I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Otherworldly Evil Monarch ตอนที่ 6 ปราณเซียน

| Otherworldly Evil Monarch | 858 | 2389 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

“น้าสาม เรื่องอาการป่วยของท่านนั้น ท่านควรเลือกคนที่ไว้ใจได้มาดูแล โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่จะมานวดให้ท่าน มันจะดีกว่าถ้าไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ถ้าหากมันล้มเหลว พวกเราน้าหลานจะไม่เสียหน้ามากเกินไป “

จวินเซี่ยพูดหลังจากที่คิดเรื่องนี้อยู่สักพัก

“ ฮ่าฮ่า ถ้าหากการรักษานี้สำเร็จ ข้าก็ไม่บอกใครหรอก ! ข้าไม่ได้โง่หรอก! เจ้ากลัวว่าเรื่องนี้จะนำพาปัญหามาให้พวกเราได้ใช่ไหม ? อีกอย่าง ถ้าเจ้าสามารถรักษาเอวและขาข้าได้จริงๆ พวกเราสองคนจะเป็นผู้ถือครองไพ่ตายของตระกูลจวิน! ข้าจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร? เจ้าปิศาจน้อยเอ้ย เจ้าจะใช้ข้าเป็นข้ออ้างก็ได้ ”

จวินวูอี้หัวเราะออกมาเสียงดัง จากนั้นเขาก็ขยิบตา ทันใดนั้นเขาก็เกิดความคิดขึ้นมาในหัวใจ ไอเลวนี่เคยเป็นหลานที่ข้ารักมากที่สุด ใช่สิน่ะ นานเท่าใหร่แล้วที่เราสองคนไม่ได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้ ? บางทีอาจจะเพราะพวกเขาไม่ได้ใกล้ชินกันมานาน … หรืออาจจะเพราะเขารู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่แปลกไปในวันนี้ที่เห็นจวินโม่เซี่ย

เขาเคยเห็นแต่ภาพนิสัยที่มัน เสเพลมานานหลายปี มันมีนิสัยที่แตกต่างออกไปอย่างนี้ด้วยหรอ ? จวินวูอี้เพ่งมองไปที่หลังของจวินเซี่ยในระหว่างที่เขาหันหลังและเดินออกไป หัวใจของจวินวูอี้เต้นแรงด้วยความหวัง

เขามองว่าไม่ว่าอาการของเขาจะรักษาได้หรือไม่ และแม้แต่ หลานของเขาจะมีนิสัยที่แตกต่างขนาดนั้นจริงหรือไม่ ?!

“ น้าสาม ท่านบรรลุไปถึงขั้น ปฐพีเซี่ยนแล้วใช่ไหม ? ”

จวินเซี่ยถามพร้อมกับหัวเราะ

“ นี่เจ้าแอบสำรวจข้ารึ! ”

จวินวูอี้หัวเราะเบาๆ หัวใจของเขาไม่รู้สึกถึงความกังวล และตอบไป

“ ข้าเพิ่งจะบรรลุมาถึงขั้นนี้ก็ปีนี้แหล่ะ มันยังไม่มั่นคงหรอก ”

“ ท่านถ่อมตัวเกินไปแล้ว ”

จวินเซี่ย เบะปาก

“ แล้วขั้นที่อยู่เหนือกว่าปฐพีเซี่ยนละ ? ”

จวินวูอี้แสดงสีหน้าตกใจและตอบกลับไป

“ การฝึกฝนปราณเซียนขั้นเริ่มต้นจะมี เก้า ขั้น หลังจากนั้นก็เข้าสู่ขั้น เงิน ทอง หยก และสุดท้าย ที่เหนือกว่านั้นคือขั้น ปฐพีเซียน สวรรค์เซียน และเทพเซียน ! ”

“ จากขั้นแรกถึงขั้นสาม ปราณเซียนจะปลดปล่อยสีออกมาเป็น สีแดงเข้ม แดงชมพู และแดงอ่อน ขั้นที่สี่ถึงหก จะปล่อยสี ม่วง เหมือนสามขั้นแรก จากขั้น เจ็ดถึงเก้าจะปลดลปล่อยสี ดำ ! โม่เซี่ย เมื่อเจ้าออกไปแล้ว เจ้าต้องใส่ใจในเรื่องนี้ หากเจ้าผิดพลาดเพียงแค่ครั้งเดียว มันจะหมายถึงจุดจบ! ”

“ ข้าเข้าใจแล้ว น้าสาม ”

จวินเซี่ยยิ้ม แล้วกลับไปหน้านิ่งเหมือนเดิม

จวินวูอี้ สาธยายต่อไปอย่างร้อนใจ

“ ต่อไป สีเงินคือการเริ่มแตกหน่อ ทองคือการก่อลำต้น สีหยกจะเป็นขั้นการผลิดอก ถ้าเปรียบเทียบกัน เก้าขั้นที่ต่ำกว่านั้นก็เป็นราวกับมด ขั้นปฐพีเซียนแยกทุกอย่าง สวรรค์เซียนผลิดดอกในอากาศ เทพเซียนไร้รูปร่าง เปรียบได้กับ สวรรค์เก้าชั้นที่เปลี่ยนรูปเป็นมังกร ! ”

“ นี่คือลำดับขั้นของปราณเซียน! เจ้าจะต้องบรรลุไปถึงขั้น เซียนเงินเท่านั้นถึงจะนับได้ว่าเริ่มต้นแล้ว ! สำหรับเจ้า …. ”

จวินวูอี้มองไปที่จวินเซี่ย ความเมตตาก็ปรากฏขึ้นในใจเขา

“ เจ้าจะต้องเลือกเส้นทางของตัวเอง เพราะเป็นแค่คนคนหนึ่ง นั่นไม่ได้หมายความว่าจะต้องใช้มือของเจ้าเพื่อสังหาร ”

จวินเซี่ยยิ้ม

“ ข้าเข้าใจแล้ว ข้าไม่ใช่คนที่จะไปสังหารใครได้ตลอดเวลาหรอก ”

เขาคิดในใจ ‘ ถ้าไม่มีค่าจ้าง ข้าก็ไม่สังหารใครหรอก จริงๆแล้วนี่เป็นเงือ่นไขอย่างนึง อย่าให้ข้ายุ่งยากสิ ’

ตอนนี้จวินเซี่ยไม่ได้สนใจอะไรที่เรียกว่า ปราณเซียน แล้วเขาก็ยังไม่พยายามที่จะเข้าใจมันเหมือนกัน หลังจากที่ส่งจวินวูอี้กลับถึงห้อง จวินเซี่ยก็เดินกลับแบบทอดน่องกินลมชมวิว เมื่อเดินไปถึงครึ่งทางแล้ว เขาก็หันหลังและเดินตรงไปยังหอสมุด ( หรือหอหนังสือ ? )

เหตุผลที่มาที่นี่ ไม่ใช่อะไรอื่นเลยนอกจากว่า จริงๆแล้ว ในหัวของไอเด็กจวินรุ่นสามนี่ไม่มีข้อมูลอะไรมากนัก ยกเว้นเรื่องที่เกี่ยวกับความรู้รัก การพนัน กิน และดื่ม นอกจากนี้แล้วก็ไม่มีอะไรในสมองเขาเลย ช่างขี้เลื่อยเสียจริง ถ้าจะรวบรวมขู้มูลความรู้จากความทรงจำนั้น มันเป็นไปไม่ได้เลย เขาเลยต้องสละเวลาเพื่อที่จะจัดระเบียบความทรงจำของเขาใหม่ อย่างน้อยเขาต้องทำให้มันเป็นระเบียบมากขึ้น ! นั้นแหล่ ถ้าสมองของไอเด็กจวินรุ่นสามนี่ไม่มีข้อมูลที่เป็นสาระอะไรเลย อย่างน้อยเขาก็น่าจะเข้าใจ สถานะของตระกูลจวินละนะ

จวินเซี่ยเข้าไปอยู่ในหอสมุดทั้งวันโดยที่ไม่ออกไปใหนเลย

“ นายท่าน หลังจากที่นายน้อยไปออกไปจากห้องของท่าน เขาได้ไปพูดคุยด้วยดีกับนายท่านสามอยู่พักหนึ่ง จากที่ข้าดู นายท่านสามดูมีความสุขมากในรอบหลายปี ซึ่มันยากที่จะเห็นนายท่านสามเป็นแบบนี้ ”

มีชายแก่โค้งคำนับอยู่ตรงหน้าจวินจานเที่ยน เพื่อรายงานที่อยู่ของจวินเซี่ย

“ ? ”

ใบหน้าของจวินจ้านเทียนที่นิ่งเฉยมาตลอดถึงกับแสดงออกถึงความตกตะลึง น้าหลานคู่นี้ไม่เคยลงรอยกันเลย เป็นดั่งน้ำกับไฟมาหลายปี ถ้าเมื่อใหร่ที่เจอกัน ไม่ใครก็ใครคนหนึ่งจะมองอีกคนอย่างเย้ยหยัน และมองกันด้วยความโกรธแค้น ทำมอยู่ดีๆวันนี้ถึงคุยกันได้น่ะ ? อีกทั้งยังพูดคุยกันด้วยดีอีกด้วย แล้วจวินวู้อีถึงกับมีความสุขหลังจากการพูดคุยนั้นด้วย นี่มันเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจแท้ คงจะต้องเฝ้าดูเรื่องที่น่าผิดสังเกตนี่แล้ว

“ พวกเขาคุยอะไรกัน ? ”

จวินจ้านเทียนถาม ในระหว่างที่ดื่มชาเข้าไป ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยสนใจเท่าใหร่

“ ไม่นานมานี้ หลังจากที่นายท่านสามไร้ความสามารถ เขายังคงฝึกฝนตัวเองไปเป็นอย่างดี ทำให้ตอนนี้เขาได้อยู่ในขั้นเริ่มของปฐพีเซียนแล้ว ข้าไม่กล้าที่จะเข้าไปใกล้นักเลยได้ยินรายละเอียดไม่ค่อยมากนัก ข้าเห็นแค่ทั้งสองคนนั้นพูดคุยกันอย่างสนุกสนานและพึงพอใจตลอดเวลา”

ชายแก่ตอบอย่างสุภาพ

“ พึงพอใจ ? ”

จวินจ้านเทียน ลูบเคราของเขา

“ เป็นไปได้อย่างไรกัน ? สำหรับพวกเขาการอยู่ด้วยกันโดยไม่ทะเลาะกันเลย เป็นเรื่องที่น่ายินดี และยังพูดคุยเข้ากันได้ดีอีกด้วยรึ ? ”

“ เรื่องจริงขอรับนายท่าน ! หลังจากที่นายน้อยไปสาง นายท่านสามแล้ว เขาก้ไดเข้าไปในห้องสมุด จนบัดนี้ก็ยังไม่ออกมาเลย ! เรื่องห้องสมุดนั้นข้าเชื่อว่าคงไม่มีอะไรที่น่าสนใจ แต่เรื่องของนายน้อยและนายท่านสามนั้นเป็นเรื่อที่น่าประหลาดยิ่งนัก ข้าเลยตัดสินใจรีบมารายงานให้ท่านทราบ ! ”

“ เจ้าทำถูกแล้ว แต่เจ้าบอกว่าเด็กนั่นเข้าไปที … หอสมุด ? ”

เคราของจวินจ้านเทียนถึงกับสั่นสะท้าน และด้วยตาของเขาเปิกกว้างด้วยความตกตะลึง

“ เจ้าพูดอย่างนั้นจริงๆรึ ? ไอลูกเมียน้อยนั้นเข้าไปยังหอสมุด ? เหมือนกับ โรงเตี๊ยมหมื่นดอก หรือ โรงเตี๊ยมหอมโชย หรืออะไรพวกนั้นหรือเปล่า ? ”

ชายแก่พยักหน้า

“ มันคือห้องสมุด ! ไม่ผิดแน่ขอรับ นายท่าน ! ”

จวินจ้านเทียนกระโดดออกมาจากเก้าอี้กแล้วเดินจากหลังมาข้างห้าห้อง เขาเดินอย่างเย็นชาออกไปข้างนอก เขาก็ลูบเคราของเขาลงไปจนสุด

“ โอวเป๋ง เจ้ารู้ไหมว่าไอเด็กเลวนั่นเข้าไปทำอะไรในห้องสมุด ? ”

เขาหยุดทันที

“ มันเป็นไปไม่ได้หรอก ถ้าไปที่นั่นเขาก็ทำตัวราวกับไฟลนก้นมิใช่หรอ ? ”

“ นายน้อยนั่งอ่านหนังสือ อย่างสงบเงียบอยู่ในนั้น ข้ารู้สึกว่าเขาคงไม่ออกมาในเร็วๆนี้แน่ มันทำให้ข้าสบายใจ และกลับมารายงานท่าน ”

โอวเป๋ง ตอบโดยที่พยายามไม่ให้ตัวเองหัวเราะออกมา

“ อ่านหนังสือ ? ”

ปู่จวินน้ำตาแทบเล็ดออกมาด้วยความประหลาดใจ ในระหว่างที่เขากระตุกหนวดที่ผูกเป็นเปียของเขา เบะปากและถาม

“ เขาอ่านหนังสือจริงๆหรือ ? ”

“ ขอรับ นายท่าน ”

หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่นาน จวินจ้านเทียนก็สบัดมือ

“ อ่านหนังสือเป็นเรื่องดี ถ้างั้นอย่าเพิ่งไปรบกวนเขาเลยแล้วกัน แต่หลังจากที่เขาออกไปจากห้องสมุดแล้ว จงเอาหนังสือที่เขาอ่านมาให้ข้าจรวจสอบ ข้าอยากรู้ ว่าเขามีแผนอะไร ? หรือเขาไปหารูปโป๊ดู ? ดีล่ะ … นั่นคงเป็นสิ่งที่เขามองหา ตอนที่อายุขนาดนี้ ถ้าดูเกี่ยวกับเรื่องพวกนั้นก็ไม่น่าสงสัยอะไร ข้ายังจำ ….. เขา เขา … โอวเป๋ง อย่าให้ใครเข้าไปรบกวนเด็กนี่ ! ”

“ เข้าใจแล้วขอรับนายท่าน ”

จวินจ้านเทียน เดินวนไปรอบๆอีกสองครั้ง จากนั้นก๋สงบบสติอารมณ์ตัวเอง เขาคิด

“ ถ้ามันไม่ใช่ …. เป็นไปได้ไหมว่าเด็กนี่ตื่นขึ้นมาแล้วตัดสินใจเปลี่ยนเป็นคนใหม่ ? ”

เขาพยักหน้าและถอนหายใจ

“ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ งั้นข้าคงต้องไปจุดธุปไหว้วิญญาณบรรพบุรุษ … ”

เมื่อถึงเวลากลางคืน พ่อบ้านโอวเป๋งก็ได้เข้าไปรวบรวมหนังสือที่จวินเซี่ยอ่าน ซึ่งมีจำนวนนับสิบเล่มแล้วห่อเข้าด้วยกัน

จวินจ้านเทียนกองหนังสือเหล่านั้นไว่บนโต๊ะ แล้วขมวดคิ้ว

“ สถานภาพปัจจุบันของ เซียนเซียน , การท่องเที่ยวในพื้นที่ , บันทึกผูเขาในพื้นที่ , รายชื่อบุคคล , บรรทึกของดอกไม้ประหลาดและหญ้าต่างถิ่น , ประวัติสงครามในพื้นที่ , กลยุทธสงครวมเซียนเซียน … ”

ปู่จวินได้ใช้เวลาทั้งคืนเพื่อตรวงดูหนังสือที่หลานของเขาอ่าน สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทั้ง สับสน ประหลาดใจ มีความสุข เขาถอนหายใจ สูดหายใจเข้าลึกๆ สั่นหัว และพยักหน้า อาจจะบอกได้ว่า เขาได้แสดงสีหน้าที่เปลี่ยนไปมากกว่า ที่เคยแสดงออกมาทั้งครึ่งชีวิตเลยก็ว่าได้

Translate by iHaveNoName นาจา …

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments