I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Otherworldly Evil Monarch ตอนที่ 25 ดำเนินการ

| Otherworldly Evil Monarch | 797 | 2338 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ขอเปลี่ยนชื่อจากทาง เป็นถัง ตามคำแนะนำของคุณ Ekachai เน้ออ

ร่างของสวัต์เฉวียนที่มีขั้นสูงกว่าสามนั้น จะมีการสร้างผลึกพิเศษขึ้นมา ที่รู้จักกันในชื่อ ผลึกเฉวียน สัตว์เฉวียนขั้นที่เจ็ดจะมีความสามารถพิเศษที่จะดูดพลังเฉวียนจากสิ่งมีชีวิตรูปแบบอื่น ซึ่งมันจะเพิ่มความสามารถในการเติบโตให้มากขึ้น !

นั่นจึงเป็นเหตุที่ว่าทำไมลูกของสัวต์เฉวียนขั้นที่เจ็ดจึงหายากมาก หากได้มันมาเป็นๆ ราคามันจะสูงเป็นอย่างมาก ! ส่วนลูกของสัต์เฉวียนขั้นแปดน่ะหรือ ? ประเมินราคาไม่ได้เลยล่ะ ! นั่นคือสิ่งที่เขาว่ากันไว้ ….

เมื่อไม่กี่ ทศวรรษ มานี้ ไม่มีข่าวว่าใครสามารถจับลูกของสัตว์เฉวียนขั้นแปดได้เลย

สัตว์เฉวียนขั้นสูงๆ จะอยู่อาศัยลึกเข้าไปในป่าต้องสาป ซึ่เป็นพื้นที่อันตราย ไม่มีแม้แต่ เทพเฉวียนคนใดกล้าที่จะเข้าไป ! พื้นที่ของ ป่าต้องศาปนั้นกว้างใหญ่ไพศาลมาก เป็นขอบเขตที่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด คิดเป็นหนึ่งในสี่ของ ทวีปเลยก็ไว่าได้ สิ่งที่พบอยู่รอบนอกของพื้นที่นั้นส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์เฉวียนระดับต่ำ และสัวต์ธรรมดาทั้วไป หากเข้าไปลึกขึ้น ระดับขั้นก็จะสูงขึ้น รวมถึง ถ้าหากสัตว์เฉวียนพบว่าตัวมันเองนั้นเหนือกว่า พวกมันจะส่ายตูดและหนีไป ป่าต้องสาปนั้นเป็นสวรรค์ของสัตว์เฉวียน เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไล่ตามมันไป และถ้าหากไม่แข็งแกร่งเพียงพอ ผู้นั้นก็ไม่มีหวังเลยที่จะมีชีวิตรอดออกมา

การจะได้มาซึ่ลูกของสัตว์เฉวียนขั้นที่แปดนั้น อย่างน้อยจะต้องใช้ ผู้ที่อยู่ในขั้นสวรรค์เฉวียนถึงสามคน นี่คือจำนวนที่น้อยที่สุดที่จะเอาชนะ ลูกน้อยของสัตว์เฉวียนขั้นแปดสองตัว แต่นั่นล่ะ พูดง่ายกว่าทำ และยิ่งไปกว่านั้น การตั้งรับของสัวต์เฉวียน ยังแข็งแกร่งเกินกว่า หากเฉลี่ยเทียบกับผู้ที่อยู่ในขั้นสวรรค์เซียน ! ถ้าหากพวกเขาถูกโดยนเข้าไปในกลุ่มของสัตวืเฉวียนแทนที่จะมีแค่สองตัว ….. ถ้าเป็นแบบนั้น แม้แต่เทพเฉวียนก็ต้องจบลงในหลุมศพเหมือนกัน !

เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายให้ได้ หนึ่งในพวกเขาจะต้องไม่ทำตัวเองป็นวีรบุรุษ หรือมีท่าทางที่สวยงาม ? ให้คิดถึงความร่ำรวยที่มหาศาลที่รอคอยพวกเขาอยู่ แล้ว ทำไมพวกเขาถึงเข้าร่วมการกระทำที่ไร้สาระพวกนี้ละ ?

นั่นเป็นสาเหตุที่ปู่จวินยิ้มออกมาเพียงเล็กน้อยให้กับข้อเสนอนี้

“ ไปที่ห้องสมุด และดูว่าเจ้าบ้านั่นทำอะไรอยู่ ! ”ปู้จวินเหมือนจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับหลานชายของเขาในไม่กี่วันมากนี้ ทั้งสองเลยเดินตรงไปยังห้องสมุด

หลังจากที่มาถึง แต่พวกเขาก็กลับพบแต่ว่ามันว่างเปล่า

“ นายน้อยกลับไปจากห้องสมุดเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว ข้าไม่รู้ว่าเขาไปที่ใด ” องครักษ์ประจำห้องสมุดกล่าวรายงาน

ทั้งสองเลยมองหน้ากัน

“ กลับไปที่ห้องสืบสวนของข้าเถิด ” ปู่จวินรู้สึกเหนื่อยที่ต้องเดินมาอย่างยาวไกล ภายในหัวใจเขารู้สึกโศกเศร้า ในระหว่างที่เดินกลับเขาก็พูดขึ้น “ เอาหนังสือที่เขาอ่านมาให้ข้า ”

ในขณะที่เขากำลังกังวลอยู่กับหลานชายที่รักของเขา ปู่ของถังหยวน ถังว่านลี่ซึ่งได้นำทัพตรงไปยังตระกูลลี่ และ ตระกูลเมิง เพื่อเรียกหาความเป็นธรรม ….

ภายในสวน ณ. ที่พักของตระกูลลี่ ลี่โย่วหลาน ใส่ชุดสีขาวสะอาดอย่างไร้ที่ติ ยืนอย่างสง่างามอยู่ภายใต้ต้น พีโอนี่ ที่แกะสลักจนเกือบจะสมบูรณ์แล้ว ใบหน้าอันหล่อเหลาแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ ดวงตาเพ่งมองเข้าไปยังความมืดมิดเป็นเวลานานโดยนที่ไม่เอ่อยอะไรออกมา

สายลมเบาๆและอบอุ่น เคล้าคลอกันพัดผ่านมา ทำให้เสื้อผ้าของลี่โย่วหลาน กระพือขึ้นในอากาศและ ภายในของเขาเริ่มจะคล้ายกับต้นไม่ยกที่เลอค่า สิ่งนี้ทำให้ ผู้อื่นมองมาด้วยสาตาที่ชื่นชม ซึ่ลักษณะของท่าทางนี้ช่างหาได้ยากยิ่ง ยากที่จะสังเกตเห็น !

ลี่เฟิงและพี่ชายของเขาทั้งสองยืนอยู่ตรงหน้า ลี่โย่วหลาน ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ ที่ผุดออกมาราวกับใบไม้ร่วง แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะปาดมันออก และปล่อยให้มันไหลหยดลงมาทีละหยด ทีละหยด ลงมาที่ จมูก คิ้ว และเข้าตา ทำให้พวกเขาอึดอัดเป็นอย่างมาก และแน่นอน ไม่มีใครสักคนที่กล้าจะกระพริบตา

“ ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เจ้าพูดในตอนนี้ ไม่มีอะไรที่เป็นส่วนสำคัญอีกแล้ว ดังนั้นเราควรจะทำให้มันจบลง ให้พวกเรามาพิจารณาถึงวันในขณะที่เป็นวันที่โชคดีของ จวินโม่เซี่ย แต่สำหรับเจ้า … ” เมื่อได้ยินลี่โย่วหลานพูดถึงตรงนี้ พวกเขาทั้งสามถึงกับตัวสั่นเครือ แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในรุ่นเดียวกัน ผู้ที่อยู่ตรงหน้าพวกเขานี้ ดูหล่อเหลาราวกับมันแทรกซึมเข้าไปยังกระดูก ไม่มีผู้ใดที่เคยเห็นชายหนุ่มผู้นี้ไม่มีความสงบเลย แต่ทุกครั้งที่ที่ทั้งสามเห็นเขานั้น พวกเขารู้สึกถึงบรรยากาศที่อันตรายแผ่ซ่านออกมาจากทุกๆอะณูของกระดูกพวกเขา …

“ พวกเจ้าแต่ละคนจะถูกโบยคนละ สี่สิบครั้ง และแน่นอน พวกเจ้าจะถูกหักหนี้ทั้มหมดเป็นเวลาครึ่งปี ” ลี่โย่วหลานยิ้มอย่างอ่อนโยน ลักษณะท่าทางของเขายังคงงดงามในขณะที่เพ่งมองออกไป เขาก็พูดต่อด้วยเสียงอันอ่อนนุ่ม ราวกับคลื่นเสียงของน้ำพุ “ พรุ่งนี้ เจ้าจะต้องทำในสิ่งที่เจ้าควรจะทำ เข้าใจไหม ? ”

ภายใต้การโดนโบย สี่สิบครั้ง แม้ว่าซี่โครงของพวกเขาจะไม่หัก และกล้ามเนื้อจะไม่แตกละเอียด อย่างน้อยที่สุด พวกเขาก็ต้องพบกับชั้นของผิวหนังที่ฉีกออก เผยให้เห็นเนื้อสีแดงๆ รวมถึง พวกเขายังต้องทำในสิ่งที่พวกเขาควรทำอีกพรุ่งนี้ …. การลงโทษในครั้งนี้ช่างรุนแรงนัก ไร้ซึ่งความเมตตายิ่งนัก ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังเป็นญาติที่สนิทของ ลี่โย่วหลานอีกด้วย ! ถึงแม้ว่า ลี่โย่วหลานจะลงโทษพวกเขาด้วยเสียงที่เป็นกลาง แลแววตาที่แผ่ประกายที่นิ่งเฉยออกมา ราวกับเขามิได้พูดคุยอยู่กับญาติสนิท หรือคนในกองทัพ แต่การกระทำของเขานั้นทำเหมือนกับว่า ทั้งสามคนนั้นเป็นเพียงสุนัข …

อย่างไรก็ตาม ลี่เฟินและพี่ๆของเขา ก็แสดงอาการราวกับว่าพวกเขาได้รับการยกโทษให้ พวกเขาขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่า จากการกระทำของพวกเขาดูเหมือนว่า การลงโทษในครั้งนี้เต็มไปด้วยความสงสาร การลงโทษที่ไม่รุนแรง

“ อืมม จวินโม่เซี่ย …. เหอะเหอะ … ” ลี่โย่วหลานยิ้มอย่างอ่อนโยน และพูดด้วยเสียงอันนุ่มนวล “ เจ้าไปได้ ” หลังจากที่ได้ยินคำนั้นเท่านั้น พวกเขาทั้งสามถึงกล้าที่จะขยับตัว พวกเขากระทำตัวอย่างนอบน้อม และเดินไปอย่างสุภาพ สีหน้าของพวกเขาเผยออกมาให้เห็น ราวกับว่าพวกเขาเจอสมบัติที่ล้ำค่า !

“ มา ” ลี่โยนหลานกุมมือเขาอย่างนิ่มนวล ในตอนนั้นมีรูปร่างในชุดสีดำปรากฏขึ้นข่างๆเขาอย่างรวดเร็ว พวกเขาโค้งคำนับ และรอคอยคำสั่ง

“ ดี ไปสืบสวนมาว่าเหตุใด จวินโม่เซี่ยถึงชนะในครั้งนี้ และไปสืบสวนว่าเหตุใดยาหลอนประสาทถึงใช้ไม่ได้ผล รวมไปถึงยืนยันว่าการปรากฏตัว ของตู่กูเซี่ยวอี้นั้นเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ … แม้ว่า ตู่กูเซียวอี้จะปรากฏตัว จวินโม่เซี่ยก้ไม่มีโอกาสที่จะชนะได้ … เป็นอีกเรื่องที่พวกเจ้าจะต้องสืบสวนมันให้ชัดเจน และรายงานผลให้ข้ารู้ในทันที ” เขาพวกด้วยน้ำเสียงที่เป็นกลาง เนื่องด้วยเขาไม่ต้องการที่จะสูญเสียพลังในการพูดมากนัก

“ รับทราบ ! ” คนในชุดดำทั้งสอง แสดงความเารพอย่างน้อบน้อม ก่อนที่จะหันหลับกลับไป พวกเขาเหห็นว่ามีคนใส่ชุดสีเขียววิ่งเข้ามาราวกับไม่ทันได้หายใจ ในขณะที่เขาเข้ามาอยู่นระยะสิบก้าวตรงหน้าของลี่โย่วหลาน เขาชลอลงและพยายามที่จะหายใจ แต่บนใบหน้าของเขานั้นแดกก่ำ หลังจากที่พยายามควบคุมการหายใจได้แล้ว เขาก็มาอยู่ตรงหน้าของ ลี่โย่วหลาน “ รายงานนายน้อย มหาเสนาบดีสกุลถัง ถังว่านลี่ ได้พานายน้อยถังและและกองทหารนับร้อย มาที่ที่พักของตระกูลเรา การกระทำของพวกเขาดูเหมือนจะจู่โจม ”

“ หืม ? พวกเขาจะทไให้เรามีปัญหา ? ” ลี่โย่วหลาน เลิกคิ้วขึ้นอย่างอ่อนนุ่ม และก็พูดต่อ “ ไม่คาดคิดว่า แม้แต่ถังหยวนจะมีเล่เหลี่ยมถึขั้นนี้ ดูเหมือนว่าต้องมีการปรับเปลลี่ยนแผนของเราซะแล้ว … เหอเหอ … ดีมาก ไปจ้งให้ ลี่โย่วหลานและพี่น้องของเขาทราบ เมื่อ ปู่ถังถามพวกเขาเรื่องนั้น พวกเขาควรจะตอบ …. คำตอบ … นี่ และทำการลงโทษทางวินัยในทันที ! หลังจากที่ลงโทษมาครึ่งหนึ่งแล้ว เจ้าพาปู่ถังไปถามคำถามกับพวกเขา ” ร่างในชุดดำร่างหนึ่งพยักหน้าและ รีบพุ่งออกไป

ปากของลี่โย่วหลานบิดขึ้นไปเป็นรอยยิ้มในขณะที่เขาหันหลังกลับไปแะลถาม “ ในหมู่คนที่ปู่ถังได้พามาที่นี่ในตอนนี้ มีผู้คนที่พวกเราจับตาดูอยู่หรือไม่ ? ”

“ มีขอรับ ! ” ชายในชุดเขียวตอบกลับมาโดยที่มิได้ลังเล “ พวกเขามีทั้งหมดสามคน ”

“ สาม … นั่นก็เพียงพอ ” มีรอยยิ้มที่แลดูมีเลศนัยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของลี่โย่วหลาน เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปยังกลุ่มเมฆที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า สายลมอุ่นๆในตอนนี้ได้รวมเข้ากับอากาศที่เย็น ลี่โยนวหลานกระซิบด้วยโทนเสียงที่ฟังไม่ค่อยได้ยิน “ ดูเหมือนฝนจะตก ตอนนี้ สุดยอดฝีมือในตระกูลถึงได้ถูกซื้อไปแล้ว … นี่น่าจะเป็นจังหวะที่ดี ” มีร่อยรอยของความระมัดระวังและกระตือรือล้นปรากฏขึ้นมาในแววตาของเขา ในขณะที่พูด “ แจ้งให้ จินฮู คว้าโอกาศนี้ทันที ตอนนี้ กองทัพของตระกูลถังได้ว่างเปล่าแล้ว เขาจะได้สิ่งของที่ข้าสัญญาไว้จากที่พักของ สกุลถัง เขาจะต้องทำมันให้สำเร็จเท่านั้น ห้ามล้มเหลวเด็ดขาด นี่คือโอกาสเดียวเท่านั้น ! ” เขาเงิยหน้าขึ้นอีกครั้ง และพูดต่อ “ บอกเขาว่ามีเวลาถึงแค่ตอนบ่าย สำหรับโอกาสในครั้งนี้ ! ”

“ และบอกให้เขาใช้ในสิ่งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ พวกเขาจะต้องจากไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยไว้เลยแม้แต่น้อย ! ”

“ รับทราบขอรับ ! ” ร่างในชุดสีดำอีกร่างก็เหาะออกไป

Translate by iHaveNoName

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments