสี่ยได้ยินเรื่องนี้แล้วแต่ก็ยังนิ่งเฉย ทำให้ปู่จวินนั้นประหลาดใจอย่างมาก
ถ้าจวินเซี่ยจะโกรธหรือหัวเราะออกมาก หรือ สาบแช่งไปทั่วทั้งถนน…ปู่จวินจะไม่รู้สึกประหลาดใจแล้วแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมของจวินเซี่ยก็ยังคงทำให้เขาประหลาดใจอยู่ปกติ
“ เพราะการตกเตียงหรือที่ทำให้มันเปลี่ยนไปขนาดนี้? ”
ปู่จวินพูดพร้อมกับ ลูบเคราของเขา เพ่งมองไปยังหลังของจวินเซี่ยที่กำลังเดินจากไป
ไม่นานหลังจากนั้น จวินจ้านเทียนตบมือและพูดขึ้น
“ เพิ่มการเฝ้าระวังแก่นายน้อยให้มากขึ้นอีกในคืนนี้ ข้าไม่ต้องการให้มีเหตุร้ายเกิดขึ้น ! ถ้าพบเห็นใครน่าสงสัย สังหารได้ทันที อย่าได้ลังเล !!! ”
‘ อย่าได้คิดว่าจะมีโอกาสครั้งที่สอง ! แกคิดว่าจะเดินเข้ามาที่นี่และเอาชีวิตหลานของจวินจ้านเทียนได้หรือ ? ’
ดวงตาของปู่จวินเปล่งประกายออกมาด้วยความเยือกเย็น
ดูเหมือนว่าปู่จะวินจะพูดอยู่คนเดียวภายในห้องอันว่างเปล่า แต่มีเสียงที่บางเบาและไม่ชัดเจนดังขึ้นมาจากที่ใหนสักแห่ง
“ เข้าใจแล้ว ”
จวินเซี่ยเดินออกไปพร้อมกับมีแสงอาทิตย์สาดส่องลงมาที่เขา ในระหว่างที่มีแสงอันอบอุ่นส่องลงมาที่หน้า เขายังคงเดินต่อไปยังที่ลานหลังบ้านของเขา ตลอดทางเขาพบกับสาวใช้ที่โค้งคำนับให้แก่เขาด้วยความหวาดกลัวและตัวสั่นระริก แต่เขาก็ยังคงเดินต่อไปโดยไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของพวกเขาในขณะที่เขาตกอยู่ในห้วงความคิด
ไม่มีใครรู้ถึงความคิดที่ก้องกังวาลของภายในใจของจวินเซี่ยในตอนนี้
“ ลอบสังหารอะไรกัน ? ถ้าจะเอ่ยถึง มือสังหารคือผู้ลอบสังหาร! เราเป็นมือของความมืด ! ข้าจำคำนี้ได้ ความมืด ”
“ มือสังหาร คือการอยู่อย่างไร้ร่องรอย เข้ามาราวกับสายลมและหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่ ! ”
“ มือสังหารจะประสบความสำเร็จได้อย่างไรกัน ? หากไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นมือสังหารที่มือเปื้อนเลือดจนกระทั้งเขาตาย เมื่อนั้นเขาจะเป็นมือสังหารที่ประสบความสำเร็จ! ”
“ อีกอย่างนึง อะไรคือคุณสมบัติของสุดยอดมือสังหาร ? ”
“ สิ่งที่จะเรียกว่าคุณสมบัติของมือสังหาร คือความสามารถที่จะแทรกซึมเข้ากับสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ให้ได้ ! เมื่ออยู่กับปราชณ์เขาจะเปลี่ยนเป็นนักกวี เมื่ออยู่กับจิตกรเขาจะกลายเป็นศิลปิน กับคนเลวเขาจะเป็นตัวร้าย กับผู้โด่งดังในสังคม เขาจะเปลี่ยนเป็นขุนนาง สุภาพบุรุษ เมื่ออยู่กับคนเสเพล เขาจะกลายเป็น แมงดา เมื่ออยู่กับยอดฝีมือเขาจะเป็นนักต่อสู้ชั้นเลิศ !!! ”
“ ในทะเลทราย เขาจะเป็นกิ้งก่า ในทุ่งหญ้าเขาจะเป็นจ่าฝูงหมาป่า! ในภูเขา จะเป็นเสือ ! หากอยู่เนือทะเล เขาจะเป็นมังกร!”
“นั่นละคือคถณสมบัติของมือสังหารที่ประสบความสำเร็จ ! ”
“ ถ้าหากเพียงแค่รู้ว่าจะสังหารได้อย่างไร มันก็เป็นแค่เพียงคนขายเนื้อเท่านั้นแหล่ะ ! ”
“ ถ้าหากใครสามารถจำหน้าของเป้าหมายได้อย่างชัดเจนในขณะที่ลอบสังหารรวมถึงทำให้สำเร็จในแต่ละครั้ง จะสามารถเรียกได้ว่า เป็นมือสังหารที่ดี ! ”
“ การลอบสังหารมันเป็นศิลปะ ! มือสังหารจะต้องไม่ลืมถึงศิลปะในเรื่องนี้ ! ”
…
นี่คือการพูดคุยระหว่างเขาและเจ้านายของเขาเมื่อชาติที่แล้ว เมื่อคิดอย่างนี้ จวินเซี่ยก็ยิ้มออกมาในทันที และบ่นพึมพำ
“ ข้าในตอนนี้ ไม่ได้มีอะไรไปกว่าพวกหลอกแดก ผู้สืบทอดรุ่นสอง ที่รอคอยความตาย!!! ”
ทันใดนั้น เกิดเสียงอันเยือกเย็นดังก้องไปทั่ว
“ ผิดแล้ว ! แกไม่ใช่ผู้สืบทอดรุ่นที่สอง ข้าต่างหากที่เป็นรุ่นที่สอง แกหน่ะเป็นรุ่นที่สามเฟ้ย !!! ”