I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Otherworldly Evil Monarch ตอนที่ 15 ภายในหอทองพันชั่ง

| Otherworldly Evil Monarch | 1043 | 2359 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

สมาชิกทุกคนภายในตระกูล ตู่กู่  มีการแบ่งปันลักษณะเฉพาะตัวกัน และนั่นมันคือการป้องกัน ‘จุดอ่อน’ ของพวกเขา โดยเฉพาะความจริงที่ว่า พ่อของตู่กู่ เซียวอี้ นามว่าตู่กู่ อู่ตี้ มีการป้องกันมากเกินไปจนไร้เหตุผล ทำให้เขาถูกตราหน้าว่าเป็น “ คนขี้โมโห ” คนแรกของอาณาจักร หากมีใครไปหาเรื่องลูกสาว เขาจะรวมพลจากในกองทัพไปแก้แค้น

[ คนขี้โมโห = “滚刀肉”= gǔn dāo ròu ไปหาจากหลายเวป บางเวปแปลว่า ตัวแสบ , คนขี้โมโห แต่อิ้งให้ความหมายไว้ว่า คนที่ต่อรองยาก ]

คนขี้โมโห ผู้ที่จะรวบรวมกองทหาร และแหกกฏทุกอย่าง แล้วใครจะกล้ายั่วโมโหเขาหล่ะ ? แม้แต่จวินโม่เซี่ยที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองของจวินจ้านเทียน ตู่กู่ เซียวอี้ยังกล้าที่จะเล่นงานเขาเลย แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าปู่จวินจะไม่สามารถที่จะต่อกรกับนายพลตู่กู่ อู่ตี้ได้หรอกน่ะ

ในความจริงถ้าปู่จวินเรียกรวมพลของเขาละก็ ท่านปู่ตู่กู่จะต้องปรากฏตัวอย่างแน่นอน และเหตุผลสำหรับเรื่องนั้นก็เพราะว่า เป็นการป้องกันโดยธรรมชาติของนายพลตู่กู่ อู่ตี้ ที่ได้สืบทอดมาจากผู้ใดมิได้นอกจาก ท่านปู่ตู่กู่คนก่อนนั้นเอง !

นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคนที่จวินโม่เซี่ยกลัวที่สุดรองจากปู่จวินคือตู่กู่ อู่ตี้ …

อ้อ เดี๋ยว! มันตรงข้ามกัน คนที่น่ากลัวที่สุดคือ ตู่กู่ อู่ตี้ แล้วปู่จวินของเขาเป็นที่สอง หลังจากเรื่องทั้งหมดนั้น นั่นล่ะปู่ของเขาเลยสั่งสอนเขา อย่างเจ็บแสบจริงๆ แม้ว่า มันจะไม่เกี่ยวกับความน่ากลัวของ ‘ยัยป้า’ นี่ ถ้าเขาตกไปอยู่ในเงื้อมมือของนาง

เขาจะโดนฟาด …. ฟาดโดยไม่มีเหตุผล

แม้แต่ผู้ที่อยู่เบื้อหลังของจวินโม่เซี่ยก็ไม่กล้าที่จะยั่วยุ ‘ไอยักษ์นี่’ ส่วนพวกคนเสเพลอื่นๆก็คงจะไม่ต้องพูดถึงนะ !

และในเวลานี้ เจ้าหญิงอันเลอค่าของตระกูล ตู่กู่ ได้มาที่นี่ด้วยตัวของนางเอง ….

“ ข้าทำอะไรไม่ได้เลย ”

จวินเซี่ยเอียงหน้า แล้วชี้ไปที่หูของเขาที่มีสีขาวนวลบิดหูเขาอยู่

“ มองข้าสิ ข้าจะทำอะไรได้บ้างไหม ? ถ้าใครมีความคิดดีๆ ละก็พูดมาเลย อย่าลากเข้าไปเกี่ยวด้วย ! ”

“ เป็นอะไร ? เจ้าจะไม่ต้อนรับข้าหน่อยหรือ ? หรือเจ้าคิดว่าแม่หญิงผู้นี้จะไม่มีเงิน ? ”

ตู่กู่ เซียวอี้เพ่งมองไปที่พวกเขา จากนั้นก็เอากระเป๋าใส่เงินและเขย่ามันอย่างไม่พอใจให้พวกเขาดู เลิกคิ้วขึ้น และพูด

“ แม่หญิงผู้นี้มีเงินมากพอนะเว้ย ! ”

พวกหนุ่มเสเพลเหล่านั้นพูดกันอย่างตะกุกตะกัก เกือบจะขี้แตกใส่กางเกงเลยทีเดียว แล้วเจ้ามีเงินมากพอไหม ? แต่ปัญหาคือ ใครจะไปกล้าเอาเงินของเจ้ากัน ? ถ้าใครชนะเจ้า เดี๋ยวปู่เจ้าและทหารก็มาเยี่ยมหรอก มาเอาหนี้คืนไง นั่นละแผนการที่ยอดเยี่ยมล่ะ ! ถ้าปู่ของเจ้ามีอารมณืแล้วตัดสินใจมาที่นี่ … แล้วพวกเราจะไม่ตายดีหรอวะ ?

เทียงหยวนไม่สนใจว่าพวกเขาจะคิดอะไรอยู่ในใจ แววตาของเขาเจิดจ้าราวกับเปลวไฟ

“ อย่ากังวลไปหน่อยน่า เอาของของข้าคืนมา ! นายน้อยจวินที่สามมานี่แล้วและเขาก็ไม่ได้หนีไปใหน ! พวกเจ้าสัญญารแล้ว ! ชายที่แท้จริงต้องเชื่อถือได้ ! แล้วคนที่เชื่อไม่ได้ ก็จะไม่มีสิทธิที่จะไปยื่นอยู่ที่พรหมแดน สวรรค์และโลก !”

เมื่อได้ยินคำพูดสุดท้ายของเจ้าอ้วนนั้น แม้แต่จวินเซี่ยก็อยู่ในอารมณ์ที่อยากจะอ้วก เจ้ากล้าที่จะอ้างว่าเจ้าเป็นชายแท้งั้นหรือ ? ขอละอย่าทำให้ค่าของชายแท้หม่นหมองเลย !

ในท่ามกลายชายทั้งหกคน มีคนหนึ่งที่ยังยืนสงบนิ่งอยู่ ชายผู้นั้นคือ ลี่เฟง หลานชายของผู้คุมกฏ หลี่ชาง และอีกสองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาคือ ลี่เชนและลี่ลิน ทั้งสามคนนี้เป็นพี่น้องกัน

ผู้ที่ยืนอยู่ข้างๆเข้านั้น เป็นชายหนุ่มหุ่นดี ที่มีจอนบางและดวงตาลึก นามว่า เมิ่ง ไห่โจว หลานคนโตของรัฐมนตรีกระทรวงบุคคล เมิ่งเจียงฮู ซึ่งเป็นที่เลื่องลือว่ามีพรสวรรค์ขั้นสูง อีกสองคนที่อยู่ด้านหลังเขาคือสมาชิกจากตระกูลเมง เมงเหลียงและเมงเฟ่ย

ลี่เฟงยิ่มและพูด

“ สำหรับแม่นางตู่กู่ที่มาใช้จ่ายด้วยตัวเอง ทำไมข้าจะไม่ต้อนรับท่านละ ? โปรดเข้ามาเถิด ”

หลังจากพูดจบเขาก็หันหลังกลับไปและออกคำสั่ง

“ บริการ แม่นางตู่กู่ให้เหมาะสม ! ถ้าหากพวกเจ้าทำให้นางโกรธ ข้าจะถลกหนังพวกเจ้าซะ ! ”

เขาหันหน้ากลับมาอีกครั้งพร้อมรอยยิ้มในระหว่างที่ขยิบตาให้กับ เมิ่ง ไห่โจว

“ เนื่องจากนายน้อยสามจวินมาที่นี่แล้ว งั้นเรามาจบเรื่องตลกเล็กๆน้อยๆกันเถิด ดูนายน้อยเทียงสิ เขากังจลมากเลย ชายแท้จะกำเนิดระหว่างโลกและสวรรค์ เราจะไม่เชื่อถือได้อย่างไร คืนของเขาไป ”

เมิ่ง ไห่โจวพยักหน้าและเดินตรงไปหาเทียงหยวน

“ นายท่านเตง ข้าสามารถคืนของให้ท่านได้ แต่อย่างไรก็ตาม หนึ่งล้านห้าแสนเหลียงเงินก็ยังคงอยู่น่ะ ! ”

เทียงหยวนมาที่นี่เพื่อที่จะเอาหนังสือสัญญาคืนเท่านั้น เขาไม่สนใจเรื่องเงินล้านห้าแสนเหลียงนั่นหรอก มันเล็กน้อยมาก หลังจากที่ได้ยินคำพูดของ เมิ่ง ไห่โจวแล้วเขาก็รับคำอยู่ซ้ำๆ

จวินเซี่ย แอบสังเกตอยู่เงียบๆจากด้านข้าง เขาเยาะเย้ยอยู่ในใจ ไม่น่าสงสัยเลยเรื่องที่เทียงหยวนไร้ความรู้สึกกลัวในเรื่องนี้ แต่ทั้งสองไม่จำเป็นต้องปริปากอะไร แม้ถ้าเทียงหยวนไม่ชวนเขามาที่นี่ พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะแพร่งพรายเรื่องหนังสือสัญญานี่หรอก หากทำเช่นนี้พวกเขาจะโดนตระกูลเทียงและซันลงโทษ

เป็นไปได้ว่าตระกูลทั้งสองนั้นเป็นปรปักฏ์ทางสายเลือดกัน สุดท้ายก็จะก่อให้เกิดความพินาศ ! ถ้าใครสักคนพิจารณาอย่างละเอียดแล้ว พวกเขาจะตระหนักรู้ว่าความจริงแล้วมันดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย เป้าหมายสุดท้ายก็มิใช่ใครอื่นนอกจากจวินโม่เซี่ย !

แม้ว่าความน่าสงสัยที่เทียงหยวนจะได้หนังสือสัญญาคืนจะหายไป หลังจากนั้นพวกเขาจะแพร่จระจายข่าวลือเกี่ยวกับสัญญานั่นออกไป ให้เข้าหูของคนในตระกูลเทียง และนี่คือสิ่งที่เขารู้อยู่แล้ว

“ ของอะไรที่สามารถทำให้ นายน้อยเทียงกึงกับต้องเป็นกังวล ? ให้ข้าดูหน่อยสิ ! เปิดประสบการณ์ใหม่ๆข้าหน่อย ! ”

ตู่กู่ เซียวอี้ แสดงออกอย่าชัดเจนว่าไม่ต้องการออกไป ความสงสัยของนางทะยานสูงลิบลิ่ว เมื่อเห็นว่าสีหน้าของ เทียงหยวนได้เปลี่ยนไปอย่างสะดุดตาขณะที่รับกระดาษแผ่นหนึ่ง และความสงสัยของนางก้เกิดขึ้นทันทีและเอื้อมมือเรียวเล็กของนางออกไป

สีหน้าของเทียงหยวนก็เปลี่ยนไปลำบากใจทันที เขารีบยัดกระดาษนั้นเข้าไปในปากและกลืนมันลงไปหลังจากที่เคียวมันสองสามครั้ง หน้าตาเขาดูไร้เดียงสามากในขณะที่เขาเม้มปากเสียงดัง สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นราวกับสายฟ้าแลปในระหว่างที่ขออ้วนๆของเขายืดยาว ราวยีราฟ !

“ ไออ้วน ….เจ้ากล้ายั่วยุข้าหรือ ? เจ้าช่างกล้า ! ”

ตู่กู่ เซียวอี้โมโหอย่างร้อนรน นาวความคอเสื้อเทียงหยวน และยิ่งไปกว่านั้นนางยกร่าง หนักกว่า สี่ร้อยจินของเขาขึ้นในอากาศและตะโกน

“ คายมันออกมา ! ”

[ 1 จิน = 0.60479 กิโลกรัม ]

คนทั้งเจ็ด รวมถึงจวินเซี่ย มองไประหว่างที่คิ้วของพวกเขากระตุกอย่างไร้การควบคุม เขากลืนน้ำลายอย่างเงียบๆ ยกริมฝีปากขึ้น เหล่ตาและ ปากของพวกเขาม่วงและหน้าขาวซีด

“ โอ้ว แม่นางตู่กู่ นี่ไม่มีสาระอะไรมากมายหรอก เรื่องสำคัญนี้มันเริ่มจากนายน้อยสามจวิน ตั้งแต่ที่ ปู่ของเขากักบริเวณเขาไว้ เขาก็ออกมาไม่ได้เลย มันทำให้พวกเราคิดถึงเขา ดังนั้น พวกเราเลยวางเดิมพันกัลนายท่านเตงเมื่อเร็วๆนี้ เราได้เขียนคำว่า มาหรือไม่ บนกระดาษแผ่นนั้น หากนายน้อยจวินที่สามไม่มา ข้าก็สัญญาว่าจะกินกระดาษนั่น แต่ถ้านายน้อยจวินที่สามมาเขาจะเป็นคนที่กินกระดาษนั่นเอง นายท่านเตงนี่เป็นบุรุษที่แท้จริงๆ คำพูดเป็นคำพูดจริงๆ ฮ่าฮ่า ! ”

เมิ่ง ไห่โจวหัวเราะสองสามที ชายผู้นี้มีพรสวรรค์บางอย่าง ที่สามารถสร้างเรื่องราวจากจุดนี้ได้อย่างราบรื่น ถ้าหากเจ้าอ้วนนั่นสำรอกกระดาษนั่นออกมาและมันตกไปอยู่ในมือของตู่กู่ เซียวอี้ เรื่องนี้คงจะเป็นหายนะแน่ๆ !

จวินเซี่ยเลิกคิ้วของขาขึ้นไป แอบสังเกตเมิ่ง ไห่โจวอย่างเงียบๆแล้วคิดกับตัวเอง ชายผู้นี้สามารถที่จะสร้างเรื่องราวได้ภายในเวลาสั้นๆและพูดมันออกมาด้วยใบหน้าที่ตรงไปตรงมาอย่างแน่วแน่ ด้วยความกล้า การคิดถึงเหตุผล และความสามารถในการแสดง เขามีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ

พูดตามความจริง จวินเซี่ยแอบมีความต้องการที่จะให้ไออ้วนนั่นอ้วกกระดาษแผ่นนั้นออกมา แล้วยืมมือของ ตู่กู่ เซียวอี้และมันจะนำพาไปสู่ มรสุมโลหิตละ แม้แต่จะคิดว่าไอเทียงอ้วนนี่จะไม่คู่ควร แต่เขาก็ยังเป็นเพื่อนรักของ จวินโม่เซี่ย นอกจากนี้ยังเชื่อมั่นว่าเขามีคุณสมบัติที่จะบังคับพวกเสเพลเหล่านี้ แต่สุดท้ายเขาก็ทิ้งความคิดนี้ไป

แต่ …แต่ข้าต้องการที่จะ … ข้าต้องการที… … … เฮ้อ !

ตู่กู่ เซียวอี้มองไปที่พวกเขาด้วยสายตาที่กังขา ในระหว่างที่พวกเขาพยักหน้าอย่างรวดเร็วราวกับลูกไก่จิกข้าว

“ ใช่แล้ว นั่นละคือเรื่องทั้งหมด ”

หลังจากนั้นนางก็ปล่อยเทียงหยวนไป

หน้าของเทียงหยวนยังคงม่วงจากการโดนรัดเมื่อครู่ เขากระแอมคออยู่หลายครั้งราวกับจะอ้วกออกมา และกลัวว่าเขาจะสำรอกกระดาษชิ้นนั้นออกมาด้วย ซึ่งเขาก็อดกลั้นมันเอาไว้

“ แขกอันสูงส่งของเรา เข้ามากข้างในก่อนเถิด ”

เจ้าของสถานที่ ลี่เฟงได้เชื้อเชิญพวกเขาให้เข้า

มีความหยิ่งทะนงถูกปลดปล่อยออกมาและมันครอบงำความคิด จวินเซี่ยยิ้มและเดินเข้าไปข้างใน เขาพยุงตัวเองไปที่เห้าอี้ตัวใหญ่และยกขาขึ้น ภาพลักษณ์อันธพาลของเขาก็ได้แสดงออกมาแล้วในตอนนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยลักษณะของผู้ที่เสเพลจริงๆ

ตู่กู่ เซียวอี้ขมวดคิ้ว ถาพของจวินโม่เซี่ยตอนนี้กระตุ้นนางให้อยากวิ่งไปและเตะเขาสักสองสามที

“ ดี แล้วพวกเจ้าไม่คิดถึงข้าหรือ ? ในระหว่างเรื่องนั้นเกิดขึ้น ข้าก็คิดถึงพวกเจ้าเช่นกัน .. เงินของพวกเจ้า”

จวินเซี่ยยิ้มราวกับรอยยิ้มของปิศาจ

“ พวกเจ้าอยากเล่นกันอย่างไรล่ะ ? บอกข้าสิ ”

Translated by iHaveNoName

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments